ตอนที่ 86

Kill the Hero

Kill the Hero 086

จดหมายของสมาคมเมสสิอาห์

มีจดหมายมาจากสมาคมเมสสิอาห์

“ก็เหมือนจดหมายธรรมดานี่นา…นี่ใช่จดหมายของสมาคมเมสสิอาห์อันโด่งดังใช่ไหม?”

อำนาจของจดหมายนั้นเป็นอะไรที่ธรรมดา

“ใช่แล้ว ด้วยจดหมายธรรมดา ๆ นี่ สินค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกของบริษัทใด ๆ ที่ร่วมมือกับสมาคมเมสสิอาห์นั้น ฟรี และนายสามารถเข้า 155 ประเทศได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าหรือหนังสือเดินทาง นายสามารถเข้าไปในสถานที่ต้องห้ามได้หลายแห่ง นายจะเข้าไปในกรงแพนด้าแดงของสวนสัตว์เซ็นทรัลปาร์คก็ยังได้เลย”

จดหมายของสมาคมเมสสิอาห์มีอำนาจมากกว่าหนังสือเดินทางของทางการทูตที่ออกให้เป็นพิเศษซะอีก

“นั่นคือวิธีปฏิบัติต่อผู้ที่ทำงานร่วมกับสมาคมเมสสิอาห์ เพื่อกอบกู้โลก”

มันเป็นเนื้อหาในจดหมายฉบับนั้นที่ทำให้มันเป็นไปได้

จดหมายของสมาคมเมสสิอาห์จะถูกส่งไปก็ต่อเมื่อพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือให้คนนอกสมาคมช่วยเคลียร์ดันเจี้ยน

พูดอีกอย่างก็คือ เป็นการแสดงความชัดเจนของสมาคมเมสสิอาห์ที่จะขอความร่วมมือ นั่นคือเหตุผลที่ผู้ถือจดหมายได้รับการปฏิบัติที่ดีเช่นนี้

“แต่ไม่มีใครปลอมจดหมายพวกนี้เลยเหรอ?”

“ถึงมันจะดูธรรมดา แต่ก็มีวิธีป้องกันการปลอมแปลงหรือดัดแปลงไปในตัว มีการป้องกันการก๊อบปี้ไว้…เฮ้ อย่าเสียกระดาษไปกับการก๊อบปี้มันเซ่”

แน่นอนว่าสมาคมเมสสิอาห์ไม่ได้โง่ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้จดหมายของพวกเขา เพื่อทำเรื่องไม่ดี

“นายอย่าเสียกระดาษเปล่าเลย ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด สมาคมเมสสิอาห์ก็จะไม่ปล่อยให้จดหมายปลอมลอยนวล และถูกนำไปใช้ในทางไม่ดีใช่ไหมล่ะ?”

คนที่อยากตอบจดหมายปลอมมากที่สุดก็คือสมาคมเมสสิอาห์นั่นเอง

ลีจินอาพยักหน้าพร้อมกับแกว่งจดหมายในมือเล็กน้อย

“ดูเหมือนว่าการหลอกสมาคมเมสสิอาห์จะไม่ยากเลยนะ”

เมื่อเขาได้ยินคำพูดของลีจินอา โอเซชานก็ดูแปลก ๆ

“นายคิดว่าสมาคมเมสสิอาห์โง่เหรอ? เป็นเพราะคิมวูจินต่างหาก พวกเขาถึงส่งมา”

ไม่น่าแปลกใจที่ผู้รับจดหมายไม่ใช่ใคร นอกจากคิมวูจินหรือเจาะจงกว่านั้นคือ ไอแซค อิวานอฟ

“เขากับฉันอยู่ทีมเดียวกัน”

“นายไม่ได้บอกว่านายจะอดตาย ถ้าฉันไม่ยุบทีมไม่ใช่เหรอ? ”

“อ่า นั่นล้อเล่นน่ะ ฉันจะสู้ด้วยตัวเองได้ยังไง? ฉันอยากว่ายน้ำในลาวามากกว่า”

ลีจินอาโบกมือ และมองไปที่เนื้อหาในจดหมายอีกครั้ง

“แล้วนายจะทำยังไงล่ะ? จะยอมรับคำขอไหม?”

