ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่****302:หนึ่งข้อความกับศัตรูทั้งสอง! (3)
ถ้าหากซ่งจงต้องเปิดการป้องกันทั้งหมดนี้ด้วยตนเอง แน่นอนว่าเขาจะต้องใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะทำมันเสร็จ และถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็คงไม่สามารถตั้งรับการโจมตีจากทั้งสองได้ทันท่วงที แต่ทว่าด้วยความช่วยเหลือของแม่มดเทวะ ทำให้ทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในเวลาสั้นๆเท่านั้น โดยที่ซ่งจงไม่ต้องออกแรงแม้แต่น้อย
ในเวลานั้นเองราชวังหยกครามและละอองทับทิมนั้นได้ทำการโจมตีเข้ามาที่เรือมังกรทองคำระยะห่างออกไปไม่กี่ร้อยลี้เท่านั้น ทั้งหมดปะทะเข้ากับค่ายกลเกล็ดมังกรทองคำทันที
ในเวลานี้ค่ายกลเกล็ดมังกรทองคำได้ทำหน้านี้ของมันอย่างสมบูรณ์แบบ สายฟ้ากระดูกสีชาดศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถทำให้ค่ายกลเกล็ดมังกรทองคำสั่นไหวได้แม้แต่น้อย แต่ทว่าเฉวียนจี้มังกรเหมันต์ศักดิ์สิทธิ์นั้นสามารถทำให้ค่ายกลเกล็ดมังกรทองคำแตกออกไปได้สองถึงสามชิ้น
แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นไม่ใช่การแตกหักเล็กน้อยของค่ายกลเกล็ดมังกรทองคำ มันเป็นเพียงการปรับสมดุลพลังที่ได้รับเข้ามาจึงต้องแตกกระจายออกไปเล็กน้อย เมื่อมันถูกโจมตีด้วยพลังที่รุนแรงและไม่สามารถรับไว้ได้ทั้งหมด การสละตัวเองทิ้งเพียงนิดหน่อยทำให้ทุกอย่างราบรื่น เช่นนี้จึงดูเหมือนเพียงว่าพลังที่มหาศาลเหล่านั้นโจมตีกับหินแข็งๆและแตกสลายไปเท่านั้นเอง
กล่าวก็คือถ้าหากค่ายกลเกล็ดมังกรยื้อพลังทั้งหมดไว้ไม่ยอมระเบิดออก เช่นนั้นความเสียหายอาจเพิ่มมากเข้าไปถึงเมฆสีเทาได้อย่างง่ายดาย การทำเช่นนี้นับว่าเป็นกลไกการป้องกันที่ชาญฉลาดอย่างมากล
ค่ายกลเกล็ดมังกรนับหมื่นห่อหุ้มเรือมังกรทองคำอย่างต่อเนื่อง เกล็ดทุกอันดูแวววาวเปล่งประกายอย่างสวยงามและดูมีชีวิต
ในส่วนของเกล็ดมังกรที่ถูกทำลายไป ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นใหม่ทดแทนอย่างรวดเร็ว อีกทั้งตรงส่วนที่เป็นรูก่อนหน้านี้เมื่อการโจมตีทะลุผ่านไป ทั้งหมดถูกดูดซับไว้โดยเมฆสีเทาอีกครั้ง เมื่อรวมกับเกล็ดมังกรทองคำที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว เป็นภาพที่ชวนให้ขนลุกแก่ศัตรูอย่างยิ่ง
ในส่วนของเรือนั้นไม่ได้รับผลกระทบใดๆแม้แต่การสั่นสะเทือนสักนิดเดียว ผู้คนที่อยู่บนเรือไม่รู้สึกถึงพลังที่โจมตีเข้ามาแม้แต่น้อย เช่นนี้จึงเห็นได้ชัดเจนว่าราชวังหยกครามและละอองทับทิมไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนใดๆให้กับเรือมังกรทองคำนี้ได้!
