บทที่ 355
อู๋ฉีตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออกมองที่เย่เฉิน รู้สึกว่าที่เย่เฉินพูดเป็นไปไม่ได้จริงๆ
ในตอนนี้ เย่เฉินยิ้มอย่างมีแผนร้าย พูดต่อว่า “ยังมีอีก หลังจากผมใช้จิตวิทยานี้แล้ว ถ้าหากมีใครมาขัดขวางไม่ให้คุณกินอึ นายก็จะใช้ทุกวิถีทางทำให้ตัวเองตาย จนกว่าจะได้กินอึถึงหยุด ขณะเดียวกัน หากคุณเห็นอึบนถนนคุณก็ต้องกินมันด้วย ถ้าไม่กินก็อยากจะตาย ถ้าใครกล้าขวางคุณ คุณก็จะหาวิธีทำให้ตัวเองตาย จะกลับไปกลับมา ไปตลอดชีวิตอยู่อย่างนี้ไม่มีหยุด!”
“ดังนั้น ชีวิตของคุณต่อจากนี้ นอกจากการกินอึ ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้คุณอยากจะไขว่คว้าอีก คุณก็จะไม่ได้ดิ้นรนที่อยากจะใช้เงิน ไม่เรียกร้องหาความสุข ยิ่งไม่รู้จักจีบผู้หญิง ชีวิตคุณในอนาคตต่อไป แค่อยากกินแต่อึ!”
เมื่ออู๋ฉีได้ยินเช่นนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “คุณชายเย่ คุณเห็นผมเป็นปัญญาอ่อนรึไง? คุณนึกว่าคุณพูดอย่างนี้ ผมก็จะเชื่อฟังคุณ จิตวิทยาไม่ใช่ทำแบบนี้หรอก คุณนี่ไม่เป็นมืออาชีพสักนิด! ”
เย่เฉินหัวเราะและพูดว่า “ผมไม่ใช่มืออาชีพ? ผมเป็นมืออาชีพจริงๆโอเค? ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลองดูสิ!”
พูดแล้ว เย่เฉินก็ยื่นมือออกมา แตะเบา ๆ ที่หน้าผากของเขา …
อู๋ฉีราวกับถูกสะกดทั่วร่าง หยุดไปราวๆสิบวินาที อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเขาลืมตาโตขึ้นมา พึมพำกับตัวเองอย่างกระวนกระวาย “ที่ไหนมีอึ? ที่ไหนมีอึ? ถ้ายังไม่ได้กินผมจะตายแล้ว! จะตายแล้ว! สรุปที่ไหนมีอึนะ?! ”
พูดจบ ก็ลืมไปหมดสิ้นว่าเย่เฉินเป็นใคร หันศีรษะวิ่งไปทางหอพัก เพราะสมองเขาในตอนนี้สั่งเขาว่า ในหอพักมีห้องน้ำ มีแต่อึที่จะกิน…
เกิดเหตุสะเทือนขวัญในอาคารหอพักของมหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์จินหลิง!
เดือนของมหาลัย ทายาทเศรษฐีอันดับสองอู๋ฉี ทันใดนั้นพุ่งเข้าไปในห้องน้ำ เตะขาไปที่นักศึกษาคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนโถ่ส้วมจนกระเด็น
ฟังครึ่งแรก ดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวที่ทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองรังแกนักศึกษา แต่ว่าเรื่องราวครึ่งหลัง นี้น่ารังเกียจจริงๆหลังจากเตะเพื่อนร่วมห้องที่กำลังอึกระเด็นแล้ว เขาก็เอื้อมมือไปจับอึที่คนเขาพึ่งอึออกมา ควักขึ้นมาแล้วยัดเข้าปาก …ฉากที่เขากลืนมันลงไป ทำให้เพื่อนร่วมห้องในหอพักอาเจียนออกมา
เพื่อนนักศึกษาไม่รู้ว่าขณะนั้นเขาเกิดบ้าอะไรขึ้น พวกเขาจึงรีบโทรหาครูอย่างรวดเร็ว เมื่อตอนที่ครูมา อู๋ฉีเพิ่งกินอิ่มแม้แต่ปากก็ยังไม่ได้เช็ด เมื่อครูมาก็อาเจียนออกมา อาเจียนจนเกือบตาย
อาเจียนก็ส่วนอาเจียน ครูรู้ว่าครอบครัวอู๋ฉีมีอิทธิพลมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่กล้าประมาท จ้องถามอย่างขยะแขยง “นักศึกษาอู๋ฉี นายเป็นอะไรไป?”
ขณะนี้อู๋ฉีเพิ่งได้สติสัมปชัญญะกลับคืนมา รู้สึกได้กลิ่นที่น่าขยะแขยง รีบเช็ด แล้วมาดมที่จมูก ขยะแขยงจนเกือบตาย เขาลืมเรื่องที่เคยพบเย่เฉินจนหมดสิ้น และลืมเรื่องที่เมื่อกี้ตัวเองแย่งอึกิน ตอนนี้ยังไม่เข้าใจสักนิด ว่าทำไมปากถึงเต็มไปด้วยอึ
เขารีบพุ่งเข้าไปในห้องน้ำบ้วนปาก คลื่นไส้ไม่หยุด ครูก็ตามมาอยู่ข้างๆ แล้วถามนักศึกษาอู๋ฉี นายไม่สบายตรงไหนรึเปล่า ?”
อู๋ฉีส่ายศีรษะสีหน้าซีดเซียว “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? มีใครแกล้งผมเหรอ?”
มีนักศึกษาคนหนึ่งรวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า “ลูกพี่ เมื่อสักครู่พี่วิ่งเข้ามาจากข้างนอก ใช้เท้าเตะน้องสามกระเด็นออกจากโถ่ส้วม หลังจากนั้นก็กินอึที่เขาถ่ายออกมา… ”
พูดถึงตรงนี้ เขาไม่สามารถพูดต่อได้แล้วจริงๆ บังคับควบคุมอาการที่อยากจะอาเจียน พูดว่า “หรือว่าพวกเราไปโรงพยาบาลหาหมอไหม?”
“แม่ง นายพูดอะไร?!” อู๋ฉีตวาดอย่างโมโห “นายว่าฉันกินที่น้องสามถ่าย … ”
นักศึกษาทุกคนพยักหน้า
อู๋ฉีอาเจียนสักพักแล้วด่า “เร็ว! แม่งรีบพาฉันไปโรงพยาบาล!”
ครูรีบขับรถของตัวเอง พาอู๋ฉีไปที่โรงพยาบาลชุมชน
เพื่อนทุกคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับอู๋ฉีก็ติดตามไปด้วย
ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล เมื่อพบแพทย์ฉุกเฉิน อู๋ฉีแทบรอไม่ไหวที่จะพูดว่า “หมอรีบมาล้างกระเพาะให้ผม! ผมกินอึ!”
หมอชะงัก ตั้งแต่รักษามาสิบปี “ คนไข้” แบบนี้ เพิ่งเคยเห็นเป็นเคสแรก
เขาถามโดยจิตใต้สำนึก “อยู่ดีๆคุณกินอึทำไม?”