บทที่ 1918 - ผู้นำหมาป่าเทวะ องค์ชายน้อย องค์จักรพรรด

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1918 – ผู้นำหมาป่าเทวะ องค์ชายน้อย องค์จักรพรรดิ
  ชิงสุ่ยรู้ว่าสิ่งที่เขากล่าวมันเป็นความจริงเกินไปแต่ก็ช่างน่าแปลกที่มหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์นิ่งเฉยกับความอับอายที่ได้รับ
  ”พ่อหนุ่มน้อยเจ้าคิดอย่างไรในข้อเสนอขอข้าที่ให้กับเจ้าไปก่อนหน้านี้?”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ แม้จะไม่ได้อ่อนโยนแต่ก็จริงจังและน่าประทับใจ จริงๆแล้วมันเป็นน้ำเสียงที่ฟังดูรื่นหูเสียมากกว่า
  ชิงสุ่ยมองดูท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยพื้นดินอันอุดมสมบูรณ์ก่อนจะโต้ตอบกับชายชราคนนั้นว่า “มหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์แย่กว่าที่ข้าคาดคิดเอาไว้มาก ข้าเลยไม่รู้สึกสนใจในตัวของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์”
  ชายชราดูเหมือนจะไม่แปลกใจในคำตอบของชิงสุ่ยขณะที่เขาเคยเห็นรอยยิ้มอันแสนหายากบนใบหน้า “สิ่งที่เจ้าพูดมันเป็น
บทที่ 1918 – ผู้นำหมาป่าเทวะ องค์ชายน้อย องค์จักรพรรดิ
  ชิงสุ่ยรู้ว่าสิ่งที่เขากล่าวมันเป็นความจริงเกินไปแต่ก็ช่างน่าแปลกที่มหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์นิ่งเฉยกับความอับอายที่ได้รับ
  ”พ่อหนุ่มน้อยเจ้าคิดอย่างไรในข้อเสนอขอข้าที่ให้กับเจ้าไปก่อนหน้านี้?”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ แม้จะไม่ได้อ่อนโยนแต่ก็จริงจังและน่าประทับใจ จริงๆแล้วมันเป็นน้ำเสียงที่ฟังดูรื่นหูเสียมากกว่า
  ชิงสุ่ยมองดูท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยพื้นดินอันอุดมสมบูรณ์ก่อนจะโต้ตอบกับชายชราคนนั้นว่า “มหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์แย่กว่าที่ข้าคาดคิดเอาไว้มาก ข้าเลยไม่รู้สึกสนใจในตัวของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์”
  ชายชราดูเหมือนจะไม่แปลกใจในคำตอบของชิงสุ่ยขณะที่เขาเคยเห็นรอยยิ้มอันแสนหายากบนใบหน้า “สิ่งที่เจ้าพูดมันเป็นความจริง มหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ถูกแบ่งออกเป็น 3 นิกายใหญ่ ซึ่งหนึ่งในคนที่เจ้าฆ่าไปก็มาจากหนึ่งนิกาย ซึ่งเราทั้งสามคนก็เป็นส่วนหนึ่งของอีก 1 นิกาย ส่วนอีกหนึ่งก็เป็นคนของอีกหนึ่งนิกาย”
  ”เฉิงหยวนมันเพิ่งฆ่าพี่ใหญ่ของข้า ท่านกำลังหมายความว่าอย่างไร? แล้วท่านไม่กลัวว่าผู้นำหมาป่าอมตะจะยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างนั้นเหรอ”ผู้นำเทวคนที่ได้รับบาดเจ็บตอนแรกดวงตาเดือดดาบขณะเปล่งเสียงตะโกน
  ”ผู้นำหมาป่าอมตะคือผู้นำของเจ้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้า หากเจ้าอยากจะแก้แค้น เจ้าก็ต้องหาหนทางเจ้าเอง”ชายชรายังคงใบหน้านิ่งเฉย แต่คำพูดของเขาแฝงไปด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
  ”แต่ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเราต่างก็เป็นคนของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ ท่านกำลังดึงศัตรูเข้ามาเป็นฝ่ายเดียวกัน หรือว่าท่านกำลังสมรู้ร่วมคิดกับศัตรู”  ”อย่ามาพูดจาอวดดีกับข้าเจ้าคงคิดว่าผู้นำของเจ้าอยู่เหนือสุดของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์อย่างนั้นเหรอ? ไร้สาระ”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงดูถูกแฝงไปด้วยความยโส มันเป็นน้ำเสียงของผู้คนที่ใช้บงการผู้อื่น
  ”ก็ดีข้าจะได้บอกให้ท่านผู้นำหมาป่าเทวะของข้าภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ หวังว่าองค์ชายน้อยจะปกป้องพวกท่านได้ ไปกันเถอะ”ผู้นำเทวะวางแผนที่จะเดินทางกลับทันที
  ”ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าจากไปได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?”ชิงสุ่ยเปล่งเสียงตะโกน
  ผู้นำเทวะซู่ถึงกับตัวสั่นก่อนจะหันมามองชิงสุ่ยและพยายามทำหน้าเคร่งขรึม “เจ้าคิดจะเอาชีวิตของข้าอย่างนั้นสินะ?”
