GG: บทที่ 141 – วันนี้ฉันจะไว้หน้าเขาสักครั้ง‼

 

ใบหน้าของผู้อ่อนยังคงสับเปลี่ยนมาเรื่อย ๆ แล้วพูดขึ้น “มีอีกคนอยู่ตรงนั้น  เร็วเข้าบอสกำลังมา รีบหน่อย”

 

อาเซี่ยและไป๋เสี่ยวเฉินพยักหน้า ขณะที่ถังเว่ยยังคงอยู่ในความหวาดกลัว

 

ฉันเห็นว่าร่างที่ดูสวยงามน่ารักนั้นมีแสงประกายออกมา และเมื่อมันปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ขาเรียวงามทั้งคู่นั้นยืนอยู่บนหน้าผากของผู้ชายคนหนึ่งร้องเท้าสั้นสูงที่สวมอยู่ได้เจาะลงไปทีกะโหลกของผู้ชายคนนั้น   เลือดก็ไหลออกมาจากส้นของรองเท้า

 

ผู้ชายคนนั้นยังคงจ้องดูอย่างรู้สึกหวาดกลัว   แต่ก็อดที่จะเหลียวมองดูพื้นไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกไม่พึงพอใจแม้ว่าจะสวมกางเกงที่สามารถป้องกันไว้แล้วก็ตาม!

 

ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น หุบเขาเล็ก ๆก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า น้ำใสก็กลับกลายเป็นสีแดงสด

 

ถังเว่ยมองไปที่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า   เขาตบหน้าผู้ชายคนนั้นไปหนึ่งครั้ง ทำให้เขาเสียหลักร่างเอนไปกระทบเข้ากับประตู

 

“ตาย!” ผู้ชายคนนั้นยกมืดแล่เนื้อสัตว์ขึ้น ซึ่งมีดเล่มนั้นสามารถที่จะชำแหละเนื้อออกเป็นสองชิ้นได้อย่างสวยงาม

 

ถังเว่ยกระวนกระวายอย่างมากกับเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้า  เธอก็ต่อต้านด้วยการคว้าแขนของเขาไว้!

 

แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากเย็น  แขนของเขาถูกฉีกขาดมองเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากท่อนแขน  มีแสงส่องสีดำส่องประกายคล้อยหมอกปกคลุมดวงตาคู่สวยของหญิงสาว ใบหน้าสวยงามหมดจดของเธอได้จางหายเป็นเหลือแต่เพียงสีหน้าของความบ้าคลั่งไว้แทน!

 

“ฆ่า!”

เมื่อหลังชนฝาไม่มีทางใดให้หนี   และก็ไม่มีใครยอมปล่อยให้หนีไปได้ด้วยเช่นกัน  การกระทำที่โหดร้ายและป่าเถื่อน ถึงแม้ว่าพระเจ้าจะยกเอาเมฆมาปกคลุมเอาไว้ก็มิอาจสามารถปกคลุมก็ไม่สามารถปกปิดความจริงไว้ได้!

 

ไม่กี่นาทีต่อมา ผู้คนเป็นร้อยๆ คนได้ถูกสังหารลง   เริ่มต้นก็คือน้องชายของเขาเอง ผู้ซึ่งกล่าวอ้างมาตลอดว่าตนเองมีความแข็งแกร่งและมีผู้มีอิทธิพลคอยสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง  และเรียนรู้วิธีแห่งคนพาลทุกประเภทอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ในท้ายที่สุด สิ่งที่ยังไม่ได้เริ่ม  แต่สิ่งนั้นกลับเชื่อมโยงพวกเขาไว้ด้วยกัน  ภาพเหตุการณ์นี้สามารถมองเห็นได้จากรายการโทรทัศน์เท่านั้น

 

“มานี่สิ ผู้ชายผู้ซื่อสัตย์อยู่ที่นี่ มาตรงนี้แล้วจัดการเขาซะ” ไป๋เสี่ยวเฉิน โบกสะบัดมือขาวและเนื้อตัวที่สะอาดของเธอ ไม่ยอมปล่อยให้เลือดที่เหนียวเหนอะหนะเปรอะเปื้อนร่างกายของเธอ

 

อาเซี่ยและถังเว่ยเดินเข้ามาหา

 

ผู้ชายคนนั้นหวาดกลัวจนฉี่รดกางเกง แล้วล้มลงกับพื้น “ฉันยอมรับว่าพวกเรามาจากทางเหนือ  และมาที่นี้เพื่อที่จะดักซุ่มโจมตี ผมได้บอกสิ่งที่คุณอยากรู้แล้ว ได้โปรดอย่าฆ่าผม”

 

ยังคงเดินมาที่ชายคนนั้นซึ่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นอย่างช้า ๆ “ไม่ว่าจะฆ่าแกหรือไม่  ยังไงแกก็ต้องพูดความจริงกับบอส!”

