เบลล์ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองบัลลังก์ ซึ่งวางไว้ใกล้กับดวงอาทิตย์ในจุดที่มองลงไปยังคนอื่นๆ
“ราชาเทอร์ฮัน ผู้ปกครองที่มีชื่อเสียงของอรันเฮลล์ ! ”
เสียงโห่ร้องดังกึกก้อง
เบลล์ก้าวออกจากรถม้า เมื่อเดินไปถึงระยะทางไกล เขาก็เดินขึ้นบันไดของถนนหลวงตามลําดับ
“โอ้ ราชา -!”
“เหนือหัวเทอร์ฮัน -!”
“เหนือหัวผู้ช่วยชีวิต ผู้เอาชนะความหายนะ และกลับมา -!”
ผู้คนหลายแสนคนเฉลิมฉลองพิธีราชาภิเษกพร้อมเสียงกรีดร้องดังทะลุผ่านท้องฟ้า
ในฐานะราชา เบลล์ก็นึกถึงเสียงของพวกเขา
เพื่อที่เขาจะไม่หักหลังพวกเขา และเพื่อที่เขาจะไม่ทําผิดพลาดอีกครั้ง
– เทอร์ฮันนั้นชื่อใหม่หรอ? ดีกว่าเบลล์เยอะเลย
บาอัลพิมพ์ในใจของเขา
เบลล์จ้องมองบัลลังก์ของเขาและบ่นอย่างสงบ
“หวังว่าจะได้มันนะ ชีวิต ‘มนุษย์” นั้นสวยงามและเติมเต็มมากกว่าที่นายคิด”
…ทุกสิ่งถูกทําลายในโลกนี้
จินซาฮยอคยืนอยู่บนดินแดนที่แห้งแล้ง และมองไปรอบๆ
ไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตรอบตัวเธอ หญ้ากลายเป็นเถ้าและกระจายออกไป และโลกก็ แทบจะหายใจไม่ออกหลังจากที่ถูกกลืนกินด้วยพลังงานปีศาจ ต้นไม้ถูกย้อมด้วยเฉดสีน้ําตาลแดง และท้องฟ้าเป็นสีม่วง
“เหอะ….”
จินซาฮยอคจ้องภูมิทัศน์ที่รกร้างนี้โดยไม่พูดอะไรเลย
3 เดือนผ่านไปแล้วตั้งแต่เธอมาถึงที่นี่
บ้านที่เธอรู้จักไม่มีที่ให้เห็น ไม่แม้แต่เศษซากเล็กๆ ที่จะให้นึกถึง
เธอจําโลกนั่นได้ ขณะที่เธอยืนอยู่ในโลกที่แตกสลาย
นอนอยู่บนพื้นหญ้าและมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีฟ้า…ลอยอยู่ท่ามกลางเมฆ มองลงไปที่พื้น แม้ว่าเธอจะปฏิเสธมันในตอนนี้ แต่ตอนนี้ภูมิทัศน์ที่เธอชอบก็วูบวาบอยู่ตรงหน้าเธอ
คิมฮาจิน หรือ ไคด์สปริง
ชายผู้ดําเนินความลึกลับทั้งหมดของโลกนี้…
จินซาฮยอคหลับตาแล้วถอนหายใจ
ฉันควรจะเห็นเขาก่อนที่ฉันจะจากไปไหม?
ฉันควรขอคําแนะนําจากเขาไหม?
“…เฮ้ออ”
ในไม่ช้า จินซาฮยอคก็ส่ายหัว
เธอมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตที่โดดเดี่ยว
ราชาจะต้องไม่แสดงความอ่อนแอ และต้องมีชีวิตอยู่ และตายกับประเทศของเธอ
ถ้าโลกนี้ตายไป เธอก็จะตายอย่างมีความสุขกับโลกนี้
“มันแย่กว่าที่ฉันคิดไว้มาก”
เสียงของชิมูรินดังขึ้น จินซาฮยอกเงยหัวขึ้นเล็กน้อยแล้วมองเธอ เพียงสะบัดมือ ชิมูรินก็ขับไล่พลังปีศาจในดินแดนออกไป
จินซาฮยอคพูดขึ้น
“เธอกลับไปได้นะถ้ามันยากเกินไป เธออยู่ที่นี่มา 3 เดือนแล้วนิ”
“…หืม?”
