ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล


อันที่จริงแล้ว พวกคิเมร่าก็ไม่ได้แข็งแกร่งไร้เทียมทาน พวกมันยังมีข้อบกพร่องมากมาย ประการแรกเลยก็คือ พลังป้องกันของมันไม่อาจเทียบกับมังกร หากว่าพวกมันถูกโจมตีด้วยเวทมนตร์หรืออาวุธเวทที่ทรงพลัง มันก็อาจจะบาดเจ็บ และความยืดหยุ่นของมันก็ค่อนข้างแย่ ยิ่งไปกว่าการโจมตีทางกายภาพของมันยังย่ำแย่ ส่วนที่ทรงพลังที่สุดของมันก็คือการพ่นเปลวเพลิง แต่ปัจจุบันไม่มีผู้ทราบเกี่ยวกับข้อมูลของมัน อีกทั้งยังคิดว่าพวกมันคือมังกร ความหวาดกลัวเริ่มแพร่ไปในหมู่ฝ่ายศัตรู พวกเขาไม่ทราบว่าควรรับมือกับคิเมร่าอย่างไร แม้ว่ากองทัพอัศวินสีชาดจะแข็งแกร่งและไม่หวาดหวั่นต่อความตาย แต่การไม่กลัวนั้นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ใช่มนุษย์ ตราบใดที่มีชีวิต เช่นนั้นก็ย่อมรู้จักความกลัว หากว่าเป็นมังกรเพียงตัวเดียว พวกเขาก็คงไม่สึกกลัวใดๆ อย่างไรเสีย พวกเขาก็เคยได้ยินมาว่าดินแดนไลอ้อนนั้นมีมังกรอยู่ อย่างไรก็ตาม การถูกโจมตีด้วยมังกรนับร้อยตัวนั้นอยู่เหนือจินตนาการโดยสิ้นเชิง มังกรนับร้อยตัวนั้นแทบจะเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน ต่อให้มีกองทัพนับแสนอยู่เบื้องหน้า พริบตาถัดมาพวกเขาก็อาจจะหลงเหลือเพียงธุลี พวกเขากระทั่งไม่มีความคิดจะหลบหนีและทำได้เพียงยืนนิ่งตะลึงอยู่อย่างนั้น และในเมื่อไม่ได้นำอาวุธเวทออกมารับมือ พวกเขาก็เป็นได้เพียงเป้านิ่ง ทัพอัศวินเริ่มแตกฮือ ขณะที่ทัพอากาศไล่ล่าติดตามไป “อ๊าก…” ในเวลานั้นเอง เสียงคำรามอันโกรธแค้นพลันดังขึ้นท่ามกลางสนามรบ ผู้ที่ส่งเสียงนั้นก็คือผู้นำทัพอัศวินสีชาด เขาไม่เคยคิดเลยว่าลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้ แม้ว่าตัวเขาจะรอดมาได้ด้วยความแข็งแกร่งเฉพาะตัว ทว่าไม่ใช่กับคนของเขา กองทัพทั้งหมดถูกกวาดล้างจนย่อยยับ สิ้นหวัง เป็นความสิ้นหวังอย่างแท้จริง ความภาคภูมิใจก่อนหน้าพลันพังทลายเมื่อนักรบทั้งหมดของเขาถูกกวาดล้าง เวลานี้เขาคลุ้มคลั่งแล้ว เขากู่ร้องยาวนานก่อนจะพุ่งเข้าหาเซียวอวี๋เพื่อหวังปลิดชีพอีกฝ่ายในดาบเดียว “เจ้านี่โง่หรือเปล่า?” เซียวอวี๋มองเทอร์รี๋พลางส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย เขากล่าวอีกว่า “พลโจมตีระยะไกล โจมตีพร้อมกัน” ภายใต้คำสั่งของเซียวอวี๋ รถจู่โจม พลธนูเอลฟ์และพลปืนคนแคระก็โจมตีพร้อมกัน เทอร์รี่นั้นเป็นพาลาดินขั้นที่ห้าระดับสูงสุด กระนั้นก็แน่นอนว่าย่อมไม่อาจต้านทานการโจมตีที่ถาโถมเข้ามาได้ อย่างดีเขาก็เพียงต้านทานได้สามถึงสี่ครั้งก่อนจะสิ้นลมหายใจ “นายท่าน ยังมีศัตรูบางส่วนต่อสู้ขัดขืน แต่สถานการณ์ถูกพวกเราควบคุมไว้ได้แล้ว มีเพียงกลุ่มศัตรูทางทิศตะวันออกเท่านั้นที่หนีรอดจากการล้อมปิดล้อมเนื่องเพราะมีจำนวนมากขอรับ” พลส่งสารวิ่งเข้ามารายงานต่อเซียวอวี๋ “เหอะ เจ้าขี้ขลาดนั่นกลับหลบหนีเอาตัวรอด….