ตอนที่ 983

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“แน่นอนว่าไม่” ชายหนุ่มชุดฟ้าส่ายหัว “พลังบ่มเพาะของเขาสูงกว่าหลิงฮันหลายขั้น ถ้าเขาชนะก็ไม่ได้หน้าอะไร เช่นนั้นทำไมเขาจะต้องรับคำท้าล่ะ?”

สตรีที่งดงามกล่าว “นายน้อยอาจจะยังไม่รู้ว่าจ้าวหลุนนั้นมีความบาดหมางส่วนตัวกับหลิงฮัน”

“โอ้?” ชายหนุ่มชุดฟ้าแสดงสีหน้าประหลาดใจ เรื่องเช่นนี้เป็นไปได้ด้วยรึ? เจ้าหลุนเป็นคนที่มีอำนาจขนาดไหน? ถ้าจะพูดให้ถูกควรเป็นหลิงฮันฝ่ายเดียวที่ไปล่วงเกินจ้าวหลุน

ชายหนุ่มชุดฟ้ามีชื่อว่าชาหยวน เป็นบุตรชายคนที่สามของนายพลชาจิ่งแห่งจักรวรรดิ พรสวรรค์ในด้านวรยุทธของเขาล้ำเลิศเป็นอย่างมาก เขาบรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดภายในระยะเวลาพันปี ตอนเขาสู้ชั้นสูงสุดของระดับภูผาวารีแล้ว

ที่จริงเขาสมควรจะออกจากสำนักได้แล้วด้วยซ้ำ แต่ถ้าหากบุตรชายของนายพลชาจิ่งต้องการจะอยู่ในสำนักต่อ ใครจะสามารถห้ามเขาได้?

สตรีที่งดงามไม่รอให้อีกฝ่ายถามและเป็นฝ่ายกล่าวบอกเอง “เรื่องนั้นเกี่ยวกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ มีคำกล่าวว่านางมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหลิงฮัน”

ชื่อของนางคือเหลี่ยวหยิง นางเป็นเด็กกำพร้าที่นายพลชาเก็บมาเลี้ยงดู พรสวรรค์ในด้านวรยุทธของนางนั้นยอดเยี่ยม นางเป็นทั้งเพื่อนเล่นสมัยเด็ก คู่ซ้อม และองครักษ์ของชาหยวน นอกจากนางแล้วก็ยังมีองครักษ์คนอื่นอยู่อีกสามคน พวกนางถูกเรียกว่าองครักษ์เสือดาวทั้งสี่

ชาหยวนหัวเราะจนน้ำตาแทบไหล

“จ้าวหลุน นี่เจ้าไร้ความน่าสามารถขนาดนี้เชียว? แม้แต่สตรีของตัวเองก็รักษาเอาไว้ไม่ได้?”

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทายาทของเจ็ดนายพลเหมือนกัน แต่ก็ใช้ว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทั้งเขาและจ้าวหลุนต่างก็เป็นยอดอัจฉริยะของเมืองจักรพรรดิ ดังนั้นพวกเขาจึงมีการชิงดีชิงเด่นกัน

เพราะงั้นชาหยวนจึงหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินว่าจ้าวหลุนเสียหน้าครั้งใหญ่

“เหลี่ยวหยิง เจ้าคงจะไม่นอกใจข้าใช่รึไม่?” จู่ๆชาหยวนก็เอ่ยถาม

จิตใจของเหลี่ยวหยิงสั่นไหวก่อนจะนั่งคุกเข่าและกล่าว “ไม่มีทางที่ข้าจะทรยศนายน้อย!”

ชาหยวนชำเลืองไปที่นาง “เจ้าไม่สืบข้อมูลของชายที่ชื่อหลิงฮันมา ข้ารู้สึกสนใจในตัวเขา!”

“น้อมรับคำสั่ง!” เหลี่ยวหยิงลุกขึ้นยืนและเดินจากไป

……

ถังเฟยแถบจะกลายเป็นบ้า หลิงฮันเมินเฉยคำท้าประลองของเขาและเลือกที่จะไปท้าประลองจ้าวหลุนแทน นี่อีกฝ่ายไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยหรือไง?

เขาอดใจจะทุบตีหลิงฮันไม่ไหวแล้ว การท้าประลองจ้าวหลุนอย่างฉับพลันของหลิงฮันทำให้จุดสนใจของเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง

……

จ้าวหลุนไม่ตอบรับคำท้าของหลิงฮัน แต่ผู้ติดตามของเขาไป๋หยวนซือเป็นฝ่ายขอท้าหลิงฮันกลับ เขากล่าวไม่หลิงฮันนั้นอวดดีและไม่มีคุณสมบัติพอจะสู้กับจ้าวหลุน

ถ้าหลิงฮันต้องการจะสู้ เขาก็จะเป็นคนประลองแทนเอง ซึ่งนั่นจะต้องเป็นการประลองเป็นตาย

ณ เวลานี้ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอว่าหลิงฮันจะตอบรับอย่างไร

ต้องรู้ก่อนว่าแม้ไป๋หยวนซือจะไม่แข็งแกร่งเท่าจ้าวหลุน แต่เขาก็เป็นหัวกะทิระดับภูผาวารีขั้นสูงและเป็นอัจฉริยะสองดาวเกือบจะสามดาว หากต้องประลองกับไป๋หยวนซือมีโอกาสถึงเก้าส่วนที่หลิงฮันจะถูกสังหาร!

แต่ถึงอย่างนั้นหลิงฮันตอบรับคำท้าประลองของไป๋หยวนซือทันที

เมืองจักรพรรดิสั่นสะท้านทันที หลิงฮันนั้นเป็นรุ่นเยาว์ที่กำลังโด่งดังที่สุดในตอนนี้ ส่วนไป๋หยวนซือก็เป็นรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งและมีสถานะคือผู้ติดตามของจ้าวหลุน

หากสองคนนี้ประลองเป็นตายกันจะต้องดึงดูดสายตาผู้คนนับไม่ถ้วนแน่นอน

“อัตราในการพนันเป็นยังไงบ้าง?” หลิงฮันตื่นเต้นเล็กน้อย

หลี่เหว่ยเหว่ยยิ้มและกล่าว “อัตราต่อรองที่เจ้าจะชนะคือหนึ่งต่อร้อย!”

ปากของหลิงฮันกระตุก ถึงแม้เขาจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าอัตราพนันของเขาจะสูง แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่ามันจะถึงหนึ่งต่อร้อย นี่เขาดีใจดีรึไม่?

“ส่วนในด้านของไป๋หยวนซือนั้นไม่มีการพนันที่ว่าเขาจะชนะเจ้าได้รึไม่ แต่เป็นการพนันว่าเขาจะเอาชนะเจ้าในกี่กระบวนท่า…” หลี่เหว่ยเหว่ยอธิบาย

“เจ้าได้ผลประโยชน์มาน้อยขนาดไหน?” หลิงฮันอดถามไม่ได้

“ผลึกก่อเกิดที่เจ้าจะได้คือสี่พัน ส่วนข้ากับพี่สาวเยว่ที่ลงพนันไปคนละสามพันนั้นได้ผลประโยชน์กลับมาหนึ่งแสนผลึกก่อเกิด!” หลี่เหว่ยเหว่ยตื่นเต้น

เงินที่สตรีทั้งสองลงพนันนั้นมากที่เขาได้รับกลับมาเสียอีก!

หลิงฮันถอนหายใจและกล่าว “แน่นอนว่าข้าจะเป็นฝ่ายชนะ”

“อืม!” หลี่เหว่ยเหว่ยพยักหน้าและกล่าวถาม “ทำไมเจ้าถึงได้มั่นใจขนาดไหน?”

“แน่นอน เป็นเพราะข้าแข็งแกร่งไงล่ะ” หลิงฮันหัวเราะ

เรื่องที่จ้าวหลัวจะไม่ตอบรับคำท้านั้นหลิงฮันคาดการณ์เอาไว้แล้ว แต่ที่เขาคาดไม่ถึงคือการที่ไป๋หยวนซือจะเป็นฝ่ายย้อนกลับมาท้าประลองแทนและสร้างผลประโยชน์ให้กับเขา

“ข้าจะเชื่อเจ้าสักครั้ง! แต่ว่าถ้าเจ้าทำให้ข้ากับพี่สาวเยว่เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ พวกข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!” หลี่เหว่ยเหว่ยกล่าว

“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่แพ้แน่นอน!” หลิงฮันยิ้ม

หลิงฮันเต็มไปด้วยการคาดหวัง หลังจากได้เงินพนันมาเขาก็จะเข้าร่วมการประมูลครั้งใหญ่ เขารู้สึกสนใจเป็นอย่างมากว่าการประมูลของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะมีของดีเช่นใดถูกนำมาประมูลบ้าง

ยังมีเวลาอีกสามวันก่อนการประลองจะเริ่ม ในช่วงสามวันนี้เขาใช้เวลาไปกับการดูดซับผลึกภูผาวารีเปลวเพลิงก้อนสุดท้ายเพื่อขัดเกลารากฐานให้มั่นคงจนถึงขีดสุด ในขณะเดียวกันพลังของอักขระศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงของเขาก็ทรงพลังขึ้นอย่างมาก นั่นเพราะเขาดูดซับผลึกภูผาวารีเปลวเพลิงไปถึงเจ็ดก้อนซึ่งมีจำนวนมากกว่าผลึกภูผาวารีแรงโน้มถ่วงมากนัก