ตอนที่ 1632 กินแตงโมด้วยกัน

Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง

เหมือนกับการออกเดินทางหลายครั้งก่อนหน้านี้ หากจางจื่ออันเลือกได้ เขาก็จะพยายามเลือกเที่ยวบินที่มาถึงตอนกลางคืน หลักๆ คือเพื่อลดความยุ่งยากด้านการจราจรเล็กน้อย ถ้าเขากลับมาตอนเปิดร้านอยู่ ก็คงเลี่ยงที่จะต้องเผชิญหน้ากับคำถามร้อยแปดของพวกพนักงานร้านและพวกลูกค้าเก่าไม่ได้ พวกเขาอาจจะถามว่าสัตว์เลี้ยงประจำหลายตัวในร้านไปไหนแล้ว ทำไมไม่กลับมากับคุณด้วย อะไรทำนองนั้น 

 

 

เขาคิดคำแก้ตัวมาอธิบายได้ แต่จะต้องเปลืองสมองทำไม สู้กลับมาตอนกลางคืนเสียเลยดีกว่า หลับไปตื่นหนึ่งเพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง วันต่อมาไม่ต้องให้เขาอธิบาย ผู้คนก็จะคิดว่าเขาพาพวกภูตสัตว์เลี้ยงกลับมาด้วยกันแน่นอน 

 

 

ตอนมาถึงร้านขายสัตว์เลี้ยง น่าจะเป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว พวกพนักงานร้านเลิกงานตามเวลา เพราะเขาไม่ได้บอกว่าตัวเองจะกลับมาวันนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจจะอยู่รอในร้านขายสัตว์เลี้ยงอีกหลายชั่วโมง ขอเบิกเงินซื้อปิ้งย่างและเบียร์อย่างโจ้งแจ้งโดยบอกว่าเป็นการเลี้ยงต้อนรับ ถึงอย่างไรพวกเขาเลิกงานแล้วถ้าไม่วาดรูปก็ต้องเล่นเกม และสิ่งเหล่านี้ก็ทำในร้านได้ ยังประหยัดแอร์ที่บ้านตัวเองได้อีก 

 

 

เขาใช้กุญแจสำรองเปิดประตูม้วน 

 

 

ในร้านได้ต่างอะไรกับตอนเขาออกไป 

 

 

จ้านเทียนลุกขึ้นด้วยความระแวดระวังตอนได้ยินเสียงเปิดกุญแจ แต่การฝึกฝนที่เข้มงวดทำให้มันไม่ได้เห่าเหมือนสุนัขทั่วไปเมื่อเห็นข้างนอกมีความเคลื่อนไหว แค่เพิ่มความระมัดระวังเงียบๆ จนกระทั่งมันเห็นเขา ถึงจะวิ่งเข้ามาคลอเคลียขากางเกงเขาด้วยความดีใจ 

 

 

“หลายวันนี้ที่ฉันไม่อยู่บ้าน คงลำบากนายแล้วสินะ” เขาลูบหัวมันเป็นรางวัล 

 

 

สุนัขบ้านหลายตัว ที่จริงหลังจากเลี้ยงจนคุ้นเคยกันแล้วจะอยากเล่นกับเจ้าของ พวกมันไม่ได้โง่ เห็นเจ้าของถืออาหารว่างอยู่ในมือ ก็จะเสนอตัวอย่างสุดความสามารถ ไม่ต้องให้เจ้าของเอ่ยปาก ก็จะแสดงละครเล็กน้อยที่ตัวเองทำได้สักครั้ง ถ้ามือของเจ้าของว่างเปล่า ต่อให้คุณเรียกจนคอแตก พวกมันก็จะนอนมองบนให้คุณราวกับชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรให้มีชีวิตอยู่ต่อแล้ว เรียกได้ว่าเป็นเด็กชายชอบยั่วเย้าและเด็กสาวชอบออดอ้อน โดยเฉพาะสุนัขที่ไอคิวสูงบางสายพันธุ์ อย่างเช่น สุนัขพันธุ์บอร์เดอร์ คอลลี่ 

 

 

แต่สุนัขตำรวจ รางวัลสูงสุดคือการลูบและการชมเชยจากเจ้าของ ไม่ได้กินเก่งเหมือนสุนัขตัวอื่นที่มีความคิดตื้นๆ พวกนั้น 

 

 

ลูกค้าหลายคนอิจฉาท่าทางของจ้านเทียนที่มีต่อเขา จึงเอาแต่ถามเขาว่าฝึกสุนัขให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร แม้เขาจะไม่ได้เป็นคนฝึกจ้านเทียน แต่เขาก็ติดต่อกับหน่วยตำรวจสุนัขจนสนิทสนมกันมาก ทั้งยังเคยชมการฝึกอยู่ข้างๆ วิธีการฝึกไม่ใช่เรื่องที่ต้องเก็บเป็นความลับ ถึงเป็นวิธีเดียวกัน แต่ปฏิบัติจริงแล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง 

 

 

