ตอนที่ 304:ความลับที่ยิ่งใหญ่ (2)

เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก

ตอนที่ 304:ความลับที่ยิ่งใหญ่ (2) Ink Stone_Romance

“ได้ ผมจัดการเรื่องที่นี่ก่อน แล้วจะไปหาคุณ”

ซินห้าวตัดสินใจจะฟังครั้งหนึ่ง เขาก็อยากรู้ว่าเฉินเวยมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ถึงแม้จะเป็นเรื่องนิยาย เขาก็ไม่อยากให้เฉินเวยเล่าไปทั่ว

“ฉันอยู่ที่ห้องดูหนังถนน 81 รอคุณอยู่”

เฉินเวยพูดจบก็วางหู

ซินห้าวมาถึงห้องดูหนังเจอเฉินเวย เขาไม่ชอบบรรยากาศที่นี่ จากนั้นเขาและเฉินเวยไปตรอกเล็กๆ ข้างหลังห้องดูหนัง ในตรอกไม่มีคน คุยกันสะดวก เขาก็ไม่กังวลว่าเฉินเวยจะทำอะไร

“คุณเชื่อเรื่องชาติที่แล้วหรือเปล่า?”

นี่เป็นประโยคแรกที่เฉินเวยพูดกับเขาในตรอก ตอนนั้นซินห้าวงงอยู่ เขาเดาคำพูดไว้หลายเรื่องมาก แต่คิดไม่ถึงว่าเฉินเวยจะพูดเรื่องนี้

ต่อมาเฉินเวยเล่านิยายเรื่องหนึ่งให้เขาฟัง

นางเอกของเรื่องชื่อเฉินเวย เธอเกิดในเมือง ฐานะที่บ้านดี ต่อมาเธอเจอเพื่อนนักเรียนคนหนึ่ง เธอกับเพื่อนนักเรียนคนนั้นกลายเป็นเพื่อนรักกัน เพราะเพื่อนนักเรียนคนนั้นแซ่เฉินเหมือนเธอ ชื่อเฉินเยี่ยน ดังนั้นพวกเธอเลยนับถือกันเป็นพี่น้อง

ตอนที่เฉินเวยเล่ามาถึงตรงนี้ซินห้าวอึ้งไป เฉินเวยพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่?

แต่เขาไม่ได้ขัดจังหวะเฉินเวย แล้วฟังต่อ

ต่อว่าเฉินเวยเติบโต มีความรัก แต่งงาน แล้วต่อมาเธอหย่า เธอไปหาเฉินเยี่ยนพี่น้องของเธอ

“พูดตามตรงตอนนั้นเฉินเยี่ยนดีกับฉันมาก พวกเราสองคนชอบพูดว่า ในอนาคตถ้าแต่งงานกับสามีคนหนึ่งแล้วจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เป็นพี่น้องกันตลอดชีวิต เธอรับฉันมาอยู่ที่บ้านเธอ จากนั้นแนะนำสามีเธอให้ฉันรู้จัก เธอคิดว่าเธอทำดีกับฉัน แต่เธอแสดงความสุขของเธอไปทุกที่ ฉันหย่าแล้ว แต่สามีเธอกลับดีกับฉันมาก ทั้งๆ ที่เราสองคนเป็นคนสวย แต่เธอโชคดีกว่าฉัน ฉันอึดอัดใจ เธอเป็นหญิงสาวจากหมู่บ้านเกษตรกร ทำไมถึงได้ดีกว่าฉัน? ดังนั้นตอนที่สามีเธอแสดงออกว่าสนใจฉัน ฉันเลยตอบสนอง อ้อ ใช่แล้ว ลืมบอกคุณ สามีเธอชื่ออวี๋เหวยหมิน”

ตอนนี้คำพูดของเฉินเวยยังก้องอยู่ข้างหูซินห้าว เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากฟังเฉินเวยเล่าเรื่องโกหกนี้ แต่ลางสังหรณ์ ซินห้าวรู้สึกว่าถึงแม้เฉินเวยพูดโกหก แต่เรื่องส่วนใหญ่กลับเหมือนกำลังเล่าเรื่องจริงอยู่

คิดถึงประโยคนั้นคุณเชื่อเรื่องชาติที่แล้วไหม? หรือว่าที่เฉินเวยเล่าคือเรื่องชาติที่แล้ว?