 

“บอส‼”  ชายคนนั้นค่อยมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา   พวกเขามีเจ้านาย ฆ่าตนตั้งมาหมายเพื่อที่จะสืบหาความจริงให้แก่นายของพวกเขา  ใครคือเจ้านายของพวกเขา!‼

 

ชายคนนั้นรู้สึกคันที่ต้นคอของเขา  เมื่อเขาหันหลังกลับไปมองพบว่าเขาพบว่าร่างของตัวเองนั่งขัดสมาธิอยู่กับพื้นในสภาพที่ไร้หัว หัวของฉันไปไหน ๆ ไม่! ฉันยังไม่อยากตาย!

หลังจากที่จัดการกับคนสุดท้ายลงแล้ว เปิดหีบขนาดใหญ่ขึ้นมา  “แยกย้ายกันทำงาน อย่าปล่อยให้รกหูรกตาบอสได้”

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้

 

“ลุกขึ้น” เย่ฮัวกระซิบ

“โอ้”

เย่ฮัวถอนหายใจอย่างเหลืออด  แต่ชิงหยารู้สึกตัวขึ้น

“พวกเราอยู่ที่ไหนกัน?” ชิงหยาเปิดตาคู่สวยของเธอ แล้วพบว่าตัวเธอเองกอดเย่ฮัวอยู่  เธอจึงขอให้เขาวางเธอลง

 

เย่ฮัวตะคอกอย่างเยือกเย็น “ทำไม ถ้าคุณกอดผมไว้  ไม่ยอมห่าง?”

“ฉัน…ฉันไม่ได้ต้องการจะกอดคุณ” ชิงหยกระซิบ แล้วก้าวลงจากรสในทันที ไม่เหลือโอกาสให้เย่ฮัว

เย่ฮัวอยู่ในรถเผยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

“ผู้สูงส่ง ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นไม่สามารถรอดพ้นเหงื่อมือคุณ” เว่ยชางหันกลับมาแล้วพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ

เย่ฮัวถอนหายใจเบา ๆ “ถ้าหากฉันยังมีชีวิตอยู่เธอไม่สามารถที่จะหนีฉันพ้น!”

 

เลี่ยกูหยิบหนังสือเล่มเล็กอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้วจดบันทึกคำพูดของผู้อาวุโส  เอาไว้พูดกับผู้หญิงของเขา แล้วเขาจะไม่แตะต้องเธออีกจนตาย ทั้งหมดนี้มันคือหน้าที่ของการรับใช้  คิดแค่นั้นและความตาย

 

เมื่อเย่ฮัวก้าวลงจากรถ เขาได้กลิ่นที่คุ้นเคยมันเป็นกลิ่นเลือด เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ มันฉันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก!

“บอส” ผู้หญิงทั้งสี่คนตะโกนขึ้นด้วยความอ่อนโยน

เย่ฮัวพยักหนาแล้วพึงพอใจ แล้วพูดขึ้น “ ทำได้ไม่เลว”

“ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะบอส”  ผู้หญิงทั้งสี่คนส่ายหัว เมื่อเห็นชิงหยาขว้างหินอยู่ไกลๆ  อย่างไม่สนใจใยดี แต่เย่ฮัวสังเกตเห็นอยู่เป็นครั้งคราว

 

เมื่อเย่ฮัวเห็นชิงหยากำลังจะเดินออกไปเขาจึงตัดสินใจเดินตามออกไป

“บอส กล่าวชมเธอว่าไม่เลวเลย” เลี่ยกูเดินไปที่ ไป๋เสี่ยวเฉินแล้วจับคางของเธอขึ้นมา แต่ไป๋เสี่ยวเฉินก้มหน้าหน้าลงด้วยความรู้สึกอับอาย

 

“บอกช่วงเวลาที่ดีทีดีสุดให้ปู่ได้รู้หน่อย” เลี่ยกูเยาะเย้ย ช่างเถอะมันเปลี่ยนแปลงได้

ฉันถูกถามถึงช่วงเวลาที่ดีในขณะที่ฉันดูย่ำแย่ “บ้าที่สุด”

“ฮ่าฮ่า”

 

เมื่อเว่ยชางมาถึง  ถังเว่ยโผเข้ากอดเว่ยชางในทันที

เว่ยชางปลอบโยนหญิงสาวในอ้อมแขนของเขาอย่างอ่อนโยนแล้วถามขึ้น “ยังคงใช้ได้อยู่มั้ย?”

