ตอนที่ 2696 เศษชิ้นส่วนโบราณ

ภายใต้การนำของเหลียงจิง เมลานโครอิคสไมล์ และคนอื่นๆก็ได้เข้ามาในห้องประชุมที่ดูหรูหราและกว้างขวาง โดยทั้งกลุ่มแต่งกายด้วยเสื้อโค้ทสีขาวซึ่งทำให้พวกเขาดูเหมือนนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์

ในเวลานี้เมลานโครอิคสไมล์ และคนอื่นๆดูทรุดโทรมมากๆ โดยใบหน้าของพวกเขานั้นอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด และผมของพวกเขามันก็ยุ่งเหยิงราวกับว่าพวกเขาเพิ่งหายจากอาการป่วยหนัก ซึ่งมันทำให้ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับสถานการณ์นี้

“เกิดอะไรขึ้นกัน ? ทำไมทุกคนดูหน้าซีดเซียวขนาดนี้ ?” ซือเฟิงถามอย่างสงสัย

เนื่องจากตอนนี้สภาสิบแปดปีกเป็นองค์กรขนาดใหญ่จึงมีความสามารถด้านการจัดการและผลิตมากมาย ซึ่งกิลก็ไม่จำเป็นต้องใช้เมลานโครอิคสไมล์และคนอื่นๆในการจัดการทุกอย่างเป็นการส่วนตัวอีกแล้ว

“หัวหน้ากิล ฉันต้องการจะร้องเรียน !!!” ครีมโกโก้ซึ่งมีนิสัยขี้อายกล่าวออกมาทันที เมื่อได้เห็นหน้าซือเฟิง

“ร้องเรียน ?” ซือเฟิงถึงกับผงะ

ครีมโกโก้เป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กของสภาสิบแปดปีก นอกจากนี้เธอยังติดอันดับหนึ่งในสามของผู้ที่มีมาตราฐานการตีเหล็กสูงสุดที่สุด และมันก็คงใช้เวลาอีกไม่นานก่อนที่เธอจะกลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก ซึ่งผู้คนนับไม่ถ้วนในสภาสิบแปดปีกต่างก็หวังว่าจะได้เธอไปสร้างอาวุธให้พวกเขา และหากให้คนเหล่านี้ต่อแถวกัน มันก็คงจะมีคนต่อแถวยาวตั้งแต่เมืองด้านหนึ่งไปจนสุดเมืองอีกด้านหนึ่ง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าครีมโกโก้และปรมาจารย์ช่างตีเหล็กคนอื่นๆจะมีโอกาสน้อยมากในการที่จะสร้างอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคได้ แต่โอกาสในการจะสร้างอาวุและอุปกรณ์ระดับดาร์คโกลให้ได้นั้นก็มีสูงมาก

ใน God domain อาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคนั้นจัดว่าหายากมากๆ และแม้แต่แกนหลักของกิลชั้นสูงก็ยังแทบจะไม่สามารถเป็นเจ้าของพวกมันได้สักชิ้นด้วยซ้ำ ดังนั้นอาวุธและอุปกรณ์ระดับดาร์คโกล เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยจึงสามารถดึงดูดสายตาอิจฉาจากผู้เล่นทั่วไปได้แล้ว นี่ไม่ต้องพูดถึงอาวุธและอุปกรณ์ระดับดาร์คโกลแบบพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เหมาะกับผู้ใช้เลย

พูดง่ายๆ มันจะไม่มีใครใน God domain กล้ารังแกครีมโกโก้แน่นอน และใครก็ตามที่ทำจะถือว่าโชคดีมากแล้ว ถ้าครีมโกโก้แค่เพิกเฉยต่อพวกเขา

“ใช่ !! ฉันอยากจะร้องเรียนน่ะหัวหน้ากิล !!!” ครีมโกโก้กล่าวอย่างเฉียบขาด

“เธออยากจะร้องเรียนเรื่องอะไร ?” ซือเฟิงถามอย่างสงสัย

“อควาโรส และเสวี่ยเหวินโหรว !!!” ครีมโกโก้พูดพลางปัดแก้มของเธอ “มันมากเกินไป !!! หัวหน้ากิล หัวหน้าต้องให้ความยุติธรรมกับฉัน !!!”

