TB:บทที่ 275 ป้องกันกระสุนด้วยมือข้างเดียว

 

ด้วยกำลังของหมัดเฉินหลง ใบหน้าของพวกทหารผิวดำฉายแววความกลัว เพราะพวกเขารู้สึกว่าร่างของพวกเขาไม่อาจจะขยับเขยื้อนได้ พวกเขาทำได้พียงมองหมัดของเฉินหลงต่อยโดนศีรษะของพวกเขา

หมัดหมัดเดียว

พละกำลังของเฉินหลงที่แข็งแกร่งต่อยหัวของพวกทหารผิวดำทำให้หัวพวกนั้นแหลกละเอียดราวกับเป็นแตงโม

“ทหารซุปเปอร์แมน” อีกสองคนเห็นพวกของเขาโดนฆ่าไปด้วยหมัดหมัดเดียวแล้ว พวกเขาพลันรีบพุ่งเข้าหาเฉินหลง

 

เมื่อเห็นว่าอีกสองคนเข้ามา มีดนรกของเฉินหลงก็ปรากฏขึ้นในมือเขา ด้วยการฟาดฟันเพียงครั้งเดียวไปทางเดียวกับที่คนทั้งสองโจมตีมา “ทหารซุปเปอร์แมน” ทั้งสองก็กลายเป็นสี่ท่อน อีกทั้งยังมีสารเรืองแสงสีฟ้าไหลออกมาด้วย คล้ายกับว่าอิทธิพลของยีนส์เอเลี่ยนจะมีผลต่อพวกมันอย่างมากมาย

“ทหารซุปเปอร์แมน” ทั้งสองนี้ไม่ได้ตายไปทันทีหลังจากโดนสะบั้นเอวไป พวกมันยังคลานมาทางเฉินหลงต่อด้วยสองมือบนพื้นนั่น ยีนส์ของเอเลี่ยนทำให้กำลังกายของพวกมันแข็งแกร่งขึ้น

เฉินหลงไม่ต้องการจะเสียเวลากับพวกมัน เขาจึงตัดพวกมันออกเป็นสองท่อนจากกลางหน้าผาก

หลังจากนั้น เฉินหลงก็ไปยังถ้ำที่ซ่อนตัวอย่างดีของฟางเจ่อเจี่ย

ภายหลังจากการตายของ“ทหารซุปเปอร์แมน” ทั้งสาม พวกที่อยู่ในฐานทัพลับที่คลีเวอร์ตันยังรู้สึกได้

 

พวกมันทั้งหมดมาจากยีนส์ของเอเลี่ยนเดียวกันที่มีการผสมผสานและกลายพันธุ์แล้ว แม้ว่าพวกมันทุกตัวจะมีร่างเป็นของตน ทว่าจิตวิญญาณของพวกมันก็เกี่ยวโยงไว้ด้วยยีนส์เดียวกัน พวกมันรู้สึกถึงความตายของเพื่อนทั้งสามได้ทันที

“เจสัน พวกนั้นทั้งสามได้ตายไปแล้ว” คลีฟมองนักสู้ของเขาด้วยความเศร้าสร้อยเล็กๆ

“กัปตัน เราไปดูกันเถอะว่าใครที่กล้ามาฆ่าพวกของเรา” ชายผิวขาว สูงใหญ่ ท่าทางแข็งแรงกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว

“ไปสิ เราจะตามหาเขาและฉีกเขาเป็นชิ้นๆ”

“ฉันจะไปขุดหัวใจมันออกมา”

 

สมาชิกทีมคลีฟแลนด์ทั้งหมดว่าอย่างกราดเกรี้ยวเนื่องจากพวกเขาผูกพันกันด้วยยีนส์ คล้ายกับเป็นพี่น้องกัน ในตอนนี้ที่พี่น้องของพวกเขาโดนฆ่าไปแล้ว พวกเขาจะไม่โกรธไปได้อย่างไรกัน

“ได้เลย ไปกันเถอะ ไปตามหาคนคนนั้นด้วยกัน”

สิ้นคำ คลีฟ นำทีมและมุ่งหน้าไปยังที่ที่คนทั้งสามเคยอยู่ เพื่อทำตามคำสั่งแล้ว คลีฟไม่ได้ใส่ใจเลย