“ดีค่ะ” ถังเว่ยเปลี่ยนจากผู้ที่มีจิตใจดี  เด็กสาวในโรงเรียน มาสู่เทพแห่งความตายหญิง ทั้งสามสิ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สำหรับวันนี้พวกเขาไม่กล้าจะคิดถึงมันเลย

 

โรงเรียนฝึกอบรมคนชั่ว ถูกแล้วใช่มั้ย? ชิงหยาบ่นพึมพำ

เย่ฮัวเดินเข้ามาหาชิงหยาแล้วพูดกับหล่อนคำพูดที่ “ คุณพูดจาเหลวไหลอีกแล้ว”

 

ชิงหยาชำเลืองมองผ่านไหล่ของเย่ฮัว  ไม่มีอะไรนอกจากคำหลอกลวง!

“ไม่ต้องมองแล้ว  มันผ่านไปแล้ว”

“ฮึ่ม‼”

“ดูแลภาพลักษณ์ของคุณด้วย   ผู้คนมองดูคุณอยู่ ทำตัวให้เป็นผู้หญิงหน่อย”  เย่ฮัวพูดขึ้นก่อนที่จะเดินไปยังเว่ยชางและคนอื่น

 

ชิงหยากระทืบเท้าแล้วคว้างหินก้อนเล็กๆ  “ เขาเริ่มที่จะสั่งสอนฉันอีกแล้ว ฉันไม่รู้เลยว่าพวกกำลังทำสงครามเย็นกันหรือไม่?”

 

ฉันเห็นด้วยกับคำพูดของเย่ฮัว  ในฐานะผู้หญิง เธอจะต้องเป็นผู้หญิง อย่าให้เขามาดูถูกเธอได้อีก

 

วันนี้ฉันจะไว้หน้าเขา

ชิงหยาค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงจากอดีตอย่างช้า ๆ

เย่ฮัวพูดกับเว่ยชางและเลี่ยกู “มองหาเทพที่จำเป็นจะต้องใช้ เพียงแค่สรรหาวิธีการเล็กน้อย ๆ  ชิงหยายังคงไม่ยอมแพ้”

“น่าเลื่อมใสนักที่ผู้สูงส่งสามารถรับมือได้!”  เว่ยชางเกรงผู้ผู้สูงส่งจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาการยั่วยุอารมณ์

“ผู้สูงส่งคือผู้ยิ่งใหญ่” เลี่ยกูรู้สึกเลื่อมใน เนื่องจากผู้สูงส่งฉลาดมากขึ้นและไม่อ่อนโยนมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

 

เพื่อให้เห็นถึงอำนาจแห่งความเป็นราชาของเขาเย่ฮัวเดินไปที่ชิงหยาแล้วโบกมือเรียก

ชิงหยาพ่นลมแล้วทำได้แค่เพียงเดินมาหาเย่ฮัว

 

เย่ฮัวรู้สึกยินดีอยู่ภายในใจ นี่มันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น

 

แน่นอนที่สุดการตั้งแคมป์ไม่สามารถขาดอาหารปิ้งย่างได้  ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว วันนี้หญิงรับใช้สี่คนจะทำหน้าที่ดูแลอาหารให้กับทุกคน

 

เย่ฮัวนำตกปลาที่ริมแม่น้ำ  และแน่นอนที่สุดติดตามไปด้วยเว่ยชางและเลี่ยกู

 

สำหรับเว่ยชางคงไม่เป็นไรแต่เลี่ยกูนั้นดูเหมือนว่าเขาจะขาดความอดทน เนื่องจากปลาไม่ติดเบ็ด แล้วเขาก็ระเบิดอารมณ์ฉุนเฉียว

 

ชิงหยาพักผ่อนอยู่ที่ม้านั่ง  ขณะที่ปอกเปลือกผลไม้ให้เย่ฮัวไปด้วย เป็นการให้เกียรติเขา  ยอมปล่อยให้เขาแสดงความต้องการแบบเด็ก ๆสักวัน

“การตกปลาตกคือความเงียบ” เย่ฮัวพูดขึ้นแล้วหันไปมองที่เลี่ยกู

คุณต้องการทำเสียงดังอีกมั้ย? มันคือปัญหา