ตอนที่ 2717 พนัน

“ห้าทีมแยกออกไป ?”

พวกระดับสูงของฟรอสต์ฮีฟเว่นนั้นอ้าปากค้างอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อได้ยินคำแนะนำของซือเฟิง พวกเขาเสียเปรียบในด้านตัวเลขอย่างมาก และแม้แต่ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยมันก็อาจจะทำให้พวกเขาไร้ความสามารถในการชิงหกตำแหน่งสำรองได้เลย ในขณะเดียวกันแม้ว่าการแบ่งทีมของเซเว่นวอร์นเดอร์จะเป็นไปแบบปลอดภัยมากไปนิด แต่มันก็จะสามารถช่วยให้ฟรอสต์ฮีฟเว่นหลีกเลี่ยงปัญหาสำคัญได้

อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกับแนะนำให้แบ่งทีมออกมาอีกห้าทีมแยกออกไป โดยแต่ละทีมนั้นก็จะมีสมาชิกเพียงแค่หนึ่งร้อยคนเท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้มันจัดว่าเสี่ยงและดูบ้าคลั่งมากๆ

“หัวหน้ากิล การทำแบบนี้มันจะไม่เสี่ยงมากเกินไปหน่อยงั้นหรอ ?” มู่ฉินอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาอย่างกังวล

ณ จุดนี้ ทุกคนนั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าซือเฟิงมีพลังที่น่ากลัว และแม้ว่าเขาจะเป็นผู้นำทีมขนาดเล็กที่สุด แต่เขาก็น่าจะสามารถจัดการกับปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นได้แน่นอน

อย่างไรก็ตามอีกสี่ทีมที่ถูกแบ่งออกไปมันก็ไม่น่าจะทำได้เหมือนเขา เพราะท้ายที่สุดแล้วใครมันจะไปมีพลังการต่อสู้ที่น่ากลัวแบบซือเฟิงกัน ? และในบรรดาสมาชิกของสภาสิบแปดปีกทั้งหมด บุคคลที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองรองจากซือเฟิงก็น่าจะเป็นไวโอเล็ตคลาวด์ แต่อย่างไรก็ตามการควบคุมมานาของเธอก็ยังคงห่างชั้นจากซือ
เฟิงมาก นี่คือสิ่งที่มู่ฉินได้ตรวจสอบมาแล้วผ่านการดวลของไวโอเล็ตคลาวด์กับเทียนเฉิง

สำหรับสมาชิกคนอื่นๆของสภาสิบแปดปีก มาตราฐานการต่อสู้โดยเฉลี่ยของพวกเขายังไม่ถึงขอบเขตอนันต์ด้วยซ้ำ และแม้ว่าพวกเขาจะยังคงเป็นพลังต่อสู้ที่มีประโยชน์ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนกระแสการต่อสู้ด้วยตัวเองได้ ในความเป็นจริงแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนก็ยังไม่สามารถจะทำได้ด้วยซ้ำ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เซเว่นวอร์นเดอร์ตัดสินใจแบ่งทีมให้เหล่าผู้อาวุโส และผู้อาวุโสสูงสุดนำทีมที่มีจำนวนสามร้อยคน

ในขณะนี้มู่ฉินไม่ใช่แค่คนเดียวที่งงงวยและเป็นกังวลกับคำแนะนำของซือเฟิง แม้แต่ยู่หลาน และหยานเทียนซิงก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยความสับสน

สภาสิบแปดปีกมีความก้าวหน้าอย่างมากเมื่อเร็วๆนี้ โดยบรรดานักสู้ระดับสูงของกิลก็ปรับปรุงความแข็งแกร่งของตัวเองเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังไม่ได้ไปถึงมาตราฐานของผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาด นอกเหนือจากซือเฟิงแล้ว คนที่จะสามารถนำทีมผู้เล่นหนึ่งร้อยคนผ่านทุกอย่างไปได้อย่างปลอดภัยในสถานการณ์นี้ มันก็จะมีแค่ไวโอเล็ตคลาวด์เท่านั้น