“พวกเขารังแกเธองั้นหรอ ? นั่นไม่น่าเป็นไปได้ดิ ใช่ไหม ?” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะมีท่าทีประหลาดใจอีกครั้ง

อควาโรสและเสวี่ยเหวินโหรวนั้นเป็นรองหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีก พวกเขาทั้งสองล้วนจัดการกิลได้เป็นอย่างดี และทุกคนในกิลก็ล้วนเคารพพวกเขาด้วย ดังนั้นเขาจึงพบว่ามันยากที่จะจินตนาการมากว่าทั้งสองกำลังรังแก เด็กสาวน่ารักอย่างครีมโกโก้

“รองหัวหน้ากิลทั้งสองคน ขอให้เราสร้างอาวุธระดับดาร์คโกลที่ปรับแต่งแล้วห้าร้อยชิ้นภายในห้าวัน และพวกเขาก็ขู่ว่าจะตัดทุนวิจัยของเรา หากเราทำไม่ได้ตามโควต้า ….” ครีมโกโก้บ่น “หัวหน้ากิล หัวหน้าก็เป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กเช่นกัน ดังนั้นหัวหน้าก็น่าจะรู้ดีว่าการสร้างอาวุธระดับดาร์คโกลเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยให้ได้สักชิ้นนั้นมันยากขนาดไหน นับประสาอะไรกับห้าวัน เราแทบจะไม่สามารถทำสำเร็จได้ห้าร้อยชิ้นในสิบวันด้วยซ้ำ”

“แผนกการตีเหล็กทั้งหมดต้องทำงานล่วงเวลา แต่เราก็ยังสร้างอาวุธชิ้นนี้ได้แค่สามร้อยชิ้นเท่านั้น หลังจากผ่านไปสามวัน ซึ่งเมื่อบวกกับความเหนื่อยล้าของเรา ไม่ว่าเราจะทำยังไงเราก็ไม่น่าจะสามารถทำให้เสร็จทั้งหมดห้าร้อยชิ้นได้ภายในสองวันที่เหลือ”

เมลานโครอิคสไมล์และคนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของครีมโกโก้

อาวุธระดับดาร์คโกลเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยที่ปรับแต่งแล้วนั้นไม่ใช่กะหล่ำปลี พวกมันจัดเป็นงานที่ละเอียดอ่อนซึ่งต้องการความเอาใจใส่จากช่างตีเหล็กผู้สร้าง และความผิดพลาดเพียงแค่เล็กน้อยก็จะนำไปสู่ความล้มเหลว

“เยอะขนาดนั้นเลยงั้นหรอ ?” จำนวนที่ครีมโกโก้รายงานทำให้ซือเฟิงตกใจ

อาวุธระดับดาร์คโกลเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยที่ปรับแต่งแล้ว ห้าร้อยชิ้นนั้นนับเป็นจำนวนที่มากจริงๆ ซึ่งอาวุธแบบนี้จำนวนมากขนาดนี้จะสามารถยกระดับพลังการต่อสู้โดยรวมของทีมแกนหลักของกิลชั้นสูงขึ้นไปสู่ระดับใหม่ทั้งหมด

“สองคนนั้นให้สร้างอาวุธอะไร ?” ซือเฟิงถาม

“เจ้านี่ …”

ครีมโกโก้ดึงแท็บเล็ตออกมาจากเสื้อโค้ทของเธอ และกวาดนิ้วผ่านหน้าจอ ก่อนจะโอนข้อมูลจากแท็บเล็ตไปยังโปรเจ็กเตอร์โฮโลแกรมของโต๊ะประชุม

ทันใดนั้นรูปหอกสีดำก็ปรากฎขึ้นเหนือโต๊ะ โดยหอกนั้นสูงพอๆกับมนุษย์ผู้ใหญ่ และมันถูกแกะสลักไว้ด้วยรูปแบบเวทย์มนต์ที่ซับซ้อนอย่างมาก ซึ่งนี่ทำให้มันดูพิเศษอย่างชัดเจน

“ช่างเป็นหอกที่ทรงพลังมากๆ !!!” สายตาของซือเฟิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ขณะที่เขาอ่านข้อมูลโดยละเอียดของหอก

….

