บทที่ 666 จอมมารเย่ว์อิ่นหลง

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 666 จอมมารเย่ว์อิ่นหลง
เย่เซอ่งเทียนยืนอยู่ตรงสวนหย่อมอย่างเงียบๆ ด้านหลังของเขาคือเย่ว์อิ่นหลง

บนพื้นมีบอดี้การ์ดนอนเรียงรายอยู่ตรงสวนหย่อม

คนของตระกูลซ่งรีบตามมาทั้งหมด เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า ก็ถึงกับตกใจทันที

ไอ้ฆาตกรโฉดนั่นมาอีกแล้ว!

ก่อนหน้านี้ เย่ว์อิ่นหลงไปบั่นคอของซ่งหยวนลี่ ต่อหน้าของพวกเขาทุกคน ทำให้พวกเขารู้สึกฝังใจเป็นอย่างมาก

หลายวันมานี้ตระกูลซ่งได้ตามรอยเบาะแสของเย่ว์อิ่นหลงมาตลอด แต่หาไม่พบจึงได้เริ่มทำการบีบทางด้านตระกูลหลี่ เพื่อบีบให้ เย่ว์อิ่นหลงปรากฏตัว

“พวกแกกล้ามากนะ กล้ามาหาเรื่องที่ตระกูลซ่งของเรา!”

มีคนกล่าวอย่างโมโห

ตระกูลซ่งของพวกเขา ถึงแม้ว่าเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่แห่งเมืองโมตู แต่ใครๆก็ต่างรู้ว่า ตระกูลซ่งเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองโมตู

ตอนนี้ถูกผู้อื่นทำร้ายถึงที่ครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนเอาหน้าของตระกูลซ่งของพวกเขาถูไปกับกองขี้!

“เพราะหยวนลี่แตะต้องเมียของแก ถึงกับต้องเหยียบหยามตระกูลซ่งของเราแบบนี้เชียวหรอ?เมียแกไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนสักหน่อย แต่แกกลับฆ่าหยวนลี่ แถมยังจะมายั่วยุตระกูลซ่งอีก!”

มีคนก้าวออกมาชี้หน้าก่อนหน้า

เย่ว์อิ่นหลงพูดอย่างชั่วร้าย“พวกแกแค่ตายไม่กี่คนเอง ไม่ได้ถึงขั้นทำลายและบดกระดูกของศพลงไปในกองขี้เถ้าสักหน่อย ทำไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วย?”

“ทุกคนถอยไป”

ซ่งจื่อหลินเดินออกมากับท่านหนิงและท่านจาง แล้วตำหนิด้วยน้ำเสียงดุดัน

“เย่เซิ่งเทียน ไม่สามารถเจรจาได้จริงๆหรอ?ลูกชายของฉันแค่อยากจะนอนกับเมียแกแค่นั้นเอง แต่ลูกชายของฉันกลับตายในมือของแก ถึงจะต้องแก้แค้นก็ต้องเป็นฉันที่แก้แค้นแก ตอนนี้แกถึงกับบุกมาถึงรังตระกูลซ่ง ตกลงมันหมายความว่าไงห้ะ!คิดว่าตระกูลซ่งของฉันรังแกได้ง่ายๆงั้นหรอ?ท่านหนิงกับท่านจางก็อยู่ที่นี่ วันนี้แกอย่าคิดจะจองหองเลย!”

เย่เซิ่งเทียนไม่แม้แต่จะมองสองคนนั้น เขาจ้องไปที่ซ่งจื่อหลินพลางกล่าวว่า“ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากจัดการตระกูลซ่งเท่านั้นเอง”

“ไอ้เหี้ย แกรนหาที่ตาย!”

ซ่งจื่อหลินโกรธจนกัดฟันกรอด เขาหันกลับไปพูดกับท่านหนิงและท่านจางว่า“ท่านหนิง ท่านจางครับ รบกวนท่านสองคนด้วย”

ท่านจางพยักหน้า แล้วเหลือบไปมองเย่ว์อิ่นหลงที่อยู่ข้างๆเย่เซิ่งเทียน“เย่เซิ่งเทียน แกอาศัยเขาสินะ?ถ้าอย่างงั้นคืนนี้แกจะต้องตายอยู่ที่นี่”

