ตอนที่ 2694 จักรพรรดิดาบในที่สุด

ทันทีที่ซือเฟิงเลือกจะดำเนินการเลื่อนขั้น เขาก็รู้สึกราวกับว่าประตูที่ซ่อนอยู่ในร่างมานาของเขาเปิดออก และภายในประตูนั้นมันก็มีคลังมานาจำนวนมหาศาล ซึ่งการเปิดประตูนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มจำนวนมานาทั้งหมดที่เขาสามารถใช้ได้ขึ้นในอัตราที่สูงมาก แต่แม้กระทั่งมานาส่วนเกินที่เขาแผ่ออกมาจากร่างกายของเขา มันก็ยังได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ

ถ้ามานาที่เขาแผ่ออกมาก่อนหน้านี้อยู่ในสถานะก๊าซ ดังนั้นมานาที่เขาแผ่ออกมาในตอนนี้มันก็จะอยู่ในสถานะของเหลว ความหนาแน่นและความบริสุทธิ์ของมานาของเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมานาที่หนาแน่นภายในคลังนี้กระจายไปทั่วร่างของเขา ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของซือเฟิงที่กำลังค่อยๆหมดลงไปนั้นก็กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ตอนนี้ซือเฟิงสามารถที่จะสร้างดาบเวทย์มนต์ออกมาได้หกเล่มโดยใช้ความพยายามเพียงแค่เล็กน้อยหรือไม่ต้องใช้เลย และมานาที่เข้ามาประกอบกันเป็นดาบเวทย์มนต์เหล่านี้นั้นมันก็หนาแน่นมากจนทำให้ดาบดูราวกับเป็นโลหะแข็ง

ในช่วงเวลาต่อมาซือเฟิงก็ได้ควบคุมให้ดาบเวทย์มนต์เหล่านี้พุ่งเข้าแทงมังกรดำเด็กทันที ซึ่งดาบนั้นข้ามระยะสิบหลาได้ทันทีและทำให้มังกรดำเด็กนั้นไม่มีเวลาที่จะหลบเลย โดยดาบเวทย์มนต์ได้แทงทะลุเกล็ดแข็งของมังกรเด็ก และทิ้งร่องรอยบาดแผลลึกบนร่างกายของมันไว้ ซึ่งนี่ก็ทำให้มังกรดำเด็กร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

สำหรับมังกรดำเด็กอีกสองตัว แม้ว่าซือเฟิงจะส่งดาบเวทย์มนต์ส่วนหนึ่งไปโจมตีพวกมันด้วย แต่เนื่องจากทั้งสองตัวอยู่ไกลเกินไป ทั้งสองตัวจึงสามารถตอบสนองต่อการโจมตีของเขาได้ทันเวลาและปกป้องตัวเองไว้ได้ด้วยกรงเล็บ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อกรงเล็บของพวกมันปะทะเข้ากับดาบเวทย์มนต์ มังกรดำเด็กทั้งสองก็ยังถูกบังคับให้ต้องถอยไปมากกว่าสิบหลา และผลกระทบจากการปะทะกันครั้งนี้ก็ทำให้กรงเล็บของพวกมันสั่น และตอนนี้ในภาพรวมมันก็เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันอีกต่อไป

นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของอาชีพในขั้นสี่งั้นหรอ ?!

ซือเฟิงนั้นรู้สึกตกตะลึงและตื่นเต้นมากๆ เมื่อเห็นว่าดาบเวทย์มนต์ของเขาสามารถที่จะทำร้าย และบังคับให้มังกรดำเด็กต้องถอยออกไปได้

….

ระบบ : ยินดีด้วย !! คุณได้กลายเป็นเบลดเซ้นต์ขั้นสี่ (จักรพรรดิดาบ) และคุณก็ได้เปิดใช้งานแกนหลักของมรดกขั้นสูงสุด ค่าสถานะพื้นฐานทั้งหมด + 2,000 ค่าความต้านทานทั้งหมด +150 อัตราการฟื้นฟูมานาเพิ่มขึ้น 100 เปอเซ็นต์ ค่าสถานะพื้นฐานทั้งหมดเพิ่มขึ้นหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ และร่างกายทางกายภาพมีความแข็งแกร่งมากขึ้นหนึ่งร้อยห้าสิบเปอเซ็นต์ ขณะที่การโจมตีทางกายภาพและเวทย์มนต์ที่ต่ำกว่าขั้นสี่ทั้งหมดที่โจมตีเข้ามาก็จะมีผลลดลงสามสิบเปอเซ็นต์ รางวัล : คะแนนสกิลมรดก หนึ่งร้อยแต้ม

….

