ทันใดนั้นชูฮันก็ปรากฏตัวขึ้นไม่เพียงแค่เสี่ยวเคินที่ตะลึงจนตัวแข็งไปแล้ว แต่สมาชิกจากทีมกุ้งเสือดำทั้งห้าคนที่ยืนอยู่ข้างๆก็มีอาการเดียวกัน ทุกคนต่างช็อคและคิดว่ามันเป็นแค่ความฝัน
ทำไมพวกเขาถึงมาเจอกับหัวหน้าชูฮันได้?
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาที่พวกเขาจากไป?
เดิมทีเส้นทางการเดินทางของทีมกุ้งเสือดำนั้นไม่ได้อยู่ตามถนนใหญ่หรือผ่านค่ายผู้รอดชีวิตหรือเป็นเส้นทางที่นำไปสู่ที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ๆแล้ว ในทางกลับกันทีมกุ้งเสือดำจะเลือกเดินทางผ่านเส้นทางที่มีผู้คนเพียงบางเบา เพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอทั้งมนุษย์และซอมบี้
ดังนั้นบนถนนเส้นนี้ทีมกุ้งเสือดำจึงค่อนข้างช็อคไม่น้อยกับสถานการณ์ตรงหน้าในขณะนี้เพราะพวกเขาแทบไม่รู้ข่าวอะไรเกี่ยวกับเมืองอันลูเลย รู้เพียงแค่ตอนนี้เขี้ยวหมาป่ากำลังต่อสู้อยู่กับลูกผสมเท่านั้นเอง
รวมถึงการกระทำสำคัญของชูฮันที่ลงมือเองอย่างครั้งนี้ด้วยก่อนหน้านี้ทีมกุ้งเสือดำเหมือนถูกลืมไปชั่วขณะเพราะพวกเขาได้หายไปจากทุกคนเป็นเวลาพักหนึ่ง ต้องไปฝ่าความยากลำบากเดินทางเป็นเวลายาวนาน หากเพราะความลำบากนี้เช่นกันที่ช่วยให้สมาชิกเกือบทุกคนในทีมได้ยกระดับวิวัฒนาการขึ้น
พวกเขาเองก็พึ่งได้เข้าสู่เขตพื้นที่นี้และก็บังเอิญได้ยินเสียงร้องของเกาช้าวฮุ่ยดังแว่วมาจึงตัดสินใจเดินตามเสียงมาจนได้เจอลูกผสมดักซุ่มตามพุ่มไม้สูงรอบๆพื้นที่
ในเมื่อได้เจอลูกผสมในพื้นที่ของเมืองอันลูแบบนี้เสี่ยวเคินจึงตั้งมั่นที่จะไม่ปล่อยพวกมันให้รอดไป
ดังนั้นโหมดนักฆ่าของทีมกุ้งเสือดำจึงถูกเปิดขึ้นมา! เพราะฉะนั้นทุกอย่างจึงเป็นแค่เรื่องบังเอิญ…บังเอิญที่ชูฮันและเสี่ยวเคินมาเจอกันได้ราวกับปาฏิหาริย์
”พวกผมฆ่าลูกผสมไปได้แล้ว50 ตัวครับ” เสี่ยวเคินไม่ได้ลืมคำถามของหัวหน้าชูฮัน เขารีบดึงตัวเองที่ตกใจกลับมาและรายงานต่อ “ทั้งทีมกุ้งเสือดำก็อยู่ที่นี่นะครับ แต่เพราะพวกเขาเหนื่อยล้าจนหมดแรงกัน ผมเลยให้พวกเขารออยู่ข้างหน้าไม่ห่างออกไปและพวกผมก็เป็นตัวแทนที่เข้ามาดูลาดเลาสถานการณ์ก่อน”
ชูฮันพยักหน้าแนวทางการควบคุมทีมของเสี่ยวเคินนั้นครอบคลุมอย่างมากเพราะเพียงแค่ในเวลาสั้นๆทีมกุ้งเสือดำสามารถกำจัดลูกผสมไปได้ 50 ตัวแล้ว ไหนจะยังมีตัวเขาและซูเฟิงที่ก็ฆ่าลูกผสมไปก่อนหน้านี้อีกด้วย ผลลัพธ์ในตอนนี้จึงน่าพอใจอย่างมาก
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญสิ่งเดียวที่ชูฮันเป็นกังวลมากที่สุดก็คือทิศทางต่อไปที่อู๋หลิงฉิงวางเอาไว้! ก่อนที่จะไล่จัดการพวกลูกผสมทั้งหมดสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการหาตำแหน่งที่ตั้งของอู๋หลิงฉิงต่างหาก
