ภาค 6 ยันฟ้าด้วยมือเดียว บทที่ 516 ตื่นขึ้น!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอทำให้ฟางข่านทั้งโมโหทั้งขบขัน “คุยโวโอ้อวด!”

หลังจากหัวเราะเสร็จ สายตาของเขาก็เย็นเยียบกว่าเดิม “ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้สืบทอดของปราชญ์ปีศาจหรือไม่ วันนี้ข้าจะให้เจ้าตายด้วยฝ่ามือข้า!”

ร่างจิตประสานที่เกิดจากการหลอมญาณกลายเป็นรูปร่างของจิตวรยุทธ์นั้นไร้ดวงตา มีเพียงแต่ตรงหน้าผากเท่านั้นที่มีดวงตาอยู่ในแนวตั้ง

ดวงตาดวงนี้เปิดออกคล้ายกับเข้าใจฟ้าดินอย่างถ่องแท้ มองความลี้ลับของจิตใจคนออก

เยี่ยนจ้าวเกอมองฟางข่าน พยักหน้าเล็กน้อย ‘ระดับความเชี่ยวชาญของฝ่ามือจิตประสานเหนือกว่าบุตรของเขามากนัก ไม่ใช่ระดับเดียวกันจริงๆ’

ฟางข่านอยู่ในขั้นบรรลุธรรมมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว กอปรกับพลังฝึกปรือเหนือกว่าเยี่ยนจ้าวเกอ ในตอนนี้เมื่อแสดงร่างจิตประสานออกมา เยี่ยนจ้าวเกอและฟู่เอินซูเหมือนกับโปร่งใสเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

อย่าว่าแต่การเปลี่ยนแปลงทางวรยุทธ์และกระบวนท่า แม้แต่ความคิดที่เกิดขึ้นแวบเดียวในใจก็ยังถูกฟางข่านมองทะลุได้

เยี่ยนจ้าวเกอมีวิธีการการรับมือฝ่ามือจิตประสานของฟางจ้าวหงมากมาย แต่ว่าเมื่อใช้กับฟางข่านกลับดูไร้ประโยชน์

ในการเผชิญหน้ากับฟางจ้าวหง เยี่ยนจ้าวเกอไม่กลัวคู่ต่อสู้มองออก ใช้สภาวะพลังที่แข็งแกร่งบดขยี้ซึ่งหน้าก็พอ

แต่เมื่อคู่ต่อสู้เปลี่ยนเป็นฟางข่าน เพียงแค่ความแข็งแกร่งของพลังก็เหนือกว่าราวฟ้ากับเหว วิธีเสี่ยงชีวิตเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเสียเปล่าๆ

ในการรับมือฟางจ้าวหง เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่มพลังให้กับการเปลี่ยนแปลงของตัวเองจนถึงขีดสุดได้ ทำให้อีกฝ่ายมิอาจคำนวณออก

แต่ว่าร่างจิตประสานของฟางข่านนี้ สามารถคำนวณการเปลี่ยนแปลงมากมายของกระบวนท่าของเยี่ยนจ้าวเกอได้

เยี่ยนจ้าวเกอใช้หมัดวิญญาณสยบคลื่นกับฟางจ้าวหง ขณะนั้นความคิดของตนลึกล้ำดุจทะเลลึก ไม่มีคลื่นซัด ฟางจ้าวหงมิอาจสัมผัสการเปลี่ยนแปลงในกระบวนท่านี้ได้

แต่สำหรับฟางข่าน กลับยังคงเห็นใยแมงมุมรอยเท้าม้า[1]

นี่คือความมั่นใจในการกำจัดเยี่ยนจ้าวเกอของฟางข่าน ระดับของทั้งสองฝ่ายต่างกันเกินไป

แต่ว่าฟางข่านก็ตื่นตระหนกในใจ ‘เพิ่งมีพลังฝึกปรืออยู่ในขั้นรูปญาณระยะต้นอยู่เลย…’

ถ้าหากว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีระดับพลังฝึกปรือสูงอีกหน่อย ร่างจิตประสานของตนจะมองเขาออกอีกหรือไม่?

ฟางข่านถึงขั้นไม่กล้าคิดถึงคำถามนี้ด้วยซ้ำ

กระนั้นในทางกลับกัน มหาปรมาจารย์ระดับบรรลุธรรมผู้หนึ่งเผชิญหน้ากับมหาปรมาจารย์ระดับรูปญาณระยะต้นผู้หนึ่ง สมควรจัดการอีกฝ่ายตายได้ในกระบวนท่าเดียวแท้ๆ เหตุใดจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้

จอมยุทธ์โลกผืนสมุทรคนอื่นที่อยู่รอบๆ ต่างมิได้สอดมือ เพียงมองเหตุการณ์นี้อย่างตกตะลึง