ชิมูรินจ้องที่จินซาฮยอค ราวกับว่าเธอไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยินเรื่องนี้ จากนั้นเธอก็ยิ้มและส่ายหัว
“ไม่เป็นไร ปัญหาที่ยากกว่าก็คือยิ่งยากฉันยิ่งชอบ”
“…อย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน”
จินซาฮยอคกําเสื้อคลุมของเธอ มันคือ [ผ้าคลุมไหล่อเล็กซานเดอร์มหาราช] ที่เธอได้รับจาก คิมฮาจิน
“แล้วเธอมีแผนยังไง? เราไม่ได้อยู่ในอาณาเขตของพัลซาร์อย่างที่เธอต้องการเหรอ?”
ชิมูรินถาม
“มันง่ายมาก”
อคทรีน่าได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงอาณาจักรอสูรอย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนถึงสิ่งที่จินซาฮยอค ต้องทํา
ค้นหาผู้คน
จากสิ่งที่เธอเห็นบนโลก การเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรอสูรนั้นจํากัดอยู่ที่ผิวเผินเท่านั้น หากคนรอดชีวิต พวกเขาควรจะอยู่ในใต้ดินลึก
“ฉันจะได้พบกับพลเมืองของฉันและไปใต้ดิน”
จินซาฮยอคแบกทุกสิ่งที่เธอนามาจากโลกและขยับขาของเธอ
แต่ถึงแม้เธอจะประกาศอย่างมั่นใจ แต่ในแต่ละก้าวของเธอนั้นไม่มีจุดหมายหรือเป้าหมายเลย
สัญชาตญาณที่เธอเชื่อในทุกวันนี้เงียบสงบ
เป็นไปได้ไหมที่แม้กระทั่งสัญชาติญาณของเธอก็ไม่เชื่อใจเธอ?
หรือไม่มีใครเหลืออยู่ในโลกนี้?
“ฮา…ฮา….”
จินซาฮยอคเดินจนปอดของเธอถูกไฟลวกด้วยพลังปีศาจ เธอไม่ได้ใช้ลมปราณสนับสนุนลม หรือพยายามที่จะชําระพลังงานปีศาจ เมื่อเวทมนตร์ของชิมูรินถูกจํากัด จินซาฮยอคจึงคุกเข่าหลัง จากเดินไป 6 ชั่วโมง
เสียงกรอบแกรบ – เสียงกรอบแกรบ –
ทันใดนั้นมีบางอย่างในเสื้อคลุมของเธอถูกับผ้าคลุม จินซาฮยอคชระพลังงานปีศาจภาย ในตัวเธอผ่านการไหลเวียนของลมปราณ ขณะที่เธอวางมือไว้ในกระเป๋าของเธอ
อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถคว้าอะไรได้เลย
เมื่อคิดว่าอาจเป็นกระเป๋าหลัง เธอก็ควานหากระเป๋าอันนั้นด้วย แต่ตามที่คาดไว้ ไม่มีอะไรที่นั่น
“…หืม?”
ไม่ มันมีบางอย่าง
มันเป็นกระดาษแผ่นพับ
จินซาฮยอควางกระดาษบนฝ่ามือของเธอ
‘นี่คืออะไร? ทําไมอยู่ที่นี่?’ แม้ว่าเธอจะไม่รู้ในตอนแรก แต่เธอก็จําได้ทันทีที่เห็นกระดาษ
นี่คือ [จดหมายการสื่อสารไร้ขอบเขต] ที่เธอคุ้นเคยกับการสื่อสารกับคิมฮาจิน เมื่อทั้งสองทํา งานร่วมกัน
ด้วยสิ่งนี้ เธอสามารถสื่อสารกับคิมฮาจินได้
“ฮะ”
จินซาฮยอคยิ้มเมื่อเธอมองดูจดหมาย อารมณ์ที่ไม่รู้จักตื่นขึ้นมา แต่ในไม่ช้าเธอก็แก้ไขปัญหาของเธอ
[นายเห็นนี้ไหม?]