โอเซชานตอบอย่างใจเย็น

“อยู่ที่คิมวูจินตัดสินใจ ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้เขาตัดสินใจด้วยตัวเองแบบไม่เต็มใจนัก”

“นายกลัวเหรอ? “

“เพราะฉันไม่ได้เชื่อใจเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาเลยไม่เชื่อใจฉันแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เช่นกัน แต่จากจุดยืนของการฆ่า ซุซุกิ เอจิ คิมวูจินไม่อาจอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันกับสมาคมเมสสิอาห์อีกต่อไปแล้ว และฉันก็รู้ความลับทั้งหมดของเขา ในสถานการณ์แบบนี้ นายคิดว่าเขาจะกล้าเข้าหาสมาคมเมสสิอาห์ไหม? นายจะทำยังไง ถ้าอยู่ในจุดนั้น?”

“ฉันจะไม่เข้าร่วมจนกว่าจะได้รับรางวัลใหญ่จากมัน”

โอเซชานหัวเราะให้กับคำตอบของลีจินอา

“อะไร? ฉันพูดผิดเหรอ?”

“ไม่ ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”

ขณะที่พูด โอเซชานก็อดคิดไม่ได้

‘ฉันสงสัยว่าคิมวูจินจะคิดแบบเดียวกันรึเปล่า’

เขาส่งโบนัสให้คิมวูจินพร้อมกับจดหมาย

 

[เราต้องการความช่วยเหลือในการจบดันเจี้ยนนี้ และกำลังขอให้ ไอแซค อิวานอฟ ช่วยเรา]

[ล่าจิ้งจอกไฟ]

– จำนวนชั้น : 2

– ความยาก : A+

– เข้าได้สูงสุด : 100

– ข้อกำหนด : Lv50 หรือต่ำกว่า

– เงื่อนไข : ล่าจิ้งจอกไฟ

– รางวัล : รางวัลแค็ตตาล็อก และความสำเร็จ ‘นักล่าจิ้งจอกไฟ’

 

ขณะที่เขาตรวจสอบเนื้อหาในจดหมาย คิมวูจินก็วางมันกลับไปบนโต๊ะตรงหน้าเขา

‘ในที่สุดมันก็มาถึงแล้ว’

ดันเจี้ยนจิ้งจอกไฟ

มันคือที่ที่คิมวูจินรู้จักเป็นอย่างดี

คงจะแปลก ถ้าเขาไม่รู้จักดันเจี้ยนที่ทำให้สมาคมเมสสิอาห์เขียนจดหมายขอความร่วมมือทั้งหมดสี่ครั้ง

แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคิมวูจินในตอนนี้ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ครั้งนี้สมาคมเมสสิอาห์ได้ส่งจดหมายมาถึงเขา มันไม่ใช่สิ่งที่สมาคมเมสสิอาห์จะส่งให้ใครก็ได้

มันคือสัญญาณแห่งศรัทธาที่จะถูกส่งไปยังผู้ที่สมาคมเมสสิอาห์ต้องการ และไว้วางใจให้โจมตีดันเจี้ยนเท่านั้น

‘ต้องขอบคุณโอเซชาน’

ตัวตนของไอแซค อิวานอฟ ที่โอเซชานมอบให้นั้น รัดกุมจนแม้แต่สมาคมเมสสิอาห์ก็ยังไม่พบสิ่งที่น่าสงสัย

‘ขอบคุณเขาที่ทำให้ฉันเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้น’

เห็นชัดได้ว่าคิมวูจินเคลื่อนไหวได้เร็วเท่าที่เขาต้องการ

คิมวูจินเริ่มอารมณ์เสีย

‘ปัญหาคือจิ้งจอกไฟ’

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการแสดงเนื้อหาที่ตรงใจคุณมากกว่าสิ่งอื่นใดก็คือเวที

‘มันไม่ง่ายเลย’

ไม่ว่าจะมองยังไง ดันเจี้ยนจิ้งจอกไฟก็เป็นที่ที่อันตราย

อย่างที่ได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ สมาคมเมสสิอาห์ได้ส่งจดหมายออกล่าจิ้งจอกไปสี่ครั้ง

มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับดันเจี้ยนจิ้งจอกมีเขา

ในกรณีของดันเจี้ยนจิ้งจอกมีเขานั้น สมาคมเมสสิอาห์ได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อผูกขาดเขาของจิ้งจอก ถ้าพวกเขาเขียนจดหมายถึงดันเจี้ยนจิ้งจอกมีเขาก็จะไม่มีผู้เสียชีวิตมากเท่านี้

