กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1061
โจอี้ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เขาจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่บนเตียง สายตาของเขาคุกรุ่นไปด้วยโทสะและความโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด
ทั้งสองคนกล้าดีอย่างไรถึงได้พลอดรักกันต่อหน้าเขา! ทั้งคู่ไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือ? พวกเขาไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของตัวเขาบ้างเลยหรือไง?!
วันนี้โจอี้เอ่อล้นไปด้วยพลังงานแง่ลบซึ่งมากเสียจนคาดหวังที่จะได้รับการปลอบประโลมใจจากเจนิสในช่วงเวลาที่เขาใกล้จะพังทลายลงทุกที
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่โจอี้จะมาถึงบ้านของเจนิซ เขาถูกคนขับรถแท็กซี่ทำร้ายทั้งทางร่างกายและทางวาจา ถึงขนาดที่เขาต้องคุกเข่าและก้มหัวคำนับคนขับแท็กซี่นั่น
เหตุการณ์เลวร้ายนั้นได้ผลักไสเขาไปจนถึงจุดที่ใกล้จะพังทลายลงทุกที
โดยไม่คาดฝัน ระเบิดลูกใหญ่กว่ากำลังรอคอยเขาอยู่ โจอี้ไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่เขารักจะทรยศหักหลังเขาได้
เขาเสียสติแทบบ้าแล้วในวินาทีนี้
ตอนนี้ โจอี้ไม่ได้นึกถึงหนี้สินที่บีบรัดเขาอยู่หรือความอับอายขายหน้าและการถูกทำร้ายที่เขาต้องทนทรมานใจในวันนี้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เขาคิดก็คือจะให้ชายหญิงไร้ยางอายคู่นี้ชดใช้เขาอย่างไรดีต่างหาก!
ดังนั้น เขาจึงคลานไปยังห้องครัว คว้ามีดที่คมที่สุดเท่าที่จะหาได้ เขาอยากให้พวกมันทั้งสองคนตาย!
ขณะนั้นเอง ชายร่างท้วมที่ชื่อว่าแลรี่ได้สวมกางเกงและเดินออกจากห้องนอนมา เขาอยากกำจัดโจอี้ผู้น่ารังเกียจไปเสียให้พ้น แต่ทว่า เขากลับไม่พบโจอี้ทันทีที่เดินไปถึงประตู
แลรี่สันนิษฐานว่าโจอี้คงวิ่งหนีไปด้วยความโกรธแล้ว เขาหมุนตัวกลับมาและกำลังจะพูดอะไรบางอย่างกับเจนิซก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เสียดแทงมาจากทางด้านหลัง
โจอี้เสียบมีดที่คมที่สุดเข้าที่หลังของแลรี่
จากนั้น เขาก็ดึงมีดออก ผลักร่างของชายอ้วนลงบนพื้น และก้าวเท้าเข้าสู่ห้องนอน
ในห้องนอน เจนิซยังคงเปลือยเปล่า เธอเอนร่างบนเตียงอย่างยั่วยวน รอคอยการกลับมาของแลรี่
อย่างไรก็ดี เธอและเขาก็กำลังเจรจาธุรกิจกันอยู่ตอนที่ถูกโจอี้ขัดจังหวะ เธอกำลังคาดหวังว่าชู้รักของเธอจะเตะโจอี้ออกจากบ้านแล้วกลับมาคุยเรื่องข้อตกลงกับเธอต่อ
โชคไม่ดี ไม่ใช่แลรี่ที่ปรากฏตัวขึ้นที่ประตู แต่กลับเป็นโจอี้ที่ถือมีดชุ่มเลือดอยู่ในมือ
เธอกรีดร้องด้วยความกลัวอย่างที่สุด พันร่างด้วยผ้าห่มและกระโดดไปยังมุมห้อง เธอจ้องมองเขาอย่างตื่นตระหนกและโพล่งออกมา “โจอี้ เจนเซน แกกำลังจะทำอะไร?”
“ฉันน่ะเหรอ?” โจอี้กัดฟันจนกลายเป็นแสยะยิ้มและพูดว่า “แกทรยศฉัน ฉันก็จะฆ่าแกไงล่ะ!”
“อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉันล่ะก็ ตำรวจไม่ปล่อยแกไว้แน่!”
โจอี้หัวเราะอย่างขมขื่น “ฮ่า ฮ่า! ชีวิตฉันถูกทำลาย เดิมที ฉันหวังว่าแกจะเป็นแสงสว่างสุดท้ายสำหรับฉัน แต่แกกลับเป็นคนที่ผลักฉันลงสู่ก้นบึ้งแห่งความมืดนั้น!”
โจอี้สบถขณะที่เดินไปหาเจนิซใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้น “แกทำลายฉัน ดังนั้น ฉันก็จะทำลายแกให้สิ้นซาก ก่อนที่ฉันจะถูกทำลาย!”
เจนิซกรีดร้องด้วยความกลัวสุดขีด เธอรู้ดีว่าโจอี้ไม่ได้ล้อเล่น!
“แลรี่! แลรี่! ช่วยฉันด้วย!”
โจอี้ฉีกยิ้มชั่วร้าย “แลรี่ของแกน่ะตายแล้ว ตอนนี้ก็ถึงตาแกบ้างแล้ว!”
จังหวะนี้เองที่เจนิซเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีดแสนคมในมือของโจอี้เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
เธอทิ้งตัวลงกับพื้น ร้องเสียงดังอย่างท้อแท้สิ้นหวัง “โจอี้ ได้โปรดเถอะ ฉันขอร้อง ได้โปรดให้อภัยฉันนะคะ! ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทรยศคุณเลย ฉันพูดจริงนะ! ได้โปรดเถอะ คุณรักฉันมากไม่ใช่หรือคะ? นี่คุณจะทำร้ายฉันจริง ๆ หรือ?”
“ฉันเสียใจ ฉันไม่ได้รักแกแล้ว ฉันไม่รักแม้กระทั่งตัวฉันเองหรือโลกใบนี้อีกแล้ว! นี่แหละทำไมแกถึงต้องชดใช้สิ่งที่แกทำลงไป! ฉันต้องทำให้แกรู้ว่าแกจะทำร้ายใครก็ได้ในโลกนี้ ยกเว้นคนที่เขาซื่อตรง!”
แล้วเขาก็วิ่งเข้าหาเธอ
เจนิซตะโกนร้องอย่างสิ้นหวังแล้วเสียงร้องก็หยุดชะงักลง
มีดคมกริบในมือของโจอี้แทงทะลุเข้าสู่หัวใจของเจนิซ…
ขณะที่เขามองดูเจนิซซึ่งตายไปพร้อมดวงตาที่เบิกโพลง โจอี้ก็ตัวแข็งเป็นเวลาเกือบห้านาที