บทที่ 1351 ดื่มเหล้าไหม / บทที่ 1352 พูดโม้ก็อันตรายขนาดนี้

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1351 ดื่มเหล้าไหม

เยี่ยหวันหวั่นได้แต่พยักหน้ารับการเตือนด้วยความหวังดีของเจ้าสวะหมา

เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่อยากพัวพันมากเกินไป จุดประสงค์ดั้งเดิมที่เธอมารัฐอิสระก็แค่เพื่อตามหาซือเยี่ยหาน จากนั้นถามความจริงของเรื่องราว แล้วก็พาซือเยี่ยหานกลับประเทศจีน แต่ใครจะนึกถึงว่ หลังมาถึงรัฐอิสระ เรื่องทั้งหมดกลับเหนือการควบคุมของเธอ ยิ่งถลำตัวยิ่งจมลึก ไม่อาจถอนตัวได้

“ท่านหมาไม่ได้สร้างกองกำลังไหนเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นมองเจ้าสวะหมา เธอค่อนข้างสงสัย

ผู้ชายตรงหน้านี้ว่ากันว่าครองพลังอันเด็ดขาด โดยเฉพาะในสถานที่อย่างรัฐอิสระที่ไม่สามารถใช้อาวุธปืน อีกทั้งยังไม่มีกฎหมายผูกมัดมากมาย ค่าพลังต่อสู้เทียบเท่ากับทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยตัวตนระดับนี้ ทำไมเจ้าสวะหมาไม่สร้างกองกำลังของตัวเอง สร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา?

ได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น เจ้าสวะหมาชะงักเล็กน้อย หลังไตร่ตรองชั่วครู่ก็เอ่ยปาก “ทำไมต้องสร้างกองกำลัง…ดึงดูดพวกขยะไร้ประโยชน์เข้ามามีความหมายตรงไหน”

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูดเมื่อเจ้าสวะหมาเอ่ยออกมาเช่นนี้ เกรงว่าในสายตาของเจ้าสวะหมา นอกจากตัวเองแล้ว ทุกคนก็ต่างล้วนคือขยะ…

หลงตัวเองเข้ากระดูกดำจริงๆ…

“ดื่มเหล้าไหม” ผ่านไปชั่วครู่ เจ้าสวะหมาก็เอ่ยถามกับเยี่ยหวันหวั่น

ได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นอยากปฏิเสธโดยจิตใต้สำนึก แต่คิดดูอีกทีจึงค้นพบว่าเวลานี้ไม่มีคนคอยสนใจเธอ หลังใจลอยครู่หนึ่งเยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้า “ก็ได้…”

เจ้าสวะหมาลุกขึ้นไปหยิบเหล้ามารินให้เยี่ยหวันหวั่นหนึ่งแก้วทันที “เหล้านี้ฉันหมักเอง อยู่ข้างนอกคุณไม่มีทางได้ดื่มแน่นอน”

“โอ้?” เยี่ยหวันหวั่นสนใจทันทีทันใด

เยี่ยหวันหวั่นเทเหล้าเต็มแก้วเข้าปากอย่างรวดเร็ว

“รสชาติเป็นไง” เจ้าสวะหมามองเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยถาม

เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ

เจ้าสวะหมา “?”

“รสชาติไม่เลว…แต่ นี่ไม่เหมือนรสเหล้านะ…” เยี่ยหวันหวั่นวางแก้วเหล้าในมือ สีหน้ายากบรรยาย

เธอยังไม่เคยดื่มเหล้าที่ไม่มีรสชาติเหล้ามาก่อน

“อืม” เจ้าสวะหมาพยักหน้า “ไม่มีแอลกอฮอล์ แต่มีรสหวาน”

เยี่ยหวันหวั่นมองเจ้าสวะหมาด้วยสีหน้าว่างเปล่า “ท่านหมา…งั้นฉันขอทำความเข้าใจได้หรือเปล่า นี่คือเครื่องดื่ม?”

“จะเข้าใจแบบนั้นก็ได้เหมือนกัน” เจ้าสวะหมาเอ่ย

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด

งั้นนายถามฉันหาพระแสงอะไรว่าดื่มเหล้าหรือเปล่า…เครื่องดื่มก็คือเครื่องดื่ม ตั้งใจย้อมกวางเป็นม้าเรอะ!

