“ใช่แล้ว พวกเธอรีบกลับไปเถอะ นี่ซินเหลยก็หายดีขึ้นมาไม่น้อยแล้ว ซินห้าว หลายวันนี้ไม่ต้องให้เยี่ยนจื่อมาโรงพยาบาลแล้ว ถ้ากระทบกระเทือนไปถึงหลานชายคนโตของฉันจะทำยังไง ให้เธอพักผ่อนอยู่บ้านไป ไม่ต้องมาทำอะไรที่นี่แล้ว” 

 

 

ถึงแม้ซุนหม่านเซียงจะลำเอียงไปทางซินเหลย แต่เธอรอคอยหลานชายมาตลอด ดังนั้นเธอเลยต้องสนใจ 

 

 

“วันนี้พวกเราจะกลับไปหมู่บ้านหน่อย เรื่องนี้คุณปู่คุณย่าก็เป็นห่วงมาตลอด ต้องกลับไปบอกหน่อย สองวันนี้จะให้เยี่ยนจื่ออยู่ที่หมู่บ้าน อีกหลายวันผมค่อยพาเยี่ยนจื่อมาใหม่” 

 

 

ซินห้าวก็พยักหน้า ต้องให้เฉินเยี่ยนพักผ่อนหลายวัน ช่วงนี้เฉินเยี่ยนผอมไปแล้ว อีกอย่างตอนนี้ซินเหลยก็ไม่ได้มีอันตรายแล้ว แค่พักฟื้น เขา ซุนหม่านเซียงและซินชานสามคนยังพอดูแลไหว 

 

 

“ทำไมจะต้องกลับไปให้ได้ โทรไปที่โรงงานกระดาษนั่นก็ได้แล้ว ให้เขาบอกก็หมดเรื่อง พวกเธออยู่ในเมืองนี่ดีแล้ว ยังจะต้องไปทรมานอะไรอีก! ถนนนั่นก็ไม่ดี ถ้าเกิดล้มขึ้นมาจะทำยังไง” 

 

 

ซุนหม่านเซียงไม่อยากให้เฉินเยี่ยนกลับหมู่บ้านเกษตรกร เธอไม่ชอบหมู่บ้านเกษตรกร 

 

 

“รับปากกับคุณปู่คุณย่าไว้แล้วว่าจะกลับไปค่ะ อีกอย่างฉันอยู่ที่หมู่บ้านก็สบาย ซินเหลย เธอพักฟื้นดีๆ นะ อีกหลายวันฉันจะมาเยี่ยมเธอใหม่” 

 

 

เฉินเยี่ยนก็คิดว่าเธอควรจะกลับไปหลายวัน 

 

 

“ครับ” 

 

 

ซินเหลยพยักหน้าตอบรับ 

 

 

พวกเขาไม่รอให้ซินชานกลับมา เพราะกลัวจะเย็นไป ถนนทางที่กลับจะมืด ถ้าล้มไปจริงๆ กลัวว่าจะเกิดปัญหา 

 

 

จนมาถึงบ้านซิน ทุกคนต่างมารุมล้อม เห็นสีหน้าคาดหวังทั้งคนเด็กคนแก่ เฉินเยี่ยนซาบซึ้ง 

 

 

“ว่ายังไง ว่ายังไง? มีแล้วใช่ไหม?” 

 

 

เสียงซินต้าฉุยสั่นเล็กน้อย เขารอคอยมาตลอดเลย หลายวันนี้ก็นอนไม่หลับ 

 

 

“คุณปู่ มีแล้วจริงๆ ครับ เดือนครึ่งแล้ว” 

 

 

ซินห้าวพยักหน้า ใบหน้ายังดูตื่นเต้นอยู่เลย 

 

 

“ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดข้าก็สามารถไปเจอบรรพบุรุษตระกูลซินใต้ดินได้แล้ว ข้ามีเหลนแล้ว ตระกูลซินมีผู้สืบทอดแล้ว” 

 

 

ซินต้าฉุยน้ำตารื้นดวงตา สำหรับเขาแล้วผู้สืบทอดตระกูลต่อนั้นเป็นความคิดที่ฝังรากหยั่งลึก ถึงแม้ลูกคนแรกของเฉินเยี่ยนจะไม่ใช่ผู้ชาย แต่สามารถพูดได้ว่าเฉินเยี่ยนมีลูกได้ คลอดต่อก็ได้ ยังไงครอบครัวพวกเขาก็จ่ายค่าปรับไหว 

 

 

“ดี ดี” 

 

 

คุณย่าก็ตื้นตันน้ำตาเอ่อ หลายปีนี้พวกเรารอคอยมาตลอด ในที่สุดก็สิ้นสุดการรอคอยแล้ว 

 

 

“แม่สามีเธอรู้หรือยัง?” 

