บัญชามังกรเดือด บทที่ 970 กลับมา
กระทั่งฉินเทียนกลับมายังอุทยานมังกร ท้องฟ้านั้นมืดสนิทเสียแล้ว
แม้ว่าการเดินทางไปเกาะตงไห่ในครั้งนี้จะอันตรายเป็นอย่างมาก แต่ทว่ายังโชคดีที่ไม่เป็นอันตรายใด อีกทั้งยังสามารถนำเห็ดหลินจือเลือดพันปีกลับมาได้สำเร็จ
ฉินเทียนถือกล่องไม้ไว้ภายในอ้อมแขน เมื่อนึกถึงเห็ดหลินจือเลือดที่มีรูปร่างคล้ายลูกแพร์ที่ถูกบรรจุอยู่ด้านใน หัวใจของเขาพลันหนักอึ้ง
สิ่งของชิ้นนี้กว่าจะได้มานั้นไม่ง่ายเลย!
หวังตัวยวี่ตกลงที่จะแต่งงานกับตระกูลเซี่ยแห่งทางเหนือ ใช้สัญญาการแต่งงานของเธอเข้าแลก!
และผู้หญิงดื้อรั้นคนนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่าตาบวมเพราะร้องไห้ แต่ทว่าบนใบหน้านั้นกลับประดับด้วยรอยยิ้มที่ไม่แยแสพร้อมกับมอบสิ่งของนี้ให้กับเขา
จากนั้นก็ขี่อาเซียงจากไปไกลโดยไม่หันกลับมามองแม้แต่น้อย
ไม่ใช่ว่าฉินเทียนไม่เข้าใจมิตรภาพในสายตาของเธอ แต่ว่าเขานั้นทำได้เพียงแสร้งทำเป็นโง่เขลา
สิ่งที่ยากที่สุดคือการได้รับบุญคุณจากหญิงงาม เขานั้นติดหนี้เป็นจำนวนมากแล้ว อย่างเช่นหลิวหรูยู่?
ดังนั้นเขาไม่สามารถสร้างปัญหาเช่นนั้นได้อีกแล้ว
ตอนนี้เขาเข้าใจหัวใจของเขาเป็นอย่างดี นั่นก็คือ ตลอดทั้งชีวิตนี้ เขาไม่ปรารถนาสิ่งอื่นใดอีกแล้ว เขาปรารถเพียงแค่ต้องการแก่เฒ่าไปพร้อมกับซูซู!
เมื่อนึกถึงซูซู ฉินเทียนขมวดคิ้วแน่นอย่างอดไม่ได้
หลายวันมานี้เขานั้นไม่อยู่บ้าน ไม่รู้ว่าเธอจะกินอิ่มนอนหลับหรือเปล่า
ไอ้เด็กเวรนั่นยังกลิ้งไปมาก่อกวนเธออยู่หรือเปล่า…
“พี่เทียน พี่เทียนกลับมาแล้ว!”
เหลิ่งเฟิงผู้รับผิดชอบความปลอดภัย เมื่อเห็นฉินเทียนปรากฏตัวก็รีบวิ่งมาอย่างรวดเร็ว “พี่เทียน พี่กลับมาแล้ว!”
“พี่สะใภ้เธอ…”
“ทำไม? ซูซูเป็นอะไร?!”
หัวใจของฉินเทียนเต้นระรัวและหัวใจร่วงหล่นลงไปอยู่ตาตุ่ม รีบวิ่งไปยังคฤหาสน์ในทันใด
ตอนนี้เขาได้รับเห็ดหลินจือเลือดมาแล้ว ซูซูจะต้องไม่เป็นอะไร!
ความกังวลทำให้เกิดความโกลาหล ฉินเทียนแทบรอไม่ไหวที่จะไล่ถามคำถามกับเหลิ่งเฟิง เขารีบวิ่งออกไปราวกับสายลม
“พี่เทียน พี่เทียน!”
