บทที่ 536 คิดจะไป ก็สายเสียแล้ว

The king of War

เมื่อมองตามเย่ม่านไป เห็นเย่หวูซวงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก

“คุณป้า ผมยอมแพ้กับการแย่งตำแหน่งเจ้าบ้านไปนานแล้ว ในตระกูลเย่ มีป้าที่เหมาะกับตำแหน่งเจ้าบ้านที่สุด”

เย่หวูซวงแสดงให้เห็นว่า ตัวเองยอมแพ้กับการแย่งตำแหน่งเจ้าบ้าน จากนั้นจึงพูดประจบประแจง

แต่ทว่า เพราะเย่หวูซวงหาเรื่องผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโด เรียกได้ว่า เรื่องทั้งหมดในวันนี้ เป็นความผิดของเย่หวูซวง

เย่ม่านเกือบโดนทรราชฆ่า ถ้าหยางเฉินมาไม่ทัน เธอคงลงนรกไปแล้ว

ถ้าเย่ม่านยังปล่อยเย่หวูซวงไป เธอคงใจกว้างมากเกินไป

“ยอมแพ้กับการแย่งตำแหน่งเจ้าบ้านไปนานแล้ว ถ้าฉันจำไม่ผิด เมื่อกี้นายยังจะประจานฉันอยู่เลยไม่ใช่หรือไง”

เย่ม่านแสยะยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น

“ผมเปล่านะป้า! ผมจะกล้าทำแบบนั้นได้ยังไง”

เย่หวูซวงพยายามทำตัวแน่วแน่ แต่ก็ไม่สามารถปิดบังความตื่นตระหนกบนใบหน้าได้

“เอามือถือของเขามาให้ฉัน!”

เมื่อเย่ม่านออกคำสั่ง ก็มีคนพุ่งเข้าไปทันที

“ถึงป้าจะเป็นเจ้าบ้านแล้ว แต่ป้าจะละเมิดความเป็นส่วนตัว ของคนในตระกูลไม่ได้นะ ถ้าผมไม่อนุญาต ใครก็มาละเมิดความเป็นส่วนตัวของผมไม่ได้”

เย่หวูซวงกำมือถือในมือแน่น และตะโกนออกมา

“เอามา!”

เย่ม่านตวาดขึ้น

เย่หวูซวงรู้ว่าเย่ม่านมีจิตใจแน่วแน่ ที่จะค้นมือถือของเขา เขาไม่มีทางหนีพ้น

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงยกมือถือ กำลังจะโยนไปทางอ่างเก็บน้ำอีกด้านหนึ่ง

แค่มือถือพัง ข้อมูลในเครื่องจะหายไปทั้งหมด เมื่อไม่มีหลักฐาน ถึงเย่ม่านเป็นเจ้าบ้าน ก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้

แต่วินาทีที่เขาจะโยนมือถือออกไป เย่ม่านสั่งให้ผู้แข็งแกร่ง ถีบตรงด้านหลังของเย่หวูซวง ทำให้เขาล้มหน้าคะมำไปข้างหน้า

ถึงมือถือจะถูกโยนออกไป แต่มันตกอยู่ในพุ่มหญ้าข้างๆ

เมื่อเย่หวูซวงตั้งสติได้ มือถือของเขาก็อยู่ในมือเย่ม่านแล้ว

“ป้าจะละเมิดความเป็นส่วนตัวของผมไม่ได้!” เย่หวูซวงพูดเสียงดัง

ขนาดคนที่ควบคุมตระกูลเย่มาสิบกว่าปีอย่าง เย่จี้จงยังโดนเย่ม่านไล่ออกจากตำแหน่ง คนธรรมดาๆ อย่างเย่หวูซวง จะขัดขวางไม่ให้เย่ม่านค้นมือถือเพียงเครื่องเดียวได้อย่างไร

เมื่อเย่ม่านเห็นข้อความที่ถูกส่งออกไป สีหน้าของเธอเคร่งขรึมขึ้นทันที เธอมองเย่หวูซวงอย่างอาฆาต จากนั้นจึงพูดว่า “นายกล้าประจานเหรอ รู้ไหมว่าการหักหลังตระกูล มีโทษยังไง”

ตามกฎของตระกูลเย่ โทษของการหักหลังตระกูล คือตายเท่านั้น!

