บทที่ 562 หรือว่าพวกเขาจะนอนห้องเดียวกัน

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

อาจเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของตระกูลอนันต์ธชัย หรือเพื่อเก็บลมหายใจของคนในตระกูลอนันต์ธชัยไว้

เขาไม่ให้คนอื่นไปรบกวน

หมีพูลเคยเห็นรูปของปู่ย่า คุณตา และก็คุณอา ซึ่งที่คอนโดมี เพราะก่อนหน้านี้อาคิระให้คนส่งมาให้

พนาวันสวมเสื้อคลุมให้เขา จากนั้นเรียกแท็กซี่ แล้วไปที่คฤหาสน์อนันต์ธชัย

คฤหาสน์อนันต์ธชัยครอบครองพื้นที่ไม่น้อยเลย บรรยากาศรอบๆก็สวยงาม อากาศสดชื่น และเป็นคฤหาสน์เพียงแห่งเดียว ที่สร้างขึ้นเมื่อคุณท่านยังมีชีวิตอยู่

รถแล่นออกไปตลอดทาง

ครึ่งชั่วโมงถัดมา ในที่สุดก็มาถึงด้านนอกคฤหาสน์อนันต์ธชัย

ด้านข้างประตูใหญ่ที่แกะสลักอันสวยงามนั้นมียามเฝ้า พอเห็นว่าเป็นเธอ จึงปล่อยไป

เธอจูงหมีพูล เดินไปข้างหน้า

ที่จริงคฤหาสน์อนันต์ธชัยนั้นสวยงาม มีความย้อนยุคและสงบนิ่ง และยังมีความน่าเกรงขามเล็กน้อย

ก็แค่หลายปีมานี้ตระกูลอนันต์ธชัยมีคนตายเยอะมาก เลยดูเยือกเย็นอ้างว้างเล็กน้อย

พนาวันเดินไปตรงหน้าประตู แล้วกดออด

ประตูเปิดออก เธอกลับตะลึงอยู่ที่เดิม ปลายนิ้วที่จับแขนของหมีพูลจิกลงไป

หมีพูลเจ็บมาก แต่เห็นท่าทางของแม่แล้ว เขาจึงไม่พูด

คนเปิดประตูคือลิลลี่

เจ็บปวดราวกับเข็มแทงไปทั่วร่างกาย แต่เธอก็ยังทน พูดไปว่า:“อาคิระล่ะ?”

ลิลลี่รู้ว่าเขาแต่งงานมีลูกแล้ว แต่ก็ได้ยินด้วยว่าความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาไม่ดีเท่าไหร่ เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง ปีหนึ่งเจอกันไม่กี่ครั้ง

สำหรับข่าวของภรรยาเขาก็น้อยจนน่าสงสาร สืบหาอะไรไม่ได้

ดังนั้น เธอเลยไม่รู้ว่าที่ยืนตรงหน้านี้คือภรรยาของอาคิระ

“มีเรื่องด่วนเลยออกไปกะทันหัน ขอโทษนะคุณคือ?”

ตอนนี้บทสนทนาแบบนี้กลับกลายเป็นตรงกันข้าม!

ประโยคนี้ไม่ใช่ว่าเธอควรถามผู้หญิงตรงหน้าหรอกเหรอ?

ตอนนี้กลับเป็นเธอที่ถามย้อนเธอเอง!

มือของพนาวันจิกลงไปอีกครั้ง

หมีพูลเจ็บ แต่ก็ยังไม่ส่งเสียง กลับพูดว่า:“คุณคือใคร?นี่คือบ้านของพ่อผม และก็เป็นบ้านของผม คุณมาทำอะไรที่นี่?”

ลิลลี่ตะลึง

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าที่ยืนตรงหน้านี้จะเป็นภรรยาของอาคิระ

แต่เหมือนว่าขาของเธอจะมีปัญหา พิการ!

หมีพูลปล่อยมือของพนาวัน เดินเข้าไปโดยตรง นั่งบนโซฟา:“แม่เข้ามาสิครับ ขาของผมยังไม่โอเคเท่าไหร่ ผมจะรอพ่อกลับมา!”