ในแง่ของค่าสถานะขั้นพื้นฐาน เขาได้มาถึงขอบเขตที่ผู้เล่นขั้นสามสามารถมองดูได้ด้วยความสิ้นหวังเท่านั้น นี่ยังไม่ต้องพูดถึงร่างกายทางกายภาพของเขาและด้านอื่นๆอีก หากผู้เล่นขั้นสามไม่มีอาวุธและอุปกรณ์ที่พิเศษมากๆ พวกเขาจะเป็นได้เพียงมดปลวกเท่านั้นต่อหน้าผู้เล่นขั้นสี่

นอกจากนี้มันก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ในเรื่องคุณภาพของมานาของเขาด้วย เขาเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับตอนที่เขายังอยู่ในขั้นสาม

ใน God domain มานานั้นนับเป็นรากฐานของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด และหากไม่มีมานามันก็จะไม่มีชีวิต ซึ่งจากการได้ต่อสู้กับมังกรดำเด็กสามตัว ซือเฟิงก็เข้าใจดีแล้วว่ามานาของผู้เล่นจะส่งผลต่อความแรงของสกิลและเวทย์ที่พวกเขาใช้มากแค่ไหน

ตอนนี้มานาของเขานั้นแทบจะเรียกว่าเป็นของเหลวได้เลย และแม้ว่าเขาจะมีค่าสถานะพื้นฐาน กับมาตราฐานการต่อสู้รวมทั้งร่างกายทางกายภาพเท่ากับผู้เล่นขั้นสาม แต่ผู้เล่นขั้นสามก็จะยังคงไม่สามารถเคลื่อนไหวต่อต้านเขาได้เกินสองถึงสามการเคลื่อนไหว เพราะท้ายที่สุดแล้วพลังของสกิลและเวทย์ที่ทั้งสองฝ่ายใช้นั้น มันอยู่ในระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตามตอนนี้แม้ว่าซือเฟิงจะบังคับให้มังกรดำเด็กทั้งสามตัวต้องถอยไปได้สำเร็จ แต่เขาก็ไม่ได้กล้าที่จะยืนอยู่เฉยๆ เขาได้เริ่มจัดการมานาของเขาและทำการสร้างโดเมนมานาของเขาทันที จากนั้นเขาก็บินขึ้นและออกไปจากเหวลึก เขาไม่มีความตั้งใจที่จะปะทะกับมังกรดำเด็กทั้งสามตัวจนตายกันไปข้างเลย

ตอนนี้เขาอาจจะมาถึงขั้นสี่แล้ว และได้รับความแข็งแกร่งในการที่จะปราบปรามมังกรดำเด็กทั้งสามตัวมา แต่นั่นมันก็คือแค่นั้นจริงๆ การจะฆ่ามังกรดำเด็กทั้งสามตัวให้ได้ยังคงเป็นไปไม่ได้สำหรับเขา เพราะท้ายที่สุดเมื่อเขาได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่แล้ว เขาไม่สามารถจะทำการใช้โดเมนดาบได้รัวๆแบบก่อนหน้านี้ และเมื่อระยะเวลาของโดเมนดาบสิ้นสุดลง เขาก็จะถูกบังคับให้ต้องใช้ร่างกายตัวเองเข้าปะทะกับมังกรดำเด็ก และด้วยค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจที่มีอยู่อย่างจำกัด เขาก็จะตายลงก่อนที่จะฆ่ามังกรดำเด็กทั้งสามตัวได้แน่นอน

ตอนนี้เมื่อเขาบรรลุเป้าหมายแล้ว เขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องต่อสู้กับมังกรดำเด็กทั้งสามตัวอีกต่อไป และยิ่งเขาออกจากสถานที่ที่อันตรายแห่งนี้ได้เร็วเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดี

โชคดีที่ตราบใดที่ผู้เล่นมาถึงขั้นสี่ใน God domain และสามารถสร้างโดเมนมานาให้เป็นพาสซีฟติดตัวได้ พวกเขาก็จะสามารถบินได้โดยใช้มานาของตัวเองและไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือภายนอกอีกต่อไป

“มนุษย์ที่น่ารังเกียจ อย่าคิดว่าจะจากไปได้ !!!”

มังกรดำเด็กทั้งสามตัวสามารถเดาความคิดของซือเฟิงออกได้อย่างรวดเร็ว และพวกมันก็อ้าปากพลางจัดการใช้ลมหายใจมังกรใส่ซือเฟิงอย่างไม่ลังเล

ในช่วงเวลาต่อมาลำแสงสีดำที่ถูกพ่นออกมาจากปากของมังกรทั้งสามก็มาหลอมรวมกันเป็นหนึ่งลำแสง และพุ่งเข้าใส่ซือเฟิงอย่างรวดเร็ว ซึ่งในระหว่างที่การโจมตีนี้พุ่งเข้าหาซือเฟิงนั้น มันก็ได้เปลี่ยนทุกอย่างที่ขวางหน้าให้กลายเป็นความว่างเปล่า ซึ่งระยะการโจมตีแบบ AOE ของลำแสงนี้ มันก็ทำให้การหลบหนีให้ได้ทันเวลานั้นเป็นไปไม่ได้เลย

“มา !!”