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ม่าน คนตระกูลเย่พากันตกใจ พวกเขารู้ว่าเย่หวูซวงอยากช่วงชิงตำแหน่งเจ้าบ้าน แต่คิดไม่ถึงว่า เขาจะทำถึงขนาดนี้ เขากล้าหักหลังตระกูล

“หักหลังตระกูลงั้นเหรอ”

เย่หวูซวงรู้ว่าเรื่องถูกเปิดโปงแล้ว เขาจึงตัดสินใจไม่ปิดบังอีก และพูดด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม “ถ้าการที่ผมส่งข้อความแค่ข้อความเดียว เรียกว่าหักหลังตระกูล แล้วการที่ผู้หญิงอย่างป้า บีบให้เจ้าบ้านมอบตำแหน่งให้ป้า ต่อหน้าทุกคน แบบนี้เรียกว่าอะไร”

“เย่ม่าน ไม่ต้องมาทำเป็นสูงส่ง ถ้าให้เทียบกับสิ่งที่ป้าทำ ผมสู้ป้าได้เหรอ”

“ผมติดต่อกับผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโด บอกว่าหยางเฉินฆ่าคนของพวกเขา”

“แล้วมันจะทำไม หยางเฉินแค่คนนอก ผมอยากฆ่าเขา เกี่ยวอะไรกับการหักหลังตระกูล”

“กลับกันผู้หญิงใจดำอำมหิตอย่างป้า บีบให้พ่อตัวเองมอบตำแหน่งให้ ป้าคือคนที่ทำผิดกับตระกูลเย่อย่างมหันต์!”

“ผู้หญิงใจอำมหิตอย่างป้า มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนการกระทำของผม”

สีหน้าของเย่หวูซวงโกรธจนผิดปกติ เหมือนเขาคำรามออกมา

สีหน้าของเย่ม่านเคร่งขรึม ถ้าพูดว่าก่อนหน้านี้ยังเหลือความเมตตา ให้เย่หวูซวงเพียงเล็กน้อย งั้นตอนนี้ คงหลงเหลือเพียงความอาฆาตเท่านั้น

“หยางเฉินคือคนนอกเหรอ เขาเป็นลูกเขยของฉัน! เป็นคนของตระกูลเย่ นายบอกคนของสมาคมบูโด ให้ฆ่าหยางเฉิน เท่ากับการหักหลังตระกูล หักหลังบรรพบุรุษ ต้องตายเท่านั้น!”

“ถ้าไม่ใช่เพราะนาย จะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้เหรอ”

“เพราะนาย เกือบทำให้ตระกูลเย่ย่อยยับ วันนี้นายต้องตาย!”

เย่ม่านเบิกตาโตมองเย่หวูซวง และเอ่ยขึ้น

“ฮ่าๆ เข้ามาฆ่าผมสิ!”

“ถึงผมตาย พวกป้าก็หนีไม่รอดหรอก ผมแจ้งสมาคมบูโดแล้ว คนของพวกเขาคงใกล้ถึงแล้ว”

“ผมจะรอพวกป้าในนรกนะ ฮ่าๆๆ……”

จู่ๆ เย่หวูซวงหัวเราะเสียงดัง และวิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง

“พลั่ก!”

เสียงดังสนั่น เย่หวูซวงใช้หัวกระแทกกับภูเขาเทียมในคฤหาสน์ ทันใดนั้นเขาก็แน่นิ่งไป

คนตระกูลเย่ถึงกับตกตะลึง

และคำที่เย่หวูซวงทิ้งท้ายไว้ก่อนตาย ทำให้คนในตระกูลเย่กังวลมาก

สมาคมบูโดในสายตาของพวกคนตระกูลสูงส่ง คือความน่ากลัวที่ไม่สามารถต้านทานได้

ทรราชแค่คนเดียว เกือบจะทำให้ตระกูลเย่ย่อยยับ

ตอนนี้ทรราชโดนฆ่า เย่หวูซวงแจ้งข่าวให้สมาคมบูโดทราบ ครั้งนี้คนที่มาจากสมาคมบูโด จะน่ากลัวขนาดไหนกัน

