ตอนที่ 1638 นี่เป็นปัญหาด้านร่างกายแน่นอน

Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง

จ้าวฉีเองก็เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘ผู้ชายไม่เลี้ยวแมว ผู้หญิงไม่เลี้ยงสุนัข’ แต่เธอเห็นเพื่อร่วมงานผู้ชายที่ปกติชอบพูดคำหยาบคายตอนอยู่ในทีมเพื่อนร่วมงานหรืองานเลี้ยงก็พูดถึงเรื่องนี้ แต่เธอไม่เห็นด้วยว่านี่เป็นพื้นฐานการเลี้ยงแมวและสุนัข ส่วนเหตุผลนั้นง่ายมาก ทำไมต่างประเทศถึงไม่มีความเชื่อแบบนี้เลยล่ะ? หรือว่าแมวที่ต่างประเทศต่างจากแมวของประเทศจีน

 

 

ตอนนี้เถียนเถียนถูกจ้าวฉีโน้มน้าวแล้วด้วย เธอก็ยิ่งอยากเลี้ยงแมวมากขึ้นไปอีก แต่เธอก็เป็นห่วงความรู้สึกของแฟนหนุ่ม ถ้าซื้อมาแล้วมีแค่ตัวเองที่เพลิดเพลินกับแมว แบบนั้นก็แอบรู้สึกผิดกับแฟนหนุ่มอยู่บ้าง ผ่านไปนานๆ เข้าอาจจะกระทบกับความสัมพันธ์ของพวกเธอทั้งสอง

 

 

เสี่ยวหวางค่อนข้างใจกว้าง และรักแฟนสาวมาก จึงบอกให้เธออย่าใส่ใจ บางทีที่แมวจรจัดในมหาวิทยาลัย หลานหลาน และลูกแมวสีขาวไม่ชอบตัวเอง อาจจะเป็นเพราะไม่คุ้นเคย ถ้าซื้อลูกแมวมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กจนโต จะต้องคุ้นเคยกันได้และไม่หลบตัวเองแน่

 

 

เถียนเถียนรู้สึกว่านี่เป็นวิธีที่ดี แมวที่เลี้ยงตั้งแต่เด็กจนโตไม่เหมือนแมวแปลกหน้าแน่นอน อาจจะแก้ปัญหานี้ได้จริงๆ

 

 

จ้าวฉีไม่ค่อยแน่ใจในเรื่องนี้ เธอจึงไม่กล้าพูดมาก ไม่อย่างนั้นทำให้รุ่นน้องเข้าใจผิดแล้วจะทำอย่างไร? เธอบอกว่ารู้จักเจ้าของร้านขายสัตว์เลี้ยงคนหนึ่ง เชื่อถือได้ เป็นผู้เชี่ยวชสญด้านสัตว์เลี้ยง มีชื่อเสียงดีเยี่ยม เลยพาพวกเขามาขอคำปรึกษาสักหน่อย

 

 

คู่รักเกิดสงสัยขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าไม่ว่าเลี้ยงแมวหรือสุนัข ก็จะซื้อจากฟาร์มสุนัขและฟาร์มแมวจากฟาร์มชื่อดังในบนเวยป๋อ อย่างนี้สบายใจได้มากกว่า แต่เจ้าของร้านค้าเล็กๆ ริมทางสิบคนเป็นพ่อค้าหน้าเลือดไปแล้วเก้าคน

 

 

จ้าวฉีโน้มน้าวให้พวกเขาไปเห็นก่อนค่อยเชื่อ เพราะสมัยนี้อะไรก็ทำขึ้นมาได้ โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต จำนวนผู้ติดตามและคอมเมนต์ของแฟนคลับในเวยป๋อก็ทำขึ้นได้ทั้งนั้น อาจจะลากพวกเขาเข้าไปในกลุ่มคนสี่สิบคน ซึ่งสามสิบเก้าคนในนั้นเป็นคนของเจ้าของกลุ่ม ถูกหลอกแล้วยังต้องให้เงินเขาอีก

 

 

พวกเขาต้านทานความเผด็จการของจ้าวฉีไม่ได้ จึงรับปากว่าพรุ่งนี้จะไปกับเธอ

 

 

ที่จริงจ้าวฉีก็เสียใจภายหลังทีเดียว ได้ขลุกอยู่ในบ้านสองวันแท้ๆ กลับหาเรื่องลำบากได้ผลตอบแทนน้อยมาให้ตัวเองอีก ต้องตากแดดออกจากบ้าน และเธอไม่แน่ใจว่าจางจื่ออันกลับมาจากต่างประเทศหรือยัง ถ้ายังไม่กลับมา อย่างนั้นก็เท่ากับไปเสียเที่ยวแล้ว แต่บางทีพวกเขาก็อาจจะบังเอิญเจอแมวบางตัวที่ถูกใจในร้านก็ได้ ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับความถูกชะตากันอยู่แล้ว

 

 

ดีที่จางจื่ออันกลับมาแล้ว พอเข้ามาแล้วเห็นเขาเป็นคนแรก จ้าวฉีก็เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก ในที่สุดก็ได้โยนปัญหานี้ให้เขาแล้ว ส่วนการค้าขายครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ ก็ดูว่าเขาจะเล่นลูกไม้อย่างไรแล้วกัน

 

 

จางจื่ออันฟังต้นสายปลายเหตุจบแล้ว จึงพนักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจแล้ว

 

 

เสี่ยวหวางยิ้มเจื่อนและแบมือ “เจ้าของร้าน เรื่องก็มีเท่านี้แหละ จ้าวฉีบอกว่าคุณรู้เรื่องสัตว์เลี้ยงเยอะมาก งั้นผมอยากถามหน่อย มีคำบอกเล่าเรื่องร่างกายที่ดึงดูดแมวกับ…ทำให้แมวเกลียดไหม?”

 

 

จางจื่ออันตรวจดูผ่านน้ำเสียงและสีหน้า ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมเสี่ยวหวางไม่เป็นที่ชอบพอของแมว เขามีความคิดในใจแล้ว

 

 

“เรื่องอย่างร่างกายดึงดูดแมวเนี่ยมีอยู่หรือเปล่า ใช้คำว่า ‘ใช่’ หรือ ‘ไม่’ มาตัดสินง่ายๆ ไม่ได้ แต่ร่างกายที่ทำให้แมวเกลียดเนี่ยมีอยู่จริงๆ” เขาพูด “อันดับแรก ไม่ว่าแมวตัวผู้หรือแมวตัวเมีย ต่างก็ชอบผู้หญิงทั้งนั้น ผู้ชายพ่ายแพ้ไปตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นผู้หญิงจึงเหมาะที่จะเลี้ยงแมวมากกว่า เรื่องนี้ไม่นับว่าผิด”

 

 

“เมี๊ยวๆๆ?” เสวี่ยซือจื่อที่นอนงีบอยู่บนเครื่องปรับอากาศกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา ก่อนจะเบิกตาโพลงพูดว่า “เป็นไปตามคาด ข้าไม่ได้โดดเดี่ยว ตัวไหนก็ชอบสาวสวยกันทั้งนั้น!”

 

 

หวางเฉียนกับหลี่คุนเคยใช้มือจับแมวมาหลายร้อยตัวแล้ว มีสิทธิ์ที่จะพูดเรื่องนี้อย่างเต็มที่ พวกเขารู้สึกได้นานแล้ว เวลาที่หลู่อี๋อวิ๋นหวีขน ตัดเล็บ และอาบน้ำให้แมว แมวให้ความร่วมมือมากกว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนโยนกว่า ละเอียดอ่อนกว่า และมีความอดทนมากกว่า คิดไม่ถึงว่าสรุปแล้วแมวชอบผู้หญิงมากกว่าเหรอเนี่ย?

 

 

“สัตว์รู้สึกได้ถึงวิถีของโลกภายนอก ไม่ใช่แค่การได้ยิน การดมกลิ่น และการมองเห็น ส่วนกลิ่นและประสาทสัมผัส ปัญหาที่พวกเราพูดถึงอยู่นี้ไม่มีอะไรร้ายแรง ตัดทิ้งไปก่อน สายตาของแมวในตอนกลางวันเชื่องช้ากว่าคน และให้ความสำคัญกับการมองสิ่งของที่เคลื่อนไหวมากกว่า อีกอย่างเกรงว่ามาตรฐานที่พวกมันใช้ตัดสินความสวยงามและขี้เหร่ของมนุษย์จะไม่เหมือนกับพวกเรา ดังนั้นตัดเรื่องการมองภายนอกทิ้งไปได้เลย แบบนี้ก็เหลือแค่เสียงกับกลิ่น”

 

 

จางจื่ออันมองทุกคน “ถ้าให้พวกคุณหลับตา พวกคุณตัดสินได้จากเสียงไหมว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?”

 

 

ทุกคนพยักหน้าบ่งบอกว่าไม่มีปัญหา กำจัดความสวยงามส่วนบุคคลและเสียงปลอมไป อย่างน้อยมีอัตราความแม่นยำในการตัดสินมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ นี่เป็นการคาดการณ์ที่คิดเผื่อเอาไว้ ความจริงแล้วอัตราความแม่นยำอาจจะถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์

 

 

“เสียงของผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกันชัดเจน ผู้ชายเสียงทุ้มต่ำ ผู้หญิงเสียงใสกังวาน แต่ที่น่าเสียดายคือ ช่องว่างความถี่เสียงผู้หญิงทำให้แมวมีความสุขมากกว่า น่าจะอยู่ระหว่างสองถึงหกกิโลเฮิร์ตซ์ ซึ่งก็เป็นโทนเสียงที่ผู้หญิงพูดปกติ แค่เรื่องนี้อย่างเดียวก็ทำให้แมวชอบผู้หญิงมากกว่าแล้ว…อีกอย่างผู้ชายชอบพูดเสียงดัง ผู้หญิงพูดแล้วค่อนข้างนุ่มนวลอ่อนโยน แมวไม่ชอบผู้ชายเพราะน่ากลัวนี่แหละ”

 

 

จางจื่ออันหันไปทางเสี่ยวหวาง “คุณต่างหาก ตอนจ้าวฉีเปิดประตู คุณเอ่ยปากทักทาย หลานหลานได้ยินเสียงของคุณ ความประทับใจแรกจึงไม่ค่อยดี แต่ไม่เป็นไร เสียงของผู้ชายก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ว่า นอกจากหลานหลานจะไม่ชอบเสียงของคุณแล้ว น่าจะได้กลิ่นบุหรี่และกลิ่นเหล้าจากตัวคุณด้วย นี่เป็นกลิ่นสองกลิ่นที่แมวได้กลิ่นแล้วไม่ชอบ แน่นอนว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่กับกลิ่นเหล้า ดังนั้นพูดจากเรื่องนี้ ก็วางเรื่องแมวกับผู้หญิงไว้ด้านเดียวกันได้”

 

 

ตอนเสี่ยวหวางเพิ่งเข้ามา จางจื่ออันยังไม่รู้สึก ถึงอย่างไรจมูกของเขาก็ไม่ใช่จมูกสุนัข แต่ตอนเสี่ยวหวางพูดกับเขา เขาถึงจะได้กลิ่นบุหรี่จางๆ มาจากปากของเสี่ยวหวาง นอกจากนี้เสี่ยวหวางยังควานหาบุหรี่ในกระเป๋า แต่พอเห็นสัญลักษณ์ห้ามสูบบุหรี่บนผนังแล้วก็ต้องหยุดกลางคัน

 

 

ส่วนเหล้า จางจื่ออันไม่ได้กลิ่นเหล้า แต่ตามหลักการแล้ว ผู้ชายที่ไม่เตะต้องแอลกอฮอล์มีค่อนข้างน้อย ผู้ชายที่แค่ดื่มเหล้าแต่ไม่สูบบุหรี่ไม่นับว่าหายาก แต่ผู้ชายที่แค่สูบบุหรี่แต่ไม่ดื่มเหล้ายิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ ผู้ชายที่ไม่สูบบุหรี่และไม่เคยเตะต้องเหล้าเลยอาจจะน้อยกว่านั้น ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเสี่ยวหวางมีโอกาสสูงมากที่จะทั้งสูบบุหรี่และดื่มเหล้า

 

 

สัตว์แทบจะทุกตัวไม่ชอบกลิ่นต้นใบยาสูบ และแมวไม่ชอบทั้งกลิ่นบุหรี่และกลิ่นเหล้า

 

 

เสวี่ยซือจื่อหัวเราะเยาะ “ด้านหนึ่งคือสาวสวยที่ตัวหอมผิวนุ่ม ด้านหนึ่งคือชายเฮงซวยที่ทั้งสูบบุหรี่ ทั้งดื่มเหล้า หน้ามันแผล่บ ไม่สนใจความสะอาดส่วนตัว คิดว่าพวกข้าเผ่าแมวจะเลือกผู้ชายหรือ เห็นพวกข้าเป็นคนโง่หรืออย่างไร?”

 

 

เสวี่ยซือจื่อปากร้ายมาโดยตลอด แต่เรื่องนี้คำพูดหยาบแต่เหตุผลไม่หยาบ พอลองคิดดูสักหน่อย ถึงแม้คนกลายเป็นแมว ต้องเลียขนทำความสะอาดตัวเองทุกวัน คงไม่เลือกให้ผู้ชายมาอุ้มมั้ง หลังจากอุ้มขึ้นมาแล้วขนบนร่างกายจะติดกลิ่นบุหรี่กับเหล้า รวมถึงไขมันที่น่ารังเกียจ สำหรับแมวที่รักความสะอาดแล้วคงทนไม่ได้

 

 

ถ้าความถี่เสียงทำให้ผู้ชายพ่ายแพ้ตั้งแต่แรกเริ่ม กลิ่นบุหรี่กับเหล้า และผิวหนังมันเยิ้มก็ยิ่งทำให้แมวตัดสินโทษตายให้ผู้ชายได้ในทันที

 

 

ดังนั้นบทสรุปจึงชัดเจนมากแล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่มีร่างกายดึงดูดแมวมาตั้งแต่เกิด ส่วนผู้ชายที่สูบบุหรี่และดื่มเหล้ากลับทำให้แมวรังเกียจ