ตอนที่ 733 คุณสำคัญกว่าชีวิต (4)

อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!

ตอนที่ 733 คุณสำคัญกว่าชีวิต (4) โดย Ink Stone_Romance

 “ใคร?”

 “ในมือพ่อบุญธรรมของนายอาจจะมี” ถังซ่งอธิบาย “ยารักษาไวรัสชนิดนี้ฉันกับคุณหมอประจำตัวพ่อบุญธรรมของนายข่ายปินช่วยกันคิดค้นมันมาเมื่อสองปีก่อน แต่ตัวยาหนึ่งในนั้นมันเอาออกมาได้ยากมาก เพราะฉันยุ่งเกินไปเลยลืมเรื่องนี้ บางทีข่ายปินอาจจะเอามันออกมาได้สำเร็จแล้วก็ไม่แน่”

 “แล้วก็!” ถังซ่งตักเตือน “นายต้องระวัง ไวรัสนี้มันติดต่อทางเลือด ฉะนั้นอย่าให้เลือดของเธอโดนแผลของนาย เข้าใจมั้ย?”

เย่เซียวไม่ได้พูดพล่ามอะไรกับถังซ่งต่อ รีบโทรสายตรงหาข่ายปินโดยทันที

ข่ายปินได้ยินเข้ารีบถาม “นายน้อย คุณถูกตัวอ่อนยุงก้นปล่องกัดหรือครับ?”

 “คุณแค่บอกมาว่ามีหรือไม่มี!”

“มี คุณวางใจได้ ทีมรักษาของเราจะรักษาให้คุณอย่างเต็มที่ ไม่มีทางเป็นอะไรไปได้”

 “ดี ให้ทีมรักษาของคุณเตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้ผมจะบินกลับไป!”

………………

วันรุ่งขึ้นเช้าตรู่

ถังเจวี๋ยเป็นคนส่งพวกเขาออกจากทะเลทรายด้วยตัวเอง

บนเครื่องบินส่วนตัวของถังเจวี๋ยไป๋ซู่เย่ยังอยู่ในสภาวะหมดสติและตัวร้อน เย่เซียวให้เธอนอนบนตักตัวเองส่วนมือของเขาคอยประสานจับมือเธอแน่นเสมอไม่ปล่อยสักวินาทีเดียว

หยูอันเดินมา ถอนหายใจพูดเกลี้ยกล่อม “นายท่าน พักหน่อยเถอะ”

ตั้งแต่เมื่อคืนถึงตอนนี้เย่เซียวไม่ได้พักสายตาเลยแม้แต่วินาทีเดียว ตอนผ่าเอาตัวอ่อนเขารออยู่ข้างนอก รู้สึกว่าทุกวินาทีนั้นช่างยาวนาน

 “ไม่ต้องหรอก ถามกัปตันสิว่าอีกนานแค่ไหนจะถึงเมืองเยียว” เขาเอ่ยปาก ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความอ่อนล้า

 “บอกว่าอย่างน้อยอีกสองชั่วโมง หลี่สือรอที่สนามบินแล้ว แค่ลงจากเครื่องก็รีบไปที่ห้องทดลองของคุณหมอข่ายปินได้ทันที”

เย่เซียวพยักหน้า ก้มมองท่าทางเจ็บปวดของเธอแล้วก็รู้สึกปวดหนึบที่หัวใจ เขากุมกระชับมือเธอแน่นและวางจรดริมฝีปากเบาๆ นิ้วมือลูบไล้หลังมือเธอแผ่วเบาคล้ายว่าจะช่วยบรรเทาความเจ็บแก่เธอได้สักนิด แต่เขากลับรู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้ที่เขาทำนั้นไม่ได้ช่วยอะไร!

ความรู้สึกที่ไม่สามารถทำอะไรเพื่อเธอ ได้แต่นั่งมองเธอถูกเชื้อไวรัสทรมานแบบนี้มันแย่ที่สุดเลย!

 “นายท่าน มีเรื่องหนึ่งคุณเคยคิดไว้ก่อนหรือเปล่า…” หยูอันทำหน้าหนักอึ้ง กล่าวขึ้นช้าๆ “คุณหมอข่ายปินคอยรับใช้คุณไฟเรนเซ่เพียงคนเดียวมาตลอด ตอนนี้ให้เขารักษาคนนอก เกรงว่า…”

เย่เซียวย่อมเคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน

จะให้ข่ายปินรักษาคนนอกล้วนต้องได้รับคำอนุญาตจากพ่อบุญธรรม ส่วนท่าทีที่พ่อบุญธรรมมีต่อเธอ…จะให้เขาพยักหน้า แทบเป็นไปไม่ได้

 “ไปเอากระบอกฉีดยาในกล่องปฐมพยาบาลมา” อยู่ๆ เย่เซียวก็พูดสั่ง

หยูอันไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ทำตาม

เย่เซียวหยิบกระบอกฉีดยาอันใหม่มาก่อนพับแขนเสื้อไป๋ซู่เย่ขึ้น หลังทาแอลกอฮอล์พลางหาเส้นเลือดอย่างแม่นยำ ดูดเลือดเล็กน้อยโดยที่เธอไม่รู้สึกตัวหรือไม่แม้แต่กระทั่งย่นคิ้วสักนิด

 “นายท่าน นี่คุณ…” หยูอันขมวดคิ้ว

เย่เซียวไม่พูดอะไร แค่เก็บกระบอกฉีดยาไว้บนตัวให้ดี

 “นายไม่ต้องสนใจ ฉันมีขอบเขต”

 “ถ้าเกิดยาพวกนั้นมีผลข้างเคียง!” หยูอันอดพูดเสียงสูงไม่ได้ ยาพวกนั้นไม่ถูกส่งไปที่ตลาด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเคยผ่านการทดลองจากมนุษย์ตัวเป็นๆ หรือไม่

แต่เทียบกับความตื่นตระหนกของเขาแล้วเย่เซียวกลับใจเย็นเรียบนิ่ง “นายไปเถอะ ฉันอยากพักผ่อนแป๊บหนึ่ง”

หยูอันอยากถามเขาเหลือเกินว่าเพื่อผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงที่เคยทำร้ายเขา ทำถึงเพียงนี้มันคุ้มจริงๆ หรือ?

แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้ถามไป

เพราะเขารู้ดี…

ว่าคงเป็นการถามที่เสียแรงเปล่าเท่านั้น

ขณะที่ชีวิตตัวเองไม่มีความสำคัญใดๆ อีกต่อไปยามอยู่ต่อหน้าใครสักคน ก็ไม่มีคำว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม มีแค่ความสมยอมและความเสียสละอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

…………………………

รถของเย่เซียวขับตรงไปยังห้องทดลองของข่ายปินอย่างโอ่อ่า

ทีมพยาบาลของข่ายปินได้เข็นไป๋ซู่เย่เข้าห้องตรวจไปแล้ว

สักพักข่ายปินวิ่งมาจากห้องทดลองอย่างเร่งรีบ

 “นายน้อย!”

 “รีบตรวจร่างกายให้เธอ เอายาออกมา!” เย่เซียวพูดสั่งข่ายปิน

ข่ายปินทำหน้าหนักใจ เขารับรู้แล้วว่าคนที่โดนพิษจากตัวอ่อนยุงก้นปล่องนั้นไม่ใช่เขา แต่เป็นผู้หญิงที่หมดสติซึ่งถูกเข็นเข้าห้องตรวจก่อนหน้านี้

 “นายน้อย คุณรู้ดีว่าตลอดชีวิตของผมจะรักษาแค่คุณไฟเรนเซ่ ถ้าไม่มีคำอนุญาตของคุณไฟเรนเซ่ ผมไม่มีทางรักษาให้คนอื่นได้ ดังนั้น…”

เย่เซียวไม่มีความอดทนที่จะฟังเขาพูดให้จบประโยค

หยูอันได้รับสัญญาณจากสายตาเขาก่อนจะเอาปืนจ่อหัวข่ายปิน ข่ายปินหยุดหายใจชั่วขณะพร้อมยกสองแขนขึ้น หยูอันกัดฟันกรอด “นายท่านไม่ได้ล้อเล่นกับคุณ ถ้าวันนี้คุณไม่รักษาคุณไป๋ให้ดี คุณก็เตรียมเก็บศพให้ตัวเองเถอะ!”

