อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 708 ทำลายวรยุทธไม่ได้
“ข้าไม่มีเวลาว่างเดาอะไรทั้งนั้น เด็กๆ รีบถอดเสื้อผ้าเขาออกซะ เอาไปแขวนไว้บนประตูเมือง แล้วไปเชิญนักวาดมาวาดรูปเขา ทำการเผยแพร่ออกไป”

“กู้ชูหน่วน เจ้ากล้าหรือ”

“เจ้ารอดูแล้วกันว่าข้ากล้าหรือไม่”

ดวงตาของรองหัวหน้าเผ่าซือคงเผยให้เห็นแววสังหารที่น่ากลัว ทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกตกใจอย่างไร้สาเหตุ

เห็นจิตสังหารของเขา ดวงตาของกู้ชูหน่วนก็สว่างวาบขึ้นมา ยิ้มอย่างอ่อนโยน “อยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่ ข้าเกือบจะลืมไป เจ้าเป็นถึงยอดฝีมือระดับหก เก็บเจ้าเอาไว้ไม่ช้าก็คงจะกลายเป็นตัวหายนะ เสี่ยวลู่ ทำลายวรยุทธของเขาก่อน”

“เจ้าค่ะ”

เสี่ยวลู่ค่อยๆเดินเข้าไป มองรองหัวหน้าเผ่าซือคงราวกับมองคนที่ตายไปแล้ว นางยกมือขวาขึ้น จะทำลายกระดูกไหปลาร้าของเขาซะ

แต่แล้ว นางใช้พลังทั้งหมดเจ็ดส่วน ก็ทำลายกระดูกไหปลาร้าของเขาไม่ได้ ร่างกายของเขาราวกับสร้างมาจากเหล็กกล้า

เสี่ยวลู่เพิ่มการใช้พลังเป็นแปดส่วนเก้าส่วนกระทั่งสิบส่วน ก็ไม่สามารถทำลายวรยุทธของเขาได้

ด้วยอารมณ์ชั่ววูบเสี่ยวลู่ยกมือขึ้นตบลงไปที่กลางศีรษะของเขา อยากจะทำลายเขาให้สิ้นซากไปเลย

ตรงกลางกระหม่อมเป็นจุดที่เปราะบางที่สุดของคน ขอเพียงแค่ตบลงไปไม่เพียงแต่สูญเสียวรยุทธทั้งหมดไป ยังเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นคนพิการตั้งแต่หัวจรดเท้า กระทั่งตายในทันที

แต่ว่ากลางกระหม่อมของเขาก็ยังคงเหมือนกับร่างกายของเขาที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า

“ให้ข้าลองดู ”

สวีหู่ทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว รวบรวมพลังยุทธ์ทั้งสิบส่วนหวังจะทำลายวรยุทธของเขา

ผลที่ได้น่าสมเพชกว่าเสี่ยวลู่มาก เขาถูกดีดกระเด็นออกมาทันที ล้มลงจนเขาถลอกปอกเปิกไปหมด

“นี่มันบ้าอะไร ตาเฒ่าคนนี้เป็นคนหรือผีกันแน่”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงยิ้มอย่างได้ใจ

“คนที่ฝึกวรยุทธกลัวการถูกทำลายวรยุทธที่สุด ฉะนั้นข้าได้ศึกษาเรื่องนี้ตั้งแต่เด็ก นอกจากข้าที่ทำลายมันเอง ไม่ว่าใครก็ตามที่มีพลังยุทธ์แข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ไร้ทางทำลายวรยุทธของข้าได้ ยิ่งฆ่าข้าไม่ได้ด้วย”

“เชื่อเจ้าก็บ้าแล้ว”

ลูกน้องอีกคนหนึ่งของกู้ชูหน่วนลุกขึ้นมา เขาถูมือตัวเองไปมาแล้วฟาดฝ่ามือลงไปอย่างไม่เกรงใจ

“ปัง……”

ร่างกายของเขาก็ถูกกระแทกจนปลิวออกไป รองหัวหน้าเผ่าซือคงยังคงไม่เป็นอะไร

คนอื่นๆต่างก็ไม่เชื่อ เข้าไปลองทีละคน ผลที่ได้ก็เหมือนกัน

กู้ชูหน่วนพูดว่า “ไม่ต้องลองแล้ว ทุกจุดที่สามารถทำลายวรยุทธเขาได้ เขาล้วนสร้างเกราะป้องกันเอาไว้ ไม่สามารถโจมตีได้ง่ายๆ”

“เช่นนั้นพวกเราก็ค้นหาปราการป้องกันของเขาก็ได้แล้ว”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงยิ้มเยาะ ราวกับไม่สนใจสิ่งที่สวีหู่พูด และเหมือนกำลังหัวเราะเยาะในความไร้เดียงสาของเขา

“เพียะ……”

สวีหู่ฟาดฝ่ามือลงไปที่ใบหน้าของรองหัวหน้าเผ่าซือคงอย่างแรง

“ตาแก่หนังเหนียว ความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้วยังกล้าหัวเราะเยาะข้า แม้ข้าจะไม่สามารถทำลายวรยุทธของเจ้าได้ ข้าก็ฆ่าเจ้าได้ ข้าไม่เชื่อว่าทั่วทั้งตัวเจ้าจะมีปราการป้องกันทุกจุด”

“ถ้าฆ่าข้า มุกมังกรเม็ดที่เจ็ดก็จะหายสาบสูญไปจากโลกนี้ ประชาชนมากมายของเผ่าหยกก็ต้องตายตกตามข้าไป”

“น่าโมโหจริงๆ นายหญิง ถ้าไม่ฆ่าตาแก่นี่ซะคงจะทำให้ทุกคนโกรธมากแน่ๆ ไม่สู้ให้ข้าน้อยจัดการกับเขาซะ”

เสี่ยวลู่ถลึงตาให้กับสวีหู่ ตะคอกเสียงดุว่า “เจ้าจะมาเพิ่มความวุ่นวายทำไม ถ้าเขาตายไป มุกมังกรเม็ดที่เจ็ดจะทำอย่างไร จะถึงคืนวันเพ็ญแล้วด้วย”

สวีหู่สะบัดแขนเสื้อจากไปอย่างโมโห

มุมปากของกู้ชูหน่วนเผยรอยยิ้มเย็นชา “ทำลายวรยุทธเจ้าไม่ได้ใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าก็ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าของเจ้าก่อน ไม่มีมือกับเท่าแม้ว่าเจ้าจะมีวรยุทธสูงส่งแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้ ข้าไม่เชื่อ ว่าบนเอ็นข้อมือและเท้าของเจ้ายังมีปราการป้องกันอีก”

สีหน้าของรองหัวหน้าเผ่าซือคงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาร้อนใจขึ้นมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ การสกัดจุดของเย่จิ่งหานแก้ยากเกินไป แม้ว่าเขาจะมีเวทมนตร์ไหลเวียนอยู่ทั่วร่าง จนตอนนี้แล้วก็ยังไม่สามารถแก้การสกัดจุดได้ ได้แต่พยายามแก้อย่างสุดกำลังเท่านั้น