บัญชามังกรเดือด บทที่ 973 โสมแดง
“ซูซู!”
ฉินเทียนตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ขณะนั้นเขาร้อนรนทันใด รีบเข้าไปกอดซูซูไว้และวิ่งไปยังห้องนอน
เหลิ่งเฟิงเองก็ตื่นตกใจเช่นกัน เขาโยนคันเบ็ดทิ้งและรีบไล่ตามหลังไป
เมื่อหลิวหรูยู่เห็นพวกเขารีบวิ่งมาจากระยะไกล เธอรีบผลักประตูห้องนอนด้วยสีหน้าเป็นกังวล
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเห็นซูซูเป็นลม แต่เธอนั้นเป็นกังวลในทุกครั้ง
เพื่อที่จะให้กำเนิดลูกแก่ฉินเทียน ซูซูนั้นยอมเสี่ยงชีวิตของตนเอง
สำหรับเรื่องนี้ทำให้หลิวหรูยู่รู้สึกละอายใจแก่ตน
ใบหน้าของซูซูที่กำลังหมดสตินั้นซีดเผือด แขนและขาของเธอนั้นทิ้งลงบนเตียง แม้แต่ลมหายใจของเธอก็อ่อนแรง
ฉินเทียนผลักมือออกไปในทันใด รีบใช้กุ่ยเหมินสิบสามเข็มบนร่างกายของซูซู
หลังจากผ่านไปชั่วขณะ ใบหน้าอึดอัดของซูซูเมื่อสักครู่นี้ก็มีเลือดฝาดขึ้นเล็กน้อย
ลมหายใจค่อยๆกลับมาเป็นปกติ
ฉินเทียนถอนหายใจยืดยาว จากนั้นเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เขาช่วยคนมามากมายนับไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขารู้สึกประหม่าเช่นนี้
เมื่อได้เผชิญหน้ากับซูซู ในทุกครั้งเขารู้สึกประหม่าและร้อนรนมาก แผ่นหลังของเขานั้นปกคลุมด้วยเหงื่อเย็น
นี่อาจจะเป็นสิ่งที่คนอื่นเขามักจะพูดกัน ความห่วงใยนำพามาซึ่งความวุ่นวาย
เมื่อเห็นสถานการณ์คงที่ของซูซู หลิวหรูยู่เองก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เธอเข้ามาด้วยความระมัดระวังและจ้องมองฉินเทียนอย่างจริงจัง
“ทักษะทางการแพทย์ของนายดีมากและสามารถรักษาคุณปู่ได้ เมื่อไรนายจะสามารถรักษาพี่ซูซูได้ล่ะ?”
ภายในหัวใจของหลิวหรูยู่นั้นสำหรับซูซูที่แข็งแกร่งและเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย หล่อนนั้นรักเธอเหมือนกับว่าเป็นพี่สาวของตนเอง
คนที่งดงามและจิตใจดีขนาดนั้นไม่ควรที่จะต้องเจ็บป่วยเช่นนี้
ฉินเทียนรู้ว่าหลิวหรูยู่นั้นเป็นห่วงซูซู แล้วทำไมเขาถึงไม่อยากรักษาซูซูให้หายโดยเร็วล่ะ!
“เพราะสิ่งที่ซูซูเป็นอยู่นั้นไม่ใช่โรค จะพูดดอย่างไรดี ฉันไม่สามารถอธิบายให้เธอเข้าใจได้หรอก”
เมื่อนึกถึงความลึกลับทางสายเลือดที่น่าสะพรึงกลัวนั้น สายตาของฉินเทียนดูซับซ้อน
“แต่ว่า วางใจเถอะ ฉันได้รับเห็ดหลินจือเลือดมาแล้ว ในไม่ช้าฉันจะสามารถปรุงยาชั้นดีและสามารถรักษาหล่อนให้หายได้”
“แล้วยังรออะไรอยู่ล่ะ ฉันเฝ้าพี่ซูซูเอง นายก็รีบไปจัดการปรุงยาเถอะ”
“ต่อให้นายไม่อยู่ที่นี่ ฉันก็สามารถดูแลหล่อนให้ดีได้ หรือว่านายไม่เชื่อฉันงั้นเหรอ?”
หลิวหรูยู่ร้อนรน เธอเร่งเร้าให้ฉินเทียนรีบไปปรุงยา
เธอไม่เข้าใจ สถานการณ์ของซูซูนั้นร้ายแรงมาก ฉินเทียนยังจะนิ่งงันอยู่ที่นี่ทำไมกัน?
“ผลลัพธ์ของเห็ดหลินจือเลือดนั้นน่าอัศจรรย์ แต่ว่าฉันยังขาดส่วนผสมของยาอยู่อย่างหนึ่ง กำลังรอ…”
“รออะไรอยู่อีก! ขาดอะไรก็รีบไปหาสิ!”
หลิวหรูยู่ขัดบทสนทนาของฉินเทียนและเริ่มก่นด่าด้วยใบหน้ามืดมน “ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ สมองของนายถูกเตะจนเบลอไปแล้วหรือไง! นายยืนอยู่ตรงนี้แล้วส่วนผสมของยาจะหล่นลงมาจากฟ้าเหรอ!”
