GG:บทที่ 160 – ชอบเหมือนกัน
นี่คือสายตาพิฆาตของชายหนุ่ม ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าเป็นสายตาพิฆาตของราชามากกว่า!
“กอดเกิดอะไร” เย่ฮัวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา คิดในใจว่าบนโลกนี้มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่กอดชิงหยาได้
เป็นไปตามคาด เย่จีจี้ยืนคอตกถอยกายกลับออกมาทันที ซึ่งทำให้ชิงหยาออกอาการโกรธอยู่ไม่น้อย
“คุณทำอะไรของคุณเนี่ย มาขึ้นเสียงใส่เด็กทำไม” ชิงหยาขึ้นเสียงใส่เย่ฮัวด้วยความโกรธ พร้อมกับดึงเด็กหญิงเข้าไปกอดอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องสนใจพี่เขาหรอกนะ พี่เขาก็เป็นคนแบบนี้แหละ”
ใบหน้าของเย่จีจี้กลับมาร่าเริงสดใสอีกครั้ง เด็กหญิงซุกใบหน้าอยู่ในอ้อมกอดของชิงหยา ก่อนที่จะพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “พี่สาว อ้อมแขนของพี่อบอุ่นจังเลย”
เด็กหญิงคนนี้ช่างพูดช่างเจรจา เธอจะต้องเป็นคู่ต่อกรที่น่ากลัวของอาหลี่อย่างแน่นอน
“หนูก็น่ารักเหมือนกันจ๊ะ พี่ก็รักหนูที่สุดเลย”
“จะรักกันอีกนานไหม? เถ้าแก่ คิดเงินด้วย!” เย่ฮัวลุกขึ้นยืนด้วยความหงุดหงิด จุดบุหรี่สูบขณะเดินออกมาที่ประตู ดูเหมือนว่าเมื่อวานนี้เขาจะเผาเย่จีจี้น้อยเกินไปเสียแล้ว
ชิงหยาพูดยิ้มๆ ว่า “อย่าไปสนใจพี่เขาเลยนะ”
“ได้เลยค่ะ จีจี้จะเชื่อฟังที่พี่สาวพูดทุกอย่าง” เย่จีจี้ไม่เคยมีใครหนุนหลังมาก่อน แต่ตอนนี้เธอมีชิงหยาคอยหนุนหลังอยู่ทั้งคน แม้แต่เย่ฮัวก็ทำอะไรเธอไม่ได้
“แบบนี้สิน่ารักมาก” ชิงหยาพูดพลางเอื้อมมือออกมาหยิกแก้มของเย่จีจี้
เว่ยชางและเลี่ยกู่ตกตะลึงในทันที
แต่เย่จีจี้ก็ไม่ได้ตอบสนองอะไรนอกจากยิ้มหวานให้กับผู้เป็นนายหญิงของพวกเขา ทำให้เว่ยชางและเลี่ยกู่ต้องลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทั้งสองคนต่างคิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับชิงหยาแล้วซะอีก
นอกจากเย่ฮัวแล้ว ชิงหยากลายเป็นคนที่สองที่กล้าหยิกแก้มเย่จีจี้ ไม่สิ ต้องพูดว่าชิงหยาเป็นมนุษย์คนแรกที่กล้าหยิกแก้มเย่จีจี้ถึงจะถูกต้อง
หญิงสาวและเด็กหญิงที่ไม่เคยสนิทกันมาก่อน แต่ตอนนี้กลับเดินจูงมือกันออกมาจากร้านอาหาร ถึงแม้ว่าเย่ฮัวจะจ้องมองมาด้วยสายตาพิฆาต แต่เย่จีจี้ก็ทำตามที่ชิงหยาสั่งเอาไว้อย่างเคร่งครัด คือไม่ให้ความสนใจเย่ฮัวแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มไม่อยากจะเชื่อเลย!
เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ชิงหยายังนั่งอยู่ในรถซบไหล่เขาอย่างสบายใจ แต่ตอนนี้ระหว่างคู่สามีภรรยากลับมีเย่จีจี้นั่งหัวโด่แทรกอยู่ตรงกลาง ทำให้เย่ฮัวไม่สามารถแอบแต๊ะอั๋งภรรยาของตัวเองได้อีกแล้ว
“ไปนั่งรถคันหลังไป” เย่ฮัวออกคำสั่ง
เย่จีจี้ทำหน้าหวาดกลัวขึ้นมาทันที เด็กหญิงกอดแขนชิงหยาแน่นไม่ยอมปล่อย และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เธอต้องการ
ชิงหยาลูบหัวเย่จีจี้และหันไปพูดกับเย่ฮัวว่า “ทำไมคุณต้องดุเธอด้วย หน้าที่ของคุณคือมารับเธอ ให้นั่งมากับพวกเราก็ถูกแล้วนี่”
เว่ยชางและเลี่ยกู่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
“เลี่ยกู่ ไปถึงหลงอันเมื่อไหร่ พาน้องสาวฉันไปหาบ้านอยู่ด้วย” เย่ฮัวเปลี่ยนใจแล้ว เขาจะไม่ยอมให้เย่จีจี้อยู่ใกล้ภรรยาของเขาอีกต่อไป
แต่ก่อนที่เลี่ยกู่จะทันได้เอ่ยคำตอบใด ชิงหยาก็แทรกขึ้นว่า “คุณจะปล่อยให้เด็กผู้หญิงอายุ 8 ขวบไปอยู่ตามลำพังได้ยังไง คุณเป็นพี่ชายแบบไหนกันเนี่ย”
เด็กหญิงอายุ 8 ขวบหรือ? อายุ 800 ปีสิไม่ว่า!
“พี่สาวคะ จีจี้กลัวจังเลย” เย่จีจี้ตีหน้าเศร้าทำเสียงน่าสงสาร
“เย่ฮัว คุณห้ามเถียงนะ หยูตงมีห้องออกจะกว้างขวาง ให้จีจี้มานอนห้องเดียวกับหยูตงก็ได้” ชิงหยายื่นข้อเสนอที่ห้ามเขาปฏิเสธ
แต่นี่เป็นความคิดที่ดีแล้วหรือที่จะให้เด็กแสบทั้งสองคนนั้นนอนอยู่ห้องเดียวกัน? ชิงหยาไม่กลัวว่าพวกเธอจะก่อเรื่องบ้างหรือไง?
แต่ถ้าชิงหยารู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เธอก็คงทำตามความต้องการของผู้เป็นสามีแต่โดยดี เพราะนอกจากมันจะทำให้เธอโล่งอกเป็นอย่างยิ่งแล้ว เย่จีจี้ยังเหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีมากกว่า
เย่ฮัวหันหน้ามองภรรยา แล้วพูดว่า “ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณจัดการเองก็แล้วกันนะ”
“ไม่มีปัญหา แค่นี้สบายอยู่แล้ว” ชิงหยารับคำเสียงห้วนสั้น
“พี่สาวใจดีจังเลยค่ะ” เย่จีจี้ยิ้มกว้าง ทำให้หัวใจของชิงหยาเบิกบาน แต่หญิงสาวเพิ่งสังเกตเห็นว่ากลางดวงตาของเย่จีจี้มีสีแดงไม่ใช่สีดำ ซึ่งดูแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
“หนูจ๋า ทำไมตาหนูถึงเป็นสีแดงแบบนี้ล่ะลูก?”