  ”หากข้าจะฆ่าเจ้าเจ้าไม่ต่างอะไรจากมดปลวกในสายตาของข้า เจ้ามาที่นี่เพื่อฆ่าข้า การที่เจ้าจะออกไปง่ายๆมันดูตลกเกินไป”ชิงสุ่ยจ้องมองผู้นำเทวะซู่ด้วยสายตาเย็นชา
  ”ไอ้บัดซบแกฆ่าพี่ใหญ่ของข้า อย่ามาทำเป็นริอาจอวดดีเกินไป ข้าจะต้องกลับมาทวงคืนความยุติธรรมอย่างแน่นอน”ผู้นำเทวะซู่กล่าวพร้อมกับยืนตัวสั่น
  ”อย่างนั้นเหรอ?ทำไมเราไม่ตัดสินกันวันนี้ แทนที่จะรอคอยเจ้ากลับมาล่ะ? เพราะในอนาคตข้ายังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ”ดวงตาของชิงสุ่ยทอแสงสว่างวาบอัดแน่นไปด้วยจิตสังหาร พร้อมกับพุ่งทะยานเข้าหาผู้นำเทวะซู่ทันที
  ชิงสุ่ยรู้ดีว่าการที่เขาสังหารพี่ใหญ่ของชายคนนี้ไปคงไม่ทำให้ชายคนนี้ยอมวางมือ มันเองก็คงจะทำทุกวิถีทางเพื่อกลับมาแก้แค้น ดังนั้นการที่มันยังมีชีวิตอยู่ คงทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง
  ชิงสุ่ยไม่ได้สนับสนุนให้ทุกคนแสดงความโหดเหี้ยมแต่เขาก็ไม่ได้ต่อต้านคนแบบนี้ ตราบใดที่คนเหล่านี้ไม่ได้ลุกลานเขา
  ”ไอ้บัดซบคนนี้มันพยายามจะฆ่าข้าเฉิงหยวนเจ้าจะยืนดูมันสังหารคนของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์โดยไม่ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ? ถึงแม้ว่าเราสองคนจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกัน แต่มันเป็นเพียงแค่คนนอก ถ้าหากเหตุการณ์วันนี้ถึงหูของท่านองค์จักรพรรดิ แม้แต่องค์ชายน้อยก็จะปกป้องเจ้าไม่ได้”ผู้นำเทวะซู่ตะโกนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
  เฉิงหยวนเปลี่ยนสีหน้าก่อนจะไปปรากฏตัวขวางกั้นระหว่างชิงสุ่ยกับผู้นำเทวะซู่ อย่างน้อยคำพูดของผู้นำเทวะซู่ก็ถูกต้อง พวกเขามาจากมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ ฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทั้งสองคนก็คงต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตัวของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์แม้จะไม่ได้อยากให้เกิดเหตุขัดแย้งกันภายใน แต่มันก็คงห้ามไม่ได้ ซึ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู พวกเขาจำเป็นจะต้องมองข้ามความขัดแย้งเหล่านี้
  ”พ่อหนุ่มน้อยเจ้าคิดอย่างไรกับคำขอของข้าก่อนหน้านี้? มหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าคิด การที่จะเข้าร่วมกับมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ย่อมเป็นประโยชน์ต่อตัวของเจ้า ที่สำคัญ เจ้ายังคงทำตามสิ่งที่เจ้าต้องการได้โดยไม่ถูกขัด และเจ้าก็สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างตามใจของเจ้าได้เหมือนเดิม”เฉิงหยวนมันจะชอบในตัวของชิงสุ่ย เขาจึงพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างสุดความสามารถ
  ”ผู้อาวุโสทำไมท่านถึงต้องปกป้องคนแบบนี้ด้วย?”ชิงสุ่ยไม่สนใจคำถามของเฉิงหยวน