 “นายน้อย…” ข่ายปินไม่กล้าตกลง

 “หยูอัน จะทำอะไรคนของฉัน ต้องถามความคิดเห็นฉันก่อนหรือเปล่า!” เสียงน่าเกรงขามดังขึ้นฉับพลัน

ทุกคนต่างหันไปตามต้นเสียงเห็นเพียงเฉิงหมิงที่กำลังเข็นไฟเรนเซ่มาจากทางเดินที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงล้อเก้าอี้เข็นที่สร้างความกดดันแก่สถานการณ์นี้

แววตาเฉียบคมของไฟเรนเซ่กวาดผ่านทุกคนและชำเลืองมองหยูอันแวบหนึ่ง หยูอันโค้งตัวเล็กน้อย “คุณไฟ”

แต่ปืนในมือไม่ได้ถูกเก็บ

ไฟเรนเซ่ทำหน้าดุดันเย็นยะเยือก “แกกล้าเอาปืนจ่อคนของฉันเพื่อผู้หญิงที่ตอนนั้นฆ่าพี่น้องพวกแกไปตั้งมากแล้วงั้นเหรอ!”

หยูอันสะท้านเพราะแววตาของเขาไปชั่วขณะ แต่เจ้าตัวยืนนิ่งตัวตรงเช่นเดิม “ขออภัยคุณไฟ ตอนนี้ผมกำลังทำงานให้นายท่านของเรา ท่านอยากช่วย ถ้าอย่างนั้นผมก็จะช่วย”

ไฟเรนเซ่แค่นเสียงที “จงรักภักดี ถือว่าเขาดูคนไม่ผิด!แต่คนของฉันก็จงรักภักดี อย่างเช่น คุณหมอข่ายปิน”

 “พ่อบุญธรรม” ทีนี้เย่เซียวถึงกล่าวทักทายแต่ยังคงสีหน้าเรียบตึง

ไฟเรนเซ่จรดสายตาที่เขา “แกเพิ่งรู้จักฉันวันแรกเหรอ? เอาปืนมาข่มขู่คนของฉัน มีประโยชน์เหรอ?”

เย่เซียวเกร็งหน้าแน่น เขาไม่อยากพูดให้มากความจึงถามอย่างตรงไปตรงมา “แล้วต้องทำยังไงท่านถึงจะยอมตกลง ให้ข่ายปินช่วยเธอ?”

 “ทำไมฉันต้องพยักหน้าตกลง?” ไฟเรนเซ่ถามย้อนโดยไม่ตอบคำถาม “เย่เซียว ฉันไม่ใช่คนขี้ใจอ่อน และไม่ได้ทำการกุศล บนโลกนี้มีคนต้องการให้ฉันช่วยเหลือมากเกินไป ถ้าฉันช่วยทุกคน ฉันทำไหวเหรอ?”

เย่เซียวยังขบกรามแน่นเหมือนเดิมและแสดงท่าทีหนักแน่น “ขอแค่ท่านยอมช่วยเธอ จะให้ผมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!”

 “ฉันจะให้แกทำอะไรได้อีก?” ไฟเรนเซ่โบกมือปัด “ฉันขอแค่แกไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้เธอตายแล้ว ยิ่งสมใจฉัน แกว่า ฉันจะช่วยเธอเพื่อแกได้มั้ย?”

เย่เซียวมองไฟเรนเซ่ด้วยแววตาหนักแน่นวูบหนึ่ง

ทันใดนั้นเองเขาควักกระบอกฉีดยาจากกระเป๋า กัดฝาหุ้มทิ้งแล้วปักต้นขาตัวเองอย่างไม่ลังเล ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด

 “นายท่าน!” หยูอันร้องขึ้นมา รีบรุดหน้าไปหาโดยไม่คิดจะสนใจข่ายปินอีก

………………………