[หอกสายฟ้า] (หอก ระดับดาร์คโกลแบบใช้สิ้นเปลือง)
เลเวล 110
ความต้องการอุปกรณ์ : ค่า STR 2,000
Ignore Levels +30
ไม่สนใจพลังป้องกัน

ระยะการขว้างจะเพิ่มขึ้นตามความแข็งแกร่งของผู้ถือ โดยจะสูงสุดที่สามพันหลา และสร้างความเสียหายเป็นสายฟ้าหนึ่งพันเปอเซ็นต์ ในรัศมียี่สิบหลาเมื่อกระทบ

….

นี่มันจะเป็นอาวุธได้อย่างไร ? มันจัดเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลชัดๆ !!!

น่าเสียดายที่หอกนี้ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น หากมันใช้ได้แบบไม่มีขีดจำกัด การโจมตีบอสประจำพื้นที่จะกลายเป็นของเล่นเด็กไปเลย และแม้แต่ผู้เล่นขั้นสองก็จะสามารถท้าทายมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย ขั้นสี่ได้ด้วยหอกนี้

แถมหากพวกเขาสามารถสร้างหอกนี้ได้จำนวนมาก สงครามปิดล้อมก็จะกลายเป็นเรื่องตลกสำหรับพวกเขาเลย

อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ต้องยอมรับเลยว่าการสร้างหอกสายฟ้านั้นเป็นเรื่องท้าทายอย่างแท้จริง และเรื่องวัสดุที่มันต้องการนั้นก็เป็นเรื่องรอง เพราะท้ายที่สุดวัสดุที่จำเป็นในการสร้างหอกนี้หนึ่งเล่มจะมีมูลค่ารวมที่ยี่สิบเหรียญทอง หรือมากกว่านั้นนิดหน่อย ปัญหาสำคัญสำหรับการสร้างมันคือการวาดรูปแบบเวทย์มนต์ต่างหาก ซึ่งหากไม่ได้มีมาตราฐานระดับปรมาจารย์นักเวทย์ อัตราความสำเร็จในการผลิตก็จะลดลงอย่างมาก

“หัวหน้ากิลได้โปรดไปคุยกับรองหัวหน้ากิลทั้งสองให้หน่อย ห้าวันนั้นมันสั้นเกินไป เราต้องใช้เวลาสิบวันเป็นอย่างน้อย ….” ครีมโกโก้วิงวอนอย่างน่าสงสาร

“ฉันจะไปพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ …” ซือเฟิงรู้สึกว่าความต้องการของอควาโรสและเสวี่ยเหวินโหรวนั้นเป็นเรื่องยากไปหน่อย

“เยี่ยมมาก !!! หัวหน้ากิลยอดเยี่ยมที่สุดเลย !!!” ครีมโกโก้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

อย่างไรก็ตามหลังจากครีมโกโก้พูดจบ ซือเฟิงก็เหมือนรถที่ยูเทิร์นกลับอย่างรวดเร็ว โดยเขากล่าวว่า “อย่างไรก็ตามฉันหวังว่าทุกคนจะทำให้ดีที่สุดเพื่อสร้างหอกสายฟ้าให้ได้สามพันเล่มในช่วงเวลานี้”

“หัวหน้ากิล ?” ครีมโกโก้แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง

“ฉันไม่ได้พยายามจะทำให้ทุกคนลำบาก …” ซือเฟิงอธิบายอย่างช้าๆว่า “ไอเทมชิ้นนี้มีความสำคัญมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสภาสิบแปดปีกที่ขาดนักสู้ที่มีมาตราฐานการต่อสู้สูง และด้วยไพ่เด็ดแบบนี้ มันก็จะทำให้เราสามารถสอนบทเรียนให้กับมหาอำนาจที่ไม่เป็นมิตรเหล่านั้นได้”

ขณะนี้มหาอำนาจต่างๆยังไม่ยอมรับว่าสภาสิบแปดปีกเป็นมหาอำนาจ เนื่องจากกิลยังคงมีนักสู้ที่มีมาตราฐานการต่อสู้สูงจำนวนไม่มากพอ อย่างไรก็ตามด้วยการมีหอกสายฟ้าในจำนวนที่เพียงพอ มันก็จะสามารถชดเชยเรื่องนี้ให้กับกิลได้

