เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 802
เขาเพิ่งนัดคนใหม่ที่อยู่ในวงการบันเทิงคนหนึ่ง

หน้าตาไม่เลวอีกทั้งรูปร่างดีมาก

พอคิดถึงที่นี่ในใจของไป๋กวงก็อดไม่ได้ที่จะร้อนเผ่าขึ้นมาแล้ว

สุภาษิตพูดไว้ดี เข้าใกล้คนใดคนหนึ่งก่อนก็จะแย่งเอาผลประโยชน์ได้ก่อน

ในฐานะของคุณชายตระกูลไป๋

ทุก ๆ ปีไม่รู้ไป๋กวงต้องทำร้ายผู้หญิงที่เข้าสู่วงการบันเทิงเท่าไหร่!

ในขณะที่ไป๋กวงเตรียมเปิดประตูรถปอร์เช่ของตัวเองนั้น

เพ้ง!

เสียงดังสนั่นเสียงหนึ่ง

สองดวงตาของไป๋กวงพอมืดจากนั้นทั้งคนก็สลบไปแล้ว

สองสามคนก็เอาไป๋กวงโยนเข้าไปในรถ แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนสายฟ้าแลบ

ฟิ้ว!

หลังสักพัก

ในโกดังหลังหนึ่งของชานเมือง แสงไฟจู่ ๆ สว่างขึ้นมาแล้ว

ไป๋กวงลืมตาทั้งสองข้างขึ้นอย่างสะลึมสะลือแล้ว

เห็นด้านหน้ามีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่

นั่งไขว้ห้างในปากคีบบุหรี่มวนหนึ่งอยู่

ทั้งคนกระจายลมหายใจที่ไม่กลัวออกมา

“พวกนายเป็นใคร? ยังไม่รีบปล่อยฉัน!”

“หรือว่าพวกนายไม่รู้ว่าฉันเป็นคนของตระกูลไป๋เหรอ?”

“ตาหมาของพวกนายบอดแล้ว คิดไม่ถึงกล้าจับตัวฉันมา หาเรื่องตายเหรอ?”

หลังฟื้นได้สติมาไป๋กวงก็พูดด่าทันที

ตระกูลไป๋ยังไงก็เป็นตระกูลชั้นหนึ่งในจงโจว

ในฐานะเป็นคุณชายของตระกูลไป๋ ไป๋กวงตั้งแต่ไหนมายังไม่เคยถูกคนจับตัว

อีกทั้งยังเป็นหน้าประตูของบริษัทตัวเอง ก็คือเป็นความอับอายมาก!

ผัวะ!

ยังไม่ได้รอให้ไป๋กวงมีปฏิกิริยามา

เสือขาวขึ้นไปข้างหน้าตบฝ่ามือหนึ่งลงบนหน้าของเขาแล้วอย่างรุนแรง

“อยู่เงียบๆ หน่อยไม่งั้นกูจะตบมึงให้ตาย!”

ไป๋กวงที่ถูกตบฝ่ามือหนึ่งแล้วมีใบหน้าที่เหลือเชื่อ

เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าตบตัวเอง?

เขาอยากที่จะด่าด้วยความโมโห

แต่มองเห็นเสือขาวที่มีท่าทางโหดร้าย ทันใดนั้นก็ฝืนอดทนไว้แล้ว

ไป๋กวงรู้สถานการณ์ตอนนี้แข็งกว่าคน

ตกลงในมือของคนอื่น ไม่อนุญาตให้ตัวเองหยิ่งผยองได้

แต่ไม่เป็นไร

หลังรอตัวเองกลับไปแล้วจะต้องจัดการขยะเหล่านี้ให้ตายอย่างแน่นอน!

“ตอนนี้หยุดหน่อยได้แล้วหรือยัง?”

หยางเฟิงพ่นควันกลมออกมาลึก ๆ ถามอย่างจาง ๆ

ไป๋กวงหันหน้า สองดวงตาจ้องมองหยางเฟิงอยู่อย่างนิ่ง ๆ “นายเป็นใคร?”

เขาถือว่ามองออกแล้ว

ข้างในคนเหล่านี้หยางเฟิงถึงเป็นลูกพี่!

“ฮึ ๆ !”

หยางเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง สายตามืดมนพูดว่า“แม้กระทั่งผมเป็นใครคุณต่างก็ไม่รู้ ก็กล้าที่จะแตะต้องพนักงานลูกน้องของผม คุณรนหาที่ตายเหรอ?”

“พนักงานลูกน้องของนาย?”รูม่านตาของไป๋กวงหดเล็กอย่างรุนแรงเป็นระยะ

เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า“นายเป็นคนของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป!”

แปะ ๆ ๆ !

หยางเฟิงปรบฝ่ามือแล้ว ยืนขึ้นมาพูด“ถือว่าคุณฉลาด ถูกแล้ว! ผมเป็นคนของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป เฟิงชิงหวูเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปพวกเรา คุณทำให้หล่อนน่าเกลียดก็คือกำลังท้าทายเฟิงเมิ่งกรุ๊ปของพวกเรา!”

หลังตอนที่ได้ยินหยางเฟิงเป็นคนของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป

ทันใดนั้นไป๋กวงก็หยิ่งผยองขึ้นมา

“ฮ่า ๆ !”

ไป๋กวงหัวเราะเสียงดัง

“ที่แท้เป็นคนของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป ฉันเตือนนายทางที่ดีที่สุดรีบปล่อยฉันอย่างเชื่อฟัง!”

“ไม่งั้นประโยคหนึ่งของฉันก็สามารถทำให้เฟิงชิงหวูเสียชื่อเสียงในวงการบันเทิงได้!”

“ถึงเวลานั้นเฟิงชิงหวูก็อย่าคิดที่จะอยู่ในวงการบันเทิงต่อไปเลย!”

ถ้าหากเป็นคนที่ทำความผิด ไป๋กวงยังจะกลัว

แต่หยางเฟิงเป็นคนของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป เขากลับยังจะไม่กลัว

หยางเฟิงและคนอื่น ๆ จับตัวเองมา

ก็แค่อยากที่จะข่มขู่ตัวเอง หยุดทำให้เฟิงชิงหวูแปดเปื้อน

นี่จะเป็นไปได้ยังไง?

เขาไป๋กวงคำที่พูดออกไปก็ไม่มีเหตุผลที่จะเก็บกลับมา

ถ้าไม่งั้นก็ไม่ใช่ตัวเองตบหน้าตัวเองเหรอ?

“เสียชื่อเสียงเหรอ? ผมชอบ!”

“พูดถึงสร้างข่าวลือใส่ร้าย ผมเป็นบรรพบุรุษของคุณ!”

หยางเฟิงมองไป๋กวงอยู่พูดด้วยใบหน้าที่ดูถูก“คุณวางใจ ผมจับคุณมาไม่ใช่เพื่อให้คุณหยุดทำให้เฟิงชิงหวูแปดเปื้อน”