หนิงเจ๋อฮ่าวรู้สึกตกตะลึง

นี่คือกู่ฉิงฉิงที่ชอบอาวุธต่าง ๆ มาตั้งแต่เด็ก และเรียกตัวเองว่าเป็นหญิงเหล็ก?

นี่เป็นตัวปลอมใช่ไหม?

นึกไม่ถึงว่าเธอจะออดอ้อนเป็นด้วย?

เขาเฝ้ามองกู่ฉิงฉิงเติบโตขึ้นมา และเขาไม่เคยเห็นท่าทางเช่นนี้ของกู่ฉิงฉิงมาก่อน

หรือว่านี่คือสิ่งที่คนหนุ่มสาวกล่าวว่านิสัยที่ตลกเหรอ?

“เชี่ย เชี่ย เชี่ย!!”

ไม่ต้องพูดถึงหนิงเจ๋อฮ่าว แม้แต่เปาจี้จู่ที่เพิ่งดึงเทปออกจากปากก็ตกใจเช่นกัน หญิงเหล็กของตระกูลกู่กอดขานักตุ้มตุ๋นแล้วพูดจาออดอ้อน!

แม่งฉิบหาย ผมต้องฝันแน่นอน

เดี๋ยวก่อน นักตุ้มตุ๋นชื่ออะไร? เย่เซิ่งเทียน?

“เชี่ย?”

เปาจี้จู่ตกตะลึง เขาก็คือเย่เซิ่งเทียนที่ตาแก่บอกว่าห้ามไปยั่วยุ?

แต่ตนเองกลับคิดแก้แค้นเขา! !

สมองของผมผิดปกติหรือเปล่า?

ตระกูลซ่งถูกเย่เซิ่งเทียนทำลายล้าง ผมกลับต้องการแก้แค้นเขา?

“พี่เย่ พี่เย่สุดที่รักของผม ในที่สุดผมก็เห็นตัวจริงของคุณแล้ว ทุกอย่างล้วนเป็นความเข้าใจผิด”

เปาจี้จู่ไม่มีเวลาคิดมาก เขาวิ่งเข้าไปกอดต้นขาอีกข้างของเย่เซิ่งเทียนเอาไว้ “พี่เย่ คุณเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของผม คุณเป็นคนที่น้องชายอย่างผมชื่นชมมากที่สุด ผมคือเปาจี้จู่แห่งตระกูลเปา พ่อของผมเคยไปเยี่ยมคุณ คุณอย่าถือสาเรื่องบนเครื่องบินเลยน่ะ”

เปาจี้จู่รู้สึกเสียใจ พ่อเคยบอกเขาว่าเย่เซิ่งเทียนไม่ใช่คนธรรมดา ให้เขาหาโอกาสคบหาสมาคมกับเย่เซิ่งเทียน

ถ้าเขารู้แต่แรกว่านักตุ้มตุ๋นก็คือเย่เซิ่งเทียน แล้วเขาจะกล้าพูดคำเหล่านั้นได้อย่างไร

“พี่ชายแท้ ๆ ของผม ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ถ้าพวกเราไม่ทะเลาะกันก็ไม่รู้จักกัน พี่ชาย คุณชอบเงินใช่ไหม? ผมจะมอบเงินสามแสนสุดท้ายที่ผมมีอยู่ให้คุณ และคุณไม่ต้องเกรงใจผมด้วย ถ้าคุณสนใจดาราคนไหน ผมก็จะแนะนำให้คุณได้รู้จัก แต่ถ้าคุณชอบสาวน่ารัก น้องสาวของผมอายุสิบแปดปีและน่ารักมาก ผมจะแนะนำเธอให้คุณรู้จัก และถ้าคุณชอบสาวที่อายุเยอะหน่อย อาสาวคนเล็กของผมยังไม่แต่งงาน สไตล์ของเธอนั้นเป็นผู้ใหญ่ ผมแนะนำให้คุณรู้จักได้เช่นกัน คุณอย่าโกรธผมเลย”

เย่เซิ่งเทียน “……”

“ผู้ชายเลว แกหุบปากซะ ไร้ยางอาย แกคิดว่าพี่เย่เป็นเหมือนแกเหรอ? พี่เย่เป็นสุภาพบุรุษที่มีคุณธรรม! ไม่เหมือนคนถ่อยที่รู้แต่ประจบสอพลอย่างแก และการที่แกพูดเช่นนั้นมันเป็นการดูหมิ่นพี่เย่!”