เป็นไปไม่ได้!

คนเราจะรู้เรื่องชาติที่แล้วของตัวเองได้ยังไง?

อยู่ๆ ซินห้าวก็นึกถึงเรื่องที่เขาสืบมา บอกว่าเมื่อก่อนเฉินเยี่ยนเป็นคนซื่อๆ พูดน้อย แต่เฉินเยี่ยนที่เขารู้จักไม่ได้เป็นแบบนี้เลย

เฉินเยี่ยนทำอาหารเป็น เขาเข้าใจได้ แต่เฉินเยี่ยนรู้จักบริหารโรงงานได้ยังไง? ช่วยเขาออกความเห็นมากมาย

แล้วเฉินเยี่ยนรู้สูตรทำบุหรี่ได้ยังไง?

แล้วเฉินเยี่ยนยังรู้จักตัวอักษรมากมายอีก เธออ่านหนังสือเยอะ แต่เฉินเยี่ยนเรียนหนังสือแค่ปีเดียวเอง ใครสอนความรู้ให้เธอ?

เฉินเยี่ยนรู้เรื่องมากมายที่เธอไม่ควรรู้ แล้วยังภาษาแมนดาริน เธอเคยดูหนังเรื่องวัดเส้าหลิน เธอรู้ว่าปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้มีจุดเด่นอะไร มีอะไรอร่อย รู้เรื่องราวของสองเมืองนี้ เรื่องพวกนี้เฉินเยี่ยนไม่ควรรู้

บางครั้งเวลาเฉินเยี่ยนพูดเขาก็ไม่เข้าใจ ความคิดบางอย่างของเธอดูล้ำหน้า บางครั้งเฉินเยี่ยนถอนหายใจโดยไม่ได้ตั้งใจ เหมือนเธอรู้ว่าต่อไปจะมีการพัฒนา

ซินห้าวยิ่งคิดก็ยิ่งตกใจ สถานการณ์ดูเลวร้ายมาก

หรือว่าที่เฉินเวยพูดเป็นเรื่องจริง? พวกเขามีชาติที่แล้วจริงๆ? เฉินเวยบอกว่าชาติที่แล้วของพวกเขาไม่ใช่ยุคนี้ พวกเขาอยู่ในยุคหลัง 90 ชีวิตตอนนั้นดีกว่าตอนนี้เยอะเลย คนไม่ใช้โทรศัพท์กันแล้ว ใช้มือถือกันหมด ทีวีก็ไม่สนใจ ทุกคนมีโฮมเธียเตอร์ที่บ้านกันหมด และไม่มีห้องดูหนังแล้ว มีแต่โรงภาพยนตร์ รถไฟก็ไม่มีใครอยากนั่ง ช้าเกินไป ทุกคนนั่งเครื่องบินกันหมด

เฉินเวยพูดมาหลายเรื่อง บางเรื่องเขาก็ไม่เข้าใจ รู้อยู่ว่าเขาไม่ควรเชื่อคำพูดเฉินเวย แต่เขากลับไม่สงสัยเลย

ไม่!

เรื่องพวกนี้ไม่ใช่สาระสำคัญ ที่สำคัญคือเฉินเวยบอกว่าสามีของเฉินเยี่ยนคืออวี๋เหวยหมิน

เฉินเวยบอกว่าอวี๋เหวยหมินกับเฉินเยี่ยนเป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัย อวี๋เหวยหมินตามจีบเฉินเยี่ยนมาตลอด ต่อมาเฉินเยี่ยนแต่งงานกับอวี๋เหวยหมิน

