บทที่ 532 ทะลุขีดจำกัด

The king of War

หม่าชาวแสยะยิ้ม “งั้นแกรู้ไหม ว่าฉันเกลียดคนแบบไหนที่สุด”

“ฉันเกลียดคนกระจอก ที่ทำตัวอวดเก่ง เพราะแบบนี้ มันไม่สนุกสักนิด”

“แกอยากเห็นตอนฉันแข็งแกร่งที่สุดไม่ใช่เหรอ ได้สิ ฉันจะสนองให้!”

“แต่หวังว่าแกจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”

สีหน้าของทรราชเย็นชา เขากำหมัดทั้งสองข้าง เส้นเลือดปูดขึ้นบนแขนทั้งสองข้าง

กล้ามเนื้อปูดขึ้นภายในเสื้อ ทำให้คนรู้สึกอึดอัด

สีหน้าของหม่าชาวไร้ความหวาดกลัว มีเพียงความตื่นเต้นเท่านั้น

ฝึกฝนในสนามรบมาหลายปี กล้ามเนื้อของเขาก็แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ถึงจะไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนทรราช แต่พละกำลังของเขา ไม่ได้ด้อยไปกว่าทรราช

ลือเหมิงพ่ายแพ้ให้เขาก่อนหน้านี้ ฝีมือพอๆ กับเขา หรืออาจจะเก่งกว่าเขาเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของร่างกายเขาออกมาได้

ทรราชที่อยู่ตรงหน้า ฝีมือต่างกับลือเหมิงไม่น้อย แต่ยังฆ่าเขาไม่ได้

เพราะฉะนั้น ขอแค่ทรราชโดนยั่วโมโห และปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมา ถึงจะดึงศักยภาพที่แท้จริงของเขาออกมาได้

“เข้ามาสิ!”

หม่าชาวแผดเสียงออกมา

ตอนนี้เขาปลดปล่อยพละกำลังออกมาแล้ว ความฮึกเหิมอันน่ากลัว ปกคลุมทั่วร่างกายเขา

แววตาของทรราช เต็มไปด้วยความดูถูก เขาแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ในเมื่อแกรนหาที่ตาย งั้นฉันจะสนองให้แกเอง!”

วินาทีที่พูดประโยคนี้ออกมา ทรราชได้หายวับไปจากที่เดิม

ค่ำคืนในคฤหาสน์ตระกูลเย่ ถึงจะมีแสงไฟสว่างไสว แต่ก็ยังส่งผลกับประสิทธิภาพการมองเห็น

ตอนนี้ คนตระกูลเย่เห็นเพียงเงา พุ่งไปที่หม่าชาว

“มาก็ดี!”

แววตาของหม่าชาวจ้องเขม็ง เขาแผดเสียงออกมา และใช้เท้าขวากระทืบพื้น

“ปัง” เสียงดังสนั่น พื้นสั่นสะเทือน ฝุ่นตลบอบอวล

ร่างของเขาเป็นเงาเช่นกัน และพุ่งเข้าไปสู้

“พลั่ก!”

เสียงอันน่ากลัวดังสนั่น ทั้งสองปะทะกัน

วินาทีนี้ เหมือนฟ้าถล่มดินทลาย รู้สึกเหมือนพื้นสะเทือน

ท่ามกลางการปะทะอันน่ากลัว เห็นเพียงร่างหนึ่ง ถอยกรูดออกมา 5-6 ก้าว

เป็นร่างของหม่าชาว!

ทุกคนเห็นเพียงแวบเดียว ทรราชเหวี่ยงหมัดทั้งสองข้างอีกครั้ง และพุ่งไปยังหม่าชาวที่กำลังถอยหลัง

“พลั่กๆๆ!”