“จริงสิ ท่านหมา ฉันก็อยู่ข้างบ้านคุณนี่แหละ…มีเวลาก็มาเยี่ยมเยียนได้” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยกับเจ้าสวะหมา

“ข้างบ้าน?” เจ้าสวะหมาเงยหน้า “ข้างบ้านฉันก็มีแค่บ้านผีสิงหลังเดียว”

เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าจนใจเต็มเปี่ยม “นั่นอย่างมากก็เป็นบ้านอัปมงคล…บ้านผีสิงก็เกินไปหน่อยนะ…”

“คุณหนูเยี่ยอยู่ในบ้านผีสิงหลังนั้น?” เจ้าสวะหมาค่อนข้างแปลกใจ

“ใช่ ฉันอยู่ในบ้านผีสิงนั้น…” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า

เจ้าสวะหมาไม่สนิทกับผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแม้แต่น้อย เลยไม่รู้ที่อยู่เก่าของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย ดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นพูดว่าตัวเองอยู่ข้างบ้านก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้

“โอ้…ระวังหน่อยนะ ด้านในนั้นมีผี” เจ้าสวะหมาพูดลอยๆ หนึ่งประโยค จากนั้นก็ลุกขึ้นเริ่มเก็บโต๊ะ

เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุกน้อยๆ เจ้าสวะหมานี่คงไม่ได้จงใจหรอกนะ!

“จริงสิ ท่านหมา…” ฉับพลันนั้น เยี่ยหวันหวั่นขวางด้านหน้าเจ้าสวะหมา “ช่วงนี้ฉันได้ข่าวหนึ่งมา มีคนเตรียมไปกวาดล้างอาชูร่า แถมรางวัลที่ให้ยังก้อนโตมาก ท่านหมาสนใจหรือเปล่า…”

———————————————————————————————-

บทที่ 1352 พูดโม้ก็อันตรายขนาดนี้

ถ้าเจ้าขยะหมาเต็มใจลงมือจัดการอาชูร่า งั้นตัวเธอก็ไม่ใช่นั่งสบายๆ หรอกเหรอ

ถึงตอนนั้นสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ให้เงินสามเท่า เธอให้เจ้าสวะหมาหนึ่งเท่า ก็ยังเหลืออีกสองเท่า…

“ไม่สนใจ” เจ้าสวะหมาเอ่ยเสียงเรียบ

“ได้เงินเยอะมากๆ เลยนะ!” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างกระตือรือร้น

“เท่าไร” เจ้าสวะหมามองเยี่ยหวันหวั่น

“ราวๆ เท่านี้…” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเบา

“ฉันไม่สนใจกองกำลังภายนอก แล้วก็จะไม่สอดมือยุ่ง ไม่งั้นคุณคิดว่าพันธมิตรอู๋เว่ยจะอยู่รอดจนถึงวันนี้ได้เหรอ” เจ้าสวะหมามองเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ย

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

กลายเป็นว่าไม่ใช่ว่าเจ้าสวะหมาออมมือให้ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย แต่คนเขาไม่สนใจลงมือเลยต่างหาก!

“คุณหนูเยี่ย…คุณคงไม่ได้ขายประตูอย่างเดียวสินะ” จู่ๆ ดวงตาลึกล้ำของเจ้าสวะหมาก็มองมาที่เยี่ยหวันหวั่น

ได้ยินแบบนั้นเยี่ยหวันหวั่นพลันใจฝ่อเล็กน้อย นี่หรือว่าถูกมองทะลุแล้วเหรอ…

“นอกจากขายประตู คุณน่าจะยังเป็นคนกลางแจกจ่ายภารกิจ มีกองกำลังใหญ่ปล่อยภารกิจออกมา แล้วคุณก็รับหน้าที่หาคนทำภารกิจ จากนั้นก็หักเปอร์เซ็นต์ ฉันพูดถูกสินะ” เจ้าสวะหมาพูดต่อ