เย่ว์อิ่นหลงโยนถุงผ้าในมือไปที่เท้าของท่านหนิงกับท่านจาง พลางหัวเราะหึๆ“ตาแก่ นี่เป็นของขวัญของพวกแก มาเสแสร้งอะไรตรงนี้ ถึงได้อยากเป็นทั้งโสเภณีแต่อยากจะบอกกับคนอื่นว่าตัวเองพรหมจรรย์ จะลงหลุมกันอยู่แล้ว ยังเป็นสุนัขรับใช้ให้คนอื่นอยู่อีก อายุมากขนาดไปเกิดอยู่บนตัวหาแล้ว ขอโทษนะ มันดูเหยียดหยามหมาเกินไปหน่อย น้องหมาน่ารักจะตาย”

ท่านหนิงไม่ได้พูดอะไร ดวงตาสองข้างของเขาฉายให้เห็นความเยือกเย็น

“แกรน……”

ท่านจางยังพูดไม่ทันจบ ในถึงผ้าก็มีหัวคนหลุดออกมา นั่นก็คือท่านโจว!!!

“ทะๆๆ……ท่านโจว!!!”

ซ่งจื่อหลินตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไป ท่านโจวเป็นเซียนบู๊ท่านหนึ่ง แต่หัวกลับถูกคนบั่นออกมาแบบนี้!

เขารู้สึกกระวนกระวายอย่างไม่รู้เหตุผล แอบเสียใจเล็กน้อย เรื่องนี้เหมือนจะยิ่งอยู่ยิ่งวุ่นวาย!

แม้แต่เซียนบู๊ยังตาย!

ร่องรอยของความกลัวปรากฏขึ้นในดวงตาของท่านจาง ให้ความรู้สึกราวกับกระต่ายสิ้นใจจิ้งจอกร่ำไห้ เขากล่าวด้วยเสียดุดันว่า“แกเป็นใครกันแน่!”

ใบหน้าของเย่ว์อิ่นหลงเผยให้เห็นความชั่วร้าย มุมปากของเขากระตุกขึ้นมา“ฉันก็แค่เย่ว์อิ่นหลงผู้ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม คนอื่นเรียกฉันว่าจอมมาร”

“ว่าไงนะ?!!จะ……จอมมาร?”

ท่านจางถึงกับตกตะลึง ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ แววตาความหวาดกลัวค่อยๆแผ่ซ่านมาที่ใบหน้า

จอมมารเย่ว์อิ่นหลง!!

สามเทพสงครามของหอมังกรเทพ สี่ราชาสงคราม ที่แท้ควรจะเป็นห้าราชาสงคราม แต่หนึ่งในนั้นกลายเป็นจอมมารเย่ว์อิ่นหลง

ว่ากันว่าเหตุที่จอมมารไม่ได้รับตำแหน่งพร้อมๆกับสี่ราชาสงครามนั้น เพราะว่าจอมมารกระหายเลือด วิธีการฆ่าคนของเขาช่างป่าเถื่อนเกินที่จะรับไหว ดังนั้นสุดท้ายจึงกลายเป็นสี่ราชาสงคราม

ถึงแม้เย่ว์อิ่นหลงจะไม่ได้ขึ้นเป็นราชา แต่ทุกคนต่างขนานนามเขาว่าจอมมาร!

เป็นราชาที่ไร้ซึ่งมงกุฎ!

“เป็นไปไม่ได้ แกจะเป็นจอมมารได้ไง!!”

ท่านจางมองไปที่เย่ว์อิ่นหลงอย่างระแวดระวัง เขาไม่อยากเชื่อ

เพราะจากที่ได้ยินมา จอมมารได้ติดตามท่านเทพเจ้านานแล้ว เมื่อก่อนเขาเป็นเงาของท่านเทพเจ้า ดังนั้นความสามารถที่แท้จริงของจอมมาร จึงเหนือกว่าสี่ราชาสงครามของหอมังกรเทพ!

“กลัวอะไร!”

ท่านหนิงกดบ่าของท่านจางไว้ แล้วมองไปที่เย่เซิ่งเทียนอย่างสงสัย“ฉันล่ะแปลกใจจริงๆ ตกลงแกเป็นใครกันแน่ ถึงได้สามารถเชิญจอมมารมาได้ ถึงแกจะเป็นตัวแทนของท่านเทพสงคราม แต่ก็ไม่มีทางให้จอมมารออกโรงด้วยตัวเองได้หนิ?”