พนาวันยืนอยู่ตรงนั้น สายตามองไปที่ลิลลี่นิ่งๆ

เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆแล้ว กลับดูคล้ายคลึงมากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับลิลลี่แล้ว หมีพูลมีสัญชาตญาณแห่งความรำคาญ ไม่ชอบ

พนาวันก้าวเท้าขึ้นมา ตามเดินไปที่ห้องรับแขก

เธอไม่ได้มาที่นี่หลายปีแล้ว

การตกแต่งในตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมกับตอนแรก ไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด

ถ้าอยู่ในห้องรับแขกต่อไป จากความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมีแต่จะอึดอัด กระมิดกระเมี้ยน ไม่เป็นธรรมชาติ

ลิลลี่คิดว่า ยังไงเธอก็เป็นภรรยาของอาคิระ

ถึงอาคิระจะไม่ชอบนัก แต่ก็ยังมีความสัมพันธ์กันถึงขั้นนี้ เธอมายืนอยู่ตรงนี้ทำไมกัน?

“เชิญคุณหญิงนั่งค่ะ ฉันกลับห้องก่อนละกัน”

เธอทักทายนิ่งๆ หันกลับ เดินไปที่ชั้นสอง

เธอมีห้องที่นี่ด้วย!

เล็บที่เรียวยาวของพนาวันจิกไปที่ฝ่ามืออย่างแรง จนเลือดไหล!

เธอรู้สึกว่าตัวเองโง่จริงๆ ในเมื่อพักอยู่นี่ จะไม่มีห้องได้ไงล่ะ?

แค่ว่า ในใจเธอก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย

เธอนอนห้องไหนในนี้กันนะ?

หรือว่า จะนอนห้องเดียวกับอาคิระหรือเปล่า?

คฤหาสน์หลังใหญ่ของคฤหาสน์อนันต์ธชัยถึงแม้จะดูใหญ่ แต่ห้องนั้นมีไม่เยอะ

คุณพ่อคุณแม่ห้องหนึ่ง คุณท่านห้องหนึ่ง เอวาห้องหนึ่ง จากนั้นก็อาคิระห้องหนึ่ง

ห้องของอาคิระก็เป็นห้องนอนของพวกเขา ถึงแม้จะไม่เคยอยู่

นอกจากนี้แล้ว ในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้ก็ไม่มีห้องว่างด้วย

แขกและคนใช้ของคฤหาสน์อนันต์ธชัยต่างพักอยู่เรือนหลังเล็กอีกตึก

ห้องเหล่านี้ของคฤหาสน์หลังใหญ่ นอกจากคนใช้จะมาทำความสะอาดทุกวันแล้ว อาคิระก็ไม่ให้ใครเข้ามาเลย

งั้น เธอนอนห้องใครกันแน่?

ที่จริงลิลลี่ไม่ได้พักที่นี่ เธอพักอยู่ที่โรงแรมเสมอ

วันนี้เป็นวันเกิดของดาหวัน เธอจึงถูกพามาที่นี่

แน่นอนว่า ขอบเขตกิจกรรมของเธอในคฤหาสน์อนันต์ธชัยก็มีจำกัดเช่นกัน

นอกจากไปห้องตรงทางเลี้ยวชั้นสองแล้ว ที่อื่นก็เข้าไปไม่ได้เลย

เธอมาสามชั่วโมงแล้ว อยู่แต่ในห้องนั้น

บางทีที่เรียกว่าห้องนั้น สู้เรียกว่า ……

พอนึกถึงห้อง ลิลลี่ก็ส่ายหน้า ในห้องนั้นมักทำให้รู้สึกเยือกเย็นและหวาดกลัวอยู่เสมอ

เธอไม่คิดมากอีกต่อไป ยืนอยู่หน้าห้อง

ตอนที่กำลังจะผลักประตูออกไป กลับได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังและชัดขึ้น

ก้มหน้าลง ก็มีร่างเล็กๆยืนอยู่ข้างเธอ เป็นหมีพูล

“เปิดประตู!”หมีพูลเงยหน้าขึ้น มองลิลลี่ เสียงที่ยังอ่อนนุ่มมาพร้อมกับความน่าเกรงขามอย่างอธิบายไม่ได้

ลิลลี่ไม่ขยับ

ข้างล่างบันได พนาวันก็ค่อยๆเดินขึ้นมา

“ผมคือลูกชายของพ่อ บ้านของพ่อก็คือบ้านของผม เปิดประตู ผมจะเข้าไป!”

