TB:บทที่ 308 บริษัทรักษาความปลอดภัย

 

หลังจากที่ได้ยินประโยคของเฉินหลง ใบหน้าของแอนเดสดูแปลกใจจึงตอบกลับไปว่า “อืม… ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยครับ”

ในอดีต เมื่อได้ต่อสู้กับพวกโบสถ์แห่งแสง พวกเขาจะใช้เวทมนต์และศาสตร์มืด แต่พวกเขาไม่เคยมีความคิดที่จะสังหารอีกฝ่ายด้วยกระสุนแล้วสวดส่งมาก่อน ครั้นที่ได้ยินเฉินหลงเสนอวิธีนี้ ทันใดนั้น แอนเดสคิดว่ามันคงเป็นเรื่องที่สิ้นคิดมากถ้าจะต่อสู้กับอีกฝ่ายอย่างพวกอัศวินโดยใช้วิธีเดิมๆ

จากนั้น แอนเดสก็วางแก้วที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะและเตรียมก้าวออกไปจากห้อง

“แอนเดส นั่นคุณกำลังจะไปไหนล่ะครับ?” เฉินหลงถาม

 

“พวกมือปืน ผมรู้จักหน่วยทหารรับจ้างชั้นนำของโลก ผมจะใช้เงินจำนวนหนึ่งจ้างพวกเขาไปกำจัดขยะอย่างพวกโบสถ์แห่งแสงที่นครแห่งหมอก ” แอนเดสตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

ความคิดดีขนาดนี้ ไม่แปลกที่คนอย่างแอนเดสจะลงมือทำทันที

“ผมว่าคุณด่วนสรุปเกินไปแล้วนะครับ อีกอย่าง ทหารรับจ้างพวกนั้นก็เป็นแค่คนธรรมดา ถ้าเราทำพลาด อีกฝ่ายอาจไหวตัวทัน ผมว่าเราควรจัดการกับอีกฝ่ายแบบค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าครับ” เฉินหลงจิบไวน์แบบคนใจเย็น

 

“ถ้างั้น คุณเฉินมีความคิดเห็นอย่างไรละครับ?” แอนเดสหันไปถามเฉินหลง

“เรื่องนั้นง่ายมาก ผมคิดว่าเราสามารถก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยที่นี่ จากนั้นก็รับสมัครทหารผ่านศึกที่กำลังจะเกษียณจากกองกำลังชั้นยอดมาทำงานให้เรา เนื่องจากว่ามีทหารจำนวนไม่น้อยที่ว่างงานหลังเกษียณ ถ้าผมขึ้นราคากลัวว่าจะไม่มีใครมา นอกจากนี้ ถ้าเรามีบริษัทรักษาความปลอดภัย เราจะสามารถใช้โอกาสนี้เก็บอาวุธไว้ที่บริษัทได้ และพวกเราก็ไม่ทิ้งเบาะแสให้พวกโบสถ์แห่งแสงหาตัวเราเจอได้ครับ” เฉินหลงตอบในสิ่งที่ตนคิด

 

“คุณเฉิน ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงมาจากแผ่นดินจีน อาณาจักรโบราณแห่งบูรภา  คุณช่างเป็นคนฉลาดหลักแหลมและมีไหวพริบจริงๆ” เมื่อได้ฟังความเห็นจากเฉินหลง แอนเดสจึงรู้สึกชื่นชมอีกฝ่ายจากใจ

ฝ่ายเฉินหลง เมื่อได้ยินคำชมจากแอนเดส เขาจึงส่งยิ้มให้อีกฝ่าย

จากนั้น แอนเดสลุกขึ้นยืนและสั่งการให้ลูกน้องไปจดทะเบียนบริษัทรักษาความปลอดภัยทันที

 

เนื่องจากสภาแห่งความมืดเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับจากทางโลก การจดทะเบียนบริษัทรักษาความปลอดภัยจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถของเขา

เมื่อเห็นว่าแอนเดสเดินออกไปแล้ว เฉินหลงจึงเดินไปหาบอร์แมน เขาจำได้ว่าบอร์แมนเคยบอกว่าเขาเคยอยู่ในกองทัพมาก่อน แถมยังเป็นถึงระดับหัวหน้า แต่เพราะเหตุจำเป็นบางอย่าง ทำให้เขาต้องลาออกจากกองทัพ และมาอยู่ในแก๊งห้าสี

