ตอนที่ 1603 จู่โจมกลับ

Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง

จางจื่ออันทิ้งเสบียงส่วนใหญ่ไว้ในบ้านของหมู่บ้านชาวอินเดียแดง เพื่อให้กระเป๋าสะพายว่างเข้าไว้ จะได้เก็บสิ่งของจากที่นี่ได้สะดวก  

 

 

ถึงแม้อาหารเย็นที่พวกชาวนากินจะคล้ายกับอาหารหมู แต่เขาสังเกตเห็นว่าตอนพวกชาวนากินข้าว พวกผู้คุมไม่ได้กิน เห็นได้ชัดว่าพวกผู้คุมมีอาหารอย่างอื่นที่ดีกว่า  

 

 

เขาถีบประตูบ้านหลังหนึ่งเข้าไป แต่เกือบจะสำลักกลิ่นข้างในจนตีลังกา  

 

 

เทียบกับเตียงสองชั้นในบ้านของชาวนาแล้ว พวกผู้คุมนอนแค่ห้องละสองคน แต่ละคนมีเตียงเดี่ยวเป็นของตัวเอง ทว่าในห้องรกมาก พวกเขาทิ้งขยะกันตามใจชอบ แทบจะไม่มีที่ให้เดินอยู่แล้ว  

 

 

ที่เขาต้องประหลาดใจคือ คิดไม่ถึงว่าในบ้านของผู้คุมจะมีไฟฟ้า แต่กลับไม่ได้ยินเสียงดังจากเครื่องปั่นไฟ อาจจะเป็นเพราะบนหลังคาติดตั้งแผ่นโซลาร์เซลล์เอาไว้ หรืออาจจะเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ส่งผ่านมาจากสายไฟฟ้าใต้ดินของสถานที่อื่นแถวนี้ สรุปว่าในบ้านมีโทรทัศน์ เครื่องเล่นซีดี ตู้เย็น และเตาไมโครเวฟ และยังมี…แผ่นดีวีดีที่เห็นหน้าปกก็รู้แล้วว่าผิดศีลธรรมวางซ้อนกันอยู่กองหนึ่ง  

 

 

เมื่อเทียบกับอาหารสไตล์ฮิปสเตอร์แบบญี่ปุ่นที่วัยรุ่น นักเรียน ติวเตอร์ และแม่บ้านกินกันเป็นหลัก อาหารสไตล์อเมริกันกลับป่าเถื่อนยิ่งกว่านั้น ก็เหมือนป้ายเบอร์เกอร์มอนสเตอร์ของรถอาหาร Me So hungry นั่นแหละ ให้เนื้อชิ้นใหญ่ ไม่เพียงมีชีสแท้สีขาวหิมะเข้าคู่กับเนื้อย่างดำเกรียม ยังมีซอสบาร์บีคิวของต่างชาติ ถ้ากินเผ็ดเก่งหน่อย ก็ยังมีพริกฮาวานาแบบละตินอเมริกาแถมให้ด้วย…  

 

 

เดี๋ยวก่อน ฉันกำลังคิดถึงอะไรเนี่ย  

 

 

จางจื่ออันพบว่าตัวเองใจลอยไปไกล อาจจะเป็นเพราะไม่ได้กินอาหารทั่วไปมาเป็นเวลานานแล้ว  

 

 

บนพื้นมีถุงใส่ขยะวางกองอยู่เต็มไปหมด ผนังไม้และบนพื้นมีรอยจุดเปียกๆ ที่ไม่ทราบสาเหตุมากมาย บนหัวเตียงยังวางพิซซ่าแช่แข็งที่กินไปแล้วครึ่งกล่องวาง แต่ก็ขึ้นราทั้งหมด มีแมลงสาบปีนป่ายอยู่ทั่ว เห็นแล้วชวนให้ขยะแยงทีเดียว  

 

 

อาหารในตู้เย็นยังเหลืออยู่เยอะ และเป้าหมายหลักของเขาคืออาหารที่เก็บรักษาได้ค่อนข้างนานอย่างอาหารกระป๋อง ไส้กรอก และขนมปังเป็นแพ็ค แต่ถึงอาหารแช่แข็งน่าดึงดูดแค่ไหน เขาเอาไปก็ไม่มีประโยชน์  

 

 

ยังดีที่เป็นหอพักของชายโสดกลุ่มหนึ่ง ของในตู้เย็นส่วนใหญ่จึงเป็นอาหารพร้อมประทาน และเขาก็ต้องดีใจจนออกนอกหน้า คิดไม่ถึงว่ายังมีน้ำพริกเผาเหล่ากานมาตั้งหลายขวด!  

