ตอนที่ 2712 คนที่หยิ่งผยอง

“มีผู้ผ่านการทดสอบรอบคัดเลือกแค่สิบเจ็ดคนงั้นหรอ ?”

“กลุ่มของสภาสิบแปดปีกดูเหมือนจะมีสิบเจ็ดคนนะ ….”

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นในนั้นกันแน่ ?”

หลังจากเงียบกันไปชั่วครู่ มหาอำนาจต่างๆก็หันไปมองกลุ่มของซือเฟิง ขณะที่ความสงสัยในจิตใจของพวกเขานั้นเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ

มันมีความเป็นไปได้ที่ป้ายคำสั่งวิหารเทพสงครามจะถูกซ่อนไว้อย่างดีภายในสนามรบที่เป็นพื้นที่การทดสอบรอบคัดเลือก ซึ่งมันก็มีสิทที่จะส่งผลให้มีผู้ผ่านการทดสอบรอบคัดเลือกน้อยกว่าหนึ่งร้อยคน อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่มันก็ยังน่าจะมีราวแปดสิบคนที่ผ่านการทดสอบรอบคัดเลือกได้

อย่างไรก็ตามมันกับมีเพียงแค่สิบเจ็ดคนเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบรอบคัดเลือกมาได้ ซึ่งตัวเลขนี้ต่ำกว่าการคาดเดาของมหาอำนาจต่างๆอย่างมาก

ขณะเดียวกัน พวกระดับสูงของตระกูลมังกรฟ้า จักรวรรดิไพรน์ วังปีศาจ และมิราเคิล คือผู้ที่ตกตะลึงกับสถานการณ์นี้มากที่สุด พวกเขานั้นไม่สามารถจะเข้าใจได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในการทดสอบรอบคัดเลือก

ทั้งสี่กิลของพวกเขาได้จ่ายไปอย่างมหาศาลเพื่อรับสมัครสี่จากหกผู้แข็งแกร่งทั้งหกแห่งจักรวรรดิมังกรไฟให้มาช่วยเหลือ และพวกเขาก็มั่นใจมากว่าพวกเขาจะได้รับช่องส่วนใหญ่ในการทดสอบรอบคัดเลือกไป อย่างไรก็ตามตอนนี้นับประสาอะไรกับช่องส่วนใหญ่ มันไม่มีผู้ช่วยเหลือของพวกเขาแม้แต่คนเดียวที่ผ่านการทดสอบรอบคัดเลือกเลยด้วยซ้ำ ….

สิ่งนี้มันไม่น่าเชื่อยิ่งกว่าที่สมาชิกสภาสิบแปดปีกทั้งหมดกลับมาได้โดยไม่มีใครตายเลยด้วยซ้ำ

พวกเขาจะเชื่อเรื่องนี้ได้อย่างไร ?

“รีบไปสืบเรื่องนี้ทันที !! สืบมาให้ละเอียด !! ฉันอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในการทดสอบรอบคัดเลือก !!!”

เกือบจะทันทีที่รู้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น พวกระดับสูงของกิลทั้งสี่ก็ได้ทำการติดต่อไปยังสมาชิกทีมช่วยเหลือของตัวเองเพื่อสอบถามข้อมูลทันที

….

“รองหัวหน้ากิล มันมีอะไรผิดพลาดในการทดสอบรอบคัดเลือกรึปล่าว ?” ดวงตาของไวท์เฟเธอร์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ขณะที่เธอมองไปยังแผ่นจารึกหินใจกลางห้อง

ในการตอบคำถามของไวท์เฟเธอร์ โคลท์ชาโด้วได้เหลือบไปมองกลุ่มของซือเฟิง ก่อนที่จะมองไปยังพวกระดับสูงของทั้งสี่กิล จากความวุ่นวายที่เห็นได้ชัดของพวกระดับสูงของทั้งสี่กิล มันก็เห็นได้ชัดว่าแม้แต่พวกเขาเองก็ยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“มันต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่นอน แต่ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าสภาสิบแปดปีกใช้กลอุบายอะไรในครั้งนี้ ….” ทั้งหมดที่โคลท์ชาโด้วคิดได้ในตอนนี้ก็คือสถานการณ์นี้มันจะต้องเกี่ยวข้องกับสภาสิบแปดปีกแน่นอน

