พวกเรามักจะเห็นตัวละครฮีโร่ถูกยิงหลายนัดแล้วยังยืนหยัดฆ่าคนเลวจนหมด แสดงจิตใจอันเข้มแข็งดั่งเหล็กกล้าและร่างกายแข็งแรงกำยำของฮีโร่ แต่ถ้าถูกปืนเทเซอร์ยิงแม้สักครั้ง ใครก็ต้องเกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุกทั้งคืน แม้แต่ยื่นนิ้วก้อยออกไปตรงๆ ก็ยังทำไม่ได้ ดังนั้นใช้ปืนเทเซอร์หยุดอาชญากรจึงค่อนข้างได้ผลดี
ขั้วไฟฟ้าสองด้านยิงไปที่ร่างกายของหญิงสาวคนนั้นด้วยไนโตรเจนแรงดันสูง ระยะห่างใกล้ขนาดนี้ไม่มีทางยิงพลาดเป้า เขายิงเข้าที่หน้าอกขวาและหน้าท้องซ้าย ลอดเข้าไปในเสื้อผ้าบางๆ ของเธอ ส่วนปลายที่มีตะขอปักเข้าไปในผิวหนัง ไฟฟ้าแรงดันสูงพลันส่งผ่านเข้าสู่ร่างกายของเธอในพริบตา
“อ๊ากกก!”
เธอชักไปทั้งตัว ปลายมีดอยู่ห่างจากฟราเทอร์แค่คืบแท้ๆ แต่นิ้วมือกลับจับด้ามมีดไว้ไม่ได้ ได้แต่มองมีดผ่าตัดหลุดจากซอกนิ้วอย่างไร้เรี่ยวแรง พูดอย่างนั้นก็ไม่ค่อยถูก แม้เธอจะลืมตาอยู่ แต่ความจริงแล้วอยู่ในสภาพที่มองไม่เห็น
ในสถานการณ์ที่โกลาหลไปทั่ว พวกผู้คุมบางคนสังเกตเห็นสถานการณ์ทางนี้ แต่ติดอยู่ที่ต้องสู้กับสิงโตภูเขา เข้ามาช่วยไม่ได้ และเฟยหม่าซือก็เข้าสู่สนามรบแล้ว มันหลบหลีกผู้คุมที่ถือปืนยิงตาข่ายเอาไว้ในมือพวกนั้น เสี่ยงถูกช็อตสักครั้งสองครั้ง และพุ่งเข้าจู่โจมผู้คุมที่ถือปืนเทเซอร์โดยเฉพาะ
สิงโตภูเขาเป็นสัตว์สันโดษ ส่วนมากไม่เคลื่อนไหวกันเป็นฝูง แต่สิงโตภูเขาพวกนี้ไม่ได้มาจากที่เดียวกัน แต่ถูกกลิ่นโคโลนจ์ยูโฟเรียของคาลวิน ไคลน์ดึงดูดมาทั้งนั้น
หลังจากเสวี่ยซือจื่อหนีไป เฟยหม่าซือได้กลิ่นว่าแถวนี้มีวี่แววสิงโตภูเขาเคลื่อนไหว จางจื่ออันจึงลองฉีดน้ำหอมขึ้นเหนือลม แล้วมันก็ดึงดูดสิงโตภูเขามาได้จริงๆ
อเมริกาเหนือมีสิงโตภูเขาหลายหมื่นตัว แต่หายากที่พวกมันเข้าจู่โจมคนก่อน พวกมันจะหลีกเลี่ยงคนเองเมื่ออยู่ในป่า แต่วันนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ กลิ่นน้ำหอมทำให้พวกมันต้านทานความรู้สึกเคลิบเคลิ้มไม่ได้ และดึงสัญชาตญาณกระหายอยากจะสืบพันธุ์ของพวกมันขึ้นมา
ผู้หญิงคนนั้นชักจนล้มลง เมื่อครู่เสวี่ยซือจื่อถูกผู้หญิงคนนั้นเตะกระเด็นไป มันจึงกระโดดใส่ตัวเธอทันที อุ้งเท้าหน้าเหยียบบนหน้าอก ส่วนอุ้งเท้าหลังถีบขึ้นลงบนใบหน้าเธอไปทั่ว แถมยังร้องตะโกนว่า “เดินสิ! เจ้าเดินเล่นต่อสิ! เจ้าช่างไร้ศีลธรรมเสียจริง กล้าดีอย่างไรมาถีบแม่เฒ่า! เจ้าชั่วร้ายเหมือนผี ต้องดื่มน้ำล้างเท้าของข้าสินะ?”