เมื่อเฉินหลงเดินมาถึงหน้าประตูห้องของบอร์แมน เขาเห็นบอร์แมนกำลังฝึกวิชาร่างเหล็กที่เฉินหลงเป็นคนมอบให้เขาอยู่

วิชานี้ไม่ใช่เคล็ดวิชาลับที่เฉินหลงเอามาจากหว่านซูจื่อ แต่เขานำมันมาจากดาวเคราะห์ที่ได้รับการพัฒนาไปมากกว่าโลก และยังมีการผสมผสานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วยร่างกายอย่างดาวเคราะห์เกาวา

 

มันคือทักษะการต่อสู้แบบโบราณก่อนที่จะถือกำเนิดดาวเคราะห์เกาวา แต่มันได้ถูกลืมไปเพราะการพัฒนาของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่หลังจากการเปลี่ยนแปลงของดาวเคราะห์ ผู้คนบนโลกจึงเริ่มให้ความสำคัญกับทักษะการต่อสู้แบบโบราณ และเพิ่มเทคโนโลยีชั้นสูงลงไปในทักษะการต่อสู้แบบโบราณ ทำให้เกิดการพัฒนาให้กลายเป็นทักษะการต่อสู้รูปแบบใหม่

‘ร่างเหล็ก’ เป็นทักษะชนิดหนึ่งที่ได้จาก ‘ระฆังทอง’ และ ‘เกราะเหล็ก’ ผสมผสานกับการคำนวณทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มันเป็นทักษะที่สมบูรณ์และทรงพลังมากกว่าระฆังทอง

 

เดิมที ร่างกายของบอร์แมนนั้นมีความพิเศษมากกว่าร่างกายของคนทั่วไป การฝึกร่างเหล็กจึงเป็นวิชาที่เหมาะสมกับเขามากที่สุด

ในตอนที่บอร์แมนรู้ว่าเฉินหลงมาหาตน ทันนั้นนั้นเขาก็ได้หยุดการฝึกวิชา

“ท่านอาจารย์!”

“หึ ตอนอยู่ที่นี่ นายไม่จำเป็นต้องเรียกฉันว่าท่านอาจารย์หรอก เรียกฉันว่าเจ้านายก็พอแล้ว ว่าแต่ บอร์แมน นายฝึกร่างเหล็กไปถึงไหนแล้วล่ะ” เฉินหลงถามบอร์แมน

เมื่อได้ยินเฉินหลงพูดคำว่าร่างเหล็ก ทันใดนั้นบอร์แมนก็ได้แสดงความตื่นเต้นออกมาผ่านใบหน้าพร้อมกับตอบอีกฝ่ายไปว่า “เจ้านาย วิชาที่คุณสอนผมมันสุดยอดมากเลยครับ หากผมฝึกร่างเหล็กขั้นแรกสำเร็จ ผมเชื่อว่าคนอย่างหวู่เต่าเทียนไม่มีทางทำอะไรผมได้แน่นอนครับ แต่ว่าตอนนี้ผมเพิ่งเริ่ม และยังต้องศึกษามันอีกเยอะ… “

 

“ดี พยายามฝึกเข้าล่ะ มีอีกเรื่อง ฉันจำได้ว่านายเคยบอกว่านายมาจากหน่วยรบพิเศษของเยอรมัน ใช่ไหม?” เฉินหลงถาม

“ใช่ครับ” ดูเหมือนบอร์แมนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ จึงตอบเฉินหลงไปแค่สองคำ

“จะว่าไป ตอนนี้ฉันมีแพลนที่จะก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย และกำลังหาคนเก่งๆที่เคยผ่านการฝึกมาก่อน ส่วนเรื่องของเงิน นายเองก็น่าจะรู้ดีว่า ฉันเป็นคนใจกว้างขนาดไหน เอาเป็นว่า ถ้านายรู้จักคนเก่งๆ ลองแนะนำให้เขามาทำงานกับบริษัทของฉันได้นะ” เฉินหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เรื่องจริงเหรอครับ? เจ้านาย” บอร์แมนหันไปถามเฉินหลง

“จริงสิ แต่คนที่จะมาทำงานที่บริษัทนี้ ฉันไม่ได้ให้พวกเขาเล่นสนุกไปวันๆหรอกนะ เขาต้องพร้อมเสียสละชีวิตของตัวเองด้วย เอาเป็นว่า บอร์แมน ถ้ามิตรสหายของนายอยากทำงานที่นี่ก็เตือนพวกเขาก่อนก็แล้วกัน”  เฉินหลงพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ในเวลาเดียวกัน บนใบหน้าของบอร์แมนปรากฏรอยยิ้ม “เจ้านาย ถ้าทหารไม่สละชีวิตของตัวเองแล้ว เราจะยังเรียกเขาคนนั้นว่าทหารได้ยังไงละครับ ส่วนเรื่องค่าจ้างที่เจ้านายบอก ผมคิดว่าพวกเขาคงไม่มีปัญหาอะไร ผมจะชวนเพื่อนเก่ามาทำงานทีนี่ ผมขอรับประกันว่าพวกเขาทุกคนล้วนเป็นคนที่มีฝีมือครับ”

“ดี ฉันจะปล่อยให้นายจัดการเรื่องนี้ก็แล้วกัน แล้วก็ถ้าพวกเขาทำงานสำเร็จ ฉันอาจจะใจดียกนิวเวิลด์ให้เป็นรางวัลตอบแทน” ในตอนที่เฉินหลงพูดจบ เขาก็เดินออกไปจากห้องของบอร์แมนทันที

บอร์แมนรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เมื่อได้ยินว่า เฉินหลงจะยกนิวเวิลด์เวอร์ชั่นสมบูรณ์ให้เป็นรางวัล

 

เขาทราบดีว่านิวเวิลด์เวอร์ชันสมบุรณ์นั้นสุดยอดขนาดไหน ถึงคนที่มีระดับกำเนิดอย่างเขาจะสามารถพัฒนาฝีมือได้เพียงเล็กน้อย แต่สำหรับอดีตเพื่อนในกองทัพของเขาแล้ว ถ้าพวกเขาได้ใช้นิวเวิลด์เวอร์ชั่นสมบูรณ์ พลังของพวกเขาจะต้องเลื่อนขั้นไปสู่ขอบเขตใหม่ได้แน่นอน และนี่คือสิ่งที่บอร์แมนตั้งตารอ

 

ทันทีที่นึกขึ้นมาได้ บอร์แมนก็ได้ติดต่อไปหาอดีตสหายจากกองทัพทันที

เขารู้มาว่าตั้งแต่ที่เขาโดนลาออกจากกองทัพ สหายร่วมศึกก็ได้ออกจากกองทัพด้วยเช่นกัน แต่พวกเขากลับมีชีวิตที่ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นัก ในตอนที่บอร์แมนได้เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งห้าสี เงินส่วนหนึ่งที่เขาหามาได้จากการทำงานสำเร็จจะถูกแบ่งให้กับอดีตสหายจากกองทัพ โดยเขาหวังว่าชีวิตของพวกเขาจะดีขึ้น ในทำนองเดียวกัน เขาเองก็รู้นิสัยของพวกพ้องเป็นอย่างดี เขาจึงส่งเงินไปให้พวกเขาโดยไม่เปิดเผยตัวตน

 

บางครั้งที่เขาส่งเงินไป ถ้าพวกเขาไม่อยากใช้ ต่อให้มีชีวิตที่ลำบากและทุกข์ยากขนาดนั้น พวกเขาก็จะไม่ใช้ เงินที่เขาส่งไปเลยสักแดง

ในที่สุด ตอนนี้ เขาก็สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้โดยให้พวกเขามีงานทำและหาเลี้ยงตัวเองได้

สามวันต่อมา เหล่าพวกพ้องและสหายของบอร์แมนก็ได้เดินทางมาถึงสนามบินลิเวอร์พูล

ในตอนที่บอร์แมนได้พบกับมิตรสหาย ในดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างปิดไม่อยู่ เขาดีใจมากที่ได้พบกับเพื่อนแท้ที่ยินดีร่วมทุกข์ร่วมสุขและสละชีพไปพร้อมกับเขาในสมรภูมิ

“กัปตันบอร์แมน ทหารทั้งสามสิบสองนายจากหน่วยพิฆาตรมังกรได้มาถึงที่นี่ครบทุกคนแล้วครับ” ชายผิวขาว ร่างใหญ่ ที่มีส่วนสูงและมัดกล้ามพอๆกับบอร์แมนคนหนึ่ง กล่าวทักทายเขาพร้อมกับทำท่าวันทยหัตถ์

“กัลเบิร์ต กลับไปคุยกันที่ปราสาท” โบลแมนตอบชายผิวขาวร่างใหญ่

จากนั้น กัลเบิร์ตก็พาทหารทั้งสามสิบสองนายไปที่ปราสาท

โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่า การปรากฏตัวของนายทหารและกัลเบิร์ตนั้นกำลังตกอยู่ในสายตาของใครบางคน