“แน่นอน ฉันจะไม่ให้ทุกคนทำงานโดยเปล่าประโยชน์ ….” ซือเฟิงหัวเราะเบาๆ ขณะที่เขามองไปยังใบหน้าอันขมขื่นของครีมโกโก้ จากนั้นเขาก็นำข้อมูลของเศษชิ้นส่วนโลหะที่ไม่รู้จักออกมา และพูดว่า “ตราบใดที่ทุกคนสามารถทำงานนี้ได้สำเร็จ ฉันจะให้ทุกคนค้นคว้าโลหะนี้”

ครีมโกโก้นั้นอดไม่ได้ที่จะแอบบ่นซือเฟิงอยู่ในใจ สรุปแล้วทั้งหัวหน้ากิลและรองหัวหน้ากิลของเธอนั้นล้วนอยู่ฝั่งเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นต้องบอกว่าซือเฟิงโหดเหี้ยมกว่าอีก เขาเพิกเฉยต่อความปราถนาของเธออย่างสิ้นเชิง และใช้เธอแบบโหดเหี้ยมเลย นี่มันทำให้เธอไม่สามารถมีส่วนร่วมในงานสร้างที่เธอชอบได้เลย

อย่างไรก็ตามหลังจากได้เห็นข้อมูลที่แสดงอยู่เหนือโต๊ะ ครีมโกโก้รวมทั้งคนอื่นๆก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง และในขณะเดียวกันมันก็มีเปลวไฟลุกโชนขึ้นในดวงตาของพวกเขาทั้งหมด

“มันสามารถขับไล่มานาทั้งหมด ?”

“เป็นไปได้ยังไง ?!”

“มันมีโลหะแบบนี้อยู่ใน God domain ด้วยงั้นหรอ ?”

ครีมโกโก้และคนอื่นๆพึมพำกับตัวเองราวกับถูกสิง ขณะเดียวกันความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของพวกเขาก็หายไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อความคิดมากมายเข้ามาท่วมท้นในจิตใจของพวกเขา ซึ่งมันราวกับว่าประตูสู่โลกใหม่ของพวกเขาพึ่งจะถูกเปิดออก

สำหรับซือเฟิง เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับสถานการณ์นี้เช่นกัน

สำหรับผู้ที่อุทิศตนให้กับงานด้านการตีเหล็ก การได้เห็นวัสดุแบบนี้ปรากฎขึ้น มันก็ไม่ต่างจากความฝันเลย เพราะท้ายที่สุดมานานั้นเป็นรากฐานของทุกสิ่งใน God domain และหากใครสามารถขับไล่มานาออกจากวัตถุได้อย่างสมบูรณ์ คนๆนั้นก็จะกลายเป็นคนที่ไม่สามารถหยุดได้เลย

เพียงแค่ความคิดในการจะสร้างอาวุธสักชิ้นขึ้นมาโดยใช้โลหะนี้ มันก็ทำให้เหล่าปรมาจารย์ช่างตีเหล็กพวกนี้ตื่นเต้นมากๆแล้ว

“ทำไมมันถึงดูคุ้นๆจังแหะ ?” ครีมโกโก้พึมพำ ขณะที่เธออ่านข้อมูลของเศษชิ้นส่วนโลหะ

“คุ้น ? เธอเคยเห็นมันมาก่อนงั้นหรอ ?” ซือเฟิงรีบถามขึ้นทันที เมื่อได้ยินคำพูดของครีมโกโก้

เศษชิ้นส่วนโลหะที่ไม่รู้จักเหล่านี้นั้นลึกลับมากจนแม้แต่สกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำของเขาก็ยังไม่สามารถจะรวบรวมข้อมูลใดๆจากพวกมันได้ ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะมอบให้กับแผนกการตีเหล็กเพื่อวิจัยมัน

“อืมม ฉันคิดว่าฉันอ่านเจอเรื่องของมันจากหนังสือโบราณนะ” ครีมโกโก้พยักหน้า หลังจากครุ่นคิด “โลหะชนิดนี้นั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่สิ่งที่ปรากฎขึ้นตามธรรมชาติใน God domain แต่มันถูกสร้างขึ้นโดยเทพโบราณ ยิ่งไปกว่านั้นจากลักษณะของเศษชิ้นส่วนโลหะเหล่านี้ แต่เดิมมันควรจะเคยเป็นชิ้นเดียวกันมาก่อน”