เพียงพริบตา ตัวของทรราชไปอยู่ตรงหน้าหม่าชาว หมัดเหล็กสองหมัด ที่เต็มไปด้วยอานุภาพ พุ่งไปกระแทกหม่าชาวไม่หยุด

สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจ ก็คือหม่าชาวไม่มีทีท่าจะหลบหมัดอันทรงพลัง แต่กลับพุ่งเข้ามาปะทะ

ถึงตัวของเขาจะถอยหลังไม่หยุด แต่ใบหน้าของเขาไม่มีความหวาดกลัวและยอมแพ้เลย กลับดูฮึกเหิมด้วยซ้ำ

“พลั่ก!”

หมัดหนักกระแทกไปอีกครั้ง ร่างของหม่าชาวถอยกรูดไปข้างหลัง

แต่ทว่าครั้งนี้ หม่าชาวถอยเพียงสามก้าว และยืนอย่างมั่นคง

ก่อนหน้านี้ เขาเป็นฝ่ายโดนกระทำ และทำได้เพียงถอย แต่ละหมัดของทรราช ทำให้เขาถอยหลังไป 5-6 ก้าว

แววตาทรราชฉายแววหวาดกลัว คนที่สู้กับหม่าชาวคือเขา คนที่รับรู้ได้ดีที่สุดก็คือเขา

เขารู้ดีว่า พละกำลังของหม่าชาวแข็งแกร่งแค่ไหน ตอนแรกคิดว่าจะกำราบหม่าชาวได้ แต่ทว่าจู่ๆ พละกำลังและความเร็วของหม่าชาว แข็งแกร่งขึ้นมาก

ยิ่งสู้ยิ่งแข็งแกร่ง!

ความคิดน่ากลัว เข้ามาในหัวของเขา

เขาไม่เคยเจอคนแบบนี้ แต่เคยได้ยิน

ในบันทึกศิลปะการต่อสู้ที่สืบทอดมาบางส่วน มีการบรรยายถึงคนแบบนี้

คนแบบนี้ เรียกว่าเกิดมาเพื่อเป็นนักรบ ในบันทึกโบราณเรียกว่าบ้านักรบ

นี่คืออัจฉริยะด้านการต่อสู้ ขีดจำกัดของร่างกายพวกเขาคืออะไร ไม่มีคำจำกัดความเอาไว้

“ไอ้กระจอก แกเป็นใครกันแน่”

หลังจากทรราชเหวี่ยงหมัดไปปะทะกับหม่าชาว หม่าชาวถอยหลังไปเพียงสองก้าวเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่แววตาของทรราชเคร่งขรึม

หม่าชาวยกมือเช็ดคราบเลือดมุมปาก สีหน้าของเขาบ้าคลั่ง เขาพูดอย่างยียวน “แกกลัวหรือไง”

“กลัวเหรอ”

ทรราชแสยะยิ้ม “คนอย่างทรราชเคยกลัวซะที่ไหน ก็แค่แพ้ราบคาบ คนที่ควรกลัว คือแกต่างหาก!”

“ในเมื่อไม่กลัว แล้วทำไมต้องถามว่าฉันเป็นใคร” หม่าชาวแสยะยิ้ม

“แกกำลังกังวลว่าฉันมีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ จนตัวเองไม่สามารถล่วงเกินได้สินะ”

“แกวางใจเถอะ ฉันไม่มีเบื้องหลังอะไร ถ้าถามว่าเบื้องหลังของฉันคืออะไร งั้นแกก็คิดว่าคือพี่เฉินแล้วกัน!”

สีหน้าหม่าชาวเต็มไปด้วยความฮึกเหิม เขาจะปล่อยให้ทรราชยอมแพ้ได้อย่างไร

การที่เขาสู้กับทรราช ทำให้เขาถึงจุดแข็งแกร่งที่สุดของร่างกาย เขารู้สึกว่าตัวเองใกล้ทะลุขีดจำกัดแล้ว เมื่อทะลุได้ พละกำลังของเขา จะต้องเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

“เขาเป็นเพียงลูกที่ถูกตระกูลอวี๋เหวินทอดทิ้ง จะมีเบื้องหลังอะไรได้ล่ะ”

ทรราชแสยะยิ้ม สีหน้าของเขาอาฆาตมาก “ไม่ว่าแกจะมีเบื้องหลังอะไร วันนี้ฉันจะฆ่าแก!”