จากผู้เล่นที่เข้าร่วมการทดสอบรอบคัดเลือก 900 คน มันมีเพียง 17 คนเท่านั้นที่กลับมา ซึ่งแม้ว่ามันจะมีการต่อสู้ที่รุนแรงเกิดขึ้นภายใน แต่มันก็ไม่ควรจะมีจำนวนคนกลับมาน้อยขนาดนี้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าผู้ที่กลับมาทั้งหมดล้วนเป็นสมาชิกของสภาสิบแปดปีกเลย ….

….

ในขณะที่มหาอำนาจต่างๆกำลังเร่งตรวจสอบสถานการณ์นี้ ฝั่งของฟรอสต์ฮีฟเว่นเองก็ล้วนตกตะลึง และพูดไม่ออก รวมทั้งพวกเขาก็มีท่าทีคล้ายกับมหาอำนาจอื่นๆเช่นกัน

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม มันเกิดอะไรขึ้นภายในนั้นกัน ? ทำไมถึงมีแค่กลุ่มของคุณที่กลับมากลุ่มเดียว ?” มู่ฉินอดไม่ได้ที่จะรีบถามซือเฟิง เนื่องจากซือเฟิงอยู่ภายในนั้น ดังนั้นการถามเขามันจึงจะมีประสิทธิภาพกว่าไปถามแบบมั่วๆรอบๆอย่างมาก

“ใช่แล้ว มันเกิดอะไรขึ้นภายในนั้นกัน ?” บริลเลี่ยนบลูตั้งคำถามในทำนองเดียวกันกับมู่ฉิน “แล้วซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นกับคนอื่นๆอยู่ที่ไหน ?”

หากแม้แต่กลุ่มเล็กๆของสภาสิบแปดปีกที่มีสิบเจ็ดคนก็ยีงรอดกลับมาได้ มันก็ไม่มีทางที่ทีมของดอกไม้แห่งเจ็ดบาปที่มีแปดสิบสามคนจะทำไม่ได้ นี่ไม่ต้องพูดถึงซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนเลย ….

หลังจากมู่ฉินและบริลเลี่ยนบลูกล่าวคำถามของตัวเองจบ ทุกคนจากฟรอสต์ฮีฟเว่นก็หันไปมองซือเฟิงอย่างอยากรู้มากๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นข้างใน

อย่างไรก็ตามซือเฟิงนั้นไม่ได้สนใจคำถามของบริลเลี่ยนบลู และหันไปหามู่ฉิน

“ไม่มีอะไรเป็นพิเศษที่เกิดขึ้นข้างในหรอก เราก็แค่ทำการต่อสู้ตามปกตินั่นแหละ ส่วนผลลัพธ์มันก็อย่างที่คุณเห็น ….” ซือเฟิงพูดอย่างใจเย็น

คำพูดของซือเฟิงนั้นชัดเจนและตรงไปตรงมา แถมเหตุผลของเขามันก็เรียบง่ายมากๆ อย่างไรก็ตาม มันไม่มีสมาชิกคนใดของฟรอสต์ฮีฟเว่นที่เชื่อเขา แม้แต่มู่ฉินก็ยังคิดว่าซือเฟิงนั้นกำลังล้อเล่นกับเธอ

“แบล๊คเฟรม นี่คุณคิดว่าชายแก่ผู้นี้โง่งั้นหรอ ? นี่คุณคิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดแบบนั้นของคุณจริงๆงั้นหรอ ?” บริลเลี่ยนบลูกล่าวด้วยความโกรธ เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่ซือเฟิงไม่สนใจเขา และตอนนี้ซือเฟิงก็ยังมาดูถูกสติปัญญาเขาด้วยการให้คำตอบแบบโง่ๆอีก

สมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นคนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของบริลเลี่ยนบลู และพวกเขาก็เริ่มมองไปยังซือเฟิงด้วยความดูถูก

แม้ว่าคำตอบของซือเฟิงจะฟังดูสมเหตุสมผล แต่มันก็เป็นสิ่งที่มีความเป็นไปได้น้อยที่สุดเลย

และพวกเขาก็คงจะโง่แน่นอน ถ้าเชื่อเขา !!!

มันมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเก้าร้อยคนที่ได้เข้าร่วมในการทดสอบรอบคัดเลือกครั้งนี้ และหลายคนก็เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้น ไม่ว่าการต่อสู้จะเป็นไปอย่างรุนแรงและดุเดือดแค่ไหน แต่ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ก็ไม่ควรจะถูกทำลายล้างลงไปทั้งหมด เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็ยังสามารถจะหนีได้ หากคิดว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะการต่อสู้ได้

ยิ่งไปกว่านั้นในการทดสอบรอบคัดเลือกที่ถูกจัดขึ้นในสนามรบที่เป็นพื้นที่พิเศษนี้ อัตราการผลาญค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของผู้เล่นยังจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งความยากและความเสี่ยงในการไล่ล่าคู่ต่อสู้ที่หลบนี้ในพื้นที่นี้นั้นมันสูงอย่างไม่น่าเชื่อ

ในขณะเดียวกันกลุ่มของซือเฟิงไม่เพียงแต่จะเป็นกลุ่มที่เล็กที่สุด แต่พวกเขายังสามารถจะถูกโต้ตอบได้ง่ายที่สุด และหากมันมีการต่อสู้ที่รุนแรงเกิดขึ้นจริงๆ กลุ่มของซือเฟิงก็ควรจะเป็นกลุ่มแรกเลยที่มีโอกาสรอดชีวิตน้อยที่สุด ….

แต่ดูผลลัพธ์ในตอนนี้สิ ?

กลุ่มของสภาสิบแปดปีกไม่เพียงแต่จะไม่มีคนตายเลย แต่สมาชิกของสภาสิบแปดปีกทุกคนยังแสดงออกถึงท่าทีที่ผ่อนคลายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ พวกเขาไม่ได้ดูเหมือนกับคนที่พึ่งรอดมาจากการต่อสู้ที่รุนแรงเลย พวกเขาดูเหมือนกับคนที่พึ่งจะเดินผ่านสวนหลังบ้านของตัวเองมามากกว่า

“ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับคุณ ….” ซือเฟิงตอบกลับอย่างไม่ไยดี “การทดสอบในรอบคัดเลือกจบลงแล้ว หากคุณไม่มีคำถามอื่นใด เราขอกลับไปพักผ่อนก่อนล่ะ ….”

หลังจากพูดจบ ซือเฟิงก็หันหลังกลับ และเดินออกไปจากห้องโถงโดยไม่สนใจว่าสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นจะเชื่อเขาหรือไม่ เป้าหมายของเขาในการมาที่นี่คือช่องเข้าสู่ Upper Zone สามช่องเท่านั้น

ในขณะเดียวกัน หลังจากที่มองไปที่ฟรอสต์ฮีฟเว่น สมาชิกคนอื่นๆของสภาสิบแปดปีกก็หัวเราะเบาๆก่อนจะเดินตามซือเฟิงออกไปจากห้องโถง

พฤติกรรมที่กลุ่มของสภาสิบแปดปีกได้กระทำนั้นทำให้บริลเลี่ยนบลูตกตะลึง

เขาเป็นหนึ่งในเสาน้ำแข็งที่เป็นเสาหลักของฟรอสต์ฮีฟเว่น และเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของกิล แต่ตอนนี้เขากับถูกหัวหน้ากิลของกิลกึ่งมหาอำนาจเมินเฉยอย่างสิ้นเชิง

หลังจากนั้นบริลเลี่ยนบลูก็หันมาจ้องมองที่หงซินหยวน และตะโกนด้วยความโกรธทันทีว่า “หงซินหยวน ดูไว้ให้ดี นี่คือไพ่เด็ดที่คุณเลือกมา !!!”

