บทที่ 680 ไม่เป็นตัวของตัวเอง

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 680 ไม่เป็นตัวของตัวเอง
“ซีเอ๋อร์ ขอโทษนะครับ ผมเป็นเทพเจ้าของต้าเซี่ย ผมได้แค่ ทำให้เกมหมากรุกกระดานนี้ฟื้นขึ้นมา ไม่มีคนทำร้ายพวกคุณได้อีกแล้ว”

ดวงตาของเย่เซิ่งเทียนแดงก่ำ น้ำตาเอ่อล้น

ทุกอย่างในเมืองเฉียนถัง เป็นฉากหนึ่ง

และฉากนี้ เขาก็ได้นำคนใกล้ตัวของตัวเองเป็นเหยื่อล่อ!

เรื่องนี้ นอกจากเขา ก็เป็นขุนหลวงหยางทาว กัวปิง หร่วนซื่อสงทั้งสามคนรู้ดี

การแต่งงานในครั้งนั้น ประการแรกเพื่อชดเชยให้กับหวางซี แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ รบกวนสายตาของตระกูลเก่าแก่ ในเวลานี้เอง หลี่กั๋วหรงโทรศัพท์มา

“เสี่ยวเทียน ตระกูลกู่ส่งการ์ดเชิญงานแต่งมาให้นายด้วย ให้นายไปร่วมงานแต่ง การ์ดเชิญส่งมาที่นี่ ซีเอ๋อร์ให้ฉันโทรมาหานาย”

เย่เซิ่งเทียนยิ้มอย่างขมขื่น“คุณท่าน ผมทราบแล้วครับ ซีเอ๋อร์ไม่รับสายจากผมด้วยซ้ำ?”

ปลายสาวหลี่กั๋วหรงถอนหายใจกล่าวว่า“เรื่องนี้กระทบต่อซีเอ๋อร์เป็นอย่างมาก ฉันคุยกับเธอแล้วว่า นายถูกลอบทำลาย แต่ซีเอ๋อร์ไม่สามารถยอมรับได้ที่นายมีอะไรกับเย็นหราน อีกอย่างก็คือ ถึงฉันกับแม่ของเธอจะเชื่อว่านายถูกลอบทำร้าย แต่ไม่มีหลักฐานอะไรเลย นายหาเบาะแสอะไรบ้างไหม?ตกลงเรื่องของเย็นหรานมันเกิดอะไรขึ้น?”

เย่เซิ่งเทียนส่ายหัวไปมา“ตรวจเจอแค่นิดเดียวครับ แต่ยังไม่แน่ใจ หลี่เย็นหรานถูกหลอกใช้ แต่เธออาจจะไม่รู้ก็ได้ครับ”

เรื่องบางเรื่องเขาไม่ได้เล่าให้คุณท่านหลี่ และกลัวว่าคุณท่านจะเป็นกังวลมากเกินไป

“ฉันเชื่อว่านายบริสุทธิ์ นายวางใจเถอะ ฉันจะค่อยๆพูดให้ซีเอ๋อร์ใจอ่อนเอง อีกอย่าง แม่ของนาย เธอก็แค่เป็นห่วงซีเอ๋อร์มากเกินไป ความจริงแล้วเธอเชื่อนะว่านายถูกใส่ร้าย ขอแค่ความเข้าใจผิดระหว่างนายกับซีเอ๋อร์ถูกคลายออก ก็จะไม่มีปัญหาอะไร”

คุณท่านหลี่พูดอย่างทำอะไรไม่ได้

เดิมที คุณท่านหลี่เป็นกังวลว่าเลือดบนเตียงจะเป็นของปลอม ดังนั้นเขาจึงพาหลี่เย็นหรานไปตรวจร่างกาย และผลตรวจออกมาพบว่า หลี่เย็นหรานไม่บริสุทธิ์ ถูกทำลายพรหมจรรย์ในวันนั้น

นี่จึงเป็นหลักฐานมัดตัวแน่นยิ่งขึ้นว่า เย่เซิ่งเทียนกับหลี่เย็นหรานมีความสัมพันธ์กัน เป็นสิ่งที่คุณท่านหลี่ละเหี่ยใจมากที่สุด

“คุณท่านอย่าเป็นกังวลเลยครับ เรื่องนี้ผมจัดการได้ครับ”

เย่เซิ่งเทียนปลอบใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้ววางสายไป จากนั้นก็รีบจัดการอารมณ์ความรู้สึกทันที

ตอนนี้เขาทำได้แค่จัดการให้เร็ว แม้แต่เวลาเจ็บปวดก็ยังไม่มี

“ตระกูลกู่ส่งการ์ดเชิญงานแต่งมา จะต้องมีอะไรแน่ หรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?”

เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้วครุ่นคิด เขารู้ข้อมูลนิดหน่อย สำหรับตระกูลเก่าแก่แล้วมันไม่สามารถปิดบังได้เลย

พึ่งจะมารู้ตัวตอนนี้ ถือว่าปิดบังได้ไม่เลวเลย

แต่ไม่รู้ว่า ครั้งนี้เป็นการทดสอบของตระกูลกู่หรือพวกเขายืนยันชัดเจนแล้ว

“มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าเป็นแค่การลองใจ การล้างโคตรของตระกูลซ่ง ทำให้กู่เหอเริ่มกระวนกระวาย เขาไม่สามารถยืนยันตัวตนของฉันได้เร็วขนาดนี้ ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นแค่การคาดเดา ถึงได้ส่งการ์ดเชิญมาให้เขา”

เย่เซิ่งเทียนหัวเราะอย่างเยือกเย็น ตอนนี้เริ่มสงสัย มันสายไปแล้วล่ะ

ตระกูลซ่งเริ่มฉีกช่องโหว่แล้ว แต่หนิงเจ๋อฮ่าว เป็น เทพบู๊ที่เคารพบูชาตระกูลกู่ แม้แต่เขายังเป็นคนของฟ้าสยบ ตอนนี้ตระกูลกู่พึ่งเริ่มคาดเดาตัวตนของเขา มันไม่เหลือโอกาสอีกแล้ว

ในวันนี้ หนิงเจ๋อฮ่าวได้มาหาเขาถึงที่ บอกความลับทั้งหมดของตระกูลกู่ ให้กับเย่เซิ่งเทียนทั้งหมด

ที่เหลือ รอดูว่าจะลงมือจัดการอย่างไร

ตัวตนของหนิงเจ๋อฮ่าว เย่เซิ่งเทียนคิดไม่ถึงจริงๆ นี่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ

หมากตัวนี้ถ้าใช้ประโยชน์ได้ดี ก็จะสามารถทำลายตระกูลกู่ให้สิ้นซาก

ต่อไป ดูว่าตระกูลกู่จะเลือกอย่างไร ถ้าพวกเขายินดีให้ความร่วมมือ งั้นก็ให้อยู่ต่อไป

ถ้าอยากทำเพื่อผลประโยชน์อันน้อยนิด ไม่สนใจทุกอย่าง ก็จะถูกทำลาย

เย่เซิ่งเทียนเรียกหนิงเจ๋อฮ่าวมา เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย

“ไปตระกูลกู่กับผมหน่อย ไปร่วมงานแต่ง”

เย่เซิ่งเทียนมองหนิงเจ๋อฮ่าวอย่างสนุกสนาน ในเมื่อ ฟ้าสยบมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่ ไม่ต้องเสียดายหรอก

หนิงเจ๋อฮ่าวรีบกล่าวต่อว่า“ตามคำสั่งของท่านเลยครับ กระผมจะไม่ปฏิเสธแม้จะตายเป็นหมื่นๆครั้ง”

เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างติดตลก“คุณไม่ต้องเป็นกังวลหรอก ตัวตนผู้นำของฟ้าสยบเป็นของปลอมครับ?”

หนิงเจ๋อฮ่าวยิ้มอย่างอึดอัดใจ“ไม่หรอกครับ เพราะแหวนในมือของคุณมันพิเศษมาก ถ้าไม่ได้รับการยอมรับ ไม่ว่าคุณจะทำอย่างไร ก็สวมมันไม่ได้หรอกครับ”

เย่เซิ่งเทียนหัวเราะ ไม่ได้พูดอะไรมาก

แหวนวงนี้เป็นเครื่องมือแห่งจิตวิญญาณ เครื่องมือแห่งจิตวิญญาณมักจะเลือกนายเสมอ ถ้าหากไม่ได้รับการยอมรับจากเครื่องมือจิตวิญญาณ จะฝืนอย่างไรก็ไม่สามารถสวมได้หรอก

เพียงแค่เขารู้สึกแปลกใจ ตกลงฟ้าสยบเป็นองค์กรอะไรกันแน่ ถึงได้มีเครื่องมือจิตวิญญาณระดับนี้ได้

“กันเถอะ”

เย่เซิ่งเทียนกล่าวอย่างเรียบเฉย

หนิงเจ๋อฮ่าวรีบถอยหลังเพื่อให้เขาเดินนำหน้า เขาแปลงกายเป็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ลักษณะท่าทางแตกต่างกับก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง

เขาเชื่อว่า ถึงตนจะยืนอยู่ต่อหน้าของกู่เหอ กู่เหอก็จำไม่ได้อย่างแน่นอน!