“พี่ซูซูทรมานแบบนี้ ฉันเห็นแล้วปวดใจมาก นายมันทึ่ม รีบไปจัดการเลย!”
ขณะนี้ หลิวหรูยู่ไม่อ่อนโยนอย่างเช่นปกติอีกต่อไป หาได้ยากนักที่เธอจะระบายอารมณ์โกรธกับฉินเทียน
ใครจะไปเชื่อว่าราชาเทพฉินที่มากด้วยอำนาจและทรงพลัง เมื่อได้ยินเพียงชื่อทุกคนต่างก็รู้สึกหวาดกลัว ในตอนนี้เขากำลังถูกหญิงสาวคนหนึ่งด่ากราดราวกับโดนเลือดหมารดศีรษะ
ฉินเทียนไม่เพียงแต่จะไม่โกรธ เขายังพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว ทำไมฉันต้องรอด้วย?”
“เธอดูแลซูซูให้ดี ฉันจะไปบ้านตระกูลฉินสักหน่อย จะไปนำโสมแดงกลับมา!”
เขานั้นจะต้องลุ่มหลงอยู่กับความอ่อนหวานและความอ่อนโยนหลังจากที่ได้พบหน้าซูซูอย่างแน่นอน ทำไมไม่รู้จักยืดหยุ่นตามสถานการณ์บ้างเลย!
สภาพร่างกายซูซูนั้นแย่มาก เพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ไม่สามารถรอช้าได้อีกต่อไป!
ไม่สามารถรอให้ถึงตอนบ่ายได้!
ฉินเทียนกล่าวว่าจะไป เขาก็ไปในทันที เขารีบกระโดดขึ้นรถและตรงออกจากอุทยานมังกร
ขณะนี้ เหนืออุทยานมังกร ฉับพลันก็มีเสียงปีกของเครื่องบินดังขึ้น
ฉินเทียนเงยหน้าขึ้นไป บริเวณตัวเครื่องบินนั้นมองเห็นอักษรฉินที่คุ้นตา นัยน์ตาเป็นประกาย
จะต้องเป็นถงจิ่งอย่างแน่นอน!
เขานำโสมแดงมาให้ก่อนเวลา!
ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะจอดสนิท ถงจิ่งได้โบกมือทักทายฉินเทียนแล้ว
“คุณชายใหญ่ ปฏิบัติภารกิจลุล่วง!”
“ชายชรารีบเร่งมาตลอดทาง ตั้งใจนำโสมแดงมาส่งให้คุณหญิง!”
ยอดเยี่ยมมาก!
ฉินเทียนดีใจเป็นอย่างยิ่ง รีบเดินไปยังเฮลิคอปเตอร์ของตระกูลฉิน “สิ่งของนั้นอยู่ไหน?”
จากบริเวณด้านหลังมีกล่องโบราณงดงามที่ทำด้วยเงินในสมัยก่อนและมีขนาดเท่าฝ่ามือยื่นออกมา พื้นผิวทุกตารางนิ้วเผยให้ความโบราณที่ตกตะกอนมาเนิ่นนานนับหลายร้อยปี
“โสมแดงอยู่นี่ รีบรับไปผสมยาเถอะ”
น้ำเสียงอ่อนโยนทำให้ฉินเทียนนั้นประหลาดใจเล็กน้อย
เขามาได้อย่างไร?
ฉินฉีนั่งอยู่บริเวณด้านหลังเฮลิคอปเตอร์
ครั้งสุดท้ายที่พ่อและลูกได้พบกัน เพียงแค่พริบตาก็ผ่านไปแล้วนับครึ่งเดือน
ครั้งนี้ใบหน้าของฉินฉีนั้นไม่ได้ระแวดระวังเหมือนเมื่อก่อน บริเวณมุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มบางเบา
อุทยานมังกร ฉินฉีมาที่นี่เป็นครั้งแรก
ฉินเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นเหยียดมือออกไปรับกล่องโสมที่ทำจากเครื่องเงินสมัยเก่า
ภายในหัวใจโกรธเคือง : อย่าคิดว่านำโสมแดงมามอบให้ด้วยตัวเองแล้วผมจะรับน้ำใจด้วยความขอบคุณ
ตั้งแต่วันที่เขาถูกขับไล่ออกจากตระกูลฉิน เขาได้ตัดสายสัมพันธ์ความรักของครอบครัวออกไปจนหมดสิ้นแล้ว!
ฉินเทียนถือกล่องไว้และต้องการที่จะหันหลังกลับพร้อมกับเดินจากไป
แต่ทว่าเท้าของเขากลับไม่เชื่อฟัง ลังเลอยู่ชั่วขณะ ท้ายที่สุดประโยคคลุมเครือก็ออกมาจากลำคอของเขา“จะเข้ามานั่งด้านในหรือเปล่า?”
