แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1053
หน้าประตู วิลล่าอว้จิน เฉินโม่มาถึงหน้าป้อมยาม

“เซินกงหมิงอยู่มั้ย?” เฉินโม่ที่เอามืแไขว้ไว้ข้างหลัง ถามอย่างราบเรียบ

ยามที่นั่งอยู่ในป้อมยามเหลือบมองเฉินโม่ไปแวบหนึ่ง มองเฉินโม่ที่หน้าตาธรรมดา การแต่งกายเรียบๆ ไม่เหมือนคนใหญ่คนโต จึงตอบกลับอย่างเฉยเมย “อยากจะพบคุณชาย ได้นัดไว้มั้ย?”

“ไม่ได้นัด” เฉินโม่ตอบกลับอย่างเรียบเฉย

“หากไม่ได้นัดหมาย ก็พบไม่ได้!” ท่าทีของยามเย็นชายิ่งกว่าเดิม ราวกับว่าได้สรุปไปแล้ว เฉินโม่นั้นมาเพื่อประจบสอพลอคุณชายของเขา

“งั้นเหรอ?” น้ำเสียงของเฉินโม่เย็นชาเล็กน้อย ก้าวเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จ้องมองยามด้วยสายตาที่เย็นชา มีมังกรทองเคลื่อนไหวอยู่ในแววตา

จู่ๆ ยามก็รู้สึกถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าหาใบหน้าของเขา เหมือนกับคนที่เผชิญหน้ากับมังกรทองคนเดียว แรงบีบคั้นแบบนี้มาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ และไม่อาจต้านทานได้

เฉินโม่พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบอีกครั้ง “บอกฉันมาว่าเซินกงหมิงอยู่ที่ไหน?”

ยามคนนั้นตอบอย่างเสียงสั่นๆ “คุณชายพาคนไปที่โรงแรมก่วงหยวน เพื่อจัดงานฉลองให้กับคุณฮู่”

“อืม” เฉินโม่หันหลังเดินจากไป ร่างกายของยามก็ผ่อนคลายในทันที พลังที่น่าสะพรึงกลัวเมื่อกี้ก็หายไปเลย

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นไปมองอีกครั้ง ร่างของเฉินโม่ได้หายไปนานแล้ว

โรงแรมก่วงหยวน เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดของมณฑลไห่ซี เป็นโรงแรมที่สังคมชั้นสูงมักเลือกใช้จัดงานเลี้ยง

ห้องโถงของชั้นสามทั้งชั้นถูกเซินกงหมิงเหมาแล้ว เวลานี้ เพื่อจัดงานฉลองที่พวกเขาได้รับชัยชนะกลับมาจากมหาวิทยาลัยหัวหนาน

เห็นได้ชัดว่าหานทงได้กลายเป็นลูกสมุนของเซินกงหมิงไปแล้ว คอยติดตามรับใช้อยู่ข้างกายเซินกงหมิง

เซินกงหมิงที่อยู่ในมหาวิทยาลัยตงจิง เป็นผู้นำของมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด แต่เพราะครั้งนี้ที่ถูกทาง มหาวิทยาลัยตงจิงยกเลิกสิทธิ์ในการแลกเปลี่ยน นักศึกษาของมหาวิทยาลัยตงจิงจึงโกรธ เลยมาเครียกับมหาวิทยาลัยหัวหนาน

ดังนั้นภายใต้การยุยงของหานทง เซินกงหมิงจึงริเริ่มนำนักศึกษาบางส่วนจากมหาวิทยาลัยตงจิง มายังมหาวิทยาลัยหัวหนานในนามของการแลกเปลี่ยน แต่ที่จริงแล้วเพื่อมาหาเรื่องเฉินโม่

พอดีเฉินโม่ไม่อยู่ เซินกงหมิงจึงได้มุ่งเป้าไปยังพวกของจี๋ต๋าจิ่วตู จากนั้นพวกของจี๋ต๋าจิ่วตูก็ติดกับจริงๆ พวกของเซินกงหมิงจึงได้ชัยชนะกลับไป!

“ คุณชายเซิน เพื่อชัยชนะครั้งนี้ของเรา ผมขอดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว!” หานทงที่ใส่ชุดสีเทาสบายๆ ยกแก้วเหล้าขึ้น พูดด้วยสีหน้าที่ประจบสอพลอ

เซินกงหมิงสวมใส่ชุดสูทที่เวอร์วัง สีขาวดำ แสกผมข้าง ดูแล้วหล่อเหลามาก

เขาถือแก้วเหล้าขึ้น และมองไปที่หานทงด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าเต็มไปด้วยความพึงพอใจ “ครั้งนี้นายทำได้ไม่เลว ทำผลงานที่ยิ่งใหญ่ ฉันจะตอบแทนนายอย่างดี!”

ดวงตาของหานทงเป็นประกาย และพูดอย่างมีความสุข “สามารถทำงานให้กับคุณชายเซิน ถือเป็นเกียรติของผมแล้ว!”

“อืม ใช้ได้ ดูก็รู้ว่านายเป็นคนฉลาด ต่อไปก็เป็นลูกน้องของฉันนะ!” เซินกงหมิงกล่าว

นี่คือการยอมรับเป็นพวกเดียวกัน!

หานทงตื่นเต้นจนไม่อาจปกปิดความดีใจได้อีกต่อไป มองเซินกงหมิงด้วยใบหน้าที่แดงเล็กน้อย พูดอย่างจริงจัง “ต่อไปขอเพียงคุณชายเซินพูดมาคำเดียว ไม่ว่าจะกวาดน้ำหรือลุยไฟ ผมหางทงจะไม่ปริปากเลยครับ!”

“อืม” เซินกงหมิงพยักหน้าอย่าพึงพอใจ

เซินกงหมิงยกแก้วเหล้าขึ้น แล้วเดินไปยังหน้าโต๊ะที่อยู่มุมห้อง โต๊ะตัวนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นโต๊ะนั่งสำหรับสิบคน แต่ตอนนี้นั่งอยู่เพียงแค่คนเดียว

เป็นผู้ชายวัยกลางคนท่านหนึ่ง ชายวัยกลางคนที่ธรรมดามาก นั่งหลับตาอยู่ตรงนั้น มองไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เมื่อเซินกงหมิงเข้าไปใกล้เขา รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปเลย แทนที่ด้วยสีหน้าที่เคารพนับถือ

เซินกงหมิงโค้งคำนับเล็กน้อย ยกแก้วเหล้าขึ้นแล้วกล่าว “คุณฮู่ ครั้งนี้โชคดีที่คุณออกมือช่วย ไม่งั้นพวกเราก็คงแพ้แล้ว!”

“ผมขอดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว!”

พูดจบ เซินกงหมิงก็ยกแก้วเหล้าขึ้นแล้วดื่มจนหมด แล้วก็คว่ำแก้ว ไม่มีเหล้าเหลือแม้แต่หยดเดียว