กู่ฉิงฉิงทนไม่ไหวแล้ว เธอใช้เท้าเตะไปที่เปาจี้จู่ เธอยังคงกอดต้นขาของเย่เซิ่งเทียนและน้ำตาคลอเบ้า เงยหน้าและทำตัวน่าสงสาร และกล่าวว่า “พี่เย่ อย่าขุดสุสานบรรพบุรุษของตระกูลฉันเลย แล้วฉันจะแต่งงานกับคุณ”

เย่เซิ่งเทียน “……”

หนิงเจ๋อฮ่าวอายจนหน้าแดงและรู้สึกอึดอัดมาก

เมื่อสักครู่เขาบอกว่านิสัยของกู่ฉิงฉิงเหมือนผู้ชาย และตอนนี้แค่ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว ซึ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก

เย่เซิ่งเทียนรู้สึกจำใจ “ลุกขึ้นเถอะ เรื่องระหว่างผมกับตระกูลกู่ไม่เกี่ยวกับคุณ และคุณอย่าแอบเช็ดน้ำตาบนเสื้อผ้าของผม”

“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ ๆ”

ใบหน้าของกู่ฉิงฉิงแข็งทื่อ เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “ขอเพียงแค่คุณไม่ขุดสุสานของบรรพบุรุษของตระกูลฉัน อย่าว่าแต่จะให้เรียกคุณว่าพี่เย่ จะให้เรียกพ่อก็ได้”

หนิงเจ๋อฮ่าว “……”

“พี่เย่ คุณอย่าเชื่อเธอ ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนแปลงง่ายมาก เธอแค่ต้องการร่างกายของคุณเท่านั้น”

เปาจี้จู่ปัดหญ้าแห้งที่อยู่บนร่างกาย แล้วจ้องกู่ฉิงฉิงด้วยความโมโห

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คน และลงมือได้หนักมาก!

สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้หญิงคนนี้บอกร่องรอยของตนเองให้ผู้หญิงโหดคนนั้น ช่างน่าโมโหจริง ๆ!

เมื่อเห็นว่ายิ่งอยู่พวกเขาสองคนยิ่งพูดมากขึ้นเรื่อย ๆ และพูดแต่เรื่องไร้สาระ หนิงเจ๋อฮ่าวก็อดไม่ได้ที่จะดุด่าว่า “อย่าเสียมารยาทต่อหน้าคุณชาย!”

กู่ฉิงฉิงเหลือบมองเขาด้วยความกลัว และจำไม่ได้ว่าชายวัยกลางคนมีเคราที่อยู่ตรงหน้า คือคุณปู่หนิงของเธอ

เธอถามเบา ๆ ว่า “ลุง คุณดุขนาดนี้ คุณคงเป็นโสดใช่ไหม?”

หนิงเจ๋อฮ่าว:“? ? ?”

ผม……

“พี่เย่ คุณยังอยากจะไปชมทิวทัศน์อีกไหม? ฉันจะพาคุณไปเอง ฉันคุ้นเคยกับบริเวณรอบ ๆ นี้”

กู่ฉิงฉิงกล่าวและกอดแขนของเย่เซิ่งเทียนเอาไว้

เย่เซิ่งเทียนสะบัดแขนของเธอออก แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “พาผมไปพบพ่อของคุณ บางทีอีกสักครู่พวกเราอาจจะเป็นศัตรูกัน”