เหลิ่งเฟิงร้องตะโกนเรียกเขาอยู่ด้านหลัง ฉินเทียนวิ่งออกไปจนไม่เห็นแม้แต่เงา
“เมื่อกี้นายพูดอะไร ทำไมพี่เทียนถึงได้ร้อนรนขนาดนั้น?”
สมาชิกทีมดูแลความปลอดภัยจ้องมองเหลิ่งเฟิง “ไม่ใช่ว่าช่วงนี้พี่สะใภ้สบายดีมากหรอกเหรอ เมื่อบ่ายหลิวหรูยู่ก็นำผลไม้มาให้”
เหลิ่งเฟิงแสดงสีหน้างุนงง เขาเกาศีรษะอย่างไม่หยุดหย่อน “ก็ไม่ได้พูดอะไร ยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ”
สองหนุ่มโสด ไหนเล่าจะเข้าใจความเป็นห่วงเป็นกังวลหลังแต่งงานมีครอบครัว
ขณะที่พวกเขายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ฉินเทียนก็วิ่งมาถึงคฤหาสน์แล้ว
ขณะนี้ก็ดึกมาแล้ว ภายในคฤหาสน์มีเพียงแค่ไฟส่องสว่างยามค่ำคืน
รอบข้างเงียบสงัด ประตูห้องนอนนั้นถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา
ฉินเทียนยืนอยู่หน้าประตู ฉับพลันเขานั้นไม่กล้าที่จะเปิดประตูเข้าไป
หัวใจของเขากระสับกระส่ายเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังกำหนัดแน่น เป็นเพราะความประหม่า เหงื่อของเขาผุดออกมาเล็กน้อย
ทันใดนั้น ด้านหลังของเขามีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เข้าใกล้ฉินเทียนอย่างรวดเร็ว
ฉินเทียนหันศีรษะกลับไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความมืดมองเห็นรูปร่างได้ไม่ชัดเจนนัก เห็นเพียงแค่ร่างกายที่คลุมเครือ แน่ใจว่าเป็นผู้หญิง
ดึกดื่นขนาดนี้ ใครกัน?
แม่ยายหยางยู่หลันนั้นก็ไม่ได้สูงมากนัก เสี่ยวเชวี่ย ลูกสาวบุญธรรมของเธอนั้นก็รูปร่างผอมบาง
“ใคร?”
ฉินเทียนเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบา เขาเกียจคร้านเกินกว่าจะคาดเดา
ด้านนอกนั้นมีเหลิ่งเฟิงและคนอื่นคอยคุ้มกัน อย่างไรก็ไม่อาจเข้ามาภายในอุทยานมังกรได้ แม้แต่แมลงวันสักตัวหนึ่งก็ไม่อาจบินเข้ามาได้!
แสงไฟในห้องรับแขกสว่างขึ้น หลิวหรูยู่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉินเทียนด้วยชุดนอนสีชมพูพริ้ง
เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมของเธอนั้นยังไม่แห้งสนิท
ผมที่เปียกชื้นนั้นเปื้อนลงมาบริเวณไหล่ เพิ่มกลิ่มหอมนุ่มนวลของหญิงสาวเล็กน้อย
“ฉินได้ยินเสียงฝีเท้าก็รู้ว่านายน่ะกลับมาแล้ว”
หลิวหรูยู่เงยหน้าขึ้นและจ้องมองฉินเทียน ดวงตาที่งดงามของเธอนั้นเต็มไปด้วยมิตรภาพ
เธอยืนอยู่อย่างนั้นภายใต้ความเงียบงัน ราวกับดอกบัวที่โดดเดี่ยวและเป็นอิสระ หลุดพ้นจากโลกที่วุ่นวาย
ฉินเทียนกลับไม่กล้ามองจนนานเกินไป เขาละสายตามองไปทางอื่นราวกับกำลังร้อนตัว
ผิวขาวราวกับหิมะนั้นพร่างพราวต่อสายตามากเกินไป อันที่จริงเมื่อมองดูแล้วเขานั้นค่อนข้างรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
“ฮะแฮม เอ่อคือ ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้?”
“ทำไม ฉันยืนตรงนี้ไม่ได้เหรอ?”
“ก็ไม่ใช่แบบนั้น” ฉินเทียนหมดคำจะพูด “ฉันหมายความว่าเธอน่ะยุ่งขนาดนั้น ทำไม…”
“โอเค โอเค รู้แล้วว่าคนที่นายเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลานั้นคือซูซู”
หลิวหรูยู่ชำเลืองมองใบหน้าของฉินเทียน “รีบเข้าไปหาหล่อนเถอะ ฉันก็แค่ต้องการหาที่นอนฟรีก็เท่านั้น”
ฉินเทียนทอดถอนหายใจเสียยืดยาว เมื่อได้ยินเสียงของหลิวหรูยู่ แน่นอนว่าซูซูนั้นสบายดี
เหลิ่งเฟิงไอ้เวร จงใจทำให้เขาตื่นตระหนก คอยดูเถอะ พรุ่งนี้ได้วิ่งห้ากิโลเมตรแน่!
“เข้าไปแล้วก็เบาเสียงหน่อย ช่วงนี้หล่อนนอนไม่ค่อยหลับ เพิ่งหลับไปได้ไม่นานนัก”
หลิวหรูยู่เตือนอีกครั้งด้วยความกังวล จากนั้นหันหลังกลับและเดินไปยังห้องนอนด้านข้าง
ตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉินเทียนนั้นไม่อยู่ เธออยู่ที่อุทยานมังกรตลอด คอยช่วยเหลือและดูแลซูซู
วันนี้ศัตรูคู่แค้นกลับมาแล้ว ถึงเวลาที่เธอควรจะต้องยุ่งแล้วและเว้นพื้นที่ว่างให้กับพวกเขา
ฉินเทียนเฝ้ามองหลิวหรูยู่ปิดประตูห้อง จากนั้นเขาเดินเข้ามาภายในห้องนอน
ภายในห้องมีตะเกียงดวงเล็กเปิดอยู่ ซูซูนอนตะแคงและยังไม่หลับ
เมื่อสายตาทั้งสองประสานกัน ฉินเทียนรีบเดินไปด้านข้างเตียง “หรูยู่บอกว่าคุณหลับไปแล้วนี่?”
“เมื่อกลางวันฉันนอนมามากแล้ว เมื่อกี้หากฉันไม่ยอมหลับ หล่อนก็ไม่ยอมกลับห้องไปพักผ่อน”
“ตลอดเวลาที่คุณไม่อยู่บ้าน หล่อนอยู่กับฉันเสมอ เป็นน้ำใจที่หาได้ยากนัก”
เดิมทีผู้หญิงนั้นก็มีความละเอียดอ่อน ความรักที่หลิวหรูยู่มีต่อฉินเทียนนั้น ซูซูรู้ดีแก่ใจ
แม้ว่าทั้งคู่จะพยายามปฏิเสธอ แต่เมื่อเวลาที่ชื่นชอบใครสักคน ภายในสายตานั้นไม่อาจซ่อนความรักไว้ได้เลย
อันที่จริงก็เป็นเรื่องที่ดี ขณะที่เขาไม่อยู่ อย่างน้อยก็มีหลิวหรูยู่มาอยู่เป็นเพื่อน ฉินเทียนก็ไม่ควรเศร้าเสียใจขนาดนั้น…
ฉินเทียนนั้นเป็นคนสะเพร่าไม่ละเอียดรอบคอบ ย่อมไม่รู้ถึงความผัวผวนภายในหัวใจของซูซู
เขานั่งลงกอดซูซูไว้ภายในอ้อมแขน ลูบศีรษะของเธออย่างแผ่วเบาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นอย่างมาก
“ช่วงนี้กินอะไรก็ไม่ถูกปากอีกแล้วหรือ? คุณผอมลงอีกแล้ว”
“ไอ้เวรคนนี้ยังกลิ้งไปมาก่อกวนคุณอีกงั้นสินะ รอให้คลอดออกมาก่อนเถอะ ผมจะสั่งสอนเขาให้สาสม!”
ซูซูยิ้มอย่างอดไม่ได้ “ไหนเล่าไปโกรธกับเด็ก ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าผิวของฉันนั้นดีขึ้นมาก ไม่ได้เหนื่อยง่ายเหมือนเช่นก่อนหน้านี้”
“งั้นก็ดีแล้ว ผมหายามารักษาคุณให้หายดีได้แล้วนะ”
เหมือนกับว่าฉินเทียนกำลังนำเสนอสมบัติ เขาหยิบเห็ดหลินจือเลือดที่มีรูปร่างคล้ายลูกแพร์ออกมา
ดวงตาของซูซูเป็นประกาย “จริงเหรอ?”
เธอดื่มยาบำรุงตั้งมากมายแต่กลับไร้ผล เธอเตรียมพร้อมแล้วที่จะแลกชีวิตเพื่อลูกของเธอ
ตอนนี้ได้ยินฉินเทียนกล่าวเช่นนี้ ภายในหัวใจรู้สึกตื่นเต้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหมือนเป็นลูกแกะที่กำลังหลงทางภายในความมืด ฉับพลันมองเห็นแสงดาวส่องนำทาง
ถ้าหากเป็นไปได้ ใครบ้างไม่อยากคอยอยู่เคียงข้างลูก เฝ้ามองดูเขาเติบใหญ่!
“จริงแท้แน่นอน คุณนอนพักก่อนเถอะ ผมจะไปศึกษาวิธีใช้มันและทำให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด”
ขณะที่ฉินเทียนกำลังจะจากไป ซูซูกลับจับปลายเสื้อของเขาไว้
ภายใต้ไฟส่องสว่าง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ “ไว้ค่อยทำพรุ่งนี้เถอะ ฉันอยากให้คุณนอนเป็นเพื่อนฉัน”
ป่วยมาเนิ่นนานแล้ว เพียงแค่คืนนี้ไม่ต้องรีบร้อนหรอก
ตอนนี้ เธอเพียงแค่ต้องการให้ฉินเทียนอยู่เคียงข้างกายของเธอ
แม้ว่าจะได้ยินเพียงแค่เสียงลมหายใจของเขา แต่ทว่าเธอก็ยังรู้สึกได้ถึงความสบายใจ
“ตกลง”
ฉินเทียนดับไฟ กอดซูซูไว้ในอ้อมแขนของเขา
ท้องของเธอนั้นใหญ่มากแล้ว แต่ทว่าแขนและขาของเธอนั้นยังบอบบางจนน่ากลัว
ฉินเทียนปรับท่าทางของเธออย่างระมัดระวัง ต้องการให้เธอนอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น
การเคลื่อนไหวของเขาอ่อนโยนเป็นพิเศษ ราวกับว่ากำลังถือสมบัติที่สามารถแตกหักอย่างง่ายดาย กลัวว่าซูซูอาจจะรู้สึกเจ็บปวดได้
วันรุ่งขึ้น เมื่อท้องฟ้าเริ่มมีแสงสว่าง ฉินเทียนก็ตื่นขึ้น
เขาวางหมอนให้ซูซูนอนหนุนด้วยความระมัดระวัง จากนั้นรีบไปจัดการเห็ดหลินจือเลือดที่เขานำกลับมาจากเกาะตงไห่
ภายใต้แสงแดด เห็ดหลินจือเลือดที่ลักษณะคล้ายลูกแพร์นั้นมีสีแดงราวกับเลือด อีกทั้งยังส่งกลิ่นประหลาด