จงประกาศไปว่าซาเน็ตติหลบหนีออกจากเมืองไปแล้ว เมืองฮุยเฉิงตกเป็นของพวกเราแล้ว เช่นนั้นขวัญกำลังใจของฝ่ายศัตรูย่อมพังทลายลง ฮีโร่ทั้งหมด ทัพอากาศทุกหน่วย ให้ติดตามข้าไปจับเจ้าขี้ขลาดนั่น” ได้ฟังคำรายงาน เซียวอวี๋ก็ทราบสถานการณ์โดยรวม ซาเน็ตติใช้ไพร่พลของเขาเป็นโล่มนุษย์ขณะที่ตัวเองหลบหนีไป แต่เซียวอวี๋จะยอมปล่อยเขาไปหรือ? ดังนั้นเซียวอวี่จึงออกคำสั่งให้ทัพอากาศทั้งหมดเร่งตามไปสกัดซาเน็ตติ “เซียวอวี๋ ข้าไปด้วยได้หรือไม่?” นิโคลัสที่เพิ่งหายจากอาการตกตะลึงพลันเอ่ยปากร้องขอ “ไม่มีปัญหา ไป” กล่าวจบเซียวอวี๋ก็ให้กริฟฟ่อนลงมารับนิโคลัส นิโคลัสสำรวจดูคิเมร่าขนาดใหญ่ที่บินอยู่ด้านข้าง แววตาของเขาส่องประกายขณะที่ในใจไม่ทราบว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ เดิมที นิโคลัสค้นพบวิธีที่จะใช้รับมือกับทัพอากาศของเซียวอวี๋ได้แล้ว ทว่าการปรากฏขึ้นของฝูงคิเมร่าทำให้สถานการณ์กลับไปเป็นดังเก่า เซียวอวี่ยังคงยากที่จะจัดการ เซียวอวี๋ไม่สนใจว่านิโคลัสกำลังคิดอยู่ เกี่ยวกับคิเมร่าฝูงนี้ เขารุ้ว่าด้วยเครือข่ายข่าวสารของนิโคลัสแล้ว ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องรับทราบอยู่ดี ไม่นาน เซียวอวี๋ก็ไล่ติดตามซาเน็ตติจนทัน ซาเน็ตติกำลังนำผู้ใช้มนตราและยอดฝีมือบางส่วนหลบหนีไปด้วยกันกับเขา เซียวอวี๋ที่อยู่บนฟ้าแค่นเสียงก่อนจะกล่าวว่า “เฮ้ ซาเน็ตติ เจ้ากำลังจะไปไหนงั้นหรือ?” ซาเน็ตเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงก่อนจะตกตะลึงอย่างหนัก เขาคิดไม่ถึงว่าเซียวอวี๋จะไล่ตามมาเร็วเช่นนี้ เขาคิดว่าเมื่อมีพวกศาสนจักรรับหน้า เซียวอวี๋ก็จะต้องหันไปรับมือเต็มกำลังและไม่มีเวลามาสนใจเขา แต่ไฉนมันจึงไล่ตามมาเร็วเช่นนี้? อีกทั้งมังกรมากมายปานนั้น เขาไปหามาจากที่ใดกัน? ผู้ที่พบเห็นพวกคิเมร่าครั้งแรกย่อมต้องคิดว่าพวกมันเป็นมังกร นั่นเพราะเดิมเซียวอวี่ก็มีมังกรอยู่ใต้บัญชาก่อนแล้ว ดังนั้น เมื่อพบเห็นฝูงคิเมร่าปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน เขาก็คิดว่าเผ่าพันธุ์มังกรยอมสยบต่อเซียวอวี๋แล้ว ความหวาดกลัวเกิดขึ้นในใจจนทำให้เขาไม่ทันได้มีเวลาตอบสนองใดๆ สุดท้ายแล้ว เผ่าพันธุ์มังกรก็เป็นตัวตนที่สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้พบเห็น ต่อให้เป็นมังกรเพียงตัวเดียว มันก็ยังทำให้ผู้พบเห็นถึงกับหน้าซีดอยู่ดี ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงมังกรนับร้อยตัว พวกเขาไม่มีความคิดจะต่อต้าน นั่นก็เพราะทราบว่ามันไร้ประโยชน์ ขระที่พวกเขากำลังตกตะลึง