บทที่ 686 บทส่งท้าย (2) เรื่องราวของพวกเขา [ตอนที่ 6] [จบสมบูรณ์]

The Novel’s Extra

เบลล์ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองบัลลังก์ ซึ่งวางไว้ใกล้กับดวงอาทิตย์ในจุดที่มองลงไปยังคนอื่นๆ

 

“ราชาเทอร์ฮัน ผู้ปกครองที่มีชื่อเสียงของอรันเฮลล์ ! ”

 

เสียงโห่ร้องดังกึกก้อง

 

เบลล์ก้าวออกจากรถม้า เมื่อเดินไปถึงระยะทางไกล เขาก็เดินขึ้นบันไดของถนนหลวงตามลําดับ

 

“โอ้ ราชา -!”

 

“เหนือหัวเทอร์ฮัน -!”

 

“เหนือหัวผู้ช่วยชีวิต ผู้เอาชนะความหายนะ และกลับมา -!”

 

ผู้คนหลายแสนคนเฉลิมฉลองพิธีราชาภิเษกพร้อมเสียงกรีดร้องดังทะลุผ่านท้องฟ้า

 

ในฐานะราชา เบลล์ก็นึกถึงเสียงของพวกเขา

 

เพื่อที่เขาจะไม่หักหลังพวกเขา และเพื่อที่เขาจะไม่ทําผิดพลาดอีกครั้ง

 

– เทอร์ฮันนั้นชื่อใหม่หรอ? ดีกว่าเบลล์เยอะเลย

 

บาอัลพิมพ์ในใจของเขา

 

เบลล์จ้องมองบัลลังก์ของเขาและบ่นอย่างสงบ

 

“หวังว่าจะได้มันนะ ชีวิต ‘มนุษย์” นั้นสวยงามและเติมเต็มมากกว่าที่นายคิด”

 

…ทุกสิ่งถูกทําลายในโลกนี้

 

จินซาฮยอคยืนอยู่บนดินแดนที่แห้งแล้ง และมองไปรอบๆ

 

ไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตรอบตัวเธอ หญ้ากลายเป็นเถ้าและกระจายออกไป และโลกก็ แทบจะหายใจไม่ออกหลังจากที่ถูกกลืนกินด้วยพลังงานปีศาจ ต้นไม้ถูกย้อมด้วยเฉดสีน้ําตาลแดง และท้องฟ้าเป็นสีม่วง

 

“เหอะ….”

 

จินซาฮยอคจ้องภูมิทัศน์ที่รกร้างนี้โดยไม่พูดอะไรเลย

 

3 เดือนผ่านไปแล้วตั้งแต่เธอมาถึงที่นี่

 

บ้านที่เธอรู้จักไม่มีที่ให้เห็น ไม่แม้แต่เศษซากเล็กๆ ที่จะให้นึกถึง

 

เธอจําโลกนั่นได้ ขณะที่เธอยืนอยู่ในโลกที่แตกสลาย

 

นอนอยู่บนพื้นหญ้าและมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีฟ้า…ลอยอยู่ท่ามกลางเมฆ มองลงไปที่พื้น แม้ว่าเธอจะปฏิเสธมันในตอนนี้ แต่ตอนนี้ภูมิทัศน์ที่เธอชอบก็วูบวาบอยู่ตรงหน้าเธอ

 

คิมฮาจิน หรือ ไคด์สปริง

 

ชายผู้ดําเนินความลึกลับทั้งหมดของโลกนี้…

 

จินซาฮยอคหลับตาแล้วถอนหายใจ

 

ฉันควรจะเห็นเขาก่อนที่ฉันจะจากไปไหม?

 

ฉันควรขอคําแนะนําจากเขาไหม?

 

“…เฮ้ออ”

 

ในไม่ช้า จินซาฮยอคก็ส่ายหัว

 

เธอมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตที่โดดเดี่ยว

 

ราชาจะต้องไม่แสดงความอ่อนแอ และต้องมีชีวิตอยู่ และตายกับประเทศของเธอ

 

ถ้าโลกนี้ตายไป เธอก็จะตายอย่างมีความสุขกับโลกนี้

 

“มันแย่กว่าที่ฉันคิดไว้มาก”

 

เสียงของชิมูรินดังขึ้น จินซาฮยอกเงยหัวขึ้นเล็กน้อยแล้วมองเธอ เพียงสะบัดมือ ชิมูรินก็ขับไล่พลังปีศาจในดินแดนออกไป

 

จินซาฮยอคพูดขึ้น

 

“เธอกลับไปได้นะถ้ามันยากเกินไป เธออยู่ที่นี่มา 3 เดือนแล้วนิ”

 

“…หืม?”