ท่าทางของหมีพูลในตอนนี้เหมือนกับสภาพที่เย็นชาของอาคิระเลย

ถ้าเป็นปกติ พนาวันก็ไปเรียกหมีพูลแล้ว

แต่ว่า วันนี้เปล่าเลย

เธอเห็นแก่ตัวเล็กน้อย

สำหรับห้องนี้ ในใจเธออยากรู้ว่าด้านในเป็นอะไรกันแน่

ดังนั้นไม่ได้ห้ามหมีพูล สามารถเป็นข้ออ้างในการเข้าไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย

มืออยู่ที่ลูกบิดประตู ลิลลี่ลังเลเล็กน้อย

หมีพูลกลับกระโดดขึ้นมา มือไว้ตรงลูกบิดประตู จะบิดออก

แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นเด็ก แรงมีจำกัด

นิ่งไปแป๊บหนึ่ง จากนั้น ลิลลี่เปิดประตูออก เดินนำไปก่อน

จากนั้นเป็นหมีพูล และสุดท้ายจึงเป็นพนาวัน

ตอนที่พนาวันเหยียบเข้าไป รู้สึกแค่ว่าร่างกายเหมือนร่างกายจะตกลงไปในโรงน้ำแข็งที่มีอายุเป็นหมื่นปี!

ความเยือกเย็นที่ไม่อาจบรรยายได้ล้อมรอบเธอ

เวลานี้ เธอไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นเฉกเช่นฤดูใบไม้ผลิอีกต่อไป ไม่รู้ว่าความอบอุ่นนั้นเป็นความรู้สึกอย่างไรกันแน่

ทั้งในห้องเต็มไปด้วยรูปภาพ และหนังสือ เสื้อผ้า และของกระจุกกระจิกบางอย่าง

ของเหล่านั้น ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับคนหนึ่ง

ใช่แล้ว เป็นดาหวัน……

ห้องนั้นไม่ถือว่าเล็ก แต่ของที่เป็นของดาหวันกลับทำให้ทั้งห้องนั้นดูเต็ม จะเห็นได้เลยว่าตั้งใจแค่ไหน

ความเจ็บปวดเป็นความรู้สึกแบบไหน?

พนาวันตอบไม่ได้

เพราะว่า เมื่อเจ็บปวดถึงระดับหนึ่ง ก็จะชาด้าน

หมีพูลจ้องมองไปที่ห้องด้วยความสงสัย ดึงมือของเธอ:“แม่ครับ เธอเป็นใครเหรอ?”

รู้สึกถึงการเขย่าจากแขน พนาวันจึงได้สติคืนมา

เธอไม่ได้ตอบ คำถามแบบนี้ไม่สามารถตอบลูกได้

ส่วนหมีพูลนั้นเป็นเด็กรู้เรื่อง เขาไม่ถามอีก

วันนี้เป็นวันเกิดของดาหวัน อาคิระพาเธอมา ส่วนเขาจะทำอะไรนั้น ลิลลี่ไม่รู้

แต่เธอคิดว่า น่าจะเป็นของบางอย่างที่เธอชอบ

ผลกระทบที่พนาวันได้รับนั้นรุนแรงมากไป เธอยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ

ผ่านไปสักพัก จึงค่อยๆขยับฝีเท้า

ในมือของลิลลี่ถือของบางอย่าง นั่งเอนเก้าอี้มองดูตรงด้านหน้าของหน้าต่าง

เมื่อเดินไปที่หน้าต่าง สายตาพนาวันก็กวาดออกไป แล้วนิ่งอยู่ตรงนั้น

สายตาของเธอถูกดึงดูดด้วยกรอบรูปกระจก