ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล


ในตอนกลางคืน เซียวอวี๋ไปยังกระโจมของนิโคลัสก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ข้ามาชวนเจ้าไปดูการแสดง” “การแสดง? การแสดงอะไร?” นิโคลัสถามอย่างงุนงง เขาเดาไม่ออกจริงๆว่าเซียวอวี๋จะทำอะไรกันแน่ “แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นการแสดงต่อสู้แบบจัดเต็ม ดูนั่นสิ ฮ่าฮ่า…” จากนั้นเซียวอวี๋ก็สั่งให้บรรดาผู้ติดตามอย่างมู่หลี่ คาสโซ่และคนอื่นๆไปเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า “หนึ่งชั่วโมง?” มู่หลี่และคาสโซ่นิ่งตะลึง “ตะ..แต่..พวกเรายังไม่มีการเตรียมพร้อมใดๆเลย” คาสโซ่ตกใจ หากว่าท่านต้องการบุกโจมตี ท่านก็ต้องเตรียมการล่วงหน้าหนึ่งวัน ในสามเดือนที่ผ่านมานี้ ไพร่พลทั้งหมดต่างก็เอาแต่สนุกสนานอยู่ภายในค่ายตลอดทั้งวัน พวกเขายังไม่ได้เตรียมตัวใดๆเลย “ถูกต้อง หากพวกเราไม่มีการเตรียมพร้อม อีกฝ่ายก็ยิ่งไม่ทันระวัง พวกเราย่อมสามารถคว้าชัยในศึกนี้ ภายในหนึ่งชั่วโมง การเตรียมการทั้งหมดต้องพร้อมสรรพ ไพร่พลระดับล่างสุดจะได้รับแจ้งสิบนาทีก่อนทำสงคราม!” เซียวอวี๋กล่าวอย่างมั่นใจ “ขอรับ” หลังจากหายตกตะลึง มู่หลี่ก็รีบไปจัดการตามที่ได้รับคำสั่งทันที คาสโซ่พยักหน้ารับก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ในที่สุดเขาก็เข้าใจความแตกต่างระหว่างเขากับเซียวอวี๋แล้ว เขาได้ทราบแล้วว่าใยเซียวอวี๋จึงไร้เทียมทาน กลยุทธ์อันเรียบง่ายนี้นั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึง ในตอนแรก เซียวอวี๋นั้นทราบว่าตระกูลเคเนดี้ได้จัดส่งมือดีจำนวนมากมาที่นี่ ทั้งยังมีกำลังหนุนชั้นดีจากศาสนจักรร่วมด้วยอีก มันจึงเป็นการยากที่จะเอาชนะ แต่ถึงแม้จะชนะได้ การสูญเสียที่เกิดก็คงไม่น้อยเลย อย่างไรก็ตาม หลังจากลากถ่วงมาเป็นเวลาสามเดือน สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปแล้ว ผ่านไปสามเดือนแล้วยังไม่มีการรบพุ่ง ไพร่พลของรัฐเว่ยก็ได้แต่นิ่งเฉย ซึ่งนี่ก็เป็นเวลาอันเหมาะสมที่จะเปิดฉากโจมตีสายฟ้าแลบเพื่อพิฆาตอีกฝ่ายในครั้งเดียว นิโคลัสมองดูเซียวอวี๋อย่างตะลึงงันก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “เพื่อที่จะโจมตีรัฐเว่ย เจ้าถึงกลับรอกว่าสามเดือน หลังจากอีกฝ่ายเริ่มหย่อนยาน เจ้าก็พลันลงมือ แผนการของเจ้ายอดเยี่ยมยิ่ง” เซียวอวี๋หัวเราะพลางยิ้มเล็กน้อย ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง มู่หลี่ก็กลับมารายงานต่อเซียวอวี๋ว่าไพร่พลพร้อมรบแล้ว นี่เป็นเพราะว่าไพร่พลของพวกเขาแทบจะไม่ต้องมีการเตรียมตัวอะไรนัก พวกเขาพร้อมทำศึกทุกเวลา แม้ว่าเหล่านักรบจากฐานทัพจะวางตัวราวกับไพร่พลทั่วไป กระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้คลายการระวังลง พวกเขาเกิดมาเพื่อเป็นนักรบอย่างแท้จริง ในเวลานี้เอง ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว ทั่วทั้งค่ายจุดไฟสว่างไสว ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่ไพร่พลของรัฐเว่ยสังเกตเห็นจนชินตา “เหอๆ พวกมันคิดเล่นสนุกอีกแล้วกระมัง? ข้าอยู่ตรงนี้เบื่อหน่ายแทบตายแล้ว” “คงใช่ คนพวกนั้นนั้นกินดื่มอย่างสนุกสนานทุกวัน แล้วดูพวกเราสิ พวกเรากลับต้องมายืนยามโง่ๆเช่นนี้” “นั่นสิ ได้ยินมาว่าพวกนั้นมีรางวัลประกวดการเต้นด้วยนะ” “อืม มาดูกันว่าคืนนี้พวกนั้นจะละเล่นอะไร วันนี้ค่ายของพวกมันดูไม่ค่อยแออัด วันนี้คงจัดแข่งเต้นกระมัง?” “เอ๊ะ นั่นมันอะไรน่ะ เจ้าพวกตัวสูงๆเหล่านั้น? ยักษ์ภูเขา? ข้าไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อนเลย พวกมันก็จะร่วมการแข่งเต้นด้วยงั้นหรือ?” “ฮ่า ถ้าเจ้าพวกนั้นร่วมเต้นด้วยคงดูพิลึกดี” “หืม ดูในมือของพวกมันยักษ์นั่นสิ ดูเหมือนจะเป็นต้นไม้นะ” “ใช่ ต้นไม้จริงๆด้วย ถ้าพวกมันมาถึงกำแพงเมือง พวกมันก็คงจะสูงพอๆกันเลย” “อืม ผิวของพวกมันก็ยังเป็นศิลาแกร่ง การโจมตีคงไม่ระคายผิวของพวกมัน มีเพียงธนูเวทที่รุนแรงเท่านั้นที่ทำร้ายพวกมันได้” “ไม่รู้ว่าลอร์ดของอีกฝ่ายไปหาพวกแปลกๆตั้งมากมายขนาดนี้มาจากไหน” “ลือกันว่าพวกมันล้วนแต่มาจากเทือกเขาอัลคาเกน ที่นั่นเต็มไปด้วยสิ่งลึกลับมากมาย รวมทั้งอันเดดจำนวนมากด้วย” “อา ตอนนี้เรื่องอันเดดเองก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้ว ได้ข่าวมาว่ามีหมู่บ้านในรัฐของเราหลายแห่งถูกบุกโจมตี และสร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้านอย่างมาก มีหลายคนที่เลือกอพยพไปยังดินแดนไลอ้อนด้วย” “ได้ยินมาว่าที่นั่นมีเหล่านักรบพาลาดินอยู่ พวกเขาสามารถใช้ลำแสงปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้ด้วย” “ใช่ที่ไหนกัน มันเป็นเพราะพวกเขามีเวทมนตร์ที่สามารถชำระพวกอันเดดได้ พวกมันจึงไม่กล้าย่างกายเข้าไปต่างหาก” “แต่กองทัพอันเดดพวกนั้นก็แข็งแกร่งจริงๆ พวกมันมีทั้งการ์กอย มีทั้งแมงมุมคริสตัล และอื่นๆที่ล้วนมีแต่ในนิทาน หรือนี่จะเป็นลางบอกเหตุว่าโลกนี้กำลังจะเกิดเรื่องใหญ่?” “หรือเจ้าไม่เคยได้ยินคำพยากรณ์นั้น? ว่ากันว่าผู้ที่สามารถรวบรวมทุกเผ่าพันธ์ุเข้าด้วยกันได้จะกลายเป็นราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวีป ซึ่งตอนนี้ บรรดาลอร์ดและขุนนางใหญ่มากมายต่างก็พยายามรวบรวมกำลังอย่างเอิกเกริกเพื่อหวังเป็นบุคคลในคำทำนาย” “เฮ้อ ดูดินแดนไลอ้อนตอนนี้สิ ประชาชนของพวกเขาต่างก็ได้รับการดูแลอย่างดี ทุกเผ่าพันธุ์ล้วนเท่าเทียม หากผุ้ใดกล้าแบ่งแยก คนผู้นั้นก็จะได้รับโทษอย่างหนัก” “แล้วหันมาดูพวกเราตอนนี้สิ ต้องมานั่งดูอีกฝ่ายจัดงานฉลองอยู่ทุกวัน ยิ่งก็คิดก็ยิ่ง…..เฮ้อ…..” “บางครั้งข้าเองก็อยากจะลงไปแข่งเต้นกับพวกมันด้วยจริงๆ เฮ้อ….” “เฮ้ วันนี้พวกมันจะจัดแข่งเต้นนี่นา ไฉนจึงดูเหมือนกำลังใกล้เข้ามาทางพวกเรานัก?” “นั่นสิ คล้ายกับว่ายักษ์ภูเขาพวกนั้นก้าวขาเพียงไม่กี่ก้าวก็สามารถบรรลุถึงตำแหน่งของพวกเราเลย” “ใช่ หากว่าพวกมันต้องการจะเข้าเมืองด้วยต้นไม้ในมือนั่นล่ะก็…..” ในเวลานี้เอง ไพร่พลทั้งสองพลันหันไปมองหน้ากันก่อนจะตะโกนสุดเสียง “ศัตรูบุก!” “ศัตรูบุก!”