เขากล่าวประโยคนี้ด้วยความรวดเร็ว แม้แต่ตัวเขาเองก็สงสัยว่าเขาพูดออกไปหรือไม่
ฉินฉีกลับยิ้มและพยักหน้า “ก็ดีเหมือนกัน”
ฉับพลันฉินเทียนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย อย่างไรคำพูดนั้นก็ได้พูดออกไปแล้ว ไม่สามารถย้อนคืนได้อีกแล้ว
ใบหน้าของเขามืดมนและไม่กล่าวสิ่งใดอีก เขาถือกล่องโสมไว้และก้าวเท้าตรงไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว
ด้านหลัง ฉินฉีลงจากเฮลิคอปเตอร์อย่างเชื่องช้า
ถงจิ่งเหยียดมือออกไป ต้องการประคับประคองเขา “คุณได้รับบาดเจ็บ ระวัง..”
“ลืมเรื่องนี้ไปเสียเถอะ” ฉินฉีจ้องมองถงจิ่งพลางส่ายศีรษะ “เขาไม่ต้องการเป็นหนี้ฉัน จำไว้ พวกเราเพียงแค่เดินทางผ่านมาเท่านั้น”
ถงจิ่งส่ายหน้าอย่างจนปัญญา เขาคารวะสองพ่อลูกคนนี้จริงๆ ทั้งสองต่างก็หัวแข็งและดื้อรั้น
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นห่วงซึ่งกันและกัน แต่กลับปฏิเสธและไม่ยอมรับ
ในช่วงเช้า ฉินฉีเร่งเร้าให้เขาโทรศัพท์หาฉินเทียน เอ่ยถามว่าการเดินทางไปเกาะตงไห่ของฉินเทียนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
เพราะฉินฉีนั้นได้ออกคำสั่งแล้ว อย่างไรก็ต้องได้รับเห็ดหลินจือเลือด!
แม้ว่าเกาะจะนองด้วยเลือด อย่างไรก็จะต้องได้รับมันกลับมา!
โชคดีที่ฉินเทียนนำเห็ดหลินจือเลือดกลับมาได้สำเร็จ เพียงแต่ขาดส่วนผสมของยาไปอย่างหนึ่ง—-โสมแดง
ฉินเทียนไม่จำเป็นต้องพูด ฉับพลันฉินฉีไปยังโถงบรรพบุรุษตระกูลฉินเพื่อขอยา
ตั้งแต่ที่เขาออกไปจากตระกูลฉิน นี่เป็นครั้งแรกที่เขากลับไป
ทุกคนภายในตระกูลฉินต่างตะลึงงัน แม้แต่นายหญิงใหญ่ต่งซวงจุนที่แข็งแกร่งก็ยังหลั่งน้ำตา
ภายในบรรพบุรุษของตระกูลฉินนั้นมีโสมแดงอยู่
ยาชนิดนี้เป็นของขวัญจากเพื่อนเก่าที่มอบให้กับบรรพบุรุษของตระกูลฉินที่ป่วยหนักในเวลานั้น ว่ากันว่าแม่น้ำและทะเลสาบตอนนั้นกำลังปั่นป่วน ผู้คนมากมายเสียชีวิต
ต่อมาไม่รู้ด้วยเหตุใด บรรพบุรุษของตระกูลฉินนั้นไม่ได้ใช้ยานี้ แต่กลับเก็บรักษาไว้อย่างดี
ขณะเดียวกันก็ทิ้งกฎของตระกูลไว้ หากลูกหลานของตระกูลฉินมีปัญหาและจำเป็นต้องใช้ยาชนิดนี้ ต้องทนรับการเฆี่ยนจำนวน81ครั้งและจะต้องนั่งคุกเข่าเป็นเวลา49วัน
ด้วยข้อบังคับที่รุนแรงเช่นนี้ ไม่มีใครกล้านำโสมแดงมาใช้
ประการแรก การเฆี่ยนตีของตระกูลฉินแทบจะคร่าอีกครึ่งชีวิตที่เหลืออยู่
ประการสอง ประสิทธิภาพของโสมแดงเป็นเพียงตำนาน ไม่มีใครกล้ารับประกันว่านั่นเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ดังนั้นเมื่อฉินฉีอธิบายจุดประสงค์ในการกลับมาให้แก่ต่งซวงจุน ต่งซวงจุนเจ็บปวดหัวใจและน้ำตารินไหล
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉินฉีนั้นซ่อนตัวอยู่ภายในวิหารของศาสนาเต๋า เขาไม่พบเจอผู้ใดทั้งนั้น
แต่ไม่ว่านิสัยของเขานั้นจะอ่อนแอเพียงใด แต่ก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของต่งซวงจุน!
ลูกชายอีกคนหายสาบสูญไปเนิ่นนานหลายปี ไร้ซึ่งข่าวคราว ไม่มีใครรู้ว่าเขานั้นยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่
การเฆี่ยน81ครั้ง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกชายคนนี้ของเธอนั้นจะสามารถทนรับได้
“ฉีเอ๋อร์ แกแน่ใจแล้วหรือว่าคิดมาดีแล้ว? ต้องการโสมแดงจริงหรือ?”