หากพวกเขาแบ่งห้าทีม ทีมละหนึ่งร้อยคนแยกออกไป ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจนำทีมไปสู่การถูกทำลายล้างทั้งหมดได้เลย เพราะท้ายที่สุดแล้วการแข่งขันครั้งนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย มันเป็นการแข่งขันที่จะกำหนดทิศทางของ God domain ในอนาคตเลยก็ว่าได้

ในครั้งนี้มหาอำนาจต่างๆที่ได้มาเข้าร่วมการแข่งขันนั้นล้วนส่งผู้เชี่ยวชาญของพวกเขาออกมาจำนวนมาก และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์ก็ยังจะหาได้ทั่วไปที่นี่ ขณะที่พวกเขาส่วนใหญ่จะมีผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดราวหนึ่งโหลหรือมากกว่านั้นอยู่ในกองกำลังแทบทั้งหมด

และแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนจะถือว่าเป็นนักสู้ที่น่ากลัว แต่พวกเขาก็จะต้องหนีแน่นอน หากต้องไปเผชิญหน้ากับทีมผู้เล่นหนึ่งร้อยคนโดยปราศจากการสนับสนุนที่เพียงพอ ในการแข่งขันครั้งนี้มันจะมีก็แต่เพียงผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดแบบซือเฟิงเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนกระแสการต่อสู้ได้ด้วยตัวคนเดียว

นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าทีมหนึ่งร้อยคนนั้นเป็นเพียงความต้องการขั้นต่ำในการแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งนี้ หากทีมผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดจำนวนหนึ่งรวมกันจนครบหนึ่งร้อยคน ไปพบกับทีมห้าร้อยคน พวกเขาก็ยังจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดอย่างมากอยู่ดี และถ้าพวกเขาเจอกับทีมหนึ่งพันคนนั้น มันก็จะมีเพียงแต่ความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่

“มันก็ค่อนข้างจะเสี่ยงนั่นแหละ อย่างไรก็ตามมีแต่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เรามีสิทได้รับหนึ่งในหกตำแหน่งสำรอง” ซือเฟิงไม่ได้พยายามหักล้างคำพูดของมู่ฉิน เพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เธอพูดมันเป็นความจริง “ไม่งั้นยังไงซะฟรอสต์ฮีฟเว่นก็จะไม่มีสิทได้หนึ่งในหกตำแหน่งสำรองนี้เลย ฉันเชื่อว่าพวกคุณทุกคนก็รู้เรื่องนี้ดีเช่นกัน”

ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา เนื่องจากรากฐานที่ไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ฟรอสต์ฮีฟเว่นจึงล้มเหลวในการแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งสำรองครั้งแรก

ในขณะเดียวกันการเริ่มต้นการต่อสู้บนเกาะต่างๆให้ได้นั้นมันก็มีความสำคัญมากๆ ซึ่งหากพวกเขาไม่สามารถกระจายกำลังไปยังเกาะต่างๆให้ได้มากที่สุด พวกเขาก็ควรจะลืมเรื่องหกตำแหน่งสำรองนี้ไปได้เลย

มันมีตำแหน่งสำรองเพียงหกตำแหน่งเท่านั้นให้ไขว่คว้า และเพื่อที่จะทำให้ตัวเองสามารถเดินทางไปยังเกาะอื่นๆได้ พวกเขาก็จะต้องครอบครองพื้นที่ทรัพยากรของเกาะให้ได้ทั้งหมดอย่างน้อยสามเกาะเพื่อโอกาสในการชนะ อย่างไรก็ตามการจะทำให้ได้แบบนี้นั้นมันพูดง่ายกว่าทำ

เมื่อซือเฟิงพูดจบ พวกระดับสูงทั้งหมดของฟรอสต์ฮีฟเว่นก็เงียบลง

หลังจากเวลาผ่านไปชั่วครู่ หงซินหยวนก็ก้าวออกมาข้างหน้าและพูดว่า “ฉันเห็นด้วยกับมุมมองของหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม หากเราแบ่งตามที่เขาว่า เราก็ยังจะพอมีได้เสี่ยงโชคหาโอกาสชนะบ้าง ….”