“เธอพูดถูก และเท่าที่ฉันคิดเศษชิ้นส่วนโลหะพวกนี้ก็ดูเหมือนกับเศษชิ้นส่วนดาบมากๆ” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า “แต่ด้วยเหตุผลบางประการ พวกมันไม่สามารถจะหลอมรวมกันได้เหมือนกับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนาน”

“แม้ว่าพวกมันจะไม่สามารถหลอมรวมกันได้ แต่ฉันก็มีวิธีที่จะนำเศษชิ้นส่วนโลหะเหล่านี้มารวมกันได้” ครีมโกโก้กล่าว “แต่ฉันไม่แน่ใจว่าการซ่อมแซม และปะติดปะต่อกันแบบนี้จะทำให้อาวุธสามารถใช้พลังดั้งเดิมในอดีตได้หรือไม่”

“เธอมีวิธีงั้นหรอ ?” ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อได้ยินสิ่งนี้

เศษชิ้นส่วนโลหะเหล่านี้ล้วนมีความพิเศษ และหากพวกเขาสามารถซ่อมแซมมันได้ในระดับหนึ่ง โดยอาวุธที่ได้ออกมานั้นอาจจะมีผลแค่สามารถขับไล่มานาได้ แต่มันก็ยังคงเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยม
“ฉันคิดว่างั้นแหละ …” ครีมโกโก้กล่าวด้วยความมั่นใจมากขึ้น

“โอเค งั้นฉันจะฝากเศษชิ้นส่วนโลหะเหล่านี้ไว้กับเธอ ส่วนเรื่องวัสดุอื่นๆที่ต้องการก็ให้ไปขอจากเมลานโครอิคได้เลย” ซือเฟิงไม่ได้สงสัยในความมั่นใจของครีมโกโก้ เพราะท้ายที่สุดความสามารถของเธอนั้นเป็นของจริงแน่นอน ….

“หัวหน้ากิลพูดแล้วนะ !!! หัวหน้าต้องเปิดคลังวัสดุทั้งหมดของกิลให้กับฉัน !!!” ครีมโกโก้กล่าวด้วยรอยยิ้มแจ่มใส ขณะที่มองไปยังซือเฟิง

ผู้เล่นสายอาชีพทุกคนล้วนต้องการวัสดุที่ล้ำค่า อย่างไรก็ตามไม่ต้องพูดถึงวัสดุระดับตำนานเลย แม้แต่วัสดุระดับตำนานที่อ่อนแอก็ยังยากที่จะหามาได้ ซึ่งแม้แต่ซุเปอร์กิลก็ไม่สามารถจะให้ผู้เล่นสายอาชีพของพวกเขาใช้วัสดุเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ตามตอนนี้คำพูดของซือเฟิงนั่นหมายความว่าเขาจะอนุมัติทุกอย่างที่เธอต้องการให้ ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว เธอจึงไม่สามารถจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปได้

“ได้ตามที่เธอต้องการเลย …” ซือเฟิงพยักหน้า และหลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เขาก็กล่าวเสริมว่า “อย่างไรก็ตามเธอก็ใช้ให้มันระมัดระวังหน่อย การรวบรวมวัสดุเหล่านั้นมาไม่ใช่เรื่องง่าย”

“มั่นใจได้เลยหัวหน้ากิล ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ใช้พวกมันทั้งหมดแล้วกัน …” ครีมโกโก้กล่าวสัญญาด้วยรอยยิ้มที่กลัวว่าซือเฟิงจะเปลี่ยนใจไม่อนุมัติตามคำขอของเธอแบบเดิม

ครีมโกโก้นั้นทำตัวเหมือนกับเด็กที่เพิ่งได้ของเล่นใหม่ และนี่มันก็ทำให้ซือเฟิงไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อมองไปที่เธอ หลังจากนั้นเขาก็ทำการส่งข้อมูลทั้งหมดที่เขารู้เกี่ยวกับเศษชิ้นส่วนโลหะที่ไม่รู้จักนี้ไปให้เมลานโครอิคสไมล์และคนอื่นๆ สำหรับเรื่องการซ่อมแซมมันนั้น ครีมโกโก้จะสามารถทำได้ไหม เขาจะปล่อยให้โชคเป็นตัวตัดสิน