เฉินเวยอยู่ที่บ้านเฉินเยี่ยน ต่อมาเธอกับอวี๋เหวยหมินรู้สึกดีต่อกัน แล้วรอยตำหนิบนตัวเฉินเยี่ยน อวี๋เหวยหมินเป็นคนบอกเธอ เธอเล่าเรื่องเฉินเยี่ยนและอวี๋เหวยหมินมากมาย แล้วยังพูดถึงรอยแผลเป็นนั้นบนหน้าผากเฉินเยี่ยนด้วย

“เยี่ยนจื่อ คุณ…”

ซินห้าวไม่รู้ว่าตัวเองจะถามอะไร เขาอยากจะถามว่าเป็นเรื่องจริงไหม แต่เขากลับพบว่าเสียงเขาเหมือนโดนคนอุดอยู่ พูดไม่ออก

“อะไรคะ?”

เฉินเยี่ยนไม่รู้ว่าซินห้าวจะถามอะไร ในใจเธอรู้สึกกลัว

ซินห้าวถามไม่ออก ฝั่งเฉินเยี่ยนก็อยากถามเหมือนกัน ถึงแม้เฉินเวยจะพูดอะไร ทำไมซินห้าวถึงไม่ปฏิเสธเฉินเวยจูบเขา ทำไมถึงยอมให้เฉินเวยจูบเขา?

ไม่! ไม่!

ไม่ถูกต้อง เฉินเวยกับซินห้าวไม่น่าจะจูบกัน เมื่อกี้ตัวเองใจร้อนไป เชื่อสายตาเธอ บางครั้งสายตาก็หลอกลวงกันได้ มุมที่เธอยืนอยู่ บางทีอาจจะมองผิดตำแหน่ง ดังนั้นเลยเห็นเหมือนพวกเขาจูบกัน แต่ที่จริงไม่ใช่

ตอนถ่ายละคร ฉากจูบยังจูบผิดตำแหน่งอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่หรือ?

“คุณกับเฉินเวยไม่ได้จูบกันใช่ไหมคะ?”

เหมือนเฉินเยี่ยนต้องการพิสูจน์ความคิดตัวเองเลยรีบถามซินห้าวออกกไป

“จูบ? จูบอะไร?”

ซินห้าวโดนเฉินเยี่ยนถามเลยตกใจ

“ตอนที่ฉันมาถึง เห็นคุณกับเฉินเวยเหมือนกำลังจูบกันอยู่ ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ตำแหน่งมุมตรงนั้นที่มองไปน่าจะผิดตำแหน่งมากกว่า”

เฉินเยี่ยนไม่ปิดบัง

“ตอนนั้นเฉินเวยเข้าใกล้ผม เพราะเธอเล่าบางอย่างอยู่ ผมไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน เลยไม่ได้ห้ามเธอ แต่ผมกับเธอไม่ได้ทำแบบนั้น เธอแค่เข้ามาใกล้ผม”

ซินห้าวเข้าใจแล้ว ว่าทำไมตอนนั้นสีหน้าเฉินเยี่ยนถึงได้ดูย่ำแย่ คิดว่าเธอเห็นตัวเองดูเหมือนกำลังจูบกับเฉินเวยอยู่

เฉินเยี่ยนถอนหายใจยาว เธอรู้ เธอรู้อยู่แล้วว่าซินห้าวไม่มีทางทำ

“แล้วเธอพูดอะไรกับคุณบ้าง?”

เฉินเยี่ยนคิดอยู่ว่าจะถามดีไหม เธอกลัว แต่เธอรู้ว่าเธอต้องถาม

ซินห้าวคิดย้อนถึงสิ่งที่เฉินเวยเล่าให้เขาฟัง เฉินเวยเล่าเรื่องอวี๋เหวยหมินและเฉินเยี่ยน เล่าเรื่องที่เฉินเวยและอวี๋เหวยหมินอยู่ด้วยกันโดนเฉินเยี่ยนจับได้ บอกว่าเฉินเยี่ยนตบเธอ เธอถามซินห้าวอีก ว่าอยากรู้หรือไม่ว่าทำไมเธอ อวี๋เหวยหมินและเฉินเยี่ยนถึงได้มาปรากฏตัวที่นี่