“อย่างไรก็ตาม หากโชคไม่เข้าข้างเรา และทีมหนึ่งร้อยคนของเราถูกแยกกันออกไปทั้งหมด ทีมก็คงทำอะไรไม่ได้มากเช่นกันนะ ….” บริลเลี่ยนบลูกล่าวพลางส่ายหัว

มันมีกิลทั้งหมดสามสิบกิลที่มาเข้าร่วมในการแข่งขัน และโดยเฉลี่ยแล้วมันก็จะมีอย่างน้อยสองกิลอยู่ทุกเกาะ ซึ่งหากหนึ่งในทีมหนึ่งร้อยคนของพวกเขาโชคร้ายถูกโดดเดี่ยว มันก็จะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน

เมื่อได้ยินคำพูดของบริลเลี่ยนบลู เหล่าสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นก็ยิ่งเงียบลงไปอีก

หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เซเว่นวอร์นเดอร์ก็มองไปที่ซือเฟิงและพูดว่า “เอาแบบนี้เป็นไง ฉันตกลงที่จะจัดตั้งทีมหนึ่งร้อยคนแบ่งออกเป็นห้าทีมแยกออกไป อย่างไรก็ตามเราจะสนับสนุนทีมทั้งห้าทีมนี้ด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั่วไปเท่านั้น ฉันคิดว่าเราไม่สามารถจะมอบผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้นให้คุณได้”

“หัวหน้ากิล ?” หงซินหยวนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินคำพูดของเซเว่นวอร์น
เดอร์

แม้ว่าเซเว่นวอร์นเดอร์จะยอมตกลงทำตามคำแนะนำของซือเฟิง แต่หากในทีมเหล่านี้ไม่มีผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้นคอยสนับสนุน โดยพื้นฐานแล้วมันก็จะเท่ากับว่าสมาชิกของสภาสิบแปดปีกเอาชีวิตของตัวเองไปแขวนอยู่บนเส้นด้ายเลย และมันก็จะไม่ใช่เรื่องผิดเลย หากจะพูดว่าเซเว่นวอร์นเดอร์ปฎิบัติต่อทีมทั้งห้าในฐานะทีมที่ต้องเสียสละ

แน่นอนว่าหงซินหยวนก็เข้าใจมุมมองของเซเว่นวอร์นเดอร์ด้วยเช่นกัน ทั้งห้าทีมนี้นับเป็นการพยายามดิ้นรนเฮือกสุดท้ายของพวกเขาเพื่อความหวังในการจะแย่งชิงหนึ่งในหกตำแหน่งสำรอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถจะมอบพลังต่อสู้ที่มากเกินไปให้กับทีมเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตามในความคิดของเขา เนื่องจากพวกเขาเตรียมจะเล่นพนันแล้ว พวกเขาก็น่าจะเพิ่มชิปในการเดิมพันเข้าไปเลย

“ผู้อาวุโสหง อย่าพยายามเกลี้ยกล่อมฉันอีกเลย ฉันได้ตัดสินใจแล้ว ….” เซเว่น
วอร์นเดอร์กล่าวอย่างหนักแน่นอน

“ฉันเข้าใจ” หงซินหยวนนั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกล้ำกลืนคำพูดที่เขาต้องการจะพูดกลับลงคอไป ในฐานะหัวหน้ากิลของฟรอสต์ฮีฟเว่น เซเว่นวอร์นเดอร์ก็ยังคงเป็นคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจมากที่สุดในกิล และในเรื่องสำคัญแบบนี้ เมื่อเซเว่นวอร์นเดอร์ทำการตัดสินใจแล้ว หงซินหยวนก็ไม่ควรจะมาขัดหรือเกลี้ยกล่อมอะไรเขาต่อ ….

