TB:บทที่ 277 เก็บกวาด

 

“พันตรี พวกทหารทั่วไปพวกนั้นช่วยอะไรไม่ได้หรอก ไม่เห็นทหารที่ล้มพับไปหรือครับ พวกเขาโดนซัดจนหมดสติไปโดยที่ไม่ได้สู้กลับเลย คงจะไร้ประโยชน์หากจะส่งทหารไปเพิ่ม ดังนั้นนี่คือวิธีที่จะจัดการกับฆาตกรได้ ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าฆาตกรจะมาตามหาฟางเจ่อเจี่ย ฉะนั้นตราบใดที่เรายังหาคนเดียวกันอยู่ ฟางเจ่อเจี่ยจะไม่อาจหนีไปไหนได้” เป็นอีกครั้งที่คลีฟไม่เชื่อฟังคำสั่งของโคลแมน

 

“ในฐานะที่เป็นพันตรี ฉันสั่งให้นายกลับไปที่ฐาน” ในที่สุดก็มีการตัดสินใจ เพราะคลีฟเปลี่ยนแปลงไป โคลแมนทำได้เพียงใช้วิธีสุดท้าย นั่นคือการสั่งด้วยตำแหน่งของเขา เขาหวังว่าเขาจะยังคงรักษาเอกลักษณ์ของคลีฟไว้ได้และพวกนั้นจะฟังคำของเขา

“ต้องขอโทษด้วย แต่ผมไม่อาจจะลังเลได้เมื่อต้องจับตัวฆาตกร พันตรีโคลแมน โปรดให้อภัยผม”

“กัปตันคลีฟ คุณก็รู้ว่าจะโดนทำโทษอย่างไรหากไม่เชื่อฟังคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสูงกว่า” โคลแมนว่า

 

“พันตรีโคลแมน ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณจะอยู่ได้ กลับไปเสีย” สิ้นคำ คลีฟแยกออกมาจากคนของเขา

หลังจากเฝ้ามองกลุ่มคนที่กระจัดกระจายไป ใบหน้าของโคลแมนเปลี่ยนเป็นฉุนเฉียวอย่างที่สุด การต่อสู้ของคลีฟแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่ทหารที่แท้จริงอีกต่อไป ทว่าเป็นชายที่ต่อสู้เพื่อตัวเอง หรือไม่ก็เป็นสัตว์ประหลาดมากกว่าที่จะเป็นคน ในตอนนั้นเองที่โคลแมนรู้ว่าซุปเปอร์แมนที่เขาสร้างขึ้นเป็นแค่การทดลองที่ล้มเหลว พวกซุปเปอร์แมนที่ไม่เชื่อฟังจะไปมีประโยชน์อะไร

หลังจากที่รู้ว่าคลีฟและคนอื่นที่กระจายไป เขาก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับไปยังฐาน ในตอนนี้คลีฟมีความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ เขาจะต้องกลับไปฐานเพื่อคุยกับสตีฟว่าจะมีทางแก้ไขปัญหาหรือไม่

 

“การทดลองของเราล้มเหลว” ฟางเจ่อเจี่ยได้ยินบทสนทนาระหว่างโคลแมนและคลีฟข้างบน เขาจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าซึม

“ความผิดพลาดหรือ ไม่มีหรอกความผิดพลาด คุณได้สร้าง “ซุปเปอร์แมน” ที่พลังมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาแล้วอย่างแน่นอน แม้ว่ากำลังจะอ่อนแอไปบ้างแต่ก็ถือเป็นความสำเร็จ” เฉินหลงปลอบใจฟางเจ่อเจี่ย

“ความตั้งใจแรกคือการสร้างยอดทหารที่ซื่อสัตย์และแข็งแกร่ง แต่ว่าคลีฟนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างอย่างเห็นได้ชัด เขากลายมาเป็นคนที่คิดแต่เรื่องของตนและไม่เชื่อฟังคำสั่ง นี่คือผลผลิตที่ผิดพลาดของการทดลองของเรา” ฟางเจ่อเจี่ยส่ายหน้าและกล่าวไป