อย่างไรก็ตามหงซินหยวนนั้นก็ไม่ได้สนใจใดๆกับท่าทีที่เต็มไปด้วยความโกรธของบริลเลี่ยนบลู อันที่จริงต้องบอกว่าเขาอารมณ์ดีมากด้วยซ้ำ เพราะท้ายที่สุดการกลับมาของกลุ่มของซือเฟิงมันหมายความว่าฟรอสต์อีฟเว่นได้รับช่องผู้ช่วยเหลือมาถึงสิบเจ็ดช่อง

เมื่อได้รับการเมินเฉยและไม่สนใจจากหงซินหยวนอีกคน บริลเลี่ยนบลูก็ได้หันไปหาเซเว่นวอร์นเดอร์ และกล่าวอย่างตะคอกว่า “หัวหน้ากิล คุณก็ได้เห็นพฤติกรรมของสมาชิกสภาสิบแปดปีกทั้งหมดแล้ว พวกเขาหยิ่งผยองเกินไป และพวกเขาไม่ได้ปฎิบัติกับเราอย่างจริงจังเลย ถ้าเราปล่อยให้พวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ผลที่ตามมามันจะเป็นหายนะแน่นอน !!!”

“พอแล้ว !!! เราจะตรวจสอบสถานการณ์กันก่อน !!!” เซเว่นวอร์นเดอร์กล่าวพลางขมวดคิ้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อเซเว่นวอร์นเดอร์เหลือบไปมองร่างที่จากไปของสมาชิกสภาสิบแปดปีก ความไม่พอใจก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของเขาเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน แม้ว่าซือเฟิงจะพูดน้ำเสียงปกติ แต่ทุกคนในห้องโถงนั้นก็ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถ และแม้แต่ผู้ที่อ่อนแอที่สุดก็อยู่ในขอบเขตรวดเร็วดั่งสายน้ำ ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงล้วนได้ยินคำพูดของซือเฟิงอย่างชัดเจน

….

“แบล๊คเฟรมนั้นหยิ่งผยองอย่างแท้จริง เขาทำท่าทีแบบนี้แม้แต่กับฟรอสต์ฮีฟเว่น เขาจะมีเส้นทางที่ยากลำบากรออยู่ข้างหน้าเขาแน่นอน” ไวท์เฟเธอร์ยิ้มเยาะ เมื่อเธอได้ยินเรื่องที่ซือเฟิงและพวกระดับสูงของฟรอสต์ฮีฟเว่นพูดคุยกัน “อย่างไรก็ตาม แบล๊คเฟรมนี่ช่างโม้จริงๆ เขาคิดว่ากลุ่มของเขาประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวทั้งหมดรึไงกัน ?”

แม้ว่าสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นอาจจะไม่รู้ตัว แต่เธอก็รู้ดีว่าเกือบครึ่งหนึ่งของผู้เล่นเก้าร้อยคนที่เข้าร่วมการทดสอบรอบคัดเลือกนั้นล้วนกำหนดเป้าหมายไปที่สภาสิบแปดปีก ซึ่งสภาสิบแปดปีกไม่ควรจะกลับออกมาได้โดยไม่มีคนล้มตายเลย หากเกิดการต่อสู้ขึ้นจริงๆ

อย่างไรก็ตามแม้ว่าไวท์เฟเธอร์จะกล่าวเยาะเย้ยซือเฟิงไป แต่โคลท์ชาโด้วก็ยังคงเงียบจนน่าประหลาดใจ

“รองหัวหน้ากิล มีอะไรผิดปกติงั้นหรอ ?” ไวท์เฟเธอร์ถามด้วยความสับสน เมื่อเธอเห็นท่าทีเคร่งขรึมของโคลท์ชาโด้ว

“ข่าวจากพวกด้านในพึ่งจะมาถึงเรา ….” โคลท์ชาโด้วกล่าว ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดต่อช้าๆว่า “ทีมช่วยเหลือของมหาอำนาจทั้งหมด …. ถูกทำลายล้าง !!!”