เย่จีจี้ทำตาวิ๊งๆ “ไม่รู้เหมือนกันค่ะ จีจี้เกิดมามันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”
ถึงจะดูแปลกประหลาด แต่มันก็ทำให้เด็กหญิงตัวน้อยมีความน่ารักเหมือนตุ๊กตา
ณ เวลาบ่ายสี่โมงเย็น กลุ่มคนทั้งหมดก็ขับรถมาถึงประตูหน้าคฤหาสน์ตระกูลชิง ชิงหยาลงจากรถมาก่อนพร้อมกับเย่จีจี้ ส่วนเย่ฮัวอยู่สั่งงานลูกน้องต่ออีกสองสามคำ
“เรื่องข้อมูลที่ให้ไปสืบอย่าลืมจัดการให้เรียบร้อย รายงานมาทุกวันด้วย แล้วก็บอกให้เสี่ยวจิ่วจัดการเรื่องข้อมูลส่วนตัวของเย่จีจี้ให้ฉันที” เย่ฮัวออกคำสั่งน้ำเสียงราบเรียบ
“รับทราบครับนายท่าน”
“รับทราบครับผม”
เย่ฮัวพยักหน้า จุดบุหรี่และเดินเข้าไปในบาร์
เว่ยชางปลดเข็มขัดนิรภัยและพูดว่า “นายกลับไปก่อนนะ ฉันจะพาเสี่ยวถังไปส่ง”
“เจ้าปีศาจแห่งความโลภ มีรถทั้งคันจะขี่จักรยานไปทำไม” เลี่ยกู่ที่สวมใส่สร้อยคอทองคำพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
เลี่ยกู่เป็นฝ่ายเปิดประตูลงไปจากรถและพูดว่า “รถคันนี้เป็นของนาย จีบผู้หญิงบางครั้งก็ต้องวางท่าใหญ่โต เราจะทำตัวซอมซ่อไม่ได้”
เว่ยชางถึงกับงงไปพักใหญ่ แต่เมื่อคิดดูแล้วก็รู้สึกว่าเลี่ยกู่พูดถูกอย่างที่สุด คิดอ่านจะจีบผู้หญิงแต่ไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง ช่างดูเป็นคนกระจอกจริงๆ
“ขอบใจมากนะ”
เลี่ยกู่ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “งั้นฉันไปทำงานที่นายท่านสั่งก่อน แล้วเจอกัน”
หลังจากหยุดไปเล็กน้อย เลี่ยกู่ก็กล่าวเสริมว่า “คืนนี้จัดไปอย่าให้เสียล่ะ”
ถือว่าเลี่ยกู่ช่วยเว่ยชางเท่าที่เพื่อนสนิทคนหนึ่งจะช่วยได้แล้ว
เว่ยชางทราบดีว่าการขับรถไปส่งถังเว่ยย่อมมีนัยยะแอบแฝงอยู่ แต่เขามีเรื่องต้องพูดคุยกับผู้วิเศษแห่งความตายก่อนสักเล็กน้อย เอาเป็นว่าเดี๋ยวเย็นนี้เขาจะไปส่งเสี่ยวถังก่อน แล้วค่อยกลับไปทำงานตอนกลางคืนก็แล้วกัน
ไม่นานหลังจากนั้น ถังเว่ยก็มานั่งอยู่บนเบาะหน้ารถและพูดว่า “ลุงเว่ย อยู่ดีๆ ทำไมถึงซื้อรถคันนี้ได้ล่ะคะ”
เธอพูดด้วยความแปลกใจไม่น้อย
“จะได้สะดวกเวลาไปรับเธอไงล่ะ” เว่ยชางยื่นมือออกไปสัมผัสแก้มของถังเว่ย ฝ่ายหลังมีสีหน้าเขินอายขึ้นมาทันที
“แต่ว่ามันแพงเกินไปนะคะ”
“ไม่เป็นไร แค่นี้ฉันผ่อนไหวอยู่แล้ว” เว่ยชางยิ้มกว้าง ก่อนที่จะขับรถตรงไปยังที่พักของถังเว่ย
