บทที่ 677. เรื่องราวที่ไม่ควรมีอยู่ (18)

The Novel’s Extra

บทที่ 677. เรื่องราวที่ไม่ควรมีอยู่ (18)

 

จินซาฮยอคยิ้มเยาะ

อย่างที่ใครๆ ก็สามารถมองเห็นได้นั่นแหละ แม้ว่าโลกจะทิ้งคิมฮาจินไปก็ตาม แต่ผู้คนในนั้นจำเขาได้

ด้วยสิ่งนี้ คิมฮาจินน่าจะสามารถใช้ชีวิตที่สงบสุขได้

 

แต่นั่นไม่ใช่กรณีของไคด์สปริง

 

ไคด์สปริงเกิดมาบนโลกนี้โดยไม่มีพ่อแม่ และใช้ชีวิตอย่างสันโดษก่อนที่จะถูกส่งไปยังอคทรีน่า

แม้ว่าความมืดมิดในตัวเขาจะถูกหยั่งรากออกไปบางส่วน ในขณะที่เขารับใช้เฟฮีในฐานะเจ้านายของเขาในท้ายที่สุด แม้กระทั่งเฟฮีก็ทิ้งเขาไป

 

เขาถูกทอดทิ้งในโลกที่แตกต่างกันทั้งสองแห่ง

และเขาก็หายไปโดยที่ไม่มีใครจำได้

 

จินซาฮยอคไม่อาจยอมรับมันได้

ดังนั้น ชื่อของเขาจึงถูกจดจำได้ตลอดไป ในฐานะผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเธอ เธอวางแผนที่จะสร้างรูปปั้นของเขาหลังจากสร้างอาณาจักรของเธอขึ้นมาใหม่ และพร้อมกับชื่อของเธอ เธอวางแผนที่จะจารึกชื่อของเขาไว้ในหน้าแรกของหนังสือประวัติศาสตร์ของอคทรีน่า

 

ไม่ ก่อนหน้านั้นจินซาฮยอคเชื่อว่าไคด์สปริงยังมีชีวิตอยู่ เธอเชื่อว่าเธอจะได้พบความอัศจรรย์เมื่อเธอกลับมาที่อคทรีน่า

 

“เอาล่ะ กลับบ้านกันเถอะ”

 

– …เธอพยายามกลับไปที่นั่นจริงหรอ?

 

พูฮาเรนถาม

 

– เธอจะตายถ้าเธอทำแบบนั้น เธอก็รู้ว่ามีอะไรในสถานที่นั้น

 

“ฉันจะไม่ตาย”

 

จินซาฮยอคโต้กลับเบาๆ และลืมตา

เสียงเยือกเย็นของพูฮาเรนดังกลับมา

 

– แต่ฉันจะฆ่าเธอ

 

“…มันไม่สำคัญ ถ้าฉันจะตายด้วยมือของนาย ฉันจะไม่ทำมันที่นี่ตั้งแต่แรกหรอก”

 

– และเธอไม่เป็นไร? เธอไม่เสียใจในโลกนี้หรอ?

 

จินซาฮยอคสะดุ้ง

พูฮาเรนพูดถูก

 

“รู้สึกเสียใจสิ….”

 

นั่นเป็นอารมณ์ที่จินซาฮยอคไม่ต้องการที่จะยอมรับ แต่เธอไม่สามารถหลอกพูฮาเรนได้ ถ้าพูฮาเรนบอกว่ามันมีอยู่จริง มันก็ต้องแบบนั้น ท้ายที่สุดแล้วเขาก็สามารถค้นหาความคิดภายในของเธอตามความปรารถนาของเขาได้

 

“ฉันจะจัดการกับมัน ในใจฉันไม่มีความเสียใจใหญ่กว่าพัลซาร์แล้วละ”

 

จินซาฮยอคคว้าหินมิติด้วยรอยยิ้ม

พูฮาเรนพูดอีกครั้ง

 

– เบลล์กำลังทำอะไร? เขาอยู่ในอคทรีน่ารึเปล่า?