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะได้เห็นความแข็งแกร่งของเยี่ยนจ้าวเกอมาแล้ว แต่ตอนนี้เขาเผชิญหน้ากับฟางข่านซึ่งเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรม ชายหนุ่มถึงกับยังมีพลังในการโต้กลับ ทำให้พวกเขาต่างรู้สึกเหลือเชื่อนัก

ทว่าก็มาได้เพียงเท่านี้…

พวกจางฮ่าวเฉิงและลี่เซิ่งมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความรู้สึกเสียดาย

สิ่งที่บุคคลที่ล้ำเลิศกลัวที่สุดก็คือ ตอแยคนที่แกร่งกว่าตนมากเกินไปในตอนที่ตนยังไม่ได้เติบโตอย่างแท้จริง ทำให้ต้องสิ้นชีวิตตั้งแต่วัยเยาว์

เยี่ยนจ้าวเกอเป็นอัจฉริยะที่แกร่งที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอ แต่น่าเสียดายที่ต้องเจอกับการลงมือด้วยพลังทั้งหมดของฟางข่าน ซึ่งอยู่ในขั้นบรรลุธรรมในตอนที่เขาอยู่ในขั้นรูปญาณระยะท้าย ถูกทำลายอนาคตเร็วเกินไป

สำหรับจอมยุทธ์โลกผืนสมุทรแล้ว ถ้าระดับของเยี่ยนจ้าวเกอสูงกว่านี้ ยังมีโอกาสหนีเอาชีวิตรอด

แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกออายุน้อยถึงเพียงนี้ ไม่อาจหวังมากกว่านี้ได้อีกจริงๆ เพียงเสียดายที่ไม่รู้ว่าในอนาคตเขาจะไปถึงระดับไหน

ในห้วงสมองของฟางข่านเกิดความคิดคล้ายคลึงกัน

ดังนั้นเขาจึงลงมือเด็ดขาดกว่าเดิม!

ศัตรูคู่อาฆาตที่มีศักยภาพเช่นนี้ จะเก็บไว้ไม่ได้เด็ดขาด

สีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอกลับสงบนิ่งมาก ดวงตาของเขามองฟางข่านอย่างเยียบเย็น ไม่มีแวววิตกกังวลอะไร

ใช้วิธีที่รับมือฟางจ้าวหงไม่ได้ก็ไม่เป็นไร มีวิธีการอีกมากมายนัก

เยี่ยนจ้าวเกอพลันยิ้มขึ้น ดวงตาที่เย็นเยียบมาโดยตลอดกลายเป็นบ้าคลั่งโดยฉับพลัน

ดวงตาในแนวตั้งตรงกลางหน้าผากของร่างจิตประสานสั่นไหวเล็กน้อย แสงสว่างกลายเป็นสับสน

‘หือ?’ ฟางข่านมองเยี่ยนจ้าวเกอ จิตใจเกิดความสงสัย เนื่องจากจู่ๆ เขาก็พบว่าทิศทางความคิดในการเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าของอีกฝ่ายที่ตนคำนวณมิได้ง่ายดายดุจเดิมแล้ว

ระเบียบที่มีลำดับขั้นตอนก่อนหน้า ในตอนนี้พลันเปลี่ยนเป็นซับซ้อนและบ้าคลั่ง

เหมือนกับคนปกติคนหนึ่งเปลี่ยนเป็นคนบ้าในฉับพลัน

สำหรับคนธรรมดาคนหนึ่ง สามารถทำความเข้าใจกับรายละเอียดต่างๆ ในชีวิต และคาดเดาความคิดทั้งหมดในจิตใจ แล้วนำมาสรุปเป็นแบบแผนได้

แต่ในบางครั้งก็ไม่อาจเข้าใจคนเสียสติคนหนึ่ง ว่าเขาคิดอะไรและทำอะไร

ตอนนี้ฟางข่านรู้สึกเช่นนี้ ปมเงื่อนซับซ้อนกวนคนเป็นหนึ่ง ยากจะหาเบาะแสที่อยู่ด้านใน

แม้แต่ฟู่เอินซูเอง เมื่อนางสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงของเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ด้านข้าง ก็ยังประหลาดใจเหลือแสน

บนใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอปรากฏรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวเล็กน้อย

ในใจของเขายังคงรักษาสติเสี้ยวสุดท้ายไว้ เพียงแต่ถูกความบ้าคลั่งบดบังไว้ด้านใน ทำให้ฟางข่านมองไม่ออกอยู่ชั่วขณะ

หนึ่งในหมัดอสูรหกวิญญาณ หมัดมารกิเลน!

