องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 779 (๑) รักษาอาการป่วย
ฉีเฟยอวิ๋นนั่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วสั่งการว่า: “เตรียมอ่างอาบน้ำและต้มน้ำร้อนจากนั้นก็เรียกหมอหลวงมา”
“เพคะ”
มีคนตอบรับและในไม่ช้าสิ่งต่างๆก็เตรียมการไว้พร้อม หมอหลวงมาแล้วฉีเฟยอวิ๋นจึงสั่งยาให้หมอหลวงไปจัดเตรียม
ต้มน้ำร้อนเรียบร้อยแล้วฉีเฟยอวิ๋นให้คนนำซูมู่หรงลงไปในอ่างแล้วให้ซูมู่หรงนั่งอยู่ในนั้นโดยที่ร่างทั้งร่างนั้นต้องเปลือยเปล่า
ใส่สมุนไพรลงไปในน้ำแล้วฉีเฟยอวิ๋นจึงยื่นมือไปสัมผัสและซูมู่หรงก็ได้ลืมตาขึ้นมา
เมื่อเห็นฉีเฟยอวิ๋นแล้วซูมู่หรงก็เหลือบมองร่างกาย: “ช่างไร้ยางอายสิ้นดีไม่อยู่กับข้าแล้วยังถอดกางเกงของข้าอีก”
“องค์ชายสาม กางเกงนั้นกระหม่อมเป็นคนถอดเองพะย่ะค่ะ เป็นขันทีน้อยสองสามคนนำตัวท่านเข้าไป” สวีฝูเดินมากล่าว
ซูมู่หรงสีหน้าเย็นชา: “หากว่าเจ้าไม่พูดจะเป็นใบ้หรือ?”
“ไม่เป็นพะย่ะค่ะ บ่าวพูดมากไปแล้ว พูดมากไปแล้ว จะถอยไปเดี๋ยวนี้พะย่ะค่ะ”
สวีฝูเดินไปยังฝั่งหนึ่ง จากนั้นซูมู่หรงก็ถามว่า: “สามารถรักษาให้หายได้หรือไม่?”
“ลองดูเถอะ” ขณะรักษาอาการป่วยฉีเฟยอวิ๋นนั้นเริ่มจริงจังขึ้นมาโดยที่ในมือนางยังมีสมุนไพรอยู่อีกจากนั้นจึงใส่ลงไปในน้ำ ซูมู่หรงดึงฉีเฟยอวิ๋นทีหนึ่ง ฉีเฟยอวิ๋นนำมือออกแล้วไปนั่งลงยังฝั่งหนึ่งและสั่งคนว่าอย่าให้น้ำเย็นซะหล่ะ ต้องเปลี่ยนน้ำอย่างไม่ขาดตอน
หลังจากนั้นในเรือนก็เปลี่ยนน้ำอยู่ตลอดเวลา จักรพรรดิปีกใต้จึงได้สั่งให้คนนำกระดานหมากรุกมาเพื่อที่จะเล่นหมากรุกกับฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นว่างอยู่ก็เพียงแค่ว่างอยู่จึงได้เล่นหมากรุกกับจักรพรรดิปีกใต้
ซูมู่หรงแช่ตัวเป็นเวลาสองชั่วยาม ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นไปดูและร่างทั้งร่างนั้นแดงขึ้นมาแล้ว ผู้คนภายนอกมองดูแล้วราวกับว่าหนักหนากว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
ฉีเฟยอวิ๋นถอนหายใจอย่างโล่งอก: “ยังมีทางช่วยได้ ออกมาเถอะ”
เสียงซ่าเสียงหนึ่งซึ่งซูมู่หรงลุกยืนขึ้นมา ฉีเฟยอวิ๋นจึงได้หันกลับไปทันที
เสียงเงียบเชียบเสียจนเข็มเล่มหนึ่งตกพื้นก็ยังได้ยิน ซูมู่หรงนำเสื้อคลุมมาแล้วสวมใส่ออกมาจากอ่างน้ำ ฉีเฟยอวิ๋นโมโหจนกระแอมเสียงหนึ่ง”ซูมู่หรง ท่านช่างไร้ยางอายจริงๆ!”
“กับเจ้ายังจะต้องอายสิ่งใด ข้าว่าอายเพียงพอแล้ว หากข้าไร้ยางอายเร็วกว่านี้เจ้าก็จะเป็นของข้า เขามีลูกข้าก็มีเช่นนี้ก็จะยุติธรรมแล้ว” ซูมู่หรงออกมาสวมใส่รองเท้าแล้วเดินมายังฝั่งตรงข้ามฉีเฟยอวิ๋น
ฉีเฟยอวิ๋นโมโหจนไม่รู้ว่าจะกล่าวสิ่งใด ซูมู่หรงเดินเข้ามาใกล้ราวกับภูเขาลูกใหญ่: “อวิ๋นอวิ๋น”
“หุบปาก!” ฉีเฟยอวิ๋นอับอายเสียจนโกรธเคืองโดยที่สีหน้านั้นย่ำแย่ยิ่งนัก
ซูมู่หรงมือไขว้หลัง: “ข้าไม่เป็นไร ตอนนี้ข้าสามารถกินยาได้แล้วหรือยัง?”
ฉีเฟยอวิ๋นถึงได้นึกขึ้นว่าตรงด้านนอกยังคงต้มยาอยู่
สั่งให้คนยกยาเข้ามา ส่วนซูมู่หรงเดินไปนั่งลงแล้วหยิบยาขึ้นมาเป่า ดื่มลงไปเสียงอึกๆราวกับว่าดื่มน้ำหวานเช่นนั้น
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า: “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ”
หากว่าหนานกงเย่กลับมาเห็นเข้านางจะรับผิดชอบไม่ไหว
ซูมู่หรงลุกขึ้นแล้วสั่งให้คนนำเสื้อผ้ามาและเขาก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาแล้วก็รู้สึกว่าสดชื่นขึ้นมาก เขาทุกข์ทรมานเป็นเวลานานแล้วและความเจ็บปวดนั้นไม่สามารถบรรเทาได้สุดท้ายแล้วก็เป็นนางอยู่ดี
วันนี้ซูมู่หรงสวมชุดอันสะดุดตายิ่งนักโดยมีสีม่วงและสีน้ำตาลรวมกันและยังสวมมงกุฎสีทองบนศีรษะอีกด้วย เมื่อคนออกมานั้นก็ยังมีกลิ่นยาจางๆอยู่บนร่างกายด้วย นางกำนัลทั้งหลายมองดูราวกับตกอยู่ในภวังค์
ฉีเฟยอวิ๋นเล่นหมากรุกอยู่แต่ไตร่ตรองเรื่องของหนานกงเย่ เวลานี้แล้วยังไม่กลับมาอีกและก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อใด หากยังไม่กลับมาอีกก็จะรุ่งสางแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นก็รู้สึกง่วงอยู่บ้างและเตรียมพร้อมเล่นกระดานนี้จบก็ไปพักผ่อน
ซูมู่หรงนั่งลงข้างๆฉีเฟยอวิ๋น: “วันนี้เขาจะไม่กลับมาเขาน่าจะถูกกักตัวเอาไว้เสียแล้ว”
ฉีเฟยอวิ๋นมองดูซูมู่หรง: “ท่านรู้ได้เช่นไร?”
“เหตุใดข้าจะไม่รู้ว่าหนานกงเซวียนเหอมาหาข้าและหวังให้ข้าร่วมมือกับเขาแต่ข้าปฏิเสธไปแล้ว ทว่าข้ารู้ว่าพวกเขาลงมือที่ใดกัน”
“ท่านไม่จำเป็นต้องบอกสิ่งเหล่านี้กับข้า ข้าเชื่อว่าเขาจะกลับมา” ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นไปพักผ่อน: “ข้าต้องการพักผ่อนแล้วออกไปให้หมดเถอะ”
ฉีเฟยอวิ๋นขึ้นไปบนเตียงแล้วนอนลง สวีฝูปลดผ้าม่านลงให้นางแล้วเรียนเชิญจักรพรรดิปีกใต้และซูมู่หรงออกไป