”จัดการลอบฆ่าต่อ”ชูฮันออกคำสั่งแก่เสี่ยวเคิน
”ครับ!”เสี่ยวเคินพยักหน้าตอบรับและไม่พูดอะไรเพิ่มอีก
และในตอนนั้นเองอู๋หลิงฉิงที่ยังคงอยู่ที่ซ่อนเดิมขณะจับจ้องไปที่เกาช้าวฮุ่ยที่อยู่ไม่ห่างจากเธอไม่วางตา ในที่สุดอู๋หลิงฉิงก็กัดฟันแน่นพร้อมได้ทำการตัดสินใจครั้งใหญ่เรียบร้อย
”เอาล่ะ”มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ อู๋หลิงฉิงจะโกนใส่เกาช้าวฮุ่ย “เราไม่มีความหวังตั้งใจจะมีเรื่องกับคุณ ดังนั้นกรุณาอย่าขัดขวางพวกเรา”
นี้คือการผ่อนปรนที่ใหญ่ที่สุดสำหรับอู๋หลิงฉิงเธอจะต้องชนะ…จะฆ่าเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดและจับตัวชูฮันไปเป็นๆ! สำหรับความกลัวของท่านมู๋เย๋อู๋หลิงฉิงเองก็ยังไม่รู้แน่ชัดเหมือนกัน หากเธอก็เชื่อว่าไม่อย่างไรทางที่ดีที่สุดคือเธอไม่ควรมีปัญหากับชายหนุ่มตรงหน้า
ทว่าทุกอย่างกลับดำเนินไปในทิศทางที่อู๋หลิงฉิงคาดไม่ถึง!
ในจังหวะที่อู๋หลิงฉิงกำลังพูดเพื่อทำข้อตกลงกับเกาช้าวฮุ่ยชูฮันและคนอื่นๆในบริเวณก็อึ้งกันหมดเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของอู๋หลิงฉิง ต่อมามันก็มีรอยยิ้มเลศนัยปรากฏขึ้นบนมุมปากของชูฮันขณะที่เขาได้เคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่มาของเสียงอย่างลับๆโดยไม่ให้อู๋หลิงฉิงรู้ตัว
ซูเฟิงเองก็หยุดการลอบฆ่าลูกผสมทันทีและเริ่มเคลื่อนตัวไปยังที่มาของเสียงอู๋หลิงฉิงที่ได้ยินในเวลาเดียวกันกับชูฮัน
เกาช้าวฮุ่ยเป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยหลังจากได้ยินเสียงอู๋หลิงฉิง เขาก็นิ่งไปก่อนถามต่อ “ฉันถามว่า คุณเป็นซอมบี้หรือลูกผสม?” เพราะไม่ว่าอย่างไรมันก็ไม่มีทางเป็นมนุษย์แน่ๆเพราะถ้าเป็นมนุษย์จริงๆก็จะต้องเป็นคนของกองทัพเขี้ยวหมาป่า แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจะไม่รู้จักเขาได้อย่างไร?
เกาช้าวฮุ่ยคอยตามติดอยู่ข้างกายชูฮันตั้งนานและแทบทุกคนในกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็ต่างเห็นภาพที่เขาตามติดชูฮันจนชินตากันหมด และแน่นอนว่าทุกคนต่างสงสัยและอยากรู้อยากเห็นเรื่องของเขากันหมด
อย่างน้อยที่สุดเกาช้าวฮุ่ยมั่นใจอย่างมากว่าถ้าเป็นคนของกองทัพเขี้ยวหมาป่าจริงจะต้องรู้จักเขาดังนั้นเกาช้าวฮุ่ยจึงมั่นใจอย่างมากในคำถามที่ถามออกไป
อู๋หลิงฉิงที่ได้ยินคำถามไม่คิดอย่างนั้นเพราะการที่ไอ้เด็กหนุ่มนี้ถามว่าเธอเป็นลูกผสมหรือซอมบี้…มันคือความอับอาย!
แววตาของอู๋หลิงฉิงอัดแน่นไปด้วยดวงไฟที่ลุกโชนน้ำเสียงคมกริบ “ฉันบอกได้อย่างหนึ่งนะเด็กน้อย ทางที่ดีที่สุดคือออกไปจากที่ซะเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าโทษฉันละกัน!” เกาช้าวฮุ่ยเลิกคิ้วทันใดนั้นเขาก็มีสีหน้าไม่พอใจขึ้นมา “หือ? ไม่น่าเชื่อ ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับฉันแบบนี้ คิดว่าตัวเองเป็นใคร?”
ชูฮันที่กำลังเข้าไปใกล้อู๋หลิงฉิงขึ้นเรื่อยๆก็แอบหัวเราะในใจขณะที่เกาช้าวฮุ่ยก็พยายามปั่นอารมณ์อู๋หลิงฉิงเพื่อดึงความสนใจเอาไว้
”ฉันเป็นใคร?น้ำเสียงของนายไม่เป็นมิตรเอาซะเลย ฉันจะให้โอกาสครั้งสุดท้าย ออกไปจากที่นี้ซะ!” ความโกรธของอู๋หลิงฉิงไต่ขึ้นไปถึงระดับสูงสุดแล้ว บาดแผลตามร่างกายของเธอเริ่มปริออกและมีเลือดไหลอีกครั้ง ตอนนี้เธออยากจะพุ่งเข้าไปฆ่าคนตรงหน้าซะเดี๋ยวนี้เลย
”หึ!”เกาช้าวฮุ่ยแสร้งยกมือขึ้นแตะปลายจมูก “ทำไมฉันถึงอยากจะเห็นจังว่าเธอจะสามารถทำอะไรคนอย่างฉันได้บ้าง?”
”งั้นก็เตรียมตัวตายซะ!”อู๋หลิงฉิงแหกปากร้องพร้อมลุกขึ้นยืน ตัดสินใจที่จะสู้กับเกาช้าวฮุ่ยทันทีเพราะความโกรธที่อัดอั้นมานานทำให้เธอไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปแล้ว
แต่ในตอนนั้นเองอย่างฉับพลัน————-
”พัฟ!พัฟ!”
ลำแสงสีดำและสีทองส่องประกายพร้อมกับมีบาดแผลลึกสองจุดเกิดขึ้นที่แผ่นหลังของอู๋หลิงฉิงเลือดไหลทะลักออกมาไม่น้อยจนมีกลิ่นคาวเลือดคลุ้งในอากาศ
และในเวลาเดียวกันชูฮันก็ตะโกนสั่งการ “ลงมือ!”
”%$$%^&*(*&!$!!!”
ทันใดนั้นเหล่าทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าทั้งหลายที่ดักซุ่มล้อมลูกผสมเอาไว้รอบนอกอีกทีก็โผล่ออกมาพร้อมอาวุธฟาดฟันเข้าใส่ลูกผสมทั้งหลายอย่างพร้อมเพรียง
สมาชิกของทีมกุ้งเสือดำเองก็เข้าร่วมการโจมตีครั้งใหญ่นี้ด้วยเช่นกันหลังจากได้เจอกับอีกสี่ทีมพิเศษ ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีการทักทายอย่างประหลาดอะไรทั้งนั้น หากแต่พวกเขากลับเริ่มปรึกษาและตกลงหน้าที่กันทันที
อู๋หลิงฉิงที่ได้รับบาดเจ็บโดยไม่ทันตั้งตัวรีบหันหลังกลับมาอย่างตกใจและก็ได้เจอกับชูฮันและซูเฟิงประกบเธอซ้ายขวา
”แก?!”อู๋หลิงฉิงตกใจ ไม่คิดว่าชูฮันจะมาที่นี่ แต่ทันทีที่ได้สติเธอก็รีบออกคำสั่งทันที “ลงมือได้!”
อู๋หลิงฉิงแหกปากร้องออกคำสั่งใส่ลูกผสมทั้งหมดเพื่อให้ลงมือตามแผนแต่แล้วหลังจากนั้นเธอก็พึ่งค้นพบว่าตัวเธอได้ถูกแยกตัดขาดออกจากภายนอก…เหลือเพียงตัวคนเดียวอยู่ในพื้นที่สีดำสนิท!