 

“ความจริงแล้ว ผมว่าก็ดีนะที่จะมีความเปลี่ยนแปลงแบบนี้ อย่างน้อยเขาก็เป็นเหมือนคนขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว ไม่ได้เป็นแค่สัตว์ประหลาด” เฉินหลงมีรอยยิ้ม

ฟางเจ่อเจี่ยมองเฉินหลงแล้วก็ไม่กล่าวอะไร

“แต่ซุปเปอร์แมนจะไม่กลับไปจนกว่าจะหาเราเจอ เช่นนั้นผมต้องขึ้นไปบนนั้นและฆ่าพวกมันให้หมด แล้วผมจะพาคุณออกไป” สิ้นคำ เฉินหลงก็เดินออกไปจากถ้ำ

หลังจากที่เขาออกจากถ้ำไปแล้ว เฉินหลงได้กลายมาเป็นคาวบอยอย่างตอนแรก เขายังมี “ไม้เท้าแห่งพลัง” ในมือด้วย ดูเหมือนว่าเฉินหลงจะตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วแล้ว

และเพื่อที่จะทำให้พวกมันหาตัวเขาเจอได้ง่ายขึ้น เฉินหลงส่งเสียงที่คิดไว้อย่างดีแล้วเพื่อทำให้พวกมันสนใจ

แน่นอนที่สุดว่าพวกมันพบเข้าอย่างรวดเร็วและเข้ามาล้อมรอบเฉินหลง

“คุณฆ่าพี่น้องทั้งสามของเราไป แม้ว่าคุณจะถือไม้เท้าในมือ คุณก็มีกลิ่นของฆาตกร ดังนั้นแล้วคุณต้องตายเพื่อพวกเรา” ว่าจบพวกมันก็โจมตีเฉินหลง

คลีฟนำการโจมตีและพวกพ้องของเขาก็มาล้อมรอบเฉินหลงเช่นกัน

มีระดับของ “หลอมรวมธรรมชาติ” อยู่ห้าคน มี “ปลดปล่อยลมปราณ” สิบคน และมี “พลังลมปราณ” อยู่สองคน นี่คือพลังที่แข็งแกร่ง แม้มี “หลอมรวมธรรมชาติ” และเข้าใจ “พลังธรรมชาติ” ก็ตาม แต่อย่างไรก็ไม่มีทางที่จะหลบการโจมตีเช่นนี้ได้

 

อย่างไรเสียนี่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อเฉินหลงเลยแม้แต่น้อย การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่เขาเห็นจากอาณาจักรคุนหลุนใหญ่โตกว่าการต่อสู้ครั้งนี้มาก เมื่อเขาได้เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเป็นสิบ เป็นร้อย หรือแม้กระทั่งเป็นพัน ที่มีพลังระดับ “หลอมรวมธรรมชาติ” ก็ตาม แต่นี่ก็ไม่ใช่การต่อสู้เล็กๆเลย

 

แน่นอนว่าการต่อสู้นี้ก็มีส่วนที่ดีอยู่ นั่นคือเขาไม่ต้องมองหาพวก “ทหารซุปเปอร์แมน” ไปทั่วแล้ว

“ทหารซุปเปอร์แมน” คนหนึ่งที่มีพลัง “หลอมรวมธรรมชาติ” แบบปลอมๆโดนยิงเข้าที่หัว

พวกนั้นโจมตีร่างของเฉินหลง แต่ไม่อาจทำให้เฉินหลงบาดเจ็บได้เลยแม้แต่ปลายผม

เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว คลีฟรีบกล่าวไปว่า “ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่เราจะไปประมือด้วยได้ พี่น้อง สลายตัวไป หนี หนีไปทีละคน”

กล่าวจบ คลีฟเป็นคนแรกที่หนีไป

แล้วพวกพ้องของเขาหนีตามเขาไป

 