“ยังไงก็ตามหัวหน้ากิล สมาชิกของหอการค้าอาซูได้มาถึงตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว และขณะนี้พวกเขากำลังฝึกอบรมกับแกนหลักของกิลเราอยู่ โดยต้วนฮันซานคือผู้นำพวกเขามา อย่างไรก็ตามเนื่องจากหัวหน้ายุ่งอยู่ ฉันจึงยังไม่ได้บอกหัวหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้” เหลียงกล่าวขึ้นมา

“ต้วนฮันซานมาด้วยตัวเองเลยงั้นหรอ ?” ข่าวชิ้นนี้ทำให้ซือเฟิงประหลาดใจ

ต้วนฮันซานนั้นจัดเป็นผู้มีอำนาจสูงมากในหอการค้าอาซู และโดยปกติการส่งแค่เจ้าหน้าที่ทั่วไปมาสำหรับเรื่องนี้มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลย เมื่อเขาได้รู้ว่าต้วนฮันซานมาด้วยตัวเองแบบนี้

“หัวหน้าต้องการจะพบพวกเขาตอนนี้เลยไหม ?” เหลียงจิงถาม

“เนื่องจากต้วนฮันซานมาที่นี่ด้วยตัวเอง ดังนั้นในฐานะหัวหน้ากิล ฉันก็ต้องไปพบกับเขาเป็นธรรมดา ไปจัดเตรียมการที่จำเป็นทันที” ซือเฟิงกล่าว

“ฉันจะไปจัดการให้เรียบร้อย” เหลียงจิงที่ได้รับคำสั่งของซือเฟิงพยักหน้ารับ และออกจากห้องประชุมไปทันที

….

ในขณะที่ซือเฟิงกำลังพูดคุยกับครีมโกโก้ เมลานโครอิคสไมล์ และคนอื่นๆเกี่ยวกับเศษชิ้นส่วนโบราณ ชายสองคน และหญิงสองคนก็ได้เดินทางมาถึงที่สำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีก โดยผู้ที่นำคนเหล่านี้มาก็คือชายวัยกลางคนๆหนึ่ง

หลังจากสังเกตสมาชิกภายในของสภาสิบแปดปีกที่เข้าและออกจากอาคารได้สักพัก เครุย สาวน่ารักในชุดสีแดงก็หันมาหาสาวสวยข้างๆเธอ และพูดว่า “พี่สาวดูเหมือนว่าสภาสิบแปดปีกจะผ่านแค่มาตราฐานทั่วไปเท่านั้นนะ เท่าที่ฉันเห็น มันก็มีสมาชิกภายในของพวกเขาประจำการอยู่ที่นี่ไม่มากนักด้วย แถมผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ของพวกเขาก็อยู่แค่ในขอบเขตการปรับแต่งเท่านั้น ฉันนึกไม่ออกเลยจริงๆว่าสภาสิบแปดปีกจะมีผู้เชี่ยวชาญคนไหนที่ทรงพลังมากพอจะเข้าร่วมกับปฎิบัติการลับของเราได้ ….”

แม้ว่าเจริญรุ่งเรืองของสำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกจะไม่ได้บอกถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของกิล แต่มันก็น่าจะบอกได้ส่วนหนึ่ง

มู่ฉินนั้นยังคงเงียบอยู่ และไม่ได้ตอบโต้ใดๆกับคำพูดของเครุย แม้ว่าเธอจะรู้ว่าสภาสิบแปดปีกเป็นกิลที่พึ่งสร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่เธอก็ไม่เคยคิดเลยว่าสำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกจะมีสมาชิกประจำการอยู่ไม่มากนัก ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งโดยเฉลี่ยของสมาชิกเหล่านี้ยังอ่อนแอจนน่าตกใจ นับประสาอะไรกับมหาอำนาจที่แท้จริง หากดูแค่นี้ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะไม่สามารถเทียบได้กับพวกกึ่งมหาอำนาจด้วยซ้ำ

“พอแล้วน่า เข้าไปดูข้างในกันดีกว่า”

ลุงหงขมวดคิ้วเล็กน้อยให้กับคำพูดของเครุย อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้มากนัก และเขาก็ได้นำมู่ฉิน กับคนอื่นๆเข้าไปในสำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกทันที