บทที่ 128 ส่งตัวแทนไปก็ไม่มีปัญหาอะไร

หลังจากที่ทั้งสองกลับไปที่บาร์ชิง พวกเขายังคงไม่พูดกัน ทันใดนั้นเย่ฮัวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วสั่งกุ้งมาเลย ถ้าคุณมีความสามารถพอล่ะก็ อย่าแกะเปลือกมัน!

โชคร้ายตกเป็นของชิงยูตงวันนี้ ฉันเพิ่งจะเคลียร์ด้านล่างนี่จนปวดหลังไปเองนะ…

“พี่เขย เราจะกินอะไรกันดีสำหรับเที่ยงนี้?” เมื่อเห็นพี่เขยและพี่สาวกลับมา เธอก็รีบวิ่งเข้าไปถามเลยด้วยเจตนารมณ์ในรูปประโยคที่ชัดเจน

พี่เขย *ผู้คนต่างเฝ้ารอที่จะได้กินเนื้อนะ*

“กุ้ง!”

ชิงยูตงผิดหวังขึ้นมาทันที คิดถึงเนื้อง่า…รสชาติที่เติมเต็มช่องว่างในปากได้ ไหนจะกลิ่นที่สูดไปเต็มปอดก็ฉ่ำใจแล้ว น้ำหวานๆที่แทรกอยู่ตามชั้นเนื้อนั้นก็ยียวนชวนให้ดื่มกินให้หมดเสียจริง ถ้าได้กินล่ะก็จะชื่นใจมากๆเลยนะ!

ฉันไม่เคยได้กินเนื้อที่อเร็จอร่อยแต่เมื่อได้ลองแล้วก็ยากที่จะลืม ผิวพรรณมันเปล่งปลั่งและแน่นอน มันดีกว่ากุ้งนางเป็นไหนๆ!

โชคร้ายที่เนื้อกับเธอคงทำบุญร่วมกันน้อย เพราะงั้นจะเก็บความผิดหวังไว้เบื้องหลังละกัน

ทั้งสามนั่งรวมกันที่โต๊ะ เย่ฮัวและชิงหยาไม่ได้ขยับตะเกียบของพวกเขา ชิงยูตงที่เป็นผู้รับชมในครานี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร นี่มันก็ปกติไม่ใช่เหรอ?

“ถ้าพวกพี่ไม่กิน ฉันจะประเดิมแล้วนะ” พูดจบชิงยูตงก็สวมถุงมือเลย

แต่กินๆไปก็รู้สึกแหละว่าบรรยากาศมันไม่ใช่ แต่จะทำไงได้ หวังว่าจะไม่ทะเลาะกันอีกรอบนะ

“พี่เขย ช่วยกรุณากินกุ้งที่สั่งมาด้วยค่ะ”

“พี่สาวคะ ช่วยกรุณาช่วยกินกุ้งที่พี่เขยสั่งด้วยค่ะ”

“คุณปู่คะ กุ้งค่ะ ช่วยกินด้วยไม่งั้นหลานจะกลายเป็นกุ้งแทนแล้วนะคะ”

เธอสบถในใจว่าครั้งต่อไปเธอจะไม่ทำตัวให้มาอยู่ในปัญหาแบบนี้อีกแล้ว เพราะท้ายสุดคนที่เหนื่อยก็เป็นเธอนั่นแหละ!

เย่ฮัวหายใจช้าๆ ในตอนนี้แม้แต่เปลือกกุ้งก็ไม่แกะให้ รู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกันแฮะ ไว้ค่อยมากินตอนกลางคืนละกัน

ชิงหยาเองก็หายใจอย่างเยือกเย็น ไม่ว่าจะอยากแกะเปลือกกุ้งให้เขาแค่ไหนก็ทำไม่ได้ ขอเพียงแค่เขาพูด ‘ที่รัก ฉันผิดไปแล้ว’ ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเลยนะ

กุ้งกว่าปอนด์ถูกแกะเปลือกกินโดยชิงยูตงเพียงคนเดียว รู้สึกเจ็บนิ้วแปล้บๆเลย “ไม่ต้องเรียกฉันมากินข้าวเย็นนะ เดี๋ยวหากินเอง”

พูดจบชิงยูตงก็กลับไปยังห้องนอนและไม่มากินข้าวเย็นกับพวกเขาตามที่พูดด้วย

เย่ฮัวเช็ดปากก่อนจะเดินกลับไปยังออฟฟิศ และชิงหยาเองก็กลับเข้าห้องนอนไป

วันนี้เขาจะนอนอยู่ที่ออฟฟิศ ฉันไม่มีกล่องวิเศษที่เอาไว้ดูว่าเธอไปนอนอย่างไร และฉันเองก็จะไม่คะยั้นคะยอพาตัวเองไปยังเตียงนอนด้วย เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ…

เมื่อเห็นว่าเย่ฮัวตรงไปยังออฟฟิศจากการเหล่มองแล้ว ชิงหยาก็คิดขึ้นมาว่า ตัวของเธอนั้นคงโตเกินไปที่จะไปซื้อตุ๊กตาแล้ว เชื่อเลยว่าตัวเธอเองคงนอนไม่หลับแน่ถ้าไม่มีเขา

กลางคืนมาถึง ชิงยูตงตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แบบนี้ก็ไม่ต้องพึ่งใครด้วย

เย่ฮัวนั้นรอให้ชิงหยามาเพื่อที่จะได้พูดออกไป ในขณะที่ชิงหยาเองก็รอให้เย่ฮัวมาเพื่อจะได้พูดออกไปเช่นกัน

เรื่องของสองคนนี้ช่วยอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว การแอบกินบะหมี่ถ้วยเช่นนี้ก็เพื่อเติมเต็มไม่ให้หิวหรอก จำไว้นะเด็กๆ ต่อให้จะพยาบาทขนาดไหนก็ห้ามปล่อยให้ตัวเองหิวนะ!

เย่ฮัวเองก็กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเช่นกัน และเหมือนว่าเขาจะเข้าใจใน ”มัน” นิดหน่อย

สิ่งแรกคือต้องเปิดฝาบางๆนี่ก่อน จะนั้นก็เปิดชั้นบนสุดของมัน แกะซองเครื่องปรุงและโรยมันลงไป ตัดแฮมเป็นชิ้นเล็กๆและโรยมันลงด้านบน จากนั้นก็เทน้ำร้อนลงไปในถ้วย 3 นาทีนั้นยืนยาว แต่ชีวิตนั้นสั้น…ไม่สิ ชีวิตนั้นยืนยาว แต่ 3 นาทีนั้นสั้น อ่าห์…บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเย่ฮัวเสร็จสมบูรณ์แล้ว!

ใบหน้าเรียวได้รูปรู้สึกซึ้งใจกับสิ่งตรงหน้าอย่างมาก นี่มัน บะหมี่กึ่งสำเร็จเย่! ทุกคนซาบซึ้งกับข้าสิ! ในที่สุดก็เข้าใจมันแล้ว…หรือเปล่านะ?

ติ๊ง ต่อง!

เย่ฮัวที่กำลังจัดการบะหมี่ถ้วยอยู่ก็รีบซ่อนมันและปรับตัวอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าแสงเดินทางมาสู่โลกด้วยความเร็วเท่าไหร่ให้คูณ 8 เข้าไปอีกรอบแล้วจะได้ความเร็วในการเปลี่ยนสีของเย่ฮั่ว

อ่าห์ มาแล้วๆ ช่วยไม่ได้แฮะ พูดอะไรออกไปให้สมกับเป็นเทวทูตดีกว่า

“เข้ามา!” เย่ฮัวตะโกนออกไป

เมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาเป็นเว่ยชางใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นผยองขึ้นมาทันที “ไป๊!”