อย่างไรเสีย เนื่องจากเฉินหลงได้พาให้พวกเขามาด้วยกันแล้ว พวกเขาจะหนีไปได้อย่างไร

พลังธรรมชาติได้ตรงเข้ากักขัง “นักรบซุปเปอร์แมน” ทั้งสิบสอง ที่มีพลังระดับ “ลมปราณ” และระดับ “ปลดปล่อยลมปราณ” แล้วจากนั้นเขาก็ไล่ตามพวกของคลีฟและหลอมรวมธรรมชาติทั้งสี่

 

พวกคนทั้งสี่และคลีฟ วิ่งออกไปอย่างว่องไว แต่ความเร็วของเฉินหลงนั่นไวกว่า

เขาตามทันคนหนึ่ง และไล่ตามฆ่าไปในทันที

หลังจากนั้นเขาจะไล่ตามต่อไปทีละคน

หลังจากนั้นมี “ทหารซุปเปอร์แมน” เหลือเพียงคนเดียว ที่มีพลังในระดับหลอมรวมธรรชาติ

“รอเดี๋ยวก่อน ได้โปรด ท่าน เราไม่ได้บาดหมางอะไรกันมากนัก คุณไม่ต้องฆ่าเราหมดก็ได้ ตราบเท่าที่คุณปล่อยเราไปผมสัญญาว่าจะเราจะไม่มีปัญหากันในอนาคต” เมื่อเห็นว่าเขาไม่สามารถหนีไปไหนได้ คลีฟจึงรีบกล่าวไป ในช่วงขณะนั้นเองเมื่อชีวิตเขามีภัย สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดก็ได้เริ่มทำงาน

 

สิ่งที่คลีฟพูดทำให้เฉินหลงยิ้มออกมา “ไม่มีความบาดหมางมากมายหรือ ฉันฆ่าพี่น้องนาย ไม่ใช่ว่าอยากแก้แค้นให้เขาหรือ นายรู้ไหมว่าในตอนนี้ ฉันได้ยินนายสาบานว่าจะจับฆาตกรให้ได้”

“ในตอนนั้น ผมไม่รู้พลังของตนครับ ท่านครับ แต่ขณะนี้ผมจะคืนคำไปตามปกติ” เขาว่า

 

“เช่นนั้นหรือ แต่ผมไม่อยากจะปล่อยคุณไป เพราะเป้าหมายของผมที่มาที่นี่คือการฆ่าคุณและปกป้องไม่ให้พวกที่เผ่าพันธุ์ที่ไม่ได้มาจากโลกปรากฏตัวอยู่บนโลก ดังนั้นแล้วคุณไม่ต้องพูดไร้สาระให้มากความ ตายไปเสียเถอะ” เฉินหลงดึงไม้ออกมาทุบ

หลังจากที่หลบไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดคลีฟก็โดนเฉินหลงทุบหัว

“นักรบซุปเปอร์แมน” ไม่อาจเทียบได้กับพวกสัตว์ในอาณาจักรคุนหลุนเลย นี่มันซุปเปอร์แมนประเภทไหนกัน หลังจากที่เห็นร่างคลีฟที่หลือเพียงแค่ตัวหลังจากที่โดนโจมตีนั้น เฉินหลงกล่าวประโยคหนึ่งที่ทำให้ “ทหารซุปเปอร์แมน” ทั้งสิบสองที่เขากักขังไว้โกรธขึ้น

 

“ทหารซุปเปอร์แมน” ทั้งสิบสองเจอกับเฉินหลงทีละคนและสุดท้ายก็มีชะตากรรมเป็นอย่างคลีฟ

พวกที่ไม่ใช่มนุษย์พวกนี้ เขาไม่อาจจะปล่อยให้อยู่บนโลกได้

หลังจากที่ตรวจสอบนักสู้ซุปเปอร์แมนแล้ว เฉินหลงกลับไปในถ้ำ เขาได้เก็บไม้เท้าพลังไปแล้ว

“เป็นอย่างไร” เมื่อได้เห็นเฉินหลงกลับมาแล้ว ฟางเจ่อเจี่ยถามขึ้น

“แน่นอนว่าฆ่าไปหมด” เฉินหลงมองกลับไป