เพลิงของคิเมร่าหลายสายก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า “อา แยกกัน! รีบแยกกันเร็ว!” ซาเน็ตติรีบตั้งสติก่อนจะสั่งให้คนของเขากระจายตัวออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงเปลวเพลิงอันร้อนแรง อย่างไรก็ตาม พวกคิเมร่ามีมากเกินไป ต่อให้พวกเขาหลบ มันก็แทบไม่มีช่องว่างให้หลบ พวกนักรบนั้นยังดี ส่วนพวกผู้ใช้มนตรากลับถูกสังหารอย่างง่ายดาย แน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องเคยเผชิญพบกับพวกสัตว์อสูรที่บินได้มาก่อน พวกเขาสามารถใช้เวทมนตร์ยิงตอบโต้ไป หากแต่ในเวลานี้ พวกเขาล้วนไม่มีความคิดที่จะต่อสู้ คิดเพียงแต่จะหนีเอาตัวรอดเพียงเท่านั้น ผลลัพธ์จึงลงเอยอย่างที่เห็น ครืนนน….. การโจมตีของคิเมร่ากวาดล้างคนส่วนใหญ่ไป ขณะที่ทัพอากาศส่วนที่เหลือคอยตามเก็บกวาดศัตรู เมื่ออีกฝ่ายต่างหลบหนีอย่างไร้ระเบียบแบบแผน มันก็ยิ่งง่ายที่จะจัดการ ด้วยเหตุนี้ กองกำลังของซาเน็ตติจึงค่อยๆถูกกำจัดไป สุดท้ายที่ข้างกายของซาเน็ตติก็แทบไม่หลงเหลือผู้คน ซาเน้ตติตระหนักแล้วว่าตนคงไม่มีทางให้หลบหนี ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจก่อนจะกระตุกบังเหียนม้าเพื่อหยุดลง เขามองไปยังเซียวอวี๋ที่อยู่บนหลังกริฟฟ่อน เห็นซาเน็ตติมองมา เซียวอวี๋ส่งสัญญาณมือให้มังกรน้อยมารับเขา การขี่กริฟ่อนย่อมไม่อาจสร้างความน่าเกรงขามได้เท่ากับขี่มังกร ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนไปอยู่บนหลังของมังกรน้อย เขาคว้าขี้เถ้าที่ปลิวมาตามลมไว้พลางเอ่ยปากกล่าวว่า “ไม่มีทางให้เจ้าหนีแล้ว ยอมจำนนซะ พ่ายแพ้ต่อผู้บัยชาการที่เก่งที่สุดเช่นข้าไม่ทำให้น่าอายหรอก” “อา เซียวอวี๋ ข้าแพ้แล้วจริงๆ แต่เจ้าก็อย่าได้ใจเกินเร็วไปนัก เจ้าคิดว่าด้วยกองทัพของเจ้าในเวลานี้จะสามารถครอบครองทวีปได้หรือ? ยังมีขุมกำลังทรงอำนาจอีกมากที่เจ้าไม่รู้จัก อีกทั้งข้าจะบอกต่อเจ้า เวลานี้นายท่านของข้าได้พันธมิตรใหม่แล้ว เมื่อพวกเขามาถึง เจ้าแน่นอนว่าต้องไม่ตายดี ฮ่าฮ่าฮ่า……” ซาเน็ตติพลันหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่ง จากนั้นเขาชักดาบข้างบั้นเอวขึ้นมาเฉือนคอตัวเอง พร้อมกับเสียงทึบเสียงหนึ่ง ร่างของซาเน็ตติล้มลงกับพื้น เมื่อเห็นว่าซาเน็ตติเลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง เซียวอวี๋ก็แค่นเสียง หากแต่ในใจก็อดชื่นชมไม่ได้ “นำร่างเขาไปฝัง” กล่าวจบเซียวอวี๋ก็ขี่มังกรน้อยบินกลับไปยังเมืองฮุยเฉิง เวลานี้บนกำแพงของเมืองฮุยเฉิงล้วนประดับไว้ด้วยธงของดินแดนไลอ้อน เหล่าไพร่พลที่สูญเสียผู้บัยชาการไปแล้วก็เลือกที่จะไม่ขัดขืนและยอมจำนนแต่โดยดี ด้วยเหตุนี้ สงครามที่กินระยะเวลากว่าสามเดือนก็จบลงในช่วงเวลาสั้นๆ เวลานี้ดินแดนทั้งหมดของรัฐเว่ยก็กลายเป็นของเซียวอวี๋…….