  ”ข้าเองก็อยากให้มันตายแต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพื่อประโยชน์ของข้า ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องถูกตัดสิน ถ้าหากเจ้าเข้าร่วมกับมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ หลังจากนี้เจ้าจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับเพื่อนของเก่า และด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของตัวเจ้า มันยังคงห่างไกลมาก และเจ้าเพียงคนเดียวก็ไม่สามารถต่อต้านมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ได้”เฉิงหยวน ตอบอย่างตรงไปตรงมา
  ชิงสุ่ยพอจะคาดเดาความแข็งแกร่งของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ได้มิฉะนั้น พวกเขาก็คงไม่กลายเป็นมหาจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่กว่านิกายอมตะ
  ชิงสุ่ยนึกย้อนกลับไปถึงนิกายนิกาย5 พยัคฆ์อมตะ เขาเองก็สงสัยว่านิกาย 5 พยัคฆ์อมตะจะมีความสามารถพอจะเทียบเทียมพระราชวังอมตะได้หรือไม่ แต่น่าเสียดายที่เขาเองก็ยังหาตำแหน่งของนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะไม่เจอ
  ”ผู้อาวุโสถ้าหากท่านคือผู้นำของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ ข้าอาจจะพิจารณา แต่ในเมื่อท่านไม่ใช่ ข้าคงต้องตอบว่าข้าไม่สนใจ”ชิงสุ่ยส่ายหน้า
  ในตอนนี้ชิงสุ่ยไม่อยากเข้าร่วมกับกองกำลังใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าเขาจะเข้าร่วม อนาคตเขาเองจะต้องพบเจอกับกองกำลังที่แข็งแกร่งกว่า จะอินทรีย์ที่กางปีกอยู่บนท้องฟ้า ก็อาจจะตกกลายเป็นเพียงแค่ลูกนกในกำมือผู้อื่น
  ชิงสุ่ยมีความมั่นใจในตัวเองสูงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ก่อตั้งนิกายของตนแต่เขาก็ดำรงตำแหน่งผู้นำของพระราชวังสวรรค์ รวมไปถึงพระราชวังอาทิตย์อัสดง และพระราชวังหมาป่ามังกร ซึ่งแม้จะไม่ได้ถือเป็นนิกายใหญ่ ทั้งยังอยู่ห่างไกลจากความแข็งแกร่งของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ แต่มันก็เป็นกองกำลังที่มากพอสมควร และเขาก็พอจะดูแลรับผิดชอบได้
  ”ข้าเข้าใจดีเอาอย่างนี้แล้วกันพ่อหนุ่มน้อย เจ้าเก็บเรื่องนี้ไปคิดสัก 2-3 วัน ส่วนวันนี้พวกเราหยุดสร้างปัญหากันเถอะ เจ้าตกลงหรือไม่?”เฉินหยวนกล่าวหลังจากครุ่นคิดชั่วครู่นึง เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่สามารถบังคับจิตใจของชิงสุ่ย เพราะหากยิ่งทำผลที่ได้ก็ยิ่งตรงกันข้าม เฉิงหยวนเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวเอง และมั่นใจว่าชายหนุ่มคนนี้จะต้องมีอนาคตที่ดี
  ชิงสุ่ยพยักหน้าหลังจากคิดเล็กน้อย”ตกลง ข้าจะเก็บเรื่องที่ผู้อาวุโสพูดไปคิด”
  ชิงสุ่ยคิดว่ามันเป็นการดีที่สุดหากหลีกเลี่ยงการต่อสู้โดยที่ไม่จำเป็นต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ แต่ตัวของเขาเองก็รู้สึกเชื่อใจได้ในตัวของเหล่าผู้นำราชันย์ปราชญ์ทั้ง 3 คน
  ความขัดแย้งภายในมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่หากนับตามคำพูดของเฉินหยวน ตอนนี้มันถูกแบ่งออกเป็น 3 นิกายใหญ่ นิกายแรกนำโดยผู้นำหมาป่าเทวะ ส่วนอีก 1 นิกายนำโดยองค์ชายน้อย และอีกหนึ่งที่ยังไม่ปรากฏ ฉะนั้น มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะขึ้นไปยืนแทนที่ 2 คนนี้ และจากการพูดคุยทั้งหมด ดูเหมือนว่าผู้นำของแต่ละคนจะไม่ถูกกัน ฉะนั้นองค์ชายน้อยกับอีกคนนึง ก็ควรจะไม่ถูกกันเช่นกัน