อย่างไรก็ตามแม้จะเห็นดังนี้ แต่ซือเฟิงก็ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวใดๆออกมา ในทางตรงกันข้ามตอนนี้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และคาดหวังด้วยซ้ำ
เขาพึ่งได้รับการเลื่อนขั้นเป็นจักรพรรดิดาบ และยังไม่คุ้นเคยกับความแข็งแกร่งใหม่ของเขา และในตอนที่เขาควบคุมดาบเวทย์มนต์จากสกิลโดเมนดาบ เขาก็ได้ใช้แค่รูปแบบการโจมตีพื้นฐานเท่านั้นโจมตี

มันทำให้ตอนนี้เขากระตือรือร้นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นว่าตัวเองแข็งแกร่งแค่ไหน หลังจากที่มาถึงขั้นสี่แล้ว และในขณะเดียวกันลมหายใจของมังกรทั้งสามที่มาหลอมรวมกันก็จัดเป็นเป้าหมายที่สมบูรณ์แบบในการทดสอบความแข็งแกร่งของเขา

ในช่วงเวลาต่อมา ซือเฟิงก็เริ่มใช้เทคนิคการต่อสู้ป้องกันของเขาอย่างวงโคจรดาบ โดยใช้ดาบเวทย์มนต์จากสกิลโดเมนนั้นมาสร้างทรงกลมป้องกันที่ครอบคลุมรัศมีสามสิบหลารอบตัวเขา

ตู้ม !!!

เมื่อลำแสงขนาดใหญ่สัมผัสกับวงโคจรดาบนี้ของซือเฟิง พื้นที่รอบๆของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นว่างเปล่าราวกับวันสิ้นโลกได้มาถึงแล้ว และหากผู้เล่นคนอื่นได้เห็นฉากนี้ พวกเขาก็จะต้องเต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างแน่นอน

ในขณะที่มองดูพื้นที่ว่างเปล่าที่ก่อตัวขึ้นเหนือพวกมัน มังกรดำเด็กทั้งสามก็เผยให้เห็นรอยยิ้มออกมา

การโจมตีที่พวกมันพึ่งใช้เมื่อครู่นั้นนับเป็นสกิลหลอมรวม และเป็นการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งที่สุดที่พวกมันมี และแม้ว่าซือเฟิงจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่แล้ว แต่ถ้าเขารับการโจมตีโดยไม่ได้ใช้สกิลอมตะ เขาก็น่าจะยังคงได้รับบาดเจ็บสาหัส

อย่างไรก็ตามเมื่อพื้นที่ว่างเปล่าเริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิม รอยยิ้มบนใบหน้าของมังกรดำเด็กทั้งสามตัวก็หายไป และมันแปรเปลี่ยนเป็นความตกตะลึงแทน เพราะท้ายที่สุดแล้วในตอนนี้นับประสาอะไรกับการที่ซือเฟิงจะบาดเจ็บ แม้แต่อุปกรณ์ของเขาก็ยังไม่มีรอยขีดข่วนด้วยซ้ำ โดยมันราวกับว่าการโจมตีด้วยสกิลหลอมรวมของพวกมันนั้นไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าสายลมอ่อนๆสำหรับซือเฟิงเลย

แม้แต่เทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงก็ยังได้รับการเสริมความแข็งแกร่งมากขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?! ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจมากๆ เมื่อเห็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้

แม้ว่าเขาจะคิดไว้แล้วว่าวงโคจรดาบจะสามารถใช้หยุดการโจมตีหลอมรวมของมังกรดำเด็กทั้งสามตัวได้แน่นอน แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะสามารถใช้หยุดการโจมตีของพวกมันได้ง่ายขนาดนี้

ก่อนหน้านี้เขาได้ใช้วงโคจรดาบเหมือนปกติแบบเห็นได้ชัด แต่มันก็เหมือนกับว่าเทคนิคนี้ได้เปลี่ยนไปเป็นวงเวทย์ เพราะในขณะที่เขาใช้วงโคจรดาบ มานาโดยรอบได้มารวมตัวกันรอบเขา และเสริมสร้างพลังของเทคนิคของเขาจนมาถึงจุดที่เทียบเท่ากับสกิลป้องกันขั้นสี่

และเมื่อได้เห็นพลังของวงโคจรดาบแบบนี้ ซือเฟิงก็เริ่มคิดแล้วว่า ถ้าไม่ใช่เพราะระยะเวลาของโดเมนดาบมีจำกัด เขาอาจจะมีโอกาสฆ่ามังกรดำเด็กทั้งสามตัวได้เลย

ในขณะเดียวกันเมื่อเห็นว่าระยะเวลาของโดเมนดาบกำลังจะหมดลง ซือเฟิงก็ได้รีบควบคุมมานาของเขาเพื่อบินไปที่กระแสน้ำวนที่มืดมิดบนท้องฟ้าเหนือเหวลึก ก่อนที่จะหายตัวออกไปจากดินแดนมรดก ทิ้งมังกรดำเด็กทั้งสามที่ยังคงตกตะลึงไว้เบื้องหลัง