ในเวลาที่เขาตื่นขึ้น ความรักชาติอย่างมนุษย์ยังคงควบคุมเขาไว้ ทำให้เขาฟังคำของโคลแมน แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากสองสามวันต่อมา คลีฟสงสัยว่าทำไมเขาจึงต้องฟังคำของชายที่อ่อนแอกว่าเขาด้วย และทำไมเขาจึงตัดสินใจเองไม่ได้ ความทะเยอทะยานค่อยๆก่อขึ้นในใจของคลีฟ

 

ความตายของสามเพื่อนพ้องก็เป็นแรงผลักดันให้ก้าวแรกสู่การควบคุมตัวเองของเขา การต่อต้านคำสั่งของโคลแมนคือการที่เขายังอยู่ที่ฐานต่อ

คลีฟและคนอื่นๆออกจากฐานไปแล้ว โคลแมนได้รับข่าวในทันที เขารีบวางทุกสิ่งอย่างในมือ และพุ่งเข้ามาหา พวกเขาเป็นสมบัติของชาติ และพวกเขาไม่อาจปล่อยให้เกิดปัญหาอะไรกับพวกนี้

 

เฉินหลงไปยังถ้ำที่ฟางเจ่อเจี่ยซ่อนตัวอยู่ เขาเปิดถ้ำออกอย่างเงียบเฉียบ เขาเข้าไปและปิดปากถ้ำไว้

“อืม การระบายอากาศที่นี่ไม่เลวเลย ไม่ได้รู้สึกเหมือนขาดอากาศ” เมื่อเขาไปยังเตียงของฟางเจ่อเจี่ยแล้ว เฉินหลงนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดียวที่มีในถ้ำและเป็นที่ตั้งของโต๊ะ เขาชมถ้ำของฟางเจ่อเจี่ยในใจ

ในตอนนั้นฟางเจ่อเจี่ยไม่รู้ว่าที่ที่เขาคิดว่าเป็นความลับอย่างที่สุดและไม่มีทางมีใครเจอได้ ในเวลาเดียวกัน เขาพยายามจะเพิ่มระดับอยู่ใน “นิวเวิร์ล”

เฉินหลงรอพักหนึ่ง เขาพบว่าฟางเจ่อเจี่ยยังคงเล่นเกมอยู่ เขาจึงทำได้เพียงยื่นมือออกไปและผลักเขา

 

จากนั้นฟางเจ่อเจี่ยก็ต้องตกตะลึงในสิ่งที่เห็น เขาหันไปรอบๆและหยิบปืนพกยูเอสพีที่มีลำกล้องเก็บเสียงมายิงเฉินหลง

กระสุนเด้งออกไปจากปากกระบอกด้วยดินปืนและยิงออกไปอย่างรวดเร็วใส่หน้าผากของเฉินหลง

ฟางเจ่อเจี่ยนั้นรอบคอบขนาดที่ทำให้เฉินหลงทำได้เพียงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะเดียวกัน เขาก็กันปืนที่ยิงมาด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้อย่างเบามือ

 

“อย่ากลัวไป ฉันมาด้วยตัวฉันเอง เป็นคนกำราบพวกซุปเปอร์แมน” เฉินหลงมองฟางเจ่อเจี่ยด้วยตาที่เบิกกว้างและสีหน้าที่หวั่นกลัว

ช่วยไม่ได้ที่หากมีใครมาเห็นภาพนิ้วมือคีบกระสุนที่ยิงออกมาจากปากกระบอกปืนแบบนี้จะไม่หวาดหวั่นและเกรงกลัว

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อฟางเจ่อเจี่ยได้ยินเฉินหลงพูดรหัสลับ ใจของเขาก็พลันปล่อยวาง

“หากว่านายมาที่นี่เอง นายก็น่าจะบอกตั้งแต่แรก ฉันกลัวแทบตายแหน่ะ” ฟางเจ่อเจี่ยวางปืนลง และตบตัวเองเบาๆบนอก เขากล่าวออกไป

 

“นี่ ผมควรจะกลัวคุณ หากว่าผมไม่ได้ฝึกฝนมา ผมคงโดนคุณยิงตายไปแล้ว” เฉินหลงกรอกตาขาว เขาเปลี่ยนคนที่ได้ฆ่าเขาไปแล้ว เขาเก่งไม่เลว เพราะแทนที่เขาจะโทษคนที่ตัวเขาที่ทำให้เขากลัว