 

 

ไป๋ซิ่วเหมยก็ตาแดง ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่สามารถมีลูกได้นั้นยังไงก็ไม่มั่นคง ตอนนี้รู้ข่าวดีแล้ว เธอก็สบายใจแล้ว 

 

 

“อืม ตอนที่กลับมาก็แวะไปหาแล้วค่ะ แม่เขารู้ เธอก็ดีใจมาก” 

 

 

งั้นก็ดีแล้ว เธอรู้ก็ดีแล้ว 

 

 

ไป๋ซิ่วเหม่ยก็รู้ว่าพี่สะใภ้ใหญ่ของตัวเองคนนี้มักจะชอบหาเรื่องเฉินเยี่ยน รังเกียจว่าเฉินเยี่ยนมีลูกไม่ได้ ตอนนี้เฉินเยี่ยนท้องแล้ว พี่สะใภ้ก็พูดอะไรไม่ได้แล้ว 

 

 

“เร็ว รีบเข้ามานั่งในบ้าน” 

 

 

ซินต้าฉุยพูด 

 

 

เฉินเยี่ยนโดนห้อมล้อมอยู่ตรงกลาง 

 

 

ใช่ สำหรับหมู่บ้านเกษตรกรแล้ว ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเป็นเรื่องธรรมดา ผู้หญิงบางคนคลอดหลายคน ถึงแม้จะท้องก็ต้องทำงาน บางคนคลอดตรงที่นาเลยก็มี ยังไม่ออกเดือนก็ต้องเริ่มทำงานแล้ว 

 

 

แต่ตอนนี้ความเป็นอยู่เริ่มดีขึ้น สถานะของผู้หญิงที่ตั้งท้องก็เริ่มสูงขึ้น อีกทั้งฐานะครอบครัวซินก็ไม่แย่ คนก็ใจดี ดังนั้นพวกเขาไม่ให้เฉินเยี่ยนทำงานอะไร แค่ให้เธอพักผ่อนให้ดีพอ 

 

 

“ส่งข่าวไปที่บ้านเธอหรือยัง?” 

 

 

ไป๋ซิ่วเหมยถามเฉินเยี่ยนอีก ซุนหม่านเซียงไม่อยู่ที่หมู่บ้าน เธอก็เหมือนแม่สะใภ้ของเฉินเยี่ยน ติดต่อกับหวางนิวอยู่เรื่อยๆ เธอและหวางนิวมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน 

 

 

“ยังเลยค่ะ หนูคิดว่าอีกสองวันค่อยไปหา ถึงตอนนั้นค่อยบอกแม่” 

 

 

เฉินเยี่ยนไปบอกไม่ทันจริงๆ 

 

 

“รีบบอกเถอะ พี่สะใภ้เขาก็รออยู่ตลอดเหมือนกัน” 

 

 

ไป๋ซิ่วเหมยเข้าใจจิตใจของหวางนิวดี จากนั้นเธอและคุณย่าก็พูดกับเฉินเยี่ยนเป็นการส่วนตัวมากมาย บอกเรื่องต้องห้ามทั้งหมด 

 

 

เป็นครั้งแรกที่เฉินเยี่ยนท้อง นอกจากดีใจแล้วเธอยังรู้สึกสับสนวุ่นวายด้วย เพราะเธอไม่มีประสบการณ์มาก่อน แต่เธอรู้ ข้างกายเธอมีคนที่มีประสบการณ์ไม่น้อยเลย ดังนั้นเธอเลยค่อยรู้สึกวางใจ 

 

 

จนกลับไปที่บ้านพวกเขา นอนอยู่บนแขนซินห้าว เฉินเยี่ยนรู้สึกเหมือนเป็นความฝัน 

 