มันถีบอยู่สองสามครั้งถึงจะได้สติ “เอ๋? ข้าไม่ได้สัมผัสไฟฟ้าเหมือนกันหรือ?”
จางจื่ออันไม่สนใจมัน ถือโอกาสตอนที่ผู้หญิงคนนั้นนอนนิ่งอยู่บนพื้น พุ่งเข้าไปเก็บมีดผ่าตัดขึ้นมา แล้วตัดเชือกที่มัดสี่ขาของฟราเทอร์เอาไว้
ฟราเทอร์ยืนขึ้นทันที ก่อนจะมองไปรอบๆ เห็นข้างตัวเขามีภูตสัตว์เลี้ยงไม่ครบตัว ส่วนภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นที่รวมถึงฟีน่าไม่ได้อยู่ตรงนี้
มันไม่สนใจกล่าวขอบคุณ แล้วถามว่า “ภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นไปไหนแล้ว”
“พวกฟีน่าอยากไปตามหาตัวการสั่งแมวประหลาดทำเรื่องชั่วร้าย ทำไมเหรอ” จางจื่ออันเห็นสีหน้ากังวลของมัน จึงหวาดผวาขึ้นมา
“แย่แล้ว!” ฟราเทอร์หน้าถอดสี “ที่นี่คือกับดัก พวกเจ้าติดกับแล้ว!”
จางจื่ออันพูดในใจว่า ‘ฉันรู้ว่านี่คือกับดับ แต่ไม่ได้ติดกับ’
ฟราเทอร์พูดอย่างร้อนใจ “พวกเขาไม่ได้อยากฆ่าแค่ข้า พวกเขาใช้ข้าล่อพวกเจ้าเข้ามา และรั้งพวกเจ้าไว้ที่นี่ ที่พวกเขาต้องการจะจัดการจริงๆ อาจจะเป็นพวกฟีน่า!”
“เอ๋?”
จางจื่ออันตะลึง เขาเชื่อว่าฟราเทอร์ไม่ได้พูดโกหก และรู้สึกถึงความอันตรายในทันที
หลังจากฟราเทอร์ถูกจับ มันก็คิดว่าตัวเองจะถูกแมวตัวนั้นทรมานทรกรรมจนต้องตายแน่ และแมวตัวนั้นก็คิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ แมวตัวนั้นเข้ามาใกล้มันทีละก้าว แต่กลับมีแมวธรรมดาตัวหนึ่งกระโจนออกมาจากป่ากะทันหัน แล้วทำสัญญาณมือกับแมวตัวนั้นสองสามครั้ง ดวงตาของแมวตัวนั้นพลันก็สว่างวาบขึ้นมา ราวกับพบเหยื่อที่มีค่ามากกว่านั้น
แมวตัวนั้นจึงทำสัญญาณมือให้ผู้หญิงสองสามครั้ง บอกให้เธอมาจัดการฟราเทอร์ และสัญญาณมือสุดท้ายคือท่าทางวางมีดสับลงไป ให้เธอใช้วิธีเด็ดขาดจัดการมันทิ้งซะ
พอจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ แมวตัวนั้นก็จากไป
จากนั้นพวกจางจื่ออันก็มาถึง แต่ฟราเทอร์ถูกมัดอยู่บนพื้นจึงมองไม่เห็น ยังคิดว่าพวกภูตสัตว์เลี้ยงตามหลังเขามาทั้งหมด แต่พวกเขาดันแยกกันออกเป็นสองกลุ่ม
ฟราเทอร์จึงคาดเดาได้ว่า แมวตัวนั้นอาจจะคิดว่ายังไงมันก็ต้องตาย จึงไม่ต้องใช้สมองมากอีก ขอแค่ส่งมันให้ผู้หญิงคนนั้นจัดการ ขอแค่มันมีชีวิตอยู่เพื่อทำหน้าที่เหยื่อล่อจนสำเร็จ ก็ฆ่ามันได้ทันที ส่วนแมวตัวนั้นคิดจะขยายผลการต่อสู้ไปอีกขั้น
“พวกเราต้องรีบไปช่วยพวกฟีน่า ไม่เช่นนั้นอาจจะสายเกินไป!” ฟราเทอร์รีบร้อนจนหัวหมุน มันไม่อยากให้ภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นต้องเสียสละเพราะมัน
