บทที่ 585 ปฏิญาณอำนาจความเป็นเจ้าของ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 585 ปฏิญาณอำนาจความเป็นเจ้าของ
“คุณเส้นหมี่ คุณมาแล้ว”

“คุณเส้นหมี่ เชิญนั่งด้านนี้ค่ะ”

“คุณเส้นหมี่ ช่วงนี้แผนกของพวกคุณมีโครงการอะไรน่าสนใจบ้าง”

“……”

พึ่งจะมาถึงห้องประชุมของชั้นบนสุด เหล่าชนชั้นผู้บริหารของบริษัทที่มาถึงแล้ว ต่างก็ส่งเสียงทักทายเธอขึ้นมาทันที อย่างเป็นกันเอง ซึ่งต่างกับตอนที่เธอมาใหม่ที่ไม่มีเลย

ก็ใช่สิ ตอนที่พึ่งมา เธอเป็นภรรยาของประธานบริษัท

แต่ตอนนี้ สถานะของเธอ หลังได้ผ่านเรื่องของจีคิวกรุ๊ปเรื่องนั้นไป ก็ถือว่าได้เป็นชนชั้นผู้บริหารขึ้นมาแล้วจริงๆ

เส้นหมี่ยิ้มออกมา แล้วหยิบข้อมูลในมือขึ้นมา:“พาพวกคุณทำโปรเจกต์ใหญ่ เป็นไงบ้างคะ”

ว้าว!

โปรเจกต์ใหญ่อีก?!!

ชนชั้นผู้บริหารทุกคนต่างส่งแววตาเปล่งประกายออกมา พวกเขาต่างอดใจรอไม่ไหวแล้วอยากจะรีบประชุมเร็วๆ ต่างลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ แล้วห้อมล้อมเข้ามามองไปที่ภรรยาของท่านประธาน

ตอนที่แสนรักถือโน๊ตบุ๊คเข้ามา มองเห็นฉากเบื้องหน้าฉากนี้

ทุกครั้งที่ทำการประชุมเขาต่างหากที่เป็นจุดสนใจในห้องประชุม

แต่ครั้งนี้ หญิงสาวคนนั้นกำลังถูกห้อมล้อม หนึ่งคนสองคนต่างมองไปที่เธอ อย่างตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เหมือนน้ำลายจะไหลออกมาแล้ว

แสนรัก:“……”

เคมีที่อยู่ด้านหลังก็มองไปอย่างตกใจจนเนื้อเต้น

รีบก้าวเท้าไปเปิดประตูห้องห้องประชุมออก เขาที่ยืนอยู่หน้าประตูตะโกนออกมาหนึ่งประโยค:“พวกคุณกำลังทำอะไรกัน ยังจะประชุมอยู่ไหม”

เสียงตำหนิที่ดังออกมา เหล่าชนชั้นผู้บริหารเหล่านี้จึงรีบกลับไปนั่งที่ตำแหน่งของตัวเอง

แสนรักเดินเข้ามาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง

ดึงเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลงอย่างไม่พอใจ กำลังจะเปิดปากพูด ทันใดก็มีดวงตาใสๆมองมาด้วยแววตาอันอบอุ่น ความโมโหของเขาทั้งหมดที่มีได้มลายลงอย่างกะทันหัน

“ประชุม……”

……

ในที่สุดก็ได้ประชุมเสร็จลง เส้นหมี่ถูกเรียกเข้ามาที่ออฟฟิศของใครบางคน หลังจากนั้นก็ถูกกดลงไปบนโต๊ะทำงานที่กว้างใหญ่โต๊ะนั้น

“ท่านประธาน คุณ……คุณให้เกียรติสถานที่หน่อย ที่นี่คือบริษัท คุณอย่าทำอะไรมั่วซั่ว”

“ผมทำอะไรมั่วซั่วแล้วจะทำไม พึ่งมาได้ไม่กี่วัน ในสายตาของคุณก็ไม่มีผู้ชายคนนี้อยู่แล้ว คุณอยากให้ผมใช้วิธีอื่นมาเตือนสติคุณใช่ไหม”

ชายหนุ่มด้านบนที่กักตัวเธอเอาไว้อย่างหยาบโลน ทุกคำที่พูดออกมาเหมือนจะพ่นไฟออกมา

เส้นหมี่รีบยอมรับผิด:“ไม่ ไม่ต้อง ฉันผิดไปแล้ว คุณสามี”

ชายหนุ่มที่กำลังโมโหจนหน้ามืด:“ผมไม่ใช่สามีของคุณ!”

“พี่ชาย!คุณเป็นพี่ชายของฉัน!!”