 

 

น้ำพริกเผาเหล่ากานมาเป็นอาวุธเทพในการคลุกกินกับข้าว แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ซื้อน้ำพริกเผาเหล่ากานมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตที่เขาไปเดินหลายแห่งก่อนเข้าป่า ไม่ใช่ว่าไม่มีขาย แต่เพราะขายหมดแล้ว  

 

 

ขอแค่มีน้ำพริกเผาเหล่ากานมา กินคู่กับข้าวสวยก็อร่อยแล้ว!  

 

 

เขากวาดอาหารที่เก็บรักษาได้นานจากในตู้เย็นใส่กระเป๋าสะพายทั้งหมด  

 

 

รีดไถบ้านหลังหนึ่งเสร็จแล้ว เขาก็ไปรีดไถบ้านข้างๆ อีก ไม่นานก็เติมกระเป๋าสะพายจนเกือบเต็มแล้ว  

 

 

“จื่ออัน ลมเปลี่ยนทิศแล้ว ไฟใกล้จะลามมาที่ฝั่งนี้แล้ว!” เหล่าฉาที่มองลมอยู่ข้างนอกกล่าวเตือน  

 

 

เดิมทีทิศทางลมริมทะเลก็สับสนวุ่นวายอยู่แล้ว โดยเฉพาะข้างๆ แหลมและผาสูงชันแบบนี้ มักจะเกิดพายุหมุนอยู่บ่อยครั้ง  

 

 

จางจื่ออันขานรับครั้งหนึ่ง ก่อนจะสะพายกระเป๋าเตรียมออกจากที่นี่ ยังมีบ้านอีกหลายหลังที่ยังไม่ได้เข้าไป แต่เท่านี้ก็พอกินแล้ว  

 

 

“ทุกคนถอยกันเถอะ” เขาเรียกพวกภูตสัตว์เลี้ยงที่เข้าไปในบ้านหลังเดียวกัน  

 

 

“เมี๊ยว”  

 

 

เขาเดินไปถึงข้างประตู กำลังจะก้าวขาออกไป พอหันกลับไปมองพบว่าซิงไห่ยังอยู่ในบ้าน ใช้อุ้งเท้าเขี่ยกล่องซีดีกองสูงอย่างสนใจ เหมือนว่าไม่ได้ยินที่เขาพูด  

 

 

“แฮ่ม!” เขากระแอมครั้งหนึ่ง แล้ววิ่งสั้นๆ ไปเตือนมันจากด้านข้าง “ซิงไห่ พวกเราจะไปแล้ว”  

 

 

“เมี๊ยว”  

 

 

คราวนี้ซิงไห่ถึงจะวิ่งไปทางประตูบ้านอย่างเบิกบาน  

 

 

“แกว๊กๆ!” ริชาร์ดยื่นหน้าออกมาจากในช่องฮู้ด ก่อนจะกลอกตาสีดำดวงเล็กเป็นเชิงยั่วเย้า แล้วพูดว่า “เจ้าโง่ อย่าคิดว่าข้ามองไม่เห็นนะ เมื่อกี้เอ็งถือโอกาสซ่อนเอาไว้ในเสื้อกี่แผ่นล่ะ?”  

 

 

ในบ้านมีแสงจากไฟ ริชาร์ดจึงกลับมามองเห็นเป็นปกติ มันคิดไปว่าจางจื่ออันยังลืมซีดีไม่ลง จึงสนอกสนใจเขาอยู่ตลอด แต่จางจื่ออันกลับไม่หยิบซีดีสามแผ่นนั้น มันต้องมองเขาใหม่แล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ทำลายความซื่อตรงในเวลาอันสั้น อาศัยโอกาสตอนที่กลับมาเรียกซิงไห่ ซ่อนซีดีสองสามแผ่นไว้ในอกอย่างรวดเร็ว  

 

 

ภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นไม่ทันได้สังเกตท่าทางของเขา และความมือไวข้างเดียวหลายปีมานี้ของเขาก็พอให้อวดดีได้ จึงมีเพียงริชาร์ดที่เห็นเข้า  

 

 

“ดูไม่ออกเลยนะว่าคนโง่อย่างเอ็งรสนิยมดิบเถื่อนทีเดียว คิดไม่ถึงว่าจะชอบขาวบวกดำ…”  

 

 

มันยังพูดไม่จบก็ถูกจางจื่ออันหนีบปากนกไม่ให้พูดต่อ  

 

 

เขาหันไปอธิบายกับภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นที่ยังงุนงง “อ๋อ เมื่อกี้ฉัน…เห็นยาแก้หวัดยี่ห้อขาวบวกดำน่ะ ก็เลยหยิบมาด้วย”  

 

 

ภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นไม่สงสัยเขา ต่างก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง  

 

 

แต่เรื่องที่ต้องเน้นย้ำคือ จางจื่ออันไม่ได้มีรสนิยมชอบขาวบวกดำ แค่โอกาสลอยอยู่ตรงหน้า ไม่มีเวลาเลือกเท่านั้นเอง  

 

 

เขากับพวกภูตสัตว์เลี้ยงออกจากบ้าน เป็นอย่างที่เหล่าฉาพูด ลมพัดเปลวไฟมาทางตะวันตก ควันหนาคลุกเคล้าสะเก็ดไฟปะทะเข้าหน้า ไม่เดินต่อก็คงไม่ทันแล้ว  

 

 

“จื่ออัน! ระวัง!”  