จางจื่ออันได้ยินแล้วก็ตกใจ แม้เขาจะรู้ว่าฟีน่า เหล่าฉา และวลาดิเมียร์เป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งมาก แต่อีกฝ่ายวางแผนก่อนค่อยเคลื่อนไหว ประมาทไม่ได้เช่นกัน
“แต่ฉันไม่รู้ว่าพวกฟีน่าอยู่ที่ไหน” เขาขมวดคิ้วพูด “พวกมันไปตามรอยฝูงแมวกันแล้ว ถ้าจะตามไปก็ต้องย้อนกลับไปทางเดิม แล้วไปตามทางที่แยกกับฟีน่า แต่นี่เสียเวลาเกินไป อาจจะไม่ทัน…”
อีกอย่างตอนนี้สถานการณ์ตรงนี้ก็ยังไม่คลี่คลาย แม้สิงโตภูเขาจะมีชื่อว่าสิงโต แต่อาจจะเป็นสิงโตที่ไก่อ่อนที่สุด คงรับมือกับผู้ชายตัวโตแบบนี้ไม่ไหว หลังจากพวกผู้คุมกำจัดความหวาดกลัวในตอนแรกไปแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้กลัวสิงโตภูเขาขนาดนั้นอีก แถมยังได้เปรียบขึ้นเรื่อยๆ
อยู่ๆ ฟราเทอร์ก็นึกขึ้นได้ “เมื่อครู่ข้าอยู่ใกล้แมวตัวนั้นมาก ยังจำกลิ่นของมันได้ ข้าจะไปตามกลิ่นมัน! ถ้าตามมันเจอ ก็อาจจะหาพวกฟีน่าเจอได้!”
นี่เป็นทางลัดทางหนึ่ง
เฟยหม่าซือจมูกไว แต่กลิ่นของแมวที่นี่ไม่ได้มีแค่กลิ่นเดียว มันไม่รู้ว่าต้องตามกลิ่นไหน และเฟยหม่าซือก็กำลังต่อสู่กับพวกผู้คุม ตอนนี้ปลีกตัวไปไม่ได้
“ดี งั้นนายล่วงหน้าไปก่อนเลย ทางพวกฟีน่าต้องการความช่วยเหลือ พวกฉันจัดการเรื่องที่นี่เสร็จแล้วจะรีบตามกลิ่นนายไป!” จางจื่ออันพูด
ฟราเทอร์พยักหน้าอย่างแรง แล้วไม่พูดมากอีก มันดมหากลิ่นของแมวตัวนั้นจากบนพื้น แล้วลอดเข้าไปในอีกทิศทางหนึ่งของป่า
“เมี๊ยวๆๆ? ฝ่าบาทมีอันตรายหรือ?”
เสวี่ยซือจื่อกำลังเหยียบย่ำผู้หญิงคนนั้นหลายครั้ง พอได้ยินว่าฟีน่าอาจจะเจออันตราย ขนทั่วตัวก็ตั้งชันขึ้นมา
“ไม่รู้สิ แต่พวกเราต้องรีบไปโดยเร็วที่สุด!”
จางจื่ออันรู้สึกถึงสถานการณ์คับขันได้ลึกๆ เห็นผู้คุมคนหนึ่งถอยหลังหลบการจู่โจมของสิงโตภูเขามาเรื่อยๆ จึงถีบเอวด้านหลังของผู้คุมคนหนึ่งออกไปไกล จนอีกฝ่ายกอดเข้ากับสิงโตภูเขาตัวหนึ่งพอดี
“ถุยๆๆ! ชายเฮงซวยพวกนี้ ไม่มีใครดีสักคน!” เสวี่ยซือจื่อร้อนใจจนตาแดงก่ำ ใช้กรงเล็บแทงเอ็นเท้าของพวกผู้คุมโดยไม่ทันตั้งตัว มันแทงพวกเขาอย่างอำมหิตจนยืนขึ้นไม่ไหว
จางจื่ออันกับเสวี่ยซือจื่อเข้าร่วมกลุ่มการต่อสู้แล้ว สถานการณ์จึงเปลี่ยนไป พวกผู้คุมยิงปืนเทเซอร์และปืนยิงตาข่ายหมดแล้ว เปลี่ยนกระสุนก็ค่อนข้างยุ่งยาก ถ้ามือเปล่าอยู่ละก็ จางจื่ออันไม่กลัวพวกเขาหรอก
บรู๋ววว
เสียงหมาป่าหอนดุดันดังมาจากทางที่ฟราเทอร์ไปไกลลิบๆ และดังลั่นไปทั่วทั้งผืนป่า