ตอนนี้คนที่จะช่วยตระกูลเย่พ้นจากอันตรายได้ คงมีเพียงชายหนุ่มลึกลับคนนั้น

ทันใดนั้น สายตาของทุกคน มองไปที่หยางเฉินอย่างเงียบๆ

ขนาดเย่ม่าน ยังอดมองไปที่หยางเฉินไม่ได้ เธอพูดอย่างไม่ลังเล “หยางเฉิน นายรีบออกจากตระกูลเย่ พาเสี่ยวซีไปหาที่หลบ ปิดบังชื่อของตัวเอง ถึงจะมีชีวิตรอด!”

เมื่อเย่ม่านพูดออกมา คนทั้งตระกูลถึงกับตกตะลึง

ถ้าหยางเฉินไป ตระกูลเย่จะรับมือกับคนของสมาคมบูโดได้ยังไง

เย่ม่านที่เพิ่งรับตำแหน่งเจ้าบ้าน กลัวว่าจะต้องรับความโกรธจากสมาคมบูโด เมื่อถึงตอนนั้น เธอมีเพียงความตายเท่านั้น

นี่เหมือนไม่ใช่เย่ม่าน

หยางเฉินรู้สึกแปลกใจ เขารู้ว่าเย่ม่านเปลี่ยนไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้เธอจะคิดถึงความปลอดภัยของเขากับฉินซีก่อน

“เจ้าบ้าน หยางเฉินจะไปไม่ได้!”

“ใช่ ตอนนี้มีเพียงคุณหยาง ที่จะช่วยตระกูลเย่ได้ ถ้าเขาไป ตระกูลจะทำยังไง เจ้าบ้านจะทำยังไง”

“คุณหยาง ผมเย่หวูซง ขอร้องให้คุณอยู่ที่ตระกูลเย่ต่อ!”

“ฉันเย่เซียวเหม่ย ขอร้องให้คุณหยางอยู่ที่ตระกูลเย่!”

“ผมเย่หวูตง ขอร้องให้คุณหยางอยู่ที่ตระกูลเย่ด้วย!”

……

จู่ๆ คนในตระกูลเย่ มองหยางเฉินด้วยสีหน้าศรัทธา อ้อนวอนให้เขาอยู่ที่นี่

เย่ม่านมีสีหน้าเศร้าใจ หลังเธอผ่านอะไรมามากมาย เธอพบว่า ตัวเองไม่ได้รู้สึกสะใจที่ได้แก้แค้น แต่กลับรู้สึกสูญเสียอะไรไปมากกว่า

เธอได้ตำแหน่งเจ้าบ้านสมดังใจหวัง แต่กลับเปลี่ยนแปลงความจริง ที่ตระกูลเย่ต้องเผชิญกับสมาคมบูโดไม่ได้

เธอติดหนี้ลูกสาวมายี่สิบกว่าปี ครั้งนี้ เธอต้องการเพียงให้ลูกสาวอยู่อย่างมีความสุข ถึงเธอตายก็ยอม

“หุบปากให้หมด!”

เย่ม่านตวาดขึ้น เธอพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “ฉันเข้าใจความรู้สึกของทุกคน แต่ครั้งนี้ ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป เราไม่สามารถต้านทานได้ ถึงหยางเฉินจะเก่งแค่ไหน แต่เขาแค่คนเดียว จะต้านทานผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโดได้ยังไง”

“ตอนนี้ ต้องออกจากตระกูลเย่ ถึงจะมีโอกาสรอด!”

“ทุกท่าน เอาของมีค่า และรีบออกจากตระกูลเย่ให้เร็วที่สุด!”

เย่ม่านสะกดกลั้นความเจ็บปวดในใจ และตัดสินใจพูดสิ่งที่เจ็บปวดใจออกไป

“จะหนีเหรอ สายไปแล้วล่ะ!”

ใครจะไปรู้ จู่ๆ ก็มีเสียงเฉยชาดังขึ้นในคฤหาสน์ตระกูลเย่