 

 

จางจื่ออันกลับมาพร้อมความสำเร็จ แต่เพิ่งวิ่งร่าออกมาได้สองสามก้าว เขาก็ได้ยินเหล่าฉาร้องตกใจครั้งหนึ่ง  

 

 

เขาได้ยินแล้วก็ตะลึง ยังไม่ทันได้โต้ตอบ ตรงหน้าก็มีบางอย่างสั่นไหว จากหน้าก็รู้สึกเจ็บตรงหน้าอกขึ้นมา  

 

 

เขาอาศัยแสงไฟมองไป เห็นขั้วไฟฟ้าสีเงินทะลุไปตรงอกเสื้อ เป็นกระสุนช็อตไฟฟ้า!  

 

 

เขาถูกยิงแล้ว!  

 

 

“อ๊า!”  

 

 

เขากลิ้งล้มลงบนพื้น ตาทั้งสองข้างเหลือกขึ้น กัดฟันแน่น เจ็บจนชักเกร็งไปทั้งตัว  

 

 

พวกภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นต่างก็ตกตะลึงกับการจู่โจมกะทันหันนี้  

 

 

ข้างหลังขั้วไฟฟ้าสองด้านเชื่อมกับสายไฟยาวๆ เส้นหนึ่ง เชื่อมไปในความมืดของมุมบ้าน  

 

 

คนถือปืนเทเซอร์คนหนึ่งเดินออกมาจากความมืด สวมเสื้อและกางเกงสีขาว ท่าทางสง่างาม เป็นหลี่ผีเท่อนี่เอง  

 

 

พวกภูตสัตว์เลี้ยงที่จมูกไวและหูไวอย่างฟีน่า เฟยหม่าซือ และฟราเทอร์ไม่ได้อยู่ข้างๆ เหล่าฉารับผิดชอบดูต้นทาง หน้าที่หลักคือสังเกตสถานการณ์เพลิงไหม้ ป้องกันไม่ให้เปลวไฟลามมาถึงตัวเขาขณะกำลังปล้นบ้าน จึงไม่ได้สังเกตว่ามีคนแอบเข้ามาใกล้  

 

 

ส่วนวลาดิเมียร์ พาย และซิงไห่ ภูตสัตว์เลี้ยงเลื่อนลอยสามตัวนี้ไม่ได้มีประสาทสัมผัสไวเหมือนพวกนั้น  

 

 

อีกอย่าง ถึงพวกภูตสัตว์เลี้ยงสามตัวนั้นอยู่ข้างๆ แต่เวลานี้ทิศทางลมสับสนวุ่นวาย ควันหนาลอยไล่หลังมา พวกมันก็อาจจะไม่ได้สังเกตเห็นการมาถึงของหลี่ผีเท่อเหมือนกัน  

 

 

“ในที่สุดก็จับเธอได้แล้ว ในที่สุดเกมแมวจับหนูครั้งนี้ก็สิ้นสุดสักที” หลี่ผีเท่อหยุดฝีเท้าพร้อมรอยยิ้ม สายตากวาดมองเหล่าฉา วลาดิเมียร์ พาย และซิงไห่ครั้งหนึ่ง “มีน่าล่ะเธอถึงเหมือนมีเทพช่วย ที่แท้ก็มีพวกมันคอยช่วยเหลือนี่เอง”  

 

 

“เคยได้ยินประโยคนี้ไหม ‘ตัวร้ายตายเพราะพูดมาก’”  

 

 

จางจื่ออันที่ควรจะถูกช็อตจนแน่นิ่งกลับพลิกตัวขึ้นมากะทันหัน แล้วควักปืนเทเซอร์ของตัวเองเล็งไปยังหลี่ผีเท่อ  

 

 

ขั้วไฟฟ้าสองขั้ว ขั้วหนึ่งมุดเข้าไปในผิวหนังตรงหน้าอกของเขา ส่วนอีกขั้วกลับกลับถูกซีดีที่เขาซ่อนไว้ในอกบังเอาไว้ ตอนนี้ห้อยต่องแต่งแล้ว  

 

 

ขั้วไฟฟ้าไม่ได้ทำให้เกิดสื่อนำไฟฟ้าย้อนกลับ