เว่ยชางเพียงเข้ามาเพื่อจะคุย แต่พอได้ยินอีกฝ่ายตะโกนไล่แล้วก็ชะงักขึ้นมา นี่จะขู่เด็กให้กลัวหรือไงเนี่ย แต่ก่อนอื่นเลยนะ ทำไมออฟฟิศถึงมีกลิ่นของบะหมี่ถ้วยได้ล่ะ? ท่านเทพสูงสุดก็มีภรรยาอยู่แล้ว ยังต้องมากินบะหมี่ถ้วยอีกเหรอ? ถึงจะอดอยากขนาดไหนแต่เจ้าถังน้อยก็ทำอาหารให้ได้นะ

เลี่ยกูบอกเขามาว่า กำลังนอนแอ้งแม้งและได้รับการป้อนอาหารจากหญิงสาวอยู่

เย่ฮัวกล่าวเสริมว่า ทำไมถึงเป็นเด็กดีแบบนี้ นอกจากจะเชื่อฟังแล้วก็ยังไม่แปลงกลับไปเป็นร่างต้นด้วย!

เว่ยชางที่อยู่ด้านนอกมองแล้วจึงพูดกับจิวเย่ “นายท่านกำลังยุ่งอยู่ อย่าเพิ่งไปรบกวนเลย”

จิวเย่มาในวันนี้ก็เพื่อที่จะถามเย่ฮัวว่าตัดสินใจได้หรือยังว่าฝ่ายใต้จะจัดอีเวนท์อะไร เพราะทุกๆฝ่ายจะมารวมตัวกันเพื่อ “เทพบรรพกาล”…เพื่อป้องกันพวกจากแดนเหนือที่ตั้งใจจะมาฉกชิงไป

“คุณเว่ย นายท่านยังไม่ได้ไปไหน ช่วยซักหน่อยไม่ได้หรือ?” จิว เย่พูดพร้อมรอยยิ้ม

“มันไม่มีเวลา นายท่านมีนัดคืนนี้” เว่ยชางตอบแบบไร้เยื่อไย เจ้านายเป็นไงลูกน้องก็เป็นงั้นแหละ แต่จริงๆแล้วคืนนี้ก็มีนัดดูหนังรอบดึกกับเจ้าถังน้อยอยู่นะ นี่ถือเป็นอีเวนท์หลักได้หรือเปล่า?

จิวเย่รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาเลย จะเจ้านายหรือลูกน้องก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนๆกันเลย ทั้งๆที่ตอนนี้เทพบรรพกาลพร้อมที่จะขับเคลื่อนแล้วแท้ๆ พวกแดนเหนือต้องซ่อนตัวอยู่แน่ๆ พวกนั้นคงพร้อมจะขโมยแล้ว และถ้ามันทำสำเร็จจะเอาหน้าของฝ่ายใต้ไปไว้ที่ไหนกัน

“คุณเว่ย เรื่องในครั้งนี้เกี่ยวพันกับชาวฝ่ายใต้ทั้งหมด ไม่เป็นปัญหาอะไรถ้าจะส่งตัวแทนไปนั่งรอใช่ไหม?” จิวเย่ไม่ลดละความพยายามที่จะดึงตัวเย่ฮั่วออกมาให้ได้

ในความเป็นจริง เย่ฮัวเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรขนาดนั้น ถ้าไม่ติดว่ามีเรื่องกับชิงหยาอยู่ก็คงจะให้ชิงหยาไปเป็นตัวแทนนั่นแหละ แต่โชคร้ายหน่อยที่ตอนนี้เย่ฮั่วและชิงหยานั้นทะเลาะกันอยู่ พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะคุยกับใครดีๆสุดๆ

“นายรออยู่ข้างนอกนี่ ฉันจะไปตามซักคนมาให้”

“เยี่ยมเลย ขอบคุณมากคุณเว่ย” จิวเย่โล่งใจ ตราบใดก็ตามที่เจ้านายยังส่งใครซักคนมา

เขาเดินออกจากบาร์และนั่งบนรถคันหรูรออยู่ด้านนอก เว่ยชางหลบเข้าไปในห้องน้ำของชิงบาร์