 

ชิมูรินจ้องที่จินซาฮยอค ราวกับว่าเธอไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยินเรื่องนี้ จากนั้นเธอก็ยิ้มและส่ายหัว

 

“ไม่เป็นไร ปัญหาที่ยากกว่าก็คือยิ่งยากฉันยิ่งชอบ”

 

“…อย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน”

 

จินซาฮยอคกําเสื้อคลุมของเธอ มันคือ [ผ้าคลุมไหล่อเล็กซานเดอร์มหาราช] ที่เธอได้รับจาก คิมฮาจิน

 

“แล้วเธอมีแผนยังไง? เราไม่ได้อยู่ในอาณาเขตของพัลซาร์อย่างที่เธอต้องการเหรอ?”

 

ชิมูรินถาม

 

“มันง่ายมาก”

 

อคทรีน่าได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงอาณาจักรอสูรอย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนถึงสิ่งที่จินซาฮยอค ต้องทํา

 

ค้นหาผู้คน

 

จากสิ่งที่เธอเห็นบนโลก การเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรอสูรนั้นจํากัดอยู่ที่ผิวเผินเท่านั้น หากคนรอดชีวิต พวกเขาควรจะอยู่ในใต้ดินลึก

 

“ฉันจะได้พบกับพลเมืองของฉันและไปใต้ดิน”

 

จินซาฮยอคแบกทุกสิ่งที่เธอนามาจากโลกและขยับขาของเธอ

 

แต่ถึงแม้เธอจะประกาศอย่างมั่นใจ แต่ในแต่ละก้าวของเธอนั้นไม่มีจุดหมายหรือเป้าหมายเลย

 

สัญชาตญาณที่เธอเชื่อในทุกวันนี้เงียบสงบ

 

เป็นไปได้ไหมที่แม้กระทั่งสัญชาติญาณของเธอก็ไม่เชื่อใจเธอ?

 

หรือไม่มีใครเหลืออยู่ในโลกนี้?

 

“ฮา…ฮา….”

 

จินซาฮยอคเดินจนปอดของเธอถูกไฟลวกด้วยพลังปีศาจ เธอไม่ได้ใช้ลมปราณสนับสนุนลม หรือพยายามที่จะชําระพลังงานปีศาจ เมื่อเวทมนตร์ของชิมูรินถูกจํากัด จินซาฮยอคจึงคุกเข่าหลัง จากเดินไป 6 ชั่วโมง

 

เสียงกรอบแกรบ – เสียงกรอบแกรบ –

 

ทันใดนั้นมีบางอย่างในเสื้อคลุมของเธอถูกับผ้าคลุม จินซาฮยอคชระพลังงานปีศาจภาย ในตัวเธอผ่านการไหลเวียนของลมปราณ ขณะที่เธอวางมือไว้ในกระเป๋าของเธอ

 

อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถคว้าอะไรได้เลย

 

เมื่อคิดว่าอาจเป็นกระเป๋าหลัง เธอก็ควานหากระเป๋าอันนั้นด้วย แต่ตามที่คาดไว้ ไม่มีอะไรที่นั่น

 

“…หืม?”

 

ไม่ มันมีบางอย่าง

 

มันเป็นกระดาษแผ่นพับ

 

จินซาฮยอควางกระดาษบนฝ่ามือของเธอ

 

‘นี่คืออะไร? ทําไมอยู่ที่นี่?’ แม้ว่าเธอจะไม่รู้ในตอนแรก แต่เธอก็จําได้ทันทีที่เห็นกระดาษ

 

นี่คือ [จดหมายการสื่อสารไร้ขอบเขต] ที่เธอคุ้นเคยกับการสื่อสารกับคิมฮาจิน เมื่อทั้งสองทํา งานร่วมกัน

 

ด้วยสิ่งนี้ เธอสามารถสื่อสารกับคิมฮาจินได้

 

“ฮะ”

 

จินซาฮยอคยิ้มเมื่อเธอมองดูจดหมาย อารมณ์ที่ไม่รู้จักตื่นขึ้นมา แต่ในไม่ช้าเธอก็แก้ไขปัญหาของเธอ

 

[นายเห็นนี้ไหม?]