ตอนนั้นเฉินเวยเข้ามาพูดใกล้เขา เขาไม่ได้ผลักเฉินเวยออกไป เพราะเขารู้ว่าเฉินเวยจะบอกความลับเรื่องใหญ่ให้เขาฟัง อันที่จริงตอนนั้นในใจเขาสับสนมาก เขาไม่รู้ว่าต่อมาเขายังจะได้ฟังเรื่องอะไรประหลาดอีก

“ตอนที่เฉินเยี่ยนตีพวกเรา รอยแผลเป็นบนหน้าผากเธอส่องแสงสีทองออกมา ตอนนี้มาคิดดูแล้ว พวกเราสามคนน่าจะมาเพราะรอยแผลเป็นนั่น รอยแผลเป็นนั่นของเธอน่าจะเป็นหลุมอวกาศ ในหลุมอวกาศมีอะไรบ้าง ฉันไม่รู้ แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ฉันกับอวี๋เหวยหมินถึงมาก่อนเฉินเยี่ยน”

“ฉันถูกทำให้มาที่นี่ ฉันเกลียดเฉินเยี่ยน แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะเป็นพี่น้องกันจริงๆ ที่น่าจำกว่านั้นคือฉันพบว่าอวี๋เหวยหมินหมั้นกับเฉินเยี่ยนด้วย ความเกลียดชังในใจฉัน ทำไมชาติที่แล้วพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ชาตินี้ก็ยังเป็นอีก! ดังนั้นฉันเลยไปหาอวี๋เหวยหมิน คิดไม่ถึงว่าอวี๋เหวยหมินก็เกิดใหม่มาพร้อมฉัน”

“พวกเราสองคนต่างเกลียดเฉินเยี่ยน ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราคงไม่ต้องมาถึงที่ห่วยๆ แบบนี้ ยากจนจะตาย พวกเราหยั่งเชิงเฉินเยี่ยน แต่พบว่าเธอยังไม่มา เฉินเยี่ยนคนนี้โง่มาก ซื่อมาก แต่ช่วงนั้นพวกเรายังจัดการเธอไม่ได้ จนพวกเขาคิดแผนจัดการเธอ คิดไม่ถึงว่าเรื่องสวนผลไม้นั้น เฉินเยี่ยนดันมาเกิดใหม่ เรื่องเป็นแบบนี้ พวกเราสามคนกลับมาพบกันใหม่ที่นี่”

“เรื่องราวต่อมาคุณน่าจะรู้แล้ว มีความแค้นจากชาติที่แล้ว พวกเราย่อมไม่มีทางญาติดีกัน เฉินเยี่ยนเกลียดฉัน พวกเราก็เกลียดเธอ ดังนั้นเฉินเยี่ยนเลยไม่ยอมแต่งงานกับอวี๋เหวยหมิน เธอเลยถอนหมั้นอวี๋เหวยหมิน แต่ไม่ว่ายังไง เธอก็เคยเป็นภรรยาอวี๋เหวยหมินมาก่อน เธอนอนกับอวี๋เหวยหมินมาหลายปี พวกเขาเคยผ่านช่วงที่หวานชื่นกันที่สุดมาก่อน คุณไม่ใส่ใจจริงหรือ?”

นี่คือสิ่งที่เฉินเวยพูดกับเขา ยังไม่ทันที่เขาจะตอบ ก็ได้ยินซินเหลยตะโกนเรียกเขา เขาหันกลับไป ก็เห็นเฉินเยี่ยน

วินาทีนั้นเขาไม่รู้ว่าในใจตัวเองคิดยังไง

เฉินเวยถามว่าเขาใส่ใจไหม? เขาจะบอกเฉินเวยว่าเขาไม่ใส่ใจ แต่เขาไม่ใส่ใจจริงๆ หรือ?

พอคิดถึงว่าเฉินเยี่ยนเคยเป็นภรรยาคนอื่นมาก่อน เขาก็อิจฉาอย่างบ้าคลั่ง

เขาก็รู้ว่าเขาไม่ควรเชื่อเรื่องโกหกนี้ แต่ทำไมเขาถึงกลับรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริงนะ?