ตอนที่ 166 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 166 โชคชะตาฟ้าลิขิต (1)
หลังจากทั้งสองคนกลับมาจากเดินเล่น ก็เห็นผู้ชายทั้งคู่ออกมาจากห้องหนังสือพอดี อี้เป่ยซีอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความเข้าใจโดยไม่ต้องพูดจาระหว่างสามีภรรยาคู่นี้ที่กะเวลาได้อย่างแม่นยำ
“พ่อคะ”
อี้เฉิงพยักหน้าให้กับลูกสาวของตัวเอง ประหนึ่งกำลังชื่นชมแววตาของเธอ อี้เป่ยซีเผยยิ้มภูมิใจออกมาโดยไม่รู้ตัวแล้ว
“นี่ก็ดึกแล้ว รีบไปพักผ่อนกันเถอะ” พูดจบอี้เฉิงก็พาภรรยาของตัวเองเดินเข้าไปในห้องนอนต่อหน้าพวกเขาราวกับกำลังโอ้อวดอย่างไรอย่างนั้น อี้เป่ยซียักไหล่ มองลั่วจื่อหานอย่างจนปัญญา ลั่วจื่อหานลูบๆ จมูกเดินไปยังทิศตะวันออกเพื่อกลับห้องของตัวเอง ส่วนอี้เป่ยซีเดินกลับห้องของตัวเองไปยังทิศตะวันตก
ปิดประตูอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน แม้จะผ่านไปเนิ่นนานแล้ว อี้เป่ยซีก็ยังอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ส่งข้อความให้ลั่วจื่อหาน
“เป็นไงบ้าง?”
“คุณพ่อรู้สึกดีกับฉันนะ”
“แหม กลับคำเร็วจังเลย? พ่อฉันมัดใจนายได้แล้วเหรอ?”
“เพราะว่าฉันกล่อมเขาสำเร็จต่างหาก”
อี้เป่ยซีหัวเราะ พิมพ์บนแป้นพิมพ์ต่อ “อืม ประสบความสำเร็จมาก ให้รางวัลนายด้วยการนอนห้องเดี่ยว นายขอบคุณเจ้าของบ้านแล้วเหรอยังล่ะ”
“……”
“เอาล่ะ ไม่คุยแล้ว ฉันจะนอนแล้ว ราตรีสวัสดิ์”
จู่ๆ ข้างกายขาดไปหนึ่งคน อี้เป่ยซีรู้สึกไม่ค่อยชิน พลิกตัวไปมาอย่างไรก็นอนไม่หลับ เธอได้แต่นอนมองเพดาน ตามปกติแล้วลั่วจื่อหานน่าจะปรากฏตัวที่ห้องของเธอถึงจะถูก เขาจะเชื่อฟังและนอนหลับอย่างสงบสุขในห้องแขกตามลำพังตลอดทั้งคืนเชียวเหรอ?
เธอคว้าโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียง พิมพ์ไปหนึ่งประโยคอย่างรวดเร็ว
“นอนแล้วยัง”
ทางนั้นก็ตอบกลับทันที
“ยัง กำลังคิดถึงเธอ”
อี้เป่ยซีเห็นประโยคหลัง ในขณะนั้นเองจิตใจก็รู้สึกไม่สงบเล็กน้อย เธอขยี้ตาที่อ่อนล้า ถอนหายใจ
“ทนหน่อยนะ คุณอาลั่ว”
“ทนไม่ไหวแล้ว หลานสาว”
อี้เป่ยซีตัดสินใจว่าจะไม่สนใจอีก พลิกตัวไปมาอีกสองสามรอบบนเตียง แล้วลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย กอดหมอนขอตัวเองย่องไปที่ห้องแขก ยังไม่ทันจะยกมือขึ้นเคาะประตู เธอก็ถูกดึงเข้าไปแล้ว โลกทั้งใบหมุนคว้าง เธอถูกลั่วจื่อหานกดไว้ที่ประตู จูบอันร้อนแรงกระหน่ำอยู่บนตัวของเธอโดยไม่ปล่อยโอกาสให้พูดอะไร อี้เป่ยซีจูบตอบเขา รู้สึกได้ถึงความร้อนใจของเขา
จนกระทั่งรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของลั่วจื่อหาน อี้เป่ยซีรีบผลักเขาออกไป “นายหยุดก่อกวนได้แล้ว”
ลั่วจื่อหานสงบลมหายใจของตัวเองครู่หนึ่ง เดิมทีต้องการให้อี้เป่ยซีเข้ามานอนหลับอย่างสบายใจ ตอนนี้สงสัยยิ่งนอนไม่หลับแล้ว
“เธอไปพักผ่อนก่อน ฉันจะไปอาบน้ำ” อี้เป่ยซีพยักหน้า กอดหมอนค่อยๆ เดินไปที่เตียงของเขา ในใจก็มีความวิตกและตื่นเต้นกลัวว่าจะถูกจับได้ เธอฟังเสียงน้ำซู่ เพียงครู่เดียวก็เข้าสู่ความฝันแล้ว ลั่วจื่อหานเห็นคนที่นอนหลับใหล ปิดไฟที่หัวเตียงและนอนหลับสนิทตลอดคืน
เมื่ออี้เป่ยซีลืมตาขึ้น เธอก็นอนอยู่ในห้องของตัวเองแล้ว อดไม่ได้ที่จะเชยชมความเอาใส่ใจของลั่วจื่อหาน
“เป่ยซี พาเขาไปแล้วยัง?” ตอนที่อี้เฉิงกำลังจะออกไป เขาผูกเนกไทพร้อมเอ่ยถาม
อี้เป่ยซีส่ายหน้า “กะว่าจะไปวันนี้”
“ก็ดี ก็ดี ให้พวกเขาได้เจอ งั้นพ่อไปทำงานก่อนนะ”
“ค่ะ แล้วเจอกันค่ะพ่อ”
ลั่วจื่อหานจูงมือของอี้เป่ยซี “ไปไหนเหรอ?”
“พานายไปเจอพ่อกับแม่” อี้เป่ยซีหันไปซบอกของเขา ลั่วจื่อหานรู้สึกได้ถึงความอ่อนแอจากเธอ มืออันใหญ่โตตบหลังของเธอเบาๆ
ที่สุสานชานเมืองตะวันออก
อี้เป่ยซีวางดอกไม้ที่ลั่วจื่อหานเลือกมาอย่างดี ยิ้มมองสามีภรรยาวัยหนุ่มสาวในรูปถ่ายสีขาวดำ
“พ่อคะ แม่คะ นี่คือลั่วจื่อหาน พ่อกับแม่น่าจะรู้แล้วมั้งคะว่าเขาเป็นใคร หนูก็จะไม่พูดมากแล้ว” อี้เป่ยซีมองลั่วจื่อหานอย่างมีความสุข “พ่อคะแม่คะ เขาดีกับหนูมาก พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วง หนูก็ชอบเขามากเหมือนกัน”
มือของลั่วจือหานที่จูงอี้เป่ยซีบีบแรงเล็กน้อย อี้เป่ยซีรู้สึกได้ถึงพลังที่อยู่ด้านหลัง ยิ้มอีกครั้ง “พ่อคะแม่คะ พ่อกับแม่เห็นแล้วใช่ไหม ว่าเขาดีกับหนูมาก ถ้าวันไหนเขาร้ายกับหนู พ่อกับแม่ห้ามเกรงใจเด็ดขาดนะคะ ไม่ต้องไว้หน้าหนู พาเขาไปได้เลย”
ลั่วจื่อหานยิ้ม ดึงอี้เป่ยซีเข้ามากอด “พ่อครับแม่ครับ พวกท่านวางใจเถอะ ชาตินี้ผมจะมีแค่อี้เป่ยซีคนเดียวเท่านั้น ไม่ต้องรบกวนให้พวกท่านมาเอาผมไปหรอกครับ ยังมีอีกข่าวดีที่อยากจะบอกพ่อกับแม่ เป่ยซีท้องแล้ว อีกไม่นานพวกท่านก็จะเป็นคุณตาคุณยายแล้ว”
อี้เป่ยซีศอกเขา “คุยกันแล้วใช่ไหมเหรอว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับพวกเขา?”
“พ่อกับแม่ต้องอยากรู้อยู่แล้ว”
เธอเงียบไปด้วยความเหลือเชื่อ ลั่วจื่อหานพูดอะไรบางอย่างต่อหน้าหลุมฝังศพ แล้วสละพื้นที่ให้อี้เป่ยซี ตัวเองหลบมองเธออยู่ด้านข้าง
“พ่อคะแม่คะ พ่อแม่เห็นแล้วสินะ อยากจะบอกว่าลูกสาวตามีแววใช่หรือเปล่า ที่หาบ้านที่ดีได้” เธอลูบรูปถ่ายขาวดำหัวเราะแผ่วเบา “พ่อแม่คะ ตอนนี้หนูมีความสุขมาก พวกท่านเห็นแล้วใช่ไหม”
พวกท่านเห็นแล้วใช่ไหม โลกนี้ไม่เคยทิ้งหนูตามลำพัง มันให้ชีวิตหนู ให้ครอบครัวหนู ให้ความรักหนู มันได้ให้ทุกอย่างที่ดีที่สุดแก่หนู
เพราะว่าพวกท่านอยู่บนสวรรค์คอยปกป้องลูกสาวของพวกท่านอยู่เสมอ คอยอธิฐานให้เธอ ชีวิตของเธอจึงได้สมบูรณ์แบบนี้ล่ะมั้ง
ขอบคุณพวกท่านที่พาหนูมาสู่โลกใบนี้และได้พบกับคนดีแบบนี้…
พ่อคะ แม่คะ พวกท่านเห็นแล้วสินะ…
ลูกสาวของพวกท่านมีความสุขมากจริงๆ
ฉะนั้นวางใจเถอะค่ะ หนูจะพาเขากลับมาหาพ่อกับแม่ แล้วก็หลานตัวน้อยของพวกท่าน
อี้เป่ยซีอยู่ต่ออีกนานแค่ไหนไม่รู้จึงลุกขึ้นมาจากพื้น ลั่วจื่อหานรีบไปประคองเธอ ทั้งสองคนอยู่ในรถ กำลังปรึกษากันว่าจะออกไปเดินเล่นดีหรือเปล่า
โทรศัพท์มือถือของลั่วจื่อหานดังขึ้นระหว่างการปรึกษาหารือของทั้งสองคน พวกเขามองดูมือถือที่ไม่รู้เวล่ำเวลาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย หลังจากเห็นว่าใครโทรมาแล้ว ลั่วจื่อหานก็วางสายทันที หารือกับอี้เป่ยซีต่อ โทรศัพท์มือถือส่งเสียงอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าโดนไวรัสอยู่ข้างๆ
“ใครน่ะ ดื้อด้านจังเลย ไม่ใช่มาจีบนายหรอกนะ”
ลั่วจื่อหานพยักหน้า “ใช่แล้ว เธอต้องระวังหน่อยนะ ถ้าดูแลฉันไม่ดีฉันก็จะไปกับคนอื่นแล้ว”
“นายไปเถอะ เมื่อกี้พ่อแม่ฉันรับปากฉันแล้ว ถ้านายเปลี่ยนใจล่ะก็จะพานายไปเดินเล่น นายอย่ากลัวก็แล้วกันนะ”
ลั่วจื่อหานปิดเครื่องทันที แล้ววางมือถือข้างๆ “พอเธอพูดแบบนี้ฉันก็ชักไม่กล้าซะแล้ว”
“นายก็ลองดูสิ เมื่อกี้พวกเราคุยกันถึงไหนแล้ว” ยังไม่ทันคุยต่อ โทรศัพท์มือถือของอี้เป่ยซีก็ดังขึ้น
“นี่พวกเรามีเรื่องกับมือถือซะแล้ว” เธอก้มหน้ามองสายเรียกเข้า มู่ลี่ไป๋ เขาจะหมั้นกับคุณหนูบ้านหวังแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงคิดโทรหาเธอ
ลั่วจื่อหานมองเธอ อี้เป่ยซีเอ่ยปากอย่างจนใจ “มู่ลี่ไป๋น่ะ ฉันไม่รู้ว่าเขาหาฉันมีเรื่องอะไร”
“รับเถอะ”
อี้เป่ยซีพยักหน้าแล้วรับสาย ได้ยินเสียงที่ร้อนรนเป็นอย่างยิ่งของมู่ลี่ไป๋
————