 

เธอเขียนสี่คําด้วยพลังเวทย์มนตร์ของเธอ

 

“อ๊ะ ทําไมฉันถึงทําอะไรที่ไร้ประโยชน์…”

 

เธอรู้สึกเสียใจทันทีหลังจากนั้น แต่เธอไม่ได้ให้เวลาโทษตัวเอง

 

-!

 

เสียงกรีดร้องดังขึ้น โลกสั่นสะเทือนอีกครั้ง จินซาฮยอคและชิมูรินหันไปทางเสียง

 

สัตว์ประหลาดที่เหมือนไดโนเสาร์ยืนอยู่ที่นั่น

 

ขาใหญ่ของมันมีกล้ามเนื้อที่น่ากลัวและร่างกายของมันมีขนาดเท่ากับปราสาท มันใหญ่กว่าสัตว์ประหลาดใดๆ ที่เธอเคยเห็นบนโลก

 

จินซาฮยอควางกระเป๋าของเธอและปลุกพลังเวทย์มนตร์

 

“ช่างเป็นโลกที่ดุดันเสียจริง”

 

ชิมูรินพึมพําจากข้างๆเธอ

 

“แต่นั่นคือสิ่งที่ทําให้ตื่นเต้นมากขึ้นนะ”

 

จินซาฮยอคตอบ เมื่อเธอเหยียดร่างกายของเธอ สัตว์ประหลาดได้เห็นพวกเธอแล้ว และเตรี ยมที่จะพุ่งเข้าใส่

 

“งั้นไปกันเถอะ”

 

ในขณะที่จินซาฮยอคสร้างอาวุธนับร้อยด้วยพลังเวทย์มนตร์ของเธอ คําพูดเล็กๆ ก็เริ่มปรากฏ บนจดหมายการสื่อสาร

 

คําที่เขียนตัวเองอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่จินซาฮยอคไม่มีเวลาดู นี่เป็นเพราะสัตว์ประห ลาดนั่นวิ่งเข้าหาพวกเธอ

 

[ฉันเห็น จินซาฮยอค ใช่มั้ย? เธอเป็นอะไรถึง…]

 

อย่างไรก็ตาม จินซาฮยอคสามารถได้ยินเสียงเบาๆ ของคําที่เขียนบนกระดาษได้ มันเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าการเชื่อมต่อกับโลกยังคงอยู่

 

สัตว์ประหลาดพุ่งเข้าหา ในขณะที่แกว่งศีรษะ

 

อย่างไรก็ตาม จินซาฮยอคไม่กลัว ความกังวลและปัญหาทั้งหมดของเธอได้รับการแก้ไขแล้ว เธอสามารถยิ้มได้แม้กระทั้งสัตว์ประหลาดที่กําลังทําลายล้างนีวิ่งเข้าหาเธอในขณะที่โลกเริ่มแยกออกจากกัน

 

จินซาฮยอครู้สึกเหมือนว่าเธอจะสามารถหาคนของเธอที่นี้ได้ เธอสามารถพบร่องรอยของไฟ หรือรอยเท้าจากพวกเขาได้ และด้วยพวกเขา เธอรู้สึกเหมือนเธอสามารถสร้างพัลซาร์ขึ้นมาใหม่

 

ความหวังนี้ได้รับการปลุกขึ้นมาใหม่โดยจดหมายที่เชื่อมโยงกับคิมฮาจิน

 

-!

 

ร่างกายของสัตว์ประหลาดและพลังเวทย์มนตร์ของจินซาฮยอคปะทะกัน

 

ด้วยการใช้ ‘การจัดการความจริง’ เธอขับไล่พลังงานปีศาจรอบข้างชั่วคราวและเปลี่ยนเป็นสี น้ำเงิน และภายใต้ท้องฟ้าที่เปลี่ยนกลับไปเป็นสีที่ผ่านมา จินซาฮยอคตะโกนขณะที่ยืนอย่างเย่อหยิ่ง

 

“ฉันกลับมาแล้ว!”

 

เสียงของเธอชัดเจนและดังก้องขึ้นกว่าเดิม

 

—————————————————-

 

จบ