ตอนที่ 1727 ชะตาที่ซับซ้อนและยุ่งเหยิง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

เบื้องหน้าเย่หยวนนั้นชื่อเริ่มเรืองแสงขึ้นมาติดๆ กันจริงๆ

ยันต์แปดทิศส่องแสงสว่างวาบไปมา ผสานหยินหยางเปิดเผยชะตาแห่งยอดเต๋า

ชื่อของเยวี่ยเมิ่งลี่ลอยออกมาจากกระดาษที่เขียนและถูกดูดเข้าไปในห้วงแสงหมุนของยันต์แปดทิศ

สุดท้ายชื่อของเยวี่ยเมิ่งลี่ก็แตกออกและกลายเป็นก้อนแสงเล็กๆ กระจายรวมเข้ากับพายุแสงไป

“อ่อก!”

จู่ๆ เจียนหงเซียวก็รู้สึกได้ถึงรสหวานที่ลำคอและต้องกระอักเลือดออกมา คลื่นพลังจากตัวของเขาค่อยๆ เบาบางจางหายไปเรื่อยๆ

“ผู้อาวุโส!” เย่หยวนหน้าถอดสีและตะโกนขึ้นมา

แต่เจียนหงเซียวก็ยกมือขึ้นมาโบกปัด “ไม่เป็นไร ต่อไป!”

ตอนนี้เขาพยายามที่จะฝืนใช้วรยุทธวิญญาณลับโกลาหลเพื่อทำให้ยันต์แปดทิศนั้นเคลื่อนหมุนออกไปอีกครั้ง

เย่หยวนต้องเปลี่ยนสีหน้าไปมาหลายทีเมื่อได้เห็นภาพนี้ เขาสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะค่อยๆ หันไปอ่านชื่อที่เหลือในใจ

จากนั้นชื่อของคนที่เหลือก็มีสภาพคล้ายๆ กับชื่อของเยวี่ยเมิ่งลี่ มันลอยเข้าไปผสานกับยันต์แปดทิศ

และระหว่างนั้นเจียนหงเซียวก็กระอักเลือดออกมาหลายต่อหลายทีติดๆ กัน ดูท่าทางเหมือนจะแก่ลงไปหลายปีทีเดียว

เย่หยวนเห็นเช่นนั้นเขาย่อมรู้ได้ทันทีว่าเจียนหงเซียวกำลังรับผลสะท้อนจากยอดเต๋า อายุขัยของเขากำลังเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ

เย่หยวนคิดตั้งมั่นขึ้นในใจว่าวันข้างหน้าหากเขาได้ประสบความสำเร็จแล้วเขาจะต้องกลับมาช่วยรักษาเจียนหงเซียวให้กลับไปอยู่ในสภาพสมบูรณ์ให้ได้

เมื่อแสงจางหายไป การทำนายของเจียนหงเซียวก็จบลงในที่สุด

เย่หยวนรีบวิ่งไปประคองเขาและถามอย่าเป็นกังวล “ท่านผู้อาวุโส ท่าน…เป็นอะไรมากหรือไม่?”

เจียนหงเซียวพยายามฝืนกลืนจิตของตัวเองลงไปและกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ข้ายังไม่ตายหรอก แต่แค่ทำนายชะตาคนไม่กี่ผู้กลับทำให้เฒ่าคนนี้เสียอายุขัยไปนับหมื่นๆ ปี หึๆ หากข้าไปทำนายดวงชะตาเจ้าเข้า เฒ่าคนนี้คงได้แต่กระอักเลือดตายแน่ รัศมีผ่าจักรพรรดิมันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน!”

เจียนหงเซียวนั้นมีความรู้เข้าใจในศาสตร์ลึกลับอย่างมาก และเขาก็ยึดมั่นในความแข็งแกร่งนี้ของตัวเองมาตลอด

แต่เขาไม่เคยคิดเคยฝันว่าในวันนี้ แค่การทำนายหาที่อยู่ของคนสนิทเย่หยวนไม่กี่คน ตัวเขากลับต้องรับผลสะท้อนรุนแรงแบบนี้

การทำนายในครั้งนี้เขาถึงขั้นที่ปิดกั้นชะตาจากเย่หยวนและพยายามทำการทำนายจากมุมอื่นแทน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ยังน่าขนลุกไม่น้อย

เจียนหงเซียวคิดไม่ออกเลยว่าหากตัวเขาไปทำนายดวงชะตาของเย่หยวนเข้าตรงๆ มันจะเกิดอะไรขึ้นกันเขา

รัศมีผ่าจักรพรรดิ มันช่างเป็นดวงชะตาที่เหนือฟ้าดินเสียนี่กระไร!

เขาทนทานรับมันไว้ไม่ไหว!

เย่หยวนค่อยๆ ประคองตัวเจียนหงเซียวลุกขึ้นมานั่งบนฟูก เจียนหงเซียวเองก็เงยหน้าขึ้นไปมองดูเย่หยวนและบอก “เฒ่าคนนี้ล่ะสงสัยจริงๆ ว่าชะตาของสหายหนุ่มเย่หยวนจะเป็นอย่างไร แต่น่าเสียดายที่พลังฝีมือของข้ามันยังด้อยเกินไป! ดูท่าคนที่จะทำนายดวงชะตาให้เจ้าได้คงมีