ตอนที่ 723 ไม่ทอดทิ้งกัน (2) โดย Ink Stone_Romance

เขาก้มมองหญิงสาวที่ร้องไห้น้ำตานองหน้าในอ้อมแขนวูบหนึ่ง ไม่พูดพร่ำทำเพลงพลางช้อนตัวเธอขึ้นมาทันที อกแกร่งของชายหนุ่มคล้ายเป็นที่ที่เธอรู้สึกปลอดภัยมากที่สุด ความหวาดกลัว สิ้นหวังในใจยามเผชิญหน้ากับความตายนั้นได้มลายหายไปจนหมดสิ้น ไป๋ซู่เย่โอบลำคอเขาไว้ด้วยสัญชาตญาณ ปล่อยให้เขาอุ้มอยู่อย่างนั้น หลังดิ้นรนมาตลอดคืนกระทั่งตอนนี้เจ้าตัวถึงได้รู้สึกผ่อนคลายชั่วขณะ

ทั้งสามคนก้าวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปตามๆ กัน

ใบพัดเริ่มทำงานทะยานสู่ท้องฟ้า

ไป๋ซู่เย่นั่งในห้องผู้โดยสารโดยมีเย่เซียวนั่งขนาบข้างเธอ ตอนนี้เธอหยุดร้องไห้ไปแล้ว เก้อเขินหน่อยๆ เมื่อนึกถึงอารมณ์ที่หลุดการควบคุมของตนเมื่อกี้นี้

 “มือ ให้ผมดูหน่อย!” เย่เซียวสังเกตเห็นแผลบนแขนเธอนานแล้ว หากไม่พูดถึงเธอยังพอจะเพิกเฉยต่อมันได้ พอเขาเอ่ยถึงเธอกลับรู้สึกเจ็บขึ้นมาดื้อๆ

เย่เซียวยกแขนเธอพลางกระชากผ้าที่เธอพันไว้ลวกๆ ออก ใต้ผ้าพันแผลมีแผลที่ยังไม่ได้รับการปฐมพยาบาลซึ่งเริ่มขึ้นสีขาวเพราะติดเชื้อ

ไป๋ซู่เย่มองแวบหนึ่งแล้วเบี่ยงหน้าหันหนี เย่เซียวหายใจหนักอึ้งขึ้น เชยตามองเธอนิ่งๆ แวบหนึ่ง “ผมจะทำแผลให้คุณก่อน”

 “…อืม”

 “ไม่มียาชา อดทนหน่อย”

ไป๋ซู่เย่พยักหน้า “ไม่เป็นไร”

 “นายท่าน น้ำมันใกล้หมดแล้ว เราต้องหาที่ลงจอดก่อน” หยูอันหันมาบอกพวกเขา

เย่เซียวขมวดคิ้วและยื่นศีรษะมองลงไปข้างล่างทีก่อนจะรีบออกคำสั่ง “ทิศทางแปดนาฬิกา มีรถบ้านที่ถูกทิ้งอยู่ เราไปหลบที่นั่นก่อนชั่วคราว”

หยูอันพยักหน้ารับก่อนจะลงจอดเฮลิคอปเตอร์อย่างแม่นยำ

เย่เซียวพยุงไป๋ซู่เย่กระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์ “คุณเข้าไปก่อน ผมกับหยูอันต้องวางแผนปฏิบัติการง่ายๆ ก่อน”

 “ฉันอยู่ช่วยพวกคุณได้”

 “ตอนนี้คุณใกล้จะหมดแรงแล้วยังช่วยอะไรอีก? เข้าไปซะ!” เย่เซียวไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดไปมากกว่านี้ก็ปฏิเสธความต้องการเธอทันที

ไป๋ซู่เย่กลัวว่าตนอยู่ต่อไปจะทำให้เขาไม่มีสมาธิเลยตัดสินใจไปสำรวจรถบ้านก่อน รถคันนี้เห็นได้ชัดว่าถูกทอดทิ้งไว้เป็นเวลานานและทรายกลบยางล้อรถจนมิด ตัวรถเองก็มีแต่เม็ดทราย เธอเปิดประตูเข้าไปก็ไอรัวๆ เพราะสำลักฝุ่นทราย