 

ทั้งสองคนคุยกันยาวนานมาก เกี่ยวกับเรื่องลูก แสดงความคาดหวังและความปรารถนาดีของพ่อแม่ที่มีต่อลูกอย่างเต็มที่ 

 

 

กินข้าวเช้าเสร็จซินห้าวก็ขี่จักรยานไป นอกจากไปทำธุระที่โรงงานแล้วเขายังต้องไปดูแลซินเหลย 

 

 

เฉินเยี่ยนอยู่ที่บ้าน ตอนแรกเธออยากจะขี่จักรยานไปบ้านเฉิน แต่คนบ้านซินกลัวเธอขี่ล้ม ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ประมาทแม้แต่นิดเดียวไม่ได้ ดังนั้นเฉินเยี่ยนเลยได้แต่อยู่บ้าน 

 

 

วันรุ่งขึ้นซินห้าวขี่จักรยานพาเฉินเยี่ยนไปบ้านเฉิน แล้วเขาค่อยไปในเมือง 

 

 

เห็นเฉินฉือหลิวและเฉินเฟยวิ่งโผเข้ามาหาเธอ เฉินเยี่ยนรีบอุ้มพวกเขาไว้ ไม่เล่นกับพวกเขาเหมือนเมื่อก่อน เธอกลัวกระเทือนโดนลูกในท้อง 

 

 

จนหลังเฉินเยี่ยนบอกว่าเธอมีแล้ว หลัวเหมยก็รีบพูดขึ้นมา “ฉือหลิว เสี่ยวเฟย รีบลงมา อยู่บนตัวน้าพวกลูกไม่ได้แล้ว” 

 

 

หลัวเหมยก็รู้ว่าบ้านซินและบ้านแม่สามีหวังให้เฉินเยี่ยนท้องขนาดไหน ตัวลูกไม่ได้เบาเลย ถ้าไปกระเทือนโดนเฉินเยี่ยนเข้า ลูกในท้องเฉินเยี่ยนเป็นอะไรไป เธอคงรู้สึกผิดมาก 

 

 

เฉินเฟยยังเด็ก แม่ให้เธอลงเธอก็ลงมา 

 

 

เฉินฉือหลิวกลับใช้นัยน์ตาดำขลับของเธอมองเฉินเยี่ยน ปากเล็กเบะแล้วพูด “คุณน้า น้าไม่ชอบฉือหลิวแล้วเหรอคะ?” 

 

 

“ใครบอก น้าชอบฉือหลิวที่สุดเลย” 

 

 

เฉินเยี่ยนบีบจมูกเล็กของเฉินฉือหลิว ท่าทางของเด็กคนนี้ช่างน่ารักเหลือเกิน ลูกสาวของเธอและซินห้าวก็น่าจะน่ารักแบบนี้ 

 

 

“คุณน้าดีที่สุดเลย” 

 

 

เฉินฉือหลิวจุ๊บบนหน้าเฉินเยี่ยน จากนั้นก็ลงมาเอง 

 

 

“ทำไมไม่ให้น้าอุ้มแล้วล่ะ?” 

 

 

เฉินเยี่ยนคิดไม่ถึงว่าเฉินฉือหลิวจะเป็นฝ่ายลงไปเอง เมื่อกี้ยังทำน่าสงสารอยู่เลย 

 

 

“ในท้องคุณน้ามีน้องชายตัวเล็กอยู่ หนูไม่อยากโดนคุณน้า หนูรู้ว่าคุณน้าชอบหนูก็พอแล้ว” 

 

 

เฉินฉือหลิวรู้เรื่องมาก เธอชอบเฉินเยี่ยนมาตลอด เพราะเฉินเยี่ยนทำดีกับเธอ เอ็นดูเธอ แต่เธอไม่ได้มีนิสัยจองหอง เธอหวังให้น้าทำดีกับเธอ เธอจะไม่ทำร้ายคุณน้าและน้องชายในท้องคุณน้าให้บาดเจ็บแน่นอน 

 

 

“ฉือหลิวรู้เรื่องดีจัง” 

 

 

เฉินเยี่ยนลูบผมเฉินฉือหลิว แววตาเต็มไปด้วยความรัก