 

“ไม่ เบลล์…กำลังทำบางสิ่งเพื่อพยายามกลับสู่โลกของเขา”

 

เบลล์

เขาทำให้จินซาฮยอคไม่พูดอะไรทุกครั้งที่เธอคิดถึงเขา

เขาใช้บาอัลเพื่อฟื้นฟูโลกที่บาอัลทำลาย จินซาฮยอคไม่แน่ใจว่าเขาวางแผนที่จะให้มันเกิดขึ้น หรือหากสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นแบบนั้น แต่ต่อให้เขาฉลาดและวางแผน อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่ามันเป็นอดีต

 

“แต่พูฮาเรน นายรู้เรื่องเบลล์แล้วเหรอ?”

 

-ใช่ ฉันจะไปถึงส่วนที่ลึกที่สุดของจิตใจของเธอไม่ช้า

 

“นั่นอาจเป็นอันตรายนิดหน่อยนะ”

 

-อันตราย? ฉันบอกเธอแล้วไง ฉันจะฆ่าเธอ

 

ตึ้งง-

 

ขณะเดียวกัน ประตูหนึ่งก็ถูกสร้างขึ้นข้างๆจินซาฮยอค…

 

ผู้หญิงผมสีแดงปรากฎตัวออกมาจากประตูที่หวั่นไหว มันคือ ชิมูริน ที่สัญญาว่าจะเป็นผู้สนับสนุนของจินซาฮยอค

 

ชิมูรินโบกมือให้พนักงานที่เธอซื้อจากตลาด

 

“พร้อมไหม?”

 

“….”

 

จินซาฮยอคพยักหน้าก่อนส่งมอบหินมิติให้ชิมูริน

 

หินที่เธอได้รับจากบาอัลนั้นไม่เสถียรอย่างมาก มันสามารถขนส่งได้เพียงคนเดียวไปยังอคทรีน่า ดังนั้นความช่วยเหลือของชิมูรินจึงมีความสำคัญ

 

“เอาล่ะ…จินซาฮยอค”

 

ก่อนที่จะใช้หินมิติเพื่อสร้าง [ประตูมิติ] ชิมูรินถามอีกครั้ง

 

“เธอแน่ใจหรอว่าเธอจะไม่เสียใจ ถ้าไป เธอจะไม่ได้กลับมาอีก”

 

“ไม่ต้องถามแล้ว”

 

จินซาฮยอคยกคิ้วของเธออย่างน่าประทับใจ

 

“ฉันเป็นราชา ไม่มีใครสามารถหยุดราชาไม่ให้เธอกลับมาได้”

 

“…แน่นอน”

 

ชิมูรินยักไหล่ และเปิดใช้งานเวทย์มนตร์การเดินทางมิติที่ยิ่งใหญ่ของเธอ

หินลึกลับที่รวมพลังเวทย์มนตร์ของเธอเปล่งประกายสีม่วง จากนั้นมันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่จะกระจายเป็นฝุ่น จุดเล็กๆ ของหินขึ้นไปในอากาศด้วยพลังเวทย์มนตร์ของชิมูริน

 

กิ้กก-!

 

หินและพลังเวทย์นั้นก่อตัวเป็นรูปวงรีที่แกว่งไปมาด้วยแสงสีม่วง

ชิมูรินยิ้ม

 

“ตอนนี้ ราชาย้ายสัมภาระของคุณก่อนเถอะค่ะ”

 

“ทำเสียงทะเล้นเชียวนะ”

 

“ฉันไม่ได้บอกเหรอ? นักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่นั้นมีตำแหน่งเหมือนกับราชานั้นแหละ”

 

“…หึ”

 

‘ถ้าฆ่าเธอ เธอเพื่อปฏิบัติต่อฉันด้วยความเคารพมากกว่านี้ไหมนะ?’