ไม่สนใจว่าบนเก้าอี้จะมีฝุ่นทราย เธอทิ้งตัวนั่งลงอย่างหมดแรงพิงพนักทอดสายตาไปนอกหน้าต่าง ข้างนอกเย่เซียวกับหยูอันกำลังฝังระเบิดที่ไกลจากตรงนี้ไปประมาณสิบเมตร

เธอมองแผ่นหลังเย่เซียวฉับพลันหลากหลายความรู้สึกก็โหมกระหน่ำมาในใจ ทั้งปวดใจแต่ไม่ได้ขมขื่นอย่างที่เคย ตอนนี้กลับรู้สึกหวานชื่นหน่อยๆ…

เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะมา…

ในช่วงเวลาที่เธอแทบหมดหวังและรอความตาย ผู้ชายคนนี้เหมือนเทวดาที่ทำทุกอย่างได้ ปรากฏต่อหน้าตัวเองอย่างไม่คิดชีวิต

แต่ว่า…

ท่ามกลางความหวานชื่นนี้กลับแฝงด้วยความกังวลปนลำบากใจที่มากกว่านั้น

ทะเลทรายผืนนี้เต็มไปด้วยกลุ่มติดอาวุธ แค่พวกเขาสามคนอย่าคิดว่าจะรอดพ้นไปจากที่นี้ได้อย่างปลอดภัยเลย ต่อให้อาวุธของพวกเขาจะพอขับไล่คนบางกลุ่มไปได้บ้างแต่การไม่มีกำลังเสริม ติดอยู่ที่นี่หลายวันพวกเขาคงไม่พ้นขาดน้ำตายก็หิวตาย

ขณะที่กำลังคิดไปเรื่อยเปื่อยประตูรถบ้านก็ถูกผลักเข้ามาจากข้างนอก ตัวเย่เซียวสูงใหญ่ต้องโค้งตัวถึงเข้ามาได้ พื้นที่ข้างในเดิมทีไม่ได้กว้างใหญ่อยู่แล้วพอเขาเข้ามาก็ยิ่งคับแคบเข้าไปกว่าเดิม

เขาเปิดฝากระบอกน้ำยื่นให้เธอ “ดื่มสักหน่อย”

ไป๋ซู่เย่หยิบมาแต่แค่จิบน้ำเบาๆ อย่างหักห้ามใจ

 “ดื่มอีกสักหน่อย” เย่เซียวกลัวเธอจะขาดน้ำ

 “ไม่ล่ะ” ต่อให้เธอไม่ได้ดื่มน้ำมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแต่เธอรู้ว่าท่ามกลางทะเลทรายนี้ทรัพยากรน้ำสำคัญมากขนาดไหน

 “คุณจะดื่มเองหรือให้ผมป้อน?” เย่เซียวเพิกเฉยคำพูดเธอไปโดยตรง

 “ไม่ต้องแล้วจริงๆ ฉันยังพอทนได้”

เย่เซียวแย่งกระบอกน้ำจากมือเธอบิดฝาออกดื่มอึกใหญ่ สบโอกาสที่ไป๋ซู่เย่ยังนิ่งค้างอยู่นั้นคว้าร่างเธอเข้าไปก่อนจะโน้มหน้าประกบปากเธอส่งต่อน้ำในปากไปให้เธออย่างไม่ลังเล

อื้อ ผู้ชายเอาแต่ใจคนนี้!

แต่การเอาแต่ใจแบบนี้ของเขาสร้างความหวั่นไหว เรียกให้เธอหลงใหลและยากจะถอนตัวได้เสมอ

 “กลืนลงไป ห้ามฟุ่มเฟือยแม้แต่หยดเดียว!” เย่เซียวผละจากเธอ

ไป๋ซู่เย่จำต้องกลืนน้ำลงท้อง ของเหลวไหลผ่านลำคอไปถึงทำให้เธอรู้สึกสบายขึ้นหน่อย บนริมฝีปากคล้ายยังมีไออุ่นของเขาหลงเหลืออยู่ ทำเอาเธอใจสั่นรัว

เย่เซียวถึงค่อยพอใจ ทิ้งสายตาที่ปากเธอชั่ววูบก่อนจะหันหนีอย่างรวดเร็ว

 “ยกแขนขึ้น ผมทำแผลให้คุณก่อน” เขาวางกระบอกน้ำลง

ไป๋ซู่เย่ถึงยื่นแขนให้เขาตามคำสั่ง เขามองเธอนิ่งแวบหนึ่ง สายตานั่นแน่วแน่แต่ก็เต็มไปด้วยกำลังใจคล้ายปลอบโยนเธอทั้งมอบพลังให้เธอยืนหยัดต่อไป ไป๋ซู่เย่กระตุกปากยิ้ม “คุณทำเถอะ ฉันทนไหว”

สีหน้าเย่เซียวหนักอึ้งหยิบกรรไกลจากกล่องปฐมพยาบาลอกมาตัดแขนเสื้อบนแขนเธอก่อน จากนั้นค่อยหยิบแอลกอฮอล์ล้างแผลมา

หยุดชะงัก

มองเธอ

 “เดี๋ยวจะเจ็บมาก ทนหน่อยนะ”

ไป๋ซู่เย่หยักหน้า

เธอหันหน้าหนีไม่มอง เย่เซียวเห็นใบหน้ามุมข้างที่อดทนรวมถึงฝุ่นควันยังบดบังความงดงามของเธอไม่ได้ หัวใจเต้นระรัวขึ้นมาเสียดื้อๆ

นี่แหละผู้หญิงที่เขาต้องการ—ไม่อ่อนแออ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิงคนอื่นและไม่เคยเผยมุมอ่อนแอต่อหน้าเขา แต่ความเข้มแข็ง ความกล้าหาญ เสน่ห์ล้นเหลือเหล่านี้เทียบเท่ากับดอกไม้ที่ผลิบานกลางทะเลทราย

เย่เซียวกัดฟันแน่นเทแอลกอฮอล์ใส่แผลเธอ

 “อึก…” ความแสบร้อนตรงปากแผลทำให้ตัวเธอสั่นระริก ปากที่แตกแห้งเป็นทุนเดิมถูกเธอกัดจนเลือดซิบ

เธอเผลอถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว

เย่เซียวชะงักท่าที่กำลังเทแอลกอฮอล์ เห็นเธอเจ็บขนาดนี้หัวใจเขารู้สึกเจ็บเหมือนถูกคนจ้วงแทง

วางแอลกอฮอล์ลงมองเธอโดยที่ไม่ได้ทำขั้นตอนต่อไปพักใหญ่

รอความเจ็บที่ค่อยๆ บรรเทาลง ไป๋ซู่เย่หันหน้ามาเอ่ยปากกล่าวอย่างอ่อนแรง “ฉันไม่เป็นไร…คุณต่อเลย”

เสียงของเธอเบาหวิวคล้ายกลุ่มควันที่พร้อมจะสลายหายไปทุกเมื่อ

เย่เซียวหยิบมีดผ่าตัดและคีมหนีบที่ผ่านการฆ่าเชื้อออกมาด้วยสีหน้าหนักอึ้ง มือหนึ่งตะครุบแขนเธอไว้แน่น สองตามองเธอไม่ห่าง มีดสัมผัสผิวเธอทำให้ขนตาเธอสั่นไหวรุนแรง แต่ว่า…

มือของเย่เซียวก็แอบสั่นน้อยๆ จนกำมีดไม่อยู่

เขาได้เตรียมใจมากพอแล้วแต่สุดท้าย…

 “หยูอัน แกมาทำ!” เขาโยนมีดผ่าตัดทิ้ง ล้มเลิกความคิด

หากแผลนี้อยู่บนตัวเขา มันเป็นเรื่องสบายมากที่เขาจะต้องกรีดมีดลงบนตัว สามารถลงมือกระทำอย่างไม่ออมมือ แต่จะให้กรีดบนตัวเธอนั้นให้ตายอย่างไรเขาก็ทำไม่ได้!

หยูอันที่กำลังเดินสำรวจสภาพแวดล้อมรอบข้างอยู่ข้างนอกได้ยินเสียงเรียกเลยแบกปืนเข้ามาถาม “นายท่าน ทำไมเหรอ?”

 “แกมาทำ!”

เขาลุกยืนย้ายตำแหน่งที่เดิมให้หยูอัน

ส่วนตัวเขาได้เบี่ยงตัวไปนั่งข้างๆ ไป๋ซู่เย่

 “ผมเหรอ?” หยูอันชี้มาที่ตัวเอง

เย่เซียวพยักหน้าหนักแน่น

…………………………