นั่นคืออำนาจของจดหมายของสมาคมเมสสิอาห์

เรื่องที่สมาคมเมสสิอาห์เต็มใจที่จะละทิ้งความภาคภูมิใจของพวกเขา และขอความช่วยเหลือ เพื่อเคลียร์ดันเจี้ยนนี้ได้พิสูจน์ถึงความยากของดันเจี้ยนแล้ว

‘เพราะไม่มีจิ้งจอกเก้าหาง (คุมิโฮ) ตัวไหนที่อ่อนแอ’

แม้แต่คิมวูจินก็รู้ว่า จิ้งจอกไฟน่ากลัวมากแค่ไหน เขาจึงคิดแล้วคิดอีก

‘ถ้าฉันจัดการไม่ได้ ฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปฏิเสธมัน’

คิมวูจินเต็มใจจะสละโอกาสนี้โดยไม่ลังเล เพราะเขาไม่แน่ใจ

‘ฉันไม่คิดว่าจะต้องมากังวลกับจิ้งจอกไฟ …’

ไม่ใช่ อันที่จริง ตอนที่เขาเห็นเนื้อหาในจดหมาย คิมวูจินก็คิดจะสละสิทธิ์ในการล่าจิ้งจอกไป

ตอนนี้เขาคิดว่ามันตลกดีที่เขาคิดแบบนั้น

 

[อำนาจแห่งฟาโรห์]

– รัศมี : ทูตแห่งนรก

– เลเวล : Lv1+

– เอฟเฟกต์ : สามารถสังเวยร่างที่ตายแล้วได้

 

‘นายนี่ทำให้ฉันกังวลจริง ๆ เลย’

แต่เป็นโบนัสที่โอเซชานส่งมาที่ทำให้คิมวูจินต้องทุกข์ทรมาน

‘ด้วยอำนาจแห่งฟาโรห์ แม้แต่ศพที่ฉันไม่ได้ฆ่าก็ยังสังเวยได้’

อำนาจแห่งฟาโรห์

เป็นเอฟเฟกต์ที่เรียบง่าย ทักษะนี้อนุญาตให้เขาใช้ศพเรียกโครงกระดูก ใช้อาวุธเลือดหรือทำระเบิดศพได้ โดยที่ไม่ต้องฆ่าด้วยตัวเอง

ประโยชน์ของทักษะนี้ ไม่ใช่สิ่งที่จะคาดเดาได้

‘แต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่าย’

อย่างไรก็ตาม คิมวูจินไม่มีความมั่นใจเต็มร้อยในการล่าจิ้งจอกไฟ แม้ว่าจะมีทักษะนี้ก็ตาม

อย่างน้อย แค่อย่างเดียวมันไม่พอให้เขาล่าจิ้งจอกไฟ

‘ฉันทำคนเดียวไม่ได้’

ในที่สุดคิมวูจินก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่เขาได้มาจากโอเซชานขึ้นมา แทนที่จะไตร่ตรองให้นานกว่านี้

จากนั้นเขาก็โทรออก

– อืม นายตัดสินใจได้แล้วเหรอ?

“ฉันอยากถามแค่คำถามเดียวเท่านั้น”

เมื่อโอเซชานได้ยินสิ่งที่คิมวูจินพูด เขาก็รอคำถาม

“ลีจินอาตายได้มากแค่ไหน? ”

– นั่นหมายความว่ายังไง?

“จะตัดแขนขาของเขาออกได้กี่ข้าง ก่อนที่เขาจะเป็นอันตราย หรือร่างกายของเขาทนการเผาไหม้ได้กี่องศาก่อนที่จะเป็นอันตราย?”

-อ่า! เดี๋ยวนะ เขาอยู่ข้าง ๆ นี่ ฉันจะถามเขาดู เฮ้ จินอา! นายทนโดนเผาสักหน่อยได้ไหม … เฮ้! นายกำลังจะไปไหนน่ะ?

อีกด้านหนึ่งเกิดความสับสนวุ่นวายก่อนที่โอเซชานจะได้ตอบ

– แค่ฆ่าเขาในดันเจี้ยน

นั่นคือจุดสิ้นสุดของความกังวลของคิมวูจิน เขาตอบโอเซชานทันที

“บอกสมาคมเมสสิอาห์ว่าฉันยอมรับข้อเสนอ”