 

จินซาฮยอคเดาะลิ้นของเธออย่างไม่พอใจ จากนั้นเธอก็โยนถุงวิเศษแปดใบที่เต็มไปด้วยอาหาร หุ่นยนต์ อาวุธ ชุดเกราะ และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน

 

“แล้วเราควรเข้าไปด้วยไหม?”

 

ชิมูรินพูด ขณะที่เธอมองเข้าไปในประตู

ประตูยังมีพลังงานเพียงพอ แม้หลังจากขนสัมภาระมากมันก็ยังสามารถบรรทุกคนสองคนได้ ชิมูรินยิ้มด้วยความพึงพอใจจากการคำนวณที่สมบูรณ์แบบของเธอ

 

“ใช่ ไปกันเถอะ ชิมูริน สู่อคทรีน่า”

 

เช่นเดียวกับที่จินซาฮยอคกำลังจะเข้าสู่ประตู

อย่างไรก็ตาม…

 

“…อะไร?”

 

จินซาฮยอคหยุดการตรวจจับชั่วคราว พวกเขาปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนไม่รู้

ชิมูรินและจินซาฮยอคหยุด และจ้องมองไปที่ห้องนั้น

 

Kieeeek! *

 

นกอินทรีกำลังบินวนเวียนอยู่เหนือบ้านของคิมฮาจิน ราวกับว่ารู้ว่าคิมฮาจินอยู่ที่นั่น และหลายคนกำลังเดินขึ้นมาบนเส้นทางภูเขาของเทือกเขาแอลป์

 

ไหล่ของจินซาฮยอคสั่นไหว

 

จินซาฮยอคคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับพวกเขาส่วนใหญ่ แม้จะไม่ชอบพวกเขา พวกเขาร่างหนาและบางสำหรับเธอ เพื่อให้มันยิ่งใหญ่กว่าเดิม พวกเขาเป็นวีรบุรุษที่ต่อสู้เพื่อโลกและชนะ

 

“…ฮ่าๆ”

 

จินซาฮยอคหัวเราะเบาๆ ในขณะที่เธอจ้องมองที่พวกเขา แต่เธอไม่ได้ทิ้งคำพูดใดๆ ไว้เบื้องหลัง

 

แต่ลมแรงพัดเพียงครั้งเดียว และเขย่าทุ่งหญ้าของเทือกเขาแอลป์

 

พรึบบบบ-

 

ลมทางเหนือกวาดสิ่งต่างๆ ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ไปสิ้น

ทุกอย่างเงียบลงในทันที

ประตูหวั่นไหวด้วยแสงสีม่วงและหญิงสาวยิ้มที่อย่างประณีตต่อหน้าทั้งคู่ก็หายไป มีเพียงรอยเท้าที่เหลืออยู่บนสนามหญ้า ซึ่งเป็นหลักฐานว่าพวกมันมีอยู่จริง

 

อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้โดดเดี่ยวบนสนามหญ้า

 

“ฮา….”

 

ด้วยการหายใจเข้าลึกๆ รอยเท้าก็ถูกจารึกขึ้นในไม่ช้า

รอยเท้าเหล่านี้มีเป้าหมายที่ชัดเจน เจ้าของของพวกมันจำคนที่พวกเขาลืมได้และมาที่นี่เพื่อค้นหาบุคคลนั้น

 

“ไปกันเถอะ ไม่จำเป็นที่เราจะต้องทำเรื่องใหญ่ให้สำเร็จ”

 

เสียงที่ดังขึ้นเต็มไปด้วยความกังวลใจ

 

ดูเหมือนว่าลมจะมีโทนสีน้ำเงินและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามก็ถูกเหวี่ยงไปทั่วท้องฟ้า

 

ต่อไป…เป็นการรวมตัวกับคนที่พวกเขาลืม

 

เมื่อมองไปข้างหน้าเพื่อเรียกชื่อเขา กลุ่มก็ค่อยๆเดินไปที่บ้านที่ปลายหน้าผา