กิเลนเป็นสัตว์ร้ายที่น่าเกรงขาม บดขยี้ความชั่วร้ายทั้งมวล อยู่ในฝ่ายธรรมมะ

ส่วนหมัดมารกิเลนอยู่ในทิศทางตรงกันข้าม เป็นกระบวนท่าที่บ้าคลั่งและดุร้ายถึงขีดสุด ปั่นป่วนยิ่งกว่าวิชาหมัดอื่นๆ ในหมัดอสูรหกวิญญาณ

แต่ว่าในความปั่นป่วนนี้ ก็แฝงหลักการแห่งฟ้าเอาไว้ มีอานุภาพแข็งแกร่งยิ่ง คล้ายกับมีพลังแห่งการทำลายที่บ้าคลั่งในตอนที่สรรพสิ่งสูญเสียการควบคุม

เพียงแต่ว่าท่าหมัดนี้ไม่สอดคล้องกับความชอบของเยี่ยนจ้าวเกอ ดังนั้นเขาจึงได้ศึกษาท่าหมัดอื่นๆ ทั้งหมดในหมัดอสูรหกวิญญาณ มีเพียงหมัดมารกิเลนเท่านั้นที่ไม่ค่อยใส่ใจนัก

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่แตกฉานในท่าหมัดนี้

ความเปลี่ยนแปลงทางกระบวนท่าที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้ในตอนนี้ ยังคงเป็นวรยุทธ์ประเภทฝ่ามือนภากว่างเฉิง แต่ว่าจิตใจของเขากลับเปลี่ยนความสงบนิ่งของท่าหมัดวิญญาณสยบคลื่น เป็นความบ้าคลั่งปั่นป่วนของท่าหมัดมารกิเลน

ฟางข่านที่กำลังใช้สมาธิทั้งหมดคำนวนการเปลี่ยนแปลงทางกระบวนท่าที่ความคิดของเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่เอินซูมุ่งไป เกือบจะถูกชักนำเพราะความบ้าคลั่งที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันของเยี่ยนจ้าวเกอ

ในจิตใจของคนคล้ายกับมีหญ้าหางกระรอกงอกขึ้นมา บัลดาลให้เกิดความรู้สึกรำคาญสุดขีด

ฟางข่านแค่นเสียง ตั้งสมาธิ สงบจิตใจ แกะไหมทีละเส้น[2]

เขาสะสางภาพหลอน ฝ่าหมอกลวงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในที่สุดก็เห็นสติเสี้ยวสุดท้ายในใจของเยี่ยนจ้าวเกอ

“ถ่วงเวลาไปก็ไม่มีประโยชน์” ฟางข่านพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “คนที่เจ้ารอมาไม่ได้”

คล้ายกับยืนยันการคาดการณ์ของเขา จู่ๆ ทุกคนก็รู้สึกได้ว่า ห่างไกลออกไปมีการสั่นไหวของพลังที่รุนแรงส่งมา

กลิ่นอายที่แข็งแกร่งกว่าฟางข่านสองสายปะทะกันอย่างรุนแรงในทิศทางของทะเลเรือนลางซึ่งอยู่ไกลออกไป อานุภาพหลงเหลือส่งมาถึงทางด้านระเบียงสมุทรตลอดเวลา

ปราณกระบี่ที่อยู่ด้านในเผยความคมกริบออกมาจนหมดสิ้น มีเสียงดังมาจากไกลๆ “ปราชญ์ปีศาจ เจ้ามาจริงๆ ด้วย!”

ทุกคนต่างคุ้นเคยกับปราณกระบี่นี้มาก นั่นคือท่ากระบี่ของบึงหมื่นกระบี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมะ พลังอันแข็งแกร่งนั้นมาจากอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของบึงหมื่นกระบี่ กระบี่ล่องลอย

เมื่อได้ยินเสียงที่ดังมา จอมยุทธ์โลกผืนน้ำที่อยู่รอบๆ ใบหน้าต่างเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ต่างมองเยี่ยนจ้าวเกอและฟู่เอินซูพร้อมกัน

บัดนี้ท่าทีกึ่งเชื่อกึ่งสงสัยในตอนแรกเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ‘หรือว่าพวกเขาจะเป็นคนจากสำนักปราชญ์ปีศาจจริงๆ’

ฟางข่านต่อยหมัดใส่เยี่ยนจ้าวเกอ “ข้าคิดสังหารเจ้า จะไม่ป้องกันปราชญ์ปีศาจไม่ให้ลงมือได้อย่างไร? ข้าได้เชิญกระบี่ล่องลอยของบึงหมื่นกระบี่ออกสำนักเพื่อเวลานี้โดยเฉพาะ!”

ฟางข่านมองความลี้ลับในท่าหมัดมารกิเลนออกแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอจึงหยุดใช้หมัดมารกิเลนในความคิด ดวงตากลับสู่ความสงบนิ่งอีกครั้ง

“คนที่ข้ารอมิใช่เขา”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มอย่างสบายอารมณ์ สั่งความคิด ระเบียงสมุทรเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง คล้ายกับมีตัวตนที่แข็งแกร่งกำลังตื่นขึ้น!

……………………………………….

[1] เห็นใยแมงมุมรอยเท้าม้า สุภาษิตจีน หมายถึง หาเบาะแสจากมันได้

[2] หมายถึง ค่อยๆ แยกแยะเรื่องราวทีละเรื่องเหมือนกับแกะไหมทีละเส้น