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

คะ…คนกลาง…เธอดูเหมือนคนกลางเหรอ

“ใช่ ท่านหมาเก่งกาจจริงๆ ดูออกหมดเลย คนต้องหาเลี้ยงปากท้อง ทำไงได้” เยี่ยหวันหวั่นรีบยิ้มเอ่ย

“พรุ่งนี้มาช่วยฉันเปลี่ยนประตูแล้วกัน ส่วนภารกิจฉันไม่รับ” เจ้าสวะหมาเอ่ย

เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ

ได้ คุณเป็นพี่ใหญ่พูดอะไรก็ถูกทั้งนั้นแหละ…

ตอนออกจากบ้านของเจ้าสวะหมาก็เป็นช่วงดึกมากแล้ว

หลังกลับมาถึงบริษัท เป่ยโต่วเริ่มทำการวางแผนปรับปรุงชั้นเจ็ดแล้ว ส่วนกลุ่มผู้อาวุโสที่ชั้นเจ็ดก็ไม่ได้พูดอะไรมาก พวกเขาย้ายไปอยู่ชั้นอื่นแทน

ในห้องทำงาน ต้าไป๋กับบีรุสกำลังนอนกรน กรงเล็บของบีรุสวางบนท้องของต้าไป๋อย่างสบายใจเฉิบ

“พี่เฟิง ผมจองที่แล้ว!”

เวลานี้เป่ยโต่วเดินเข้ามาในห้องทำงาน เขายิ้มเอ่ยปาก

“รอเดี๋ยว…” เยี่ยหวันหวั่นมองเป่ยโต่ว “นายซ่อมประตูเป็นไหม”

“ซ่อมประตู?” เป่ยโต่วชะงักหนึ่งที จากนั้นก็เหยียดยิ้ม “ไม่มีอะไรที่ผมทำไม่ได้ พี่เฟิง ประตูห้องทำงานพี่ ผมก็เป็นคนติดตั้ง”

“ดีมาก” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าอย่างชื่นชม อย่างที่คนเขาว่าเลี้ยงกองทัพพันวันใช้กองทัพหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดเป่ยโต่วนี่ก็ได้เป็นประโยชน์แล้ว

เยี่ยหวันหวั่นส่งที่อยู่ของเจ้าสวะหมาให้เป่ยโต่วทันทีแล้วเอ่ย “พรุ่งนี้สวมชุดคนงานแล้วไปตามที่อยู่ที่ฉันให้ ไปติดประตูนิรภัยหนึ่งบาน”

“อ่า ให้ผมเป็นคนงานติดตั้งประตูเหรอ” เป่ยโต่วเหมือนยากจะรับได้อยู่บ้าง ไหนเลยเขาจะติดประตูเป็น เมื่อกี้ก็แค่โม้ตามอำเภอใจก็เท่านั้นเอง!

“อย่าไร้สาระ ให้นายไปก็ไปซะ” เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเป่ยโต่วหนึ่งที

“ก็ได้…” เป่ยโต่วได้แต่ตอบรับด้วยความจนใจ สมัยนี้พูดโม้ก็อันตรายขนาดนี้เลยเหรอ…

“พี่เฟิง พวกชีซิงกำลังรออยู่ พวกเราไปกันเถอะ”

เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยเร่ง

เยี่ยหวันหวั่นไม่อยากไปสถานที่ที่เป่ยโต่วว่าแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อเมื่อก่อนแบดเจอร์ชอบไป ตัวเธอจะปฏิเสธก็ไม่ค่อยสะดวก

เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ลุกขึ้นด้วยความจนใจ แล้วตามเป่ยโต่วออกจากพันธมิตรอิสระ

นอกจากเป่ยโต่วแล้ว พวกชีซิงกับชิวสุ่ยก็มาร่วมด้วย

ราวครึ่งชั่วโมงผ่านไป เยี่ยหวันหวั่นจึงค่อยเข้าใจว่าสถานที่ที่เป่ยโต่วว่า ที่แท้ก็คือไนต์คลับขนาดใหญ่ประเภทสุดแสนจะหรูหรา…

มารดาเถอะ เธอไม่เคยมาสถานที่อย่างนี้มาก่อนนะ ต้องทำยังไงถึงจะแสร้งเหมือนคนเจนประสบการณ์ละเนี่ย!?