“พูดอวดเก่งดีนี่!”

หม่าชาวแสยะยิ้ม “ในเมื่อแกมั่นใจขนาดนี้ งั้นก็ฆ่าฉันให้ได้สิ”

เมื่อพูดจบ หม่าชาวขยับเท้า และพุ่งเข้าไปหาทรราชอีกครั้ง

ทั้งสองต่อกรกันอีกครั้ง การปะทะที่แข็งแกร่ง มีพลังทำลายล้างอันน่ากลัว

ที่ที่พวกเขาปะทะกัน เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง

ถ้าการต่อสู้ของพวกเขา โดนคนในตระกูลเย่ คงจะตายในพริบตาเดียว

ถึงจะเป็นคู่หูขาวดำข้างกายเย่จี้จง ตอนนี้พวกเขาก็อึ้งไปเหมือนกัน พวกเขาร่วมมือกัน คือพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลเย่แล้ว

แต่ทว่าตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นหม่าชาวหรือทรราช พละกำลังในการต่อสู้ ที่พวกเขาแสดงให้เห็น เหนือชั้นกว่าคู่หูขาวดำมาก

คิดถึงก่อนหน้านี้ ที่พวกเขาคิดจะร่วมมือกันจัดการหม่าชาวกับหยางเฉิน พวกเขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ

กลัวว่าถึงจะร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถสู้หม่าชาวได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนที่ยังไม่ออกโรง แต่มีพละกำลังน่ากลัวกว่านี้

ตอนนี้ทรราช ปลดปล่อยพละกำลังออกมาทั้งหมด การโจมตีแต่ละครั้งล้วนถึงตาย เขาพุ่งไปเอาชีวิตหม่าชาว

“ไสหัวไป!”

เสียงอันดุดันดังขึ้น ฝ่ามือของทรราชกระแทกตรงอกหม่าชาว แรงปะทะอันมหาศาล เหมือนเสียงคำรามของรถบรรทุกพุ่งเข้ามา ทำให้ร่างของหม่าชาวกระเด็นออกไป

หม่าชาวรู้สึกว่าอวัยวะภายในเคลื่อนตัว เขารู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดในลำคอ จากนั้นจึงกระอักเลือดออกมา และล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง

“ไอ้กระจอก ตอนนี้รู้หรือยังว่าแกกับฉัน ห่างชั้นกันแค่ไหน”

ทรราชยิ้มอย่างเวทนา และก้าวเข้าไปหาหม่าชาว

ดูเหมือนว่าเขายังยืนได้ แต่ความเป็นจริง มีเพียงตัวเขาที่รู้ดี พละกำลังของเขาหายไปมาก ฝ่ามือเมื่อครู่ คือพละกำลังเฮือกสุดท้ายของเขา

ถ้าหม่าชาวยังยืนขึ้นมาได้ คนที่จะล้มลงไป อาจต้องเป็นเขา

แต่ทว่าขณะนั้น เขาตกใจ คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างหม่าชาว ตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้น ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความดื้อดึงและความอาฆาต

วินาทีนี้ ทรราชรู้สึกขนลุก เขายืนนิ่ง ไม่สามารถเดินต่อไปได้

“ขอบใจ ที่ทำให้ฉันทะลุขีดจำกัดของตัวเอง”

หม่าชาวแสยะยิ้มมุมปาก และถามอย่างยียวน “แกว่าฉันควรขอบใจแกยังไง ฆ่าแกหรือฆ่าแกดีไหม”

เมื่อพูดจบ พละกำลังอันทรงพลัง พลุ่งพล่านออกจากตัวเขา

ทันใดนั้น ความรู้สึกอันตราย ปกคลุมทั้งตัวหม่าชาว หม่าชาวจ้องเขม็ง ตัวเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ

“พลั่ก!”

วินาทีต่อมา เสียงปืนแสบแก้วหู ดังขึ้นกลางอากาศ ในบ้านตระกูลเย่