เธอเขียนสี่คําด้วยพลังเวทย์มนตร์ของเธอ
“อ๊ะ ทําไมฉันถึงทําอะไรที่ไร้ประโยชน์…”
เธอรู้สึกเสียใจทันทีหลังจากนั้น แต่เธอไม่ได้ให้เวลาโทษตัวเอง
-!
เสียงกรีดร้องดังขึ้น โลกสั่นสะเทือนอีกครั้ง จินซาฮยอคและชิมูรินหันไปทางเสียง
สัตว์ประหลาดที่เหมือนไดโนเสาร์ยืนอยู่ที่นั่น
ขาใหญ่ของมันมีกล้ามเนื้อที่น่ากลัวและร่างกายของมันมีขนาดเท่ากับปราสาท มันใหญ่กว่าสัตว์ประหลาดใดๆ ที่เธอเคยเห็นบนโลก
จินซาฮยอควางกระเป๋าของเธอและปลุกพลังเวทย์มนตร์
“ช่างเป็นโลกที่ดุดันเสียจริง”
ชิมูรินพึมพําจากข้างๆเธอ
“แต่นั่นคือสิ่งที่ทําให้ตื่นเต้นมากขึ้นนะ”
จินซาฮยอคตอบ เมื่อเธอเหยียดร่างกายของเธอ สัตว์ประหลาดได้เห็นพวกเธอแล้ว และเตรี ยมที่จะพุ่งเข้าใส่
“งั้นไปกันเถอะ”
ในขณะที่จินซาฮยอคสร้างอาวุธนับร้อยด้วยพลังเวทย์มนตร์ของเธอ คําพูดเล็กๆ ก็เริ่มปรากฏ บนจดหมายการสื่อสาร
คําที่เขียนตัวเองอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่จินซาฮยอคไม่มีเวลาดู นี่เป็นเพราะสัตว์ประห ลาดนั่นวิ่งเข้าหาพวกเธอ
[ฉันเห็น จินซาฮยอค ใช่มั้ย? เธอเป็นอะไรถึง…]
อย่างไรก็ตาม จินซาฮยอคสามารถได้ยินเสียงเบาๆ ของคําที่เขียนบนกระดาษได้ มันเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าการเชื่อมต่อกับโลกยังคงอยู่
สัตว์ประหลาดพุ่งเข้าหา ในขณะที่แกว่งศีรษะ
อย่างไรก็ตาม จินซาฮยอคไม่กลัว ความกังวลและปัญหาทั้งหมดของเธอได้รับการแก้ไขแล้ว เธอสามารถยิ้มได้แม้กระทั้งสัตว์ประหลาดที่กําลังทําลายล้างนีวิ่งเข้าหาเธอในขณะที่โลกเริ่มแยกออกจากกัน
จินซาฮยอครู้สึกเหมือนว่าเธอจะสามารถหาคนของเธอที่นี้ได้ เธอสามารถพบร่องรอยของไฟ หรือรอยเท้าจากพวกเขาได้ และด้วยพวกเขา เธอรู้สึกเหมือนเธอสามารถสร้างพัลซาร์ขึ้นมาใหม่
ความหวังนี้ได้รับการปลุกขึ้นมาใหม่โดยจดหมายที่เชื่อมโยงกับคิมฮาจิน
-!
ร่างกายของสัตว์ประหลาดและพลังเวทย์มนตร์ของจินซาฮยอคปะทะกัน
ด้วยการใช้ ‘การจัดการความจริง’ เธอขับไล่พลังงานปีศาจรอบข้างชั่วคราวและเปลี่ยนเป็นสี น้ำเงิน และภายใต้ท้องฟ้าที่เปลี่ยนกลับไปเป็นสีที่ผ่านมา จินซาฮยอคตะโกนขณะที่ยืนอย่างเย่อหยิ่ง
“ฉันกลับมาแล้ว!”
เสียงของเธอชัดเจนและดังก้องขึ้นกว่าเดิม
—————————————————-
จบ