เขากระซิบ “ผู้วิเศษแห่งความตาย…”

ภายใต้สะพานข้ามทะเลสาปแดนใต้ในเมืองหลงอัน ที่นี่คือบ้านของเหล่าคนจร หนึ่งในพวกเขานั้นยังมีชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีดำอยู่ เขานั่งอยู่บนเคียวยาว มือซ้ายถือโทรศัพท์มือถือส่วนมือขวาก็ชี้ไปที่แขนขวาของเขาเอง หน้าจอนั้นสั่นสะเทือนเป็นความถี่มากๆ

บางครั้งก็มีเสียงของเหรียญทองดังขึ้น แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้เห็นนานนักหรอก

ยอดเงินไม่เพียงพอ กรุณาเติมเงินด้วยค่ะ

อ่า…เงินในบัตรเหมือนจะวิกฤตแล้ว

ใช่แล้ว นี่คือผู้วิเศษแห่งความตาย ผู้ที่เอาแต่พนัน พนัน แล้วก็พนัน! เมื่อหลายวันก่อน เขาอยู่ในแมนชั่นและดื่มเบียร์ ผลลัพธ์มันช่างเป็นบทเรียนเสียจริง เขาเสียครอบครัวไปโดยที่ไม่ได้นอกใจด้วยซ้ำ

ในกรณีนี้ เขาต้องไปหาเจ้ามือ และด้วยผลลัพธ์ดังกล่าวเจ้ามือก็โดดลงมาจากดาดฟ้า นั่นทำให้ผู้วิเศษแห่งความตายคนนี้วิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตายเลยทีเดียว

เขาสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบอลและการพนันอีกแล้วตลอดชีวิต!

เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อมีคนๆหนึ่งในกลุ่มแฟนๆสร้างโปรแกรมเล็กๆขึ้นมา ผู้วิเศษแห่งความตายตื่นเต้นมากและหลงไหลไปกับเจ้าสิ่งนี้ ในเที่ยงวันนั้น เขาใช้เงินที่เหลือทั้งหมดไปกับการสนับสนุนโปรแกรมดังกล่าว

ในมือตอนนี้คือทรัพย์สินที่เหลือทั้งหมด ผู้วิเศษแห่งความตายนี้รู้สึกเจ็บปวดหัวใจอยู่ลึกๆ ทำไมกัน…ทำไมมนุษย์ถึงหลอกให้เราเป็นเหยื่อได้เก่งขนาดนี้!

ทันใดนั้นเขาก็ถูกผู้เป็นนายอัญเชิญไป เขาจ้องมองไฟสีแดงวาบนั้น ถ้าส่งตัวแทนไปได้ก็ดี เขาจะได้เอาเวลามาสู้ชีวิตต่อได้

“เฮ้ ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเหรอ? อยู่ไหนกันเนี่ย?”

“ใครจะไปรู้ โอ้ ใช่เลย กำลังนั่งรอจะเล่นพนันตอนบ่าย แล้วก็ชาร์จพาวเวอร์แบงค์ไปพลางๆ”

“เอ๊ะ พาวเวอร์แบงค์? บัดซบ! พาวเวอร์แบงค์ฉันมันหายไปไหนแล้ว! ไอ้เจ้าบ้านั่นขโมยพาวเวอร์แบงค์ฉันไปด้วยเหรอ ไอ้บ้าเอ้ย!!”

เว่ยชางยังคงทำความสะอาดพื้นห้องน้ำบาร์

“เลิกบ่นได้แล้ว พื้นกำลังสกปรกเห็นมั้ย!” มองผู้วิเศษแห่งความตายโค้งให้ เว่ยชางก็หยุดทำความสะอาดไปทันที

เขาตอบกลับด้วยความเคารพ “ขอบคุณมากๆเลยเจ้านาย”

“ไปทำบางสิ่งบางอย่างให้ฉันคืนนี้”