“หัวหน้ากิล สมาชิกของสภาสิบแปดปีกนั้นไม่คุ้นเคยกับสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่น ให้ฉันไปเข้าร่วมกับพวกเขาด้วยเถอะ …. ด้วยการทำแบบนี้ หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมน่าจะสามารถบัญชาการทีมทั้งหมดได้ดีขึ้น !!!” มู่ฉินกล่าวแนะนำกับเซเว่นวอร์นเดอร์

“โอเค คุณไปเป็นผู้ประสานงานให้กับสภาสิบแปดปีก ….” เซเว่นวอร์นเดอร์พยักหน้าเห็นด้วย มันเป็นเช่นเดียวกับที่มู่ฉินพูด ซือเฟิงนั้นไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับสมาชิกฟรอสต์ฮีฟเว่นเลย ซึ่งหากเขาไม่มีความเข้าใจที่ดีและมากพอ เขาก็จะไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างดีที่สุด ในขณะเดียวกันในฐานะหนึ่งในรองหัวหน้ากิลของฟรอสต์ฮีฟเว่น มู่ฉินนั้นก็มีความเข้าใจเกี่ยวกับสมาชิกกิลของตัวเองอย่างดีมากๆ ดังนั้นเธอจึงนับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการส่งไปให้เป็นผู้ประสานงานกับสภาสิบแปดปีก

“พี่สาว นี่พี่บ้าไปแล้วหรอ ?” เครุยที่ยืนอยู่ข้างๆมู่ฉินจ้องมองไปยังเธออย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา “นี่คุณกล้าเข้าไปมีส่วนร่วมในการพนันครั้งนี้ด้วยหรอ ?”

การตายในการแข่งขันครั้งนี้มันหมายถึงการต้องสูญเสียสองเลเวล ซึ่งสำหรับผู้เล่นระดับอย่างพวกเขาในปัจจุบัน การสูญเสียไปสองเลเวลนี้ไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะเลย เพราะท้ายที่สุด พวกเขาอยู่ห่างจากเกณฑ์เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเพียงก้าวเดียวเท่านั้น

หากพวกเขาตายในการแข่งขันครั้งนี้ การท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ของพวกเขาก็จะต้องล่าช้าออกไปอย่างมาก

“ไม่ต้องกังวลหรอกยัยน้องสาว ฉันจะติดตามทีมของหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันเชื่อว่าหากทำแบบนี้มันจะไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นแน่นอน” มู่ฉินกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ

เครุยพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำพูดของมู่ฉิน

หลังจากนั้นเซเว่นวอร์นเดอร์ก็เริ่มจัดการแบ่งทีมทั้งหมดตามที่คุยกันไว้ทันที ในขณะเดียวกันสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นทั้งหมด 483 คน ก็ถูกมอบให้อยู่ใต้การบัญชาการของซือเฟิง สำหรับการที่ซือเฟิงจะแบ่งพวกเขายังไงนั้น เซเว่นวอร์นเดอร์จะไม่เข้าไปยุ่งใดๆ

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ทุกคนได้มาพร้อมกันแล้ว ….” มู่ฉินกล่าว หลังจากที่เธอเช็คจำนวนสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นทั้งหมด จากนั้นเธอก็ถามอย่างสงสัยว่า “คุณมีแผนจะแบ่งทีมให้กับสมาชิกทั้งหมดยังไง ?”