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยจะดี จึงเปลี่ยนวิธีการเรียกเขาในทันที นิ้วเรียวของมือเล็กทั้งสอง จึงโอบขึ้นไปบนลำคอของชายหนุ่มอย่างอ่อนช้อย

“คุณอย่าโมโหบ่อยนักสิ ภรรยาของคุณเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน งั้นก็แสดงว่าภรรยาของคุณเป็นคนมีความสามารถนะ จะว่าไปแล้ว ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อใครล่ะ ไม่ใช่เพราะว่าบริษัทของเราหรอกเหรอ เพื่อคุณไงล่ะ”

น้ำเสียงอ่อนหวานนุ่มนวล เหมือนกับว่าเติมน้ำผึ้งลงไป

ภายในใจของแสนรักเหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่าน เขาก้มหน้าลงไปมอง ค้นพบว่าหญิงสาวคนนี้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเขา หลังจากครั้งนี้ที่เธอแสดงความงอแงออกมา ใบหน้าขาวผ่องอันงดงาม เหมือนถูกย้อมไปด้วยไปด้วยแป้งบางๆสีพีช แม้แต่หางตาของเธอ ยังแอบซ่อนความน่าหลงใหลเอาไว้ไม่อยู่

ยอมสยบแทบเท้า!

ชายหนุ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว จึงกดเอาไว้แล้วจูบลงไปหนักๆ

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดหญิงสาวหัวหน้าใหญ่แผนกบริหารการจัดการก็กลับลงมา

“คุณเส้นหมี่ เมื่อสักครู่คุณไปทำอะไรมาคะ หาคุณตั้งนานก็หาไม่เจอ”

ษาที่เป็นเลขาเป็นสาวน้อยผู้ใสซื่อ หลังจากเห็นว่าผู้บริหารกลับมา ไม่ได้สังเกตใบหน้าของเธอที่แดงระเรื่อ แต่ถามออกไปตามความซื่อว่าเธอไปไหนมา

เส้นหมี่รู้สึกกระอักกระอ่วนจนต้องเบนหน้าหนีไปอีกทาง

“ทำไมเหรอ มีเรื่องอะไร”

“ใช่ค่ะ ผู้ดูแลเจนได้สัมภาษณ์ผ่านมาแล้วหลายคน อยากให้คุณดูสักหน่อย”

ษานำเอาเรซูเม่ของคนที่สัมภาษณ์ผ่านยื่นมา

เส้นหมี่เอามาดูผ่านๆรอบหนึ่ง

ผู้จัดการแผนกบริหารการจัดการ แน่นอนว่าต้องการคนที่มีประสบการณ์ค่อนข้างมากหน่อยก็ดี ดีที่สุดคือมีหัวด้านการลงทุน มีความเข้าใจและเฉียบแหลมเรื่องการตลาด

เส้นหมี่ดูเรซูเม่หลายใบนั้นแล้ว เดิมทีเธอสนใจชายวัยกลางคนที่ชื่อสาโรจน์ แต่เมื่อเปิดดูอีก พบว่าด้านล่างยังมีผู้หญิงที่ยังเด็กมากคนหนึ่ง

“คนที่ชื่อฐานิษคนนี้ มีอะไรพิเศษหรือเปล่า ทำไมผู้ดูแลเจนถึงได้เก็บเธอเอาไว้”

“ค่ะ ผู้ดูแลเจนพูดว่า เด็กสาวคนนี้แม้ว่าจะพึ่งเรียนจบ แต่เธอก็ศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ลอนดอน อีกทั้งเธอเหมือนว่า……คุณสมเดชเป็นคนแนะนำมา”

ษาพูดออกมาอย่างติดๆขัดๆ สุดท้ายก็พูดเหตุผลที่เก็บเรซูเม่ของเด็กสาวคนนี้เอาไว้ออกมา

สมเดช?

สมเดชไหน?

เส้นหมี่เงยหน้าขึ้นมาถามเธอ:“นั่นเป็นใครกัน”

“ก็คือผู้บริหารสมเดชหุ้นส่วนบริษัทของพวกเรายังไงคะ ฉันได้ยินมาว่า เธอเหมือนจะเป็นญาติของเขา แต่ว่า คุณสมเดชไม่ได้ออกหน้ามาเอง เพียงแต่ให้เด็กสาวคนนี้มา เกรงว่าคงเพื่อจะหลีกเลี่ยงการถูกสงสัย”

“……”

เส้นหมี่ไม่มีส่งเสียงใดออกมา หยิบปากกาสีแดงออกมา แล้วติ๊กไปบนเรซูเม่ของคนที่ชื่อว่าฐานิษ และยังมีสาโรจน์

สมเดชเป็นคนแนะนำมาแท้ๆ งั้นก็ต้องไว้หน้าเขาหน่อย

ยังไงซะ บริษัทก็ไม่ได้เสียดายเพียงเงินเดือนพนักงานธรรมดาคนหนึ่ง

วันนี้ เส้นหมี่เลิกงานค่อนข้างเร็ว หลังจากกลับไป จึงตั้งใจเอาผักบางอย่างกลับไปด้วย

“หม่ามี๊ คุณป้าพูดว่า พรุ่งนี้จะไม่ดูแลกับพวกเราแล้ว”

“ห๋า?”

เส้นหมี่ที่พึ่งกลับบ้านมาได้ยินลูกชายพูดประโยคนี้ออกมา จึงนิ่งไป