“จะว่าไป ทำไมนายถึงเก่งจัง แล้วอีกอย่าง นายเป็นคนต่างชาติ ทำไมนายจึงอยากจะช่วยเรา” ฟางเจ่อเจี่ยถามราวกับเป็นเด็กช่างสงสัย

กำลังของเฉินหลงที่ใช้จับกระสุนไว้ด้วยมือช่างมีท่าทางงดงาม นั่นทำให้ความสงสัยของฟางเจ่อเจี่ยทะยานสูงขึ้น

“คนต่างชาติ ฉันไม่ใช่คนต่างชาติ” เฉินหลงเริ่มจะพูดด้วยภาษาจีนแท้ๆ เฉินหลงจับใบหน้าของเขาและเผยหน้าที่แท้จริงของเขา

 

เมื่อเห็นสิ่งต่างๆในเสี้ยววินาที เฉินหลงเปลี่ยนจากคาวบอยตะวันตกตัวจริงเป็นชายจีนแท้ๆ ใบหน้าของฟางเจ่อเจี่ยแสดงสีหน้าตื่นตกใจ “นี่นาย ทำได้อย่างไร นี่คือการเปลี่ยนร่างในตำนานนี่ นายทำง่ายๆแบบนั้นได้อย่างไร” กล่าวจบฟางเจ่อเจี่ยหันไปหาเฉินหลงและมองเขา

“ใช่แล้ว แต่คุณนั่งลงไม่ได้หรือ คุณทำให้ผมมึนแล้ว” เฉินหลงว่า

“หากว่าฉันถือว่านายเป็นอาจารย์ นายจะสอนฉันเปลี่ยนแปลงหน้าได้หรือไม่” ฟางเจ่อเจี่ยหยุดและมองเฉินหลงด้วยสีหน้าจริงจัง

“ไม่ล่ะ ต้องขอโทษด้วย คุณคงเรียนเทคนิคการเปลี่ยนแปลงใบหน้าได้ง่ายมากๆ หากว่าคุณไม่สนใจผมและแค่เรียนการทำเช่นนั้นไป” เฉินหลงยิ้ม

ไม่ว่าจะอย่างไร หากว่าเขาต้องการจะส่งเขากลับไปอย่างปลอดภัย เขาก็ต้องใช้ “หน้ากากพันหน้า” นี่ หากว่าเฉินหลงให้เขาไว้ เขาจะเรียนรู้การใช้ได้

เมื่อได้ยินที่เฉินหลงว่าแล้ว ใบหน้าของฟางเจ่อเจี่ยตื่นเต้น เขากล่าวไป “จริงๆหรือ นายโกหกฉันไม่ได้นะ”

เฉินหลงยิ้มและกำลังจะพูดต่อไป ทว่าด้วยใบหน้าบึ้งตึง เขาทำให้ฟางเจ่อเจี่ยไม่พูดหรือขยับต่อไป

ฟางเจ่อเจี่ยนั่นฉลาดมากๆ เขาพลันไม่ขยับต่อและมองขึ้นข้างบนและจ้องตาเขา

“หัวหน้า นี่คือเจสันและพวก คนที่ฆ่าพวกนั้นมีแค่คนเดียว และเขาช่างแข็งแกร่ง เจสันโดนทุบที่หัวด้วยการโจมตีครั้งเดียวและไม่มีการต้านทานเลย โทมัสและถังเตอโดนตัดออกเป็นสองส่วนด้วยอาวุธมีคม พวกเขาโดนแยกเป็นสองส่วน รอยตัดสมบูรณ์มาก”

จากด้านบน ฟางเจ่อเจี่ยมองเฉินหลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เนื่องจากมีเพียงเฉินหลงที่มาจากด้านบน ดังนั้นแล้วจะต้องเป็นเฉินหลง พลังของเจสัน ฟางเจ่อเจี่ยรู้อย่างแน่ชัดมากกว่าว่าเขาไม่รู้ว่าจะไปที่ใด ด้วยพลังเช่นนั้นเบื้องหน้าเฉินหลงช่างอ่อนด้อยนัก