“ฉันคิดมาไว้แล้ว ….” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อว่า “ฉันจะเป็นผู้นำทีมด้วยตัวเองทีมหนึ่ง ส่วนทีมที่เหลือก็จะมอบให้เสวี่ยเหวินโหรว อควาโรส ไวโอเล็ตคลาวด์ และไฟเออร์แดนซ์เป็นผู้นำ ขณะที่สมาชิกของสภาสิบแปดปีกที่เหลือก็จะทำหน้าที่ติดตามทีมของไวโอเล็ตคลาวด์และไฟเออร์แดนซ์”

“นี่ … มันจะ ….” มู่ฉินตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง

เธอนั้นคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าไวโอเล็ตคลาวด์จะต้องได้เป็นหนึ่งในผู้นำทีมแน่นอน เพราะท้ายที่สุดไวโอเล็ตคลาวด์นั้นก็มีโดเมนมานาเป็นของตัวเอง ขณะที่สมาชิกสภาสิบแปดปีกที่เหลือน่าจะถูกแบ่งให้คละกันไปในสามทีมที่เหลือ

แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับเลือกจะให้เสวี่ยเหวินโหรว และอควาโรสเป็นผู้นำทีมคนเดียวแทนไวโอเล็ตคลาวด์ ? ซึ่งควรจะได้หนึ่งในสองตำแหน่งนี้ ….

ในขณะนี้มันไม่ใช่แแค่มู่ฉินคนเดียวที่ตกตะลึง ยู่หลาน หยานเทียนซิง อี้ลั่วเฟย Alluring Summer จ้าวเย่วรู่ ชาโด้วซอร์ด โคล่า ไซเร้นเบลด เทอเทิ้ลโดฟ เย่หวูเมี่ยน ฟลายอิ้งชาโด้ว และแรมแพ้นเบลดก็ล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆเช่นกัน

จากสมาชิกสภาสิบแปดปีกทั้งหมดในปัจจุบัน ผู้ที่ต้องการ การสนับสนุนมากที่สุด มันก็น่าจะเป็นรองหัวหน้ากิลทั้งสองของพวกเขา เพราะท้ายที่สุดทั้งสองยังไม่ได้ปรับปรุงเลเวล อาวุธ และอุปกรณ์ของพวกเขาเลยแม้แต่น้อยในช่วงสองถึงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา และแม้ว่าอาวุธกับอุปกรณ์ของอควาโรสกับเสวี่ยเหวินโหรวจะยังคงจัดว่าเหนือกว่ามหาอำนาจต่างๆอยู่มาก แต่ทั้งสองก็ยังด้อยกว่าไวโอเล็ตคลาวด์ และไฟเออร์แดนซ์อยู่เล็กน้อยในแง่ของมาตราฐานการต่อสู้

การไม่ให้การสนับสนุนใดๆกับสองคนนี้เลย มันจะเท่ากับการเพิ่มความเสี่ยงในการพนันครั้งนี้มากขึ้นด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามโดยไม่ได้สนใจท่าทีของทุกคน ซือเฟิงได้หันไปหาอควาโรส และเสวี่ยเหวินโหรวพลางถามว่า “เสวี่ยเหวินโหรว อควาโรส พวกเธอโอเคกับเรื่องนี้ไหม ?”

“ไม่มีปัญหา”

ทั้งสองตอบอย่างเฉยเมยทันที ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับพวกเขา

“ดี งั้นเราก็จะมาแบ่งกันให้เรียบร้อย และไปเตรียมตัวกัน ….” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม โดยไม่คิดจะพูดอะไรเพิ่มเติม

ต่อจากนั้นผู้เข้าร่วมทั้งหมดก็รออีกหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก่อนที่ระฆังของวิหารเทพสงครามจะดังขึ้น ซึ่งระฆังนี้มันก็ได้ดังก้องไปทั่วเมืองมังกรไฟเลยทีเดียว

การแข่งขันแบบเป็นทางการเพื่อแย่งชิงหกตำแหน่งสำรองได้เริ่มขึ้นแล้ว !!!

ทันใดนั้นผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่กำลังเฝ้ารออยู่ที่บริเวณวิหารเทพสงครามก็กลายเป็นลำแสง และค่อยๆหายไปทีละคน