เลี่ยกู่ก็กลับไปที่พักของตนเองเช่นกัน วันนี้เขายังไม่ได้จัดการเรื่องค่าอาหารเลย
ณ บาร์ชิง
เย่ฮัวกำลังเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน ตอนที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของชิงหยูตงดังสลับกับเสียงของเย่จีจี้
เมื่อเปิดประตูเข้าไปดูที่ห้องของชิงหยูตง ชายหนุ่มก็พบว่า…แม้แต่ชิงหยาก็ถอยออกมายืนดูอยู่ห่างๆ
ชิงหยูตงกำลังสวมใส่หมวกกันน็อคและเสื้อกันกระสุน มีกระทะใบนึงแขวนอยู่ข้างเอว เธอแต่งกายด้วยชุดลายพราง เย่จีจี้เบิกตาโตเหมือนได้เจอคนที่มีรสนิยมเดียวกันเข้าให้แล้ว
“พี่เขยคะ พี่สาวคะ ไปเที่ยวกันแค่วันเดียว กลับมามีลูกโตขนาดนี้เลยเหรอ” ชิงหยูตงอุทานออกมาพร้อมกับเดินเข้ามาสำรวจเย่จีจี้ ก่อนที่จะกอดเด็กหญิงตัวน้อยแนบแน่น เด็กหญิงรีบทำตัวเป็นเด็กน้อยน่ารักทันที
เย่จีจี้ไม่ได้รู้สึกว่าอ้อมกอดของพี่สาวคนนี้อบอุ่นเหมือนนายหญิง แต่ก็ให้ความรู้สึกที่สบายใจอยู่ไม่น้อย
“อู้ย คุณน้าคะ จีจี้หายใจไม่ออกแล้ว” เย่จีจี้ทนไม่ไหว คุณน้าคนนี้กอดเธอแรงเกินไป
คุณน้างั้นเหรอ!
ชิงหยูตงรู้สึกเหมือนอยากจะเป็นลม ก่อนหน้านี้อาหลี่ก็เรียกเธอว่าป้ามาคนแล้ว มาตอนนี้เด็กหญิงแปลกหน้าคนนี้ยังมาเรียกเธอว่าน้าอีก จะไม่ให้โกรธได้ยังไง!
ชิงหยารีบเดินเข้ามาสงบศึก
“หยูตง น้องสาวคนนี้ชื่อเย่จีจี้ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่เขยของเธอ” ชิงหยาอธิบาย
“ว่าแต่คุณน้าชื่ออะไรคะ? ฉันเป็นน้องสาวของพี่เย่ฮัว”
ดวงตาของชิงหยูตงเป็นประกายแจ่มใสขึ้น “น้าเน้ออะไรกัน เรียกพี่ก็พอ ฉันเป็นพี่ของเธอ”
ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นน้องสาวของนายหญิง เย่จีจี้ก็จำเป็นต้องรักษาหน้าให้บ้าง
“สวัสดีค่ะ พี่สาว”
“แม่เจ้า ทำไมน่ารักขนาดนี้เนี่ย ไปซื้อชุดกระโปรงเจ้าหญิงแบบนี้มาจากไหน จริงด้วยสิ ฉันก็เคยซื้อมาตั้งเยอะแต่ว่าไม่กล้าใส่ กลัวใส่แล้วคนจะหาว่าฉันบ้า งั้นแบบนี้เราก็มาใส่ด้วยกันได้แล้วสิ”
เย่ฮัวพูดออกมาเบาๆ ว่า “เจ้าพวกเด็กประสาทสองคน”
“จริงเหรอคะ? พี่มีกระโปรงเจ้าหญิงอีกเยอะไหมคะ”
“ยัยหนู เธออยากดูของฉันไหมล่ะ” ชิงหยูตงถาม
เย่จีจี้พยักหน้าอย่างแข็งขัน
“ตามมาสิ ฉันมีเสื้อผ้าชุดสวยๆ อยู่เยอะแยะเลย เธอจะเอาไปใส่ก็ได้นะ”
“ดีจังเลยค่ะ จีจี้ก็ชอบเสื้อผ้าสวยๆ เหมือนกัน”