ทว่าตอนนี้แววตาสิบสามกลับแน่วแน่ โค้งคำนับแล้วพูดว่า “เจ้านาย ผู้แข็งแกร่ง!”

ลู่ฝานสีหน้าหมดคำจะพูด บางครั้งพูดความจริงก็ไม่มีใครเชื่อ

ที่นี่ไม่มีดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ คาดเดาเวลาได้ยาก

หลังรู้สึกว่าผ่านไปประมาณ 1-2 ชั่วยามแล้ว ลู่ฝานกลับมาที่ลานเมฆ ออกเดินทางไปกับทุกคนทันพอดี

สิ่งที่เดินทางผ่านมิติเป็นแถบ เคลื่อนตัวจากข้างจุดเสริม กลับไปยังอุโมงค์ข้ามมิติ ลองนับลวกๆ สิ่งที่เดินทางผ่านมิติ มีจำนวนเกินกว่าร้อย จำนวนคนเกินกว่าพัน

ทีมใหญ่ขนาดนี้ เมื่ออยู่ในอุโมงค์ข้ามมิติ เหมือนจำนวนเพียงเล็กน้อย รถม้าของลู่ฝาน ถูกจัดไว้ตรงกลางพอดี ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ข้างๆ เขาคือสิ่งที่เดินทางผ่านมิติของลุงชาง

ลู่ฝานไม่รู้ว่าควรบรรยายสิ่งที่เดินทางผ่านมิติของลุงชางยังไงดี เหมือนจะเป็นเรือแต่ก็ไม่ใช่ เหมือนจะเป็นสัตว์แต่ก็ไม่ใช่

เป็นมังกรบินตัวหนึ่ง โดนเปิดท้องออกเพื่อสร้างเป็นห้อง

เกล็ดอย่างหนาคงทน มีแสงประหลาดสว่างไสว ไม่ใช่โลหะ แต่เป็นเกล็ดมังกร ตัวมังกรถูกทำจนกลายเป็นตัวเรือ หัวมังกรถูกเปลี่ยนเป็นหัวเรือ ฝีมือไม่ได้ประณีตมาก รูปร่างเอียงๆ ตามังกรข้างหนึ่งไม่มีลูกตา ดูแล้วไม่ค่อยเข้าท่า

“น้องชายท่านนี้ ท่านที่อยู่ด้านหลังนาย คงเป็นยอดฝีมือแดนปราณชีวิตที่เพิ่งทดสอบเมื่อกี้สินะ ขึ้นมาคุยกันหน่อยได้ไหม”

จู่ๆ มีเสียงดังขึ้นบนเรือมังกร ลู่ฝานเพ่งมอง พบว่าลุงชางกำลังตะโกนเรียกเขาอยู่

ไม่ไว้หน้าคนอื่นได้ แต่ลุงชางที่เป็นหัวหน้าทีมในครั้งนี้ ยังไงลู่ฝานก็ต้องไว้หน้าบ้าง

ลู่ฝานประสานมือคารวะ แล้วพูดว่า “งั้นรบกวนด้วยครับ”

ลู่ฝานพูดพลาง เอารถม้าเข้ามาใกล้ๆ หลังจากนั้นเก็บรถม้ากลับเข้าไปในเข็มขัด กระโดดขึ้นไปบนเรือมังกรกับสิบสาม

เท้าเหยียบลงบนเกล็ดมังกรเย็นยะเยือก ลู่ฝานกวาดตามองรอบๆ

เรือมังกรขนาดใหญ่ จุคนได้เป็นพัน ห้องดูทันสมัยมาก รอบๆ ยังมีธงปักเต็มไปหมด นักบู๊บางส่วนถือดาบและกระบี่ เดินตรวจตราไปมาบนเรือ

ลุงชางหัวเราะ มองลู่ฝานตั้งแต่หัวจรดเท้า

“น้องชายเป็นคนที่ไหน เดินทางมาครั้งแรกสินะ”

ลู่ฝานตอบว่า “ชื่อลู่ฝาน เป็นคนเขตตงหวา เดินทางมาครั้งแรกครับ”

ลุงชางหัวเราะอย่างองอาจ แล้วพูดว่า “เขตตงหวาเหรอ ฉันเคยไปที่นั่น เป็นเขตใหญ่ที่ทัศนียภาพงดงาม แต่เรือข้ามฟากที่นั่นไม่เยอะ ธุรกิจไม่ดี น้องชายได้สิ่งที่เดินทางผ่านมิติจากที่นั่น ถือว่าไม่ง่ายนะ ครั้งนี้จะไปเมืองหลวงเหรอ”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ใช่ครับ”

ลุงชางยิ้มแล้วพูดว่า “เมืองหลวงดี ได้เจอโลก แล้วน้องชายท่านนี้ชื่ออะไร”

ลุงชางมองไปทางสิบสาม ลู่ฝานสัมผัสได้ว่าลุงชางเป็นกันเองกับสิบสามมากกว่าน้อย ตอนพูดรอยยิ้มสดใสขึ้น

สิบสามพูดชื่อตัวเองออกมาช้าๆ

ลุงชางหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “สิบสามเหรอ ชื่อดี ตัวเลขนี้ในบางเขต เป็นสัญลักษณ์ของความตาย น้องสิบสาม จัดการแมลงพวกนั้นในครั้งนี้ ฝากคุณลงมือช่วยเยอะๆ ด้วยนะ ในทีมมียอดฝีมือแดนปราณชีวิตไม่เยอะ ถ้าคุณช่วยได้เยอะ จะลดการตายไปได้เยอะ”

สิบสามไม่พูดอะไร หันไปมองทางลู่ฝาน

ความหมายคือ ฉันฟังคำสั่งของเจ้านายฉัน นายมีอะไรก็พูดกับเขา

ลุงชางอึ้งไป หลังจากนั้นมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ดูเหมือนคนตัดสินใจคงเป็นน้องลู่ฝานสินะ ช่วยหน่อยสิ”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “เรื่องช่วยไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่มีผลประโยชน์ดีๆ ไหม”