อย่างไรก็ตามสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์นั้นยากที่จะป้องกัน พลังการโจมตีขนาดยักษ์กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ปืนใหญ่หวงหลงค่อยๆถูกเปิดใช้งานพร้อมกับล็อกเป้าหมายการโจมตีเป็นละอองทับทิมและราชวังหยกคราม เมื่อมันปรากฏออกมาสู่สายตาทุกคน ทั้งหมดรู้สึกเข่าอ่อนแรงและเกรงขามสิ่งที่มันกำลังจะแสดงออกมา พลังของมันนี้แม้แต่ค่ายกลเกล็ดมังกรทองคำรวมกับเมฆสีเทายังไม่อาจหยุดยั้งไว้ได้ ท้ายที่สุดหวงหลงสายฟ้าสีม่วงได้โจมตีทันที พร้อมทำลายหอคอยของราชวังหยกครามภายในการยิงเพียงครั้งเดียว!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอาวุโสระดับสูงและสมบัติขนาดใหญ่ถึงสอง ซ่งจงไม่กล้าที่จะตั้งรับเฉยๆ ถ้าหากเขาไม่ยอมโต้ตอบ แม้ว่าจะเป็นเรือมังกรทองคำขั้นสอง ก็คงไม่อาจแบกรับความเสียหายทั้งหมดไว้ได้ มันไม่คุ้มถ้าหากมันต้องเสียหายอย่างหนักอีกครั้ง
ซ่งจงไม่กล้าชักช้า เมื่อเขาเห็นว่าอีกฝ่ายเปิดการใช้งานอาวุธหนักเช่นนี้ เขาจึงต้องตอบโต้ด้วยวิธีเดียวกันทันที ก่อนที่พวกเขาจะตั้งตัว ซ่งจงรีบสั่งการออกไป “เปิดใช้งานหวงหลงสายฟ้าสีม่วง ทำลายอาคารหลักของสำนักค่ายกลซะ!”
ซ่งจงรีบสั่งการออกไปอย่างรวดเร็ว การโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้จะต้องใช้เวลาเตรียมตัวอย่างมาก เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะหายใจ การสั่งการทั้งหมดประมวลมาจากสมองและต้องใช้ไหวพริบอย่างมาก ซึ่งเวลาของเขาไม่ได้มีมากพอที่จะมัวลีลา
ในขณะที่เรือทั้งสามกำลังควบแน่นพลังวิญญาณเพื่อจะโจมตีครั้งต่อไป เรือมังกรทองคำลดระดับลงอย่างช้าๆ การควบแน่นพลังของเรือมังกรทองคำนั้นน้อยกว่าเรืออีกสองลำเล็กน้อย แต่ทั้งสามแทบจะเปิดฉากการโจมตีพร้อมกันในครั้งต่อมา
…..
จากนั้นผู้ชมโดยรอบเห็นฉากน่าสยองพร้อมกัน ละอองทับทิมและราชวังหยกครามโจมตีเรือมังกรทองคำอย่างพร้อมเพรียง เรือมังกรทองคำในตอนนี้สง่างามและดูน่าเกรงขามอย่างยิ่ง ปากของมันเปิดออกพร้อมกับพ่นบอลสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์สีม่วงออกมาสามทิศทาง!
ลูกบอลสายฟ้าสองลูกนั้นพุ่งไปที่หัวยิงของละอองทับทิมและราชวังหยกคราม ส่วนอีกลูกหนึ่งนั้นพุ่งเป้าไปที่อาคารหลักของสำนักค่ายกล!
พวกมันวิ่งผ่านอากาศด้วยความเร็วสูง ทุกสิ่งพุ่งเข้าชนกันในอากาศ ตู้ม! เกิดเป็นละอองไฟราวกับพลุ แต่ทว่าอีกลูกหนึ่งนั้นไร้การป้องกันใดๆ มันพุ่งเข้าชนกับอาคารหลักของสำนักค่ายกลทันที!
เพราะว่าพวกเขาไม่ได้คิดถึงสิ่งนี้ว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับสำนักค่ายกล อีกทั้งยังมีอาวุโสระดับสูงสองคนอยู่ในอาคารหลัก จึงไม่ได้เปิดค่ายกลเพื่อป้องกันใดๆ ผู้ใดจะคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายเช่นนี้ขึ้น? การต่อสู้นี้มันไม่เกี่ยวกับพวกเขาสักหน่อย เช่นนี้จึงเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ให้ซ่งจงโจมตีได้อย่างง่ายดาย อาคารหลักของสำนักค่ายกลพังทลายลงในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ช่างน่าเสียดายที่สิ่งที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ให้ยาวนานกว่าห้าพันปี พังทลายลงเพียงแค่การยั่วยุเด็กหนุ่มคนหนึ่ง สำนักค่ายกลขึ้นชื่อเรื่องการวางค่ายกลป้องกันอย่างมาก แต่ทุกอย่างพังลงอย่างง่ายดาย แล้วพวกเขาจะมีใบหน้าไปพบบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วได้อย่างไรกัน?
การระเบิดนี้ร้ายแรงมากเกินไป แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินยังไม่สามารถที่จะป้องกันไว้ได้
แต่โชคดีที่ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินสองคนที่อยู่ภายในอาคารนั้นรู้ถึงวิถีของปืนใหญ่หวงหลง ทั้งสองรีบเรียกดาบบินออกมาและหลบหนีทันที ไม่เช่นนั้นก็คงกลายเป็นผีเฝ้าอาคารเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม โชคร้ายนั้นตกไปอยู่กับผู้ฝึกตนระดับจินตัน พวกเขาไม่สามารถหลบหนีการโจมตีได้ทันเนื่องจากความเร็วที่จำกัด แต่ผู้ฝึกตนที่อยู่บนละอองทับทิมและราชวังหยกครามนั้นสามารถหลบหนีการระเบิดครั้งนั้นได้อย่างหวุดหวิด
ทั้งหมดได้รับถูกป้องกันไว้ได้โดยเรือของตนเอง เช่นนี้จึงรอดพ้นอันตรายมาได้
อย่างไรก็ตามแรงระเบิดเมื่อครู่นี้ทำให้ราชวังหยกครามและละอองทับทิมกระเด็นออกจากกัน เรือทั้งสองถูกเป่ากระเด็นออกไปหลายพันลี้ โชคดีที่ทั้งหมดยังปลอดภัยแม้ว่าจะมีบางส่วนเสียหายไปบ้าง แต่เหล่าสาวกทั้งหลายยังคงปลอดภัยภายใต้การคุ้มครองของผู้ฝึกตนระดับเฟินเสิ่นทั้งสองคน
สำหรับเรือมังกรทองคำ ระดับการป้องกันของมันนั้นสูงกว่าเรืออีกสองลำมากเกินกว่าจะคาดเดา มันเพียงเสียสละเกล็ดมังกรเพียงไม่กี่โหลออกไปและให้เมฆสีเทาดูดซับพลังเอาไว้ จากนั้นเกล็ดมังกรฟื้นฟูตนเองอย่างรวดเร็วและกลับมาเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง
แต่แน่นอนว่าแรงระเบิดเมื่อครู่ทำให้เรือมังกรทองคำกระเด็นไปไกลเช่นกัน ซ่งจงและผู้คนที่อยู่บนเรือรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังติดอยู่ในพายุ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ชวนอึดอัดอย่างยิ่ง
มันไม่ง่ายเลยที่จะทรงตัวอยู่บนเรือที่โคลงเคลงเป็นเวลานานเช่นนั้นได้ เป็นเวลายาวนานกว่าฝุ่นทั้งหมดจะหายไป ทำให้ทั้งสามเริ่มปรับสภาพสายตาและมองไปบริเวณรอบๆเพื่อตรวจสอบความเสียหาย เมื่อเห็นภาพตรงหน้าทั้งหมดได้แต่สูดเอาอากาศเย็นๆเข้าปอดอย่างช่วยไม่ได้ เกิดหลุมขนาดใหญ่บนพื้นถึงสามหลุ่ม และมีหนึ่งหลุมที่เดิมทีมันคืออาคารหลักของสำนักค่ายกล ซึ่งในตอนนี้อาคารนั้นได้หายไปแล้ว! อีกทั้งแขกรับเชิญงานเลี้ยงส่วนใหญ่ได้ตกเป็นผู้ประสบภัยพิบัติอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
เมื่อเห็นว่าเรือมังกรทองคำของซ่งจงนั้นแข็งแกร่งมากขนาดไหน ในตอนนี้ทั้งหมดไม่กล้าที่จะหายใจและมองดูมันอย่างเงียบๆ เทพธิดาภูติน้ำแข็งและนักบวชเต๋าปีศาจไม่อาจเก็บกดความกลัวที่มีภายในใจเอาไว้ได้เลย พวกเขาทั้งสองรู้ได้ทันทีว่าพลังนี้เป็นของจริงไม่ใช่สิ่งของเอาไว้หลอกเด็กอย่างเช่นที่คิดไว้ตอนแรก
ด้วยพลังของละอองทับทิมและราชวังหยกครามนั้นไม่สามารถเอาชนะซ่งจงได้แน่นอนในตอนนี้
นักบวชเต๋าปีศาจและเทพธิดาภูติน้ำแข็งนั้นไม่ใช่คนโง่เขลาและจะเอาชีวิตมาทิ้งเพื่อแก้แค้นให้ผู้อื่น ในตอนนี้ทั้งคู่รู้ตัวแล้วว่าตกอยู่ในอันตรายและพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อของซ่งจง ทางเลือกนั้นมีเพียงทางเดียวคือ หนี! ทั้งสองไม่หันหน้าเข้าหากันอีกต่อไป ไม่แม้ที่จะพูดจาใดๆ และรีบดำเนินการหลบหนีให้ไกลจากซ่งจงอย่างรวดเร็วที่สุด!
ซ่งจงที่เห็นเช่นนั้น เขาโกรธจนตัวสั่นพร้อมกับบ่นออกมาว่า “ไอ้สารเลวสองตัวนั้นมันล่อลวงให้ข้าเดินทางมาไกลกว่าแสนลี้ อีกทั้งยังต้องสูญสิ้นหินจิตวิญญาณมากมายกว่าแสนชิ้น เมื่อพวกมันรู้ตัวว่าสู้ไม่ได้แล้วคิดจะหลบหนีอย่างงั้นหรือ? เหตุใดจึงกระทำตนได้ไร้ค่าเช่นนี้กันนะ?”
“ตามมันไป!” ซ่งจงตะโกนออกมาเพื่อออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว
“รับทราบ!” แม่มดเทวะตอบรับในทันทีพร้อมตั้งควบคุมให้เรือมังกรทองคำไล่ล่าอย่างไม่ชักช้า
แม้ว่าในตอนนี้ทั้งสองจะหนีห่างไปไกลกว่าพันลี้แล้ว แต่ด้วยระยะห่างเพียงเท่านี้ไม่อาจหยุดซ่งจงไว้ได้ เรือมังกรทองคำขั้นสองนี้มีระดับความเร็วที่เหนือความคาดหมาย มันสามารถเร็วได้สูงสุดถึงแปดพันหน่วยเมื่อวิ่งเต็มกำลัง อีกทั้งในตอนนี้มันยังเปิดใช้งานสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์สีทองอย่างรวดเร็ว!
แต่ละอองทับทิมและราชวังหยกครามนั้นมีความเร็วเพียงห้าพันหน่วยเท่านั้น เช่นนี้พวกมันจะสามารถหลบหนีเรือมังกรทองคำที่มีความเร็วกว่าแปดพันหน่วยได้อย่างไรกัน?
อย่างไรก็ตาม ภายในไม่กี่อึดใจ ซ่งจงตามมาอย่างรวดเร็ว พวกเขาแทบจะหายใจรดต้นคอกันแล้วในจังหวะนี้
นักบวชเต๋าปีศาจและเทพธิดาภูติน้ำแข็งล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งคู่ ทั้งสองรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาไม่สามารถหนีไปด้วยกันได้ จึงตะโกนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “เราต้องแยกกัน!”
เมื่อกล่าวจบ ทั้งคู่แยกกันไปซ้ายขวาคนละทาง พวกเขาคิดว่าอย่างน้อยก็จะมีหนึ่งคนที่สามารถหลบหนีไปได้
ซ่งจงเห็นเช่นนั้นอดไม่ได้ที่จะเหยียดปากพร้อมกล่าวออกมาอย่างรังเกียจ “พวกเจ้าคิดงั้นหรือว่าจะหลบหนีไปได้ ถ้าหากพวกเจ้าวิ่งไป ข้าจะทำให้พวกเจ้าหันกลับมาเอง เอาล่ะ ระยะห่างตอนนี้เพียงพอแล้วที่จะใช้ขวานยักษ์ลึกลับ ใช้หางมังกรศักดิ์สิทธิ์ถล่มละอองทับทิมและใช้ขวานยักษ์ลึกลับจัดการกับราชวังหยกคราม!”
“รับทราบ!” แม่มดเทวะตอบรับพร้อมดำเนินการตามคำสั่งของซ่งจงทันที
ในตอนนี้หางมังกรศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีขนาดยาวกว่าร้อยฟุตได้เคลื่อนไหวแล้วราวกับว่ามันมีชีวิตจริงๆ แสงประกายสีทองเปล่งประกายระยิบระยับออกมาดูสวยงามราวกับเป็นเพียงเครื่องประดับเท่านั้น แต่ทว่าเมื่อมันรวบรวมพลังทำให้อากาศโดยรอบเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล ปรากฏเป็นลูกบอลไฟขนาดใหญ่พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า มันพุ่งเข้าปะทะกับละอองทับทิมที่น่าสงสารทันที
ละอองทับทิมนั้นเป็นเรือที่ทำมาจากวัสดุชั้นเลิศ แต่เมื่อมันต้องพบกับพลังของหางมังกรศักดิสิทธิ์ ราวกับว่าเรือถูกสร้างมาจากเต้าหู้ มันถูกตัดขาดอย่างง่ายดาย มันตัดขาดภูเขาหลายลูกที่อยู่ด้านหน้าไปมากมาย พลังของมันเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้คน ทุกคนล้วนแต่เกรงกลัวและตัวสั่นด้วยความหวาดหวั่น
ในตอนนี้ละอองทับทิมได้ถูกแบ่งออกเป็นสองชิ้น มันร่วงหล่นจากฟ้าทันทีราวกับขยะขนาดยักษ์ ผู้ฝึกตนระดับเฟินเสิ่นตอนนี้ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เหล่าสาวกของเขาบางคนโชคร้ายถูกตัดขาดเป็นสองท่อนด้วยเช่นกัน แม้แต่นักบวชเต๋าปีศาจยังต้องเสียแขนไปหนึ่งข้างเพราะการโจมตีเมื่อครู่นี้
แต่ทว่าแขนนั้นไม่เป็นปัญหามากนัก ท้ายที่สุดถ้าหากเขาเอาชีวิตรอดกลับไปได้ เรื่องแขนที่เสียไปสามารถฟื้นฟูคืนมาได้ไม่ยากเย็นนัก แต่ทว่าในตอนนี้สมบัติและอาวุธที่เขามีอยู่นั้นถูกทำลายไปด้วย เช่นนี้ทำให้เขาไม่สามารถโจมตีโต้ตอบได้เลยแม้แต่น้อยเพราะเรือไม่อยู่กับเขาแล้ว!
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เกล็ดสีทองเล็กๆที่เกาะกินแผลของเขานั้นทำให้เขารู้สึกเย็นวาบและไม่ปลอดภัยจากการรุกรานของมัน ราวกับว่ามันกำลังค่อยๆกินเนื้อของเขาทีละน้อย แม้แต่การหมุนเวียนลมปราณในหลอดเลือดดำยังไม่สามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดนี้ได้ เมื่อเห็นเช่นนี้เขาต้องเปิดใช้งานพลังจากตันเถียนเพื่อหมุนเวียนลมปราณทั้งหมดใหม่ทันทีอย่างไม่เต็มใจนัก สุดท้ายแล้วความแข็งแกร่งของนักบวชเต๋าปีศาจลดลงเหลือเพียงระดับหยวนหยินเท่านั้นในตอนนี้เพราะเขาใช้พลังต้องห้ามเพื่อรักษาร่างกายของตนเองไว้
ในเวลาเดียวกัน ขวานยักษ์ลึกลับขนาดใหญ่ได้ถูกปลุกขึ้นมาโดยแม่มดเทวะ มันสูงใหญ่กว่าพันฟุตพร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหารออกมาเพื่อจัดการกับราชวังหยกคราม มันพุ่งไปในอากาศอย่างรวดเร็วและตัดลงอย่างเฉียบคม! แน่นอนว่าสมบัติโบราณชิ้นนี้ไม่ทำให้ซ่งจงผิดหวัง มันตัดราชวังหยกครามออกเป็นสองส่วนทันทีในฉับเดียว! ทั้งหมดร่วงหล่นสู่พื้นเกิดเป็นฝุ่นตลบไปด้วยบริเวณอยู่ด้านหลังของละอองทับทิมที่ร่วงไปก่อนแล้วเมื่อครู่นี้ แต่โชคดีที่เทพธิดาภูติน้ำแข็งนั้นรอดพ้นจากใบมีด ดังนั้นนางจึงไม่ต้องพบเจอหายนะดั่งเช่นนักบวชเต๋าปีศาจ
เรือยักษ์ทั้งสองลำที่น่าภาคภูมิใจของหอเฉวียนจี้และสำนักพันปีศาจถูกทำลายลงในพริบตาโดยซ่งจง เทพธิดาภูติน้ำแข็งไม่ได้คาดหวังว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะจบลงเช่นนี้ นางมองไปที่ราชวังหยกครามด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก
สาวกของหอเฉวียนจี้มากมายตายตกไปในเหตุการณ์นี้ แล้วผู้เชี่ยวชาญเช่นนางที่ไม่สามารถปกป้องสาวกของตนเองจะสามารถนำใบหน้าของตนกลับสำนักได้อย่างไร? นางจะรายงานเบื้องบนว่าอะไรเพื่อให้พ้นความผิดนี้? ในตอนนี้นางพาหอเฉวียนจี้มาถึงจุดที่ถูกทำลายสมบัติขนาดใหญ่ที่ทรงพลัง แล้วนางจะแบกรับความเจ็บปวดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?
ทางด้านของนักบวชเต๋าปีศาจ เขาไม่ได้คิดอะไรมากมายนักขอเพียงแค่มีชีวิตรอดกลับไป แต่ทว่าเขาสูญเสียพลังและระดับของตนในการรักษาตนเอง ทำให้การหลบหนีของเขาเป็นไปได้ช้ามาก ตอนนี้เขากังวลเพียงแค่จะไม่สามารถหลบหนีเรือมังกรทองคำได้พ้น ดังนั้นเพื่อความอยู่รอด เขาจำเป็นต้องอดทนกับบาดแผลและรีบบินไปหาผู้คนของหอเฉวียนจี้และเทพธิดาภูติน้ำแข็งเพื่อรวมตัวกันผนึกความแข็งแกร่งที่ยังเหลืออยู่น้อยนิด กล่าวก็คือชีวิตของพวกเขาในตอนนี้ริบหรี่เหลือเกิน…
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
ฝากกด like เพจด้วยนะคะ
*ผู้แปลขี้โรค