อย่าว่าแต่สุนัขเลย เมื่อยกตัวอย่างเด็กขึ้นมา ผู้ปกครองทั่วไปต่างก็รู้ว่าควรจะสอนลูกตั้งแต่เด็กอย่างไร อย่างเช่น อดทน ให้กำลังใจ อยู่เคียงข้าง หัวเราะ ไม่ต่อว่าเรื่อยเปื่อย แต่มีผู้ปกครองสักกี่คนที่ทำได้จริงๆ ความกดดันในชีวิตและการทำงานมักจะเป็นเหตุให้ผู้ปกครองอดทนอยู่ได้แค่สามวินาที จากนั้นก็อารมณ์เสียและต่อว่า หรือไม่ก็ปล่อยลูกทำตามใจชอบ ส่วนตัวเองไปเล่นโทรศัพท์มือถือ 

 

 

เด็กที่เชื่อฟังคำสั่งก็ยังเป็นแบบนั้น เดิมทีฟังความปากเสียของคนไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว แล้วจะสอนง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน หน่วยตำรวจสุนัขเป็นหน่วยงานที่ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ มีเวลา มีประสบการณ์ มีความอดทน เขาจึงจอบลูกค้าที่สอบถามอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า นอกเสียจากเลี้ยงสุนัขเป็นอาชีพ อย่างนั้นก็อย่าเสียเวลาเลย อย่าประเมินความอดทนตัวเองสูงเกินไป 

 

 

ถ้าคิดจะเลี้ยงสุนัขแบบนี้จริงๆ ก็ไปซื้อต่อจากหน่วยตำรวจสุนัขเถอะ อาจจะยังรับเลี้ยงสุนัขตำรวจที่ปลดเกษียณได้ด้วย 

 

 

เขาไปดูพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำข้างๆ รอบหนึ่ง พอเข้าไปก็เห็นว่าในตู้สัตว์น้ำว่างเปล่าตู้หนึ่งกำลังแช่แตงโมสองลูกเอาไว้ในน้ำเย็น ในอ่างปลาอีกอ่างยังถึงขนาดใช้น้ำแข็งแช่แตงโมลูกใหญ่เอาไว้ ลูกแรกน่าจะให้พวกผู้หญิงกิน เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำน้ำเย็นของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต้องเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง ดังนั้นพวกพนักงานร้านก็เลยคิดอยากจะแช่เย็นแตงโม 

 

 

รอแต่ของถูกทั้งวัน ผลสุดท้ายถูกพวกพนักงานร้านเอาเปรียบแล้ว แบบนี้เขาจะทนได้อย่างไร? เขาจึงย้ายแตงโมลูกใหญ่ที่ไม่เย็นเกินไปลูกหนึ่งกลับมาที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง และเตรียมกินแตงโมเป็นข้าวเย็น 

 

 

พอดึงประตูม้วนลง เขาก็ปล่อยพวกภูตสัตว์เลี้ยงออกมาทีละตัว รวมถึงไปปล่อยเซฮวาบนชั้นสองด้วย 

 

 

“วลาดิเมียร์ นายเป็นยังไงบ้าง? เมื่อกี้ตอนผ่านคลินิกสัตว์เลี้ยง ฉันเห็นข้างในยังเปิดไฟอยู่ ส่งนายไปตรวจร่างกายหน่อยดีไหม?” 

 

 

ที่เขาเป็นห่วงที่สุดคือวลาดิเมียร์ที่รอดชีวิตมาได้ แต่มันหนีจากประตูแห่งความตายมาได้แล้วจริงๆ 

 

 

วลาดิเมียร์นอนบนพรมผืนเล็กบนชั้นสอง ร่างกายยังคงอ่อนแรงมาก แต่สติฟื้นคืนกลับมาได้ดีทีเดียว 

 

 

“ไม่ต้องหรอก ฉันเนื้อแน่น หนังหนา ไม่เป็นไร” มันหันหน้าไปมองรอบๆ ด้วยท่าทางเหนื่อยล้า “กลับบ้านแล้วสินะ” 

 

 

“อื้ม กลับบ้านแล้ว” 

 

 

“พวกสหายเหมียวรอฉันกลับมาทำงาน แต่ฉันกลับ…เฮ้อ…” มันถอนหายใจเศร้าโศก ก่อนจะตีพรมอย่างโมโห 

 

 

“ไม่เป็นไร งานเป็นสิ่งที่ทำไม่จบสิ้นอยู่แล้ว พักฟื้นร่างกายให้ดีก่อน ถึงจะอุทิศตัวทำงานได้ดีกว่าเดิม” เขาปลอบใจ 

 

 

มันพยักหน้า แล้วอยู่ๆ ก็พูดว่า “จริงสิ หลังจากได้รับบาดเจ็บฉันก็สะลืมสะลือ ได้ยินว่าเฟยหม่าซือถ่ายเลือดให้ฉันเหรอ?” 

 

 

“ถูกต้อง เฟยหม่าซือนั่นแหละ” เขาพูด และเล่าหลักการที่แมวรับเลือดสุนัขได้ให้มันฟังง่ายๆ 

 

 

วลาดิเมียร์นิ่งเงียบไม่พูดจาพร้อมสีหน้าสับสน นานทีเดียวถึงจะถอนหายใจเงียบๆ “คิดไม่ถึงว่าฉันที่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่อยู่ร่วมโลกกับหมา มีหน้าที่ขับไล่หมาจรจัด แต่ตอนนี้กลับมีเลือดหมาไหลเวียนอยู่ในร่างกาย…” 

 

 

“ไม่ต้องคิดมาแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ” 

 

 

จางจื่ออันปิดไฟที่ห้องนอนชั้นสอง แล้วปิดประตูห้องน้ำ เพราะเซฮวาเปิดไลฟ์สดอยู่ในอ่างอาบน้ำแล้ว พูดโม้โอ้อวดตัวเองให้เพื่อนบนอินเทอร์เน็ตต่างๆ นานา บรรยายใส่สีตีไข่ประสบการณ์ที่เธออยู่อเมริกาและว่ายน้ำกับวาฬเพชฌฆาต 

 

 

ตอนเขาหมุนตัวลงข้างล่าง วลาดิเมียร์ก็ลืมตาขึ้นมา เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ 

 

 

บางทีเรื่องในครั้งนี้ จะกลายเป็นโอกาสดีที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ของวลาดิเมียร์กับเสี่ยวไป๋หรือเปล่านะ? 

 

 

ข้างล่างยังคึกคักมาก พวกภูตสัตว์เลี้ยงนอนหลับในโทรศัพท์มือถือมาจนเต็มอิ่มแล้ว ตอนนี้ไม่มีตัวไหนง่วงเลย 

 

 

พวกภูตสัตว์เลี้ยงต่างก็อยู่ในตำแหน่งของตัวเอง บางตัวเล่นสนุก บางตัวดูโทรทัศน์ มีแค่ฟราเทอร์ที่วนไปมาอยู่ในร้าน สำรวจสภาพแวดล้อมแปลกตา เห็นอะไรก็แปลกใหม่ไปหมด 

 

 

ตอนเดินมาใกล้ประตูหน้าร้าน มันดมที่ว่างตรงข้ามเคาน์เตอร์อย่างละเอียด ก็ได้กลิ่นอายปิศาจที่เคยรู้จักจากตรงนั้น มันจึงตื่นตัวขึ้นมาทันที 

 

 

“ตรงนี้เคยมีรูปปั้นแมวทองสัมฤทธิ์ใช่หรือไม่?” มันถามจางจื่ออันที่กำลังหั่นแตงโม 

 

 

“ใช่” 

 

 

เขานึกขึ้นได้รางๆ ตอนอยู่ในโลกความฝันที่จวงเสี่ยวเตี๋ยสร้างขึ้น เขากับเธอเคยเจอบาทหลวงหยางล่วงหน้าในความฝัน บาทหลวงหยางเล่าให้พวกเขาฟังว่าตอนศตวรรษที่สิบสามเกิดความวุ่นวายมากเพราะรูปปั้นเทพแมวอีกตัวหนึ่ง สุดท้ายความโกลาหลครั้งนั้นถูกบางอย่างที่บาทหลวงหยางเรียกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเอาไว้ แต่บาทหลวงหยางขับไล่ปิศาจไปอย่างไรกันแน่ก็ไม่ได้บอกไว้อย่างละเอียด 

 

 

“มัน…รูปปั้น ตอนนี้อยู่ที่ใด” ฟราเทอร์เคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “ต้องรีบไปกำจัดมัน ไม่เช่นนั้น…” 

 

 

“วางใจเถอะ รูปปั้นเทพแมวตัวนั้นถูกปราบแล้ว เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง กินแตงโมในระหว่างที่เล่าไปด้วยแล้วกัน” 

 

 

เขานำแตงโมที่หั่นเรียบร้อยแล้วใส่ในจาน และคว้านเนื้อแตงโมส่วนตรงกลางที่ไม่มีเม็ดออกมาเป็นพิเศษ แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ไว้ส่วนหนึ่ง ก่อนจะใส่ลงไปในถ้วยใบเล็ก แล้วเรียกพวกภูตสัตว์เลี้ยง “มา ทุกคนกินแตงโม” 

 

 

ตามหลักการแล้วสัตว์ที่กินเนื้อเป็นอาหารเพียงอย่างเดียวไม่จำเป็นต้องกินผักและผลไม้ แต่กินสักหน่อยก็มีแต่ประโยชน์ ไม่มีโทษ โดยเฉพาะในช่วงปลายฤดูร้อน ต้นฤดูใบไม้ผลิที่อากาศยังไม่เย็น แมวหลายตัวไม่ชอบดื่มน้ำ กินแตงโมเพื่อเติมน้ำสักหน่อยก็เป็นประโยชน์ต่อการขับถ่าย และจริงๆ แล้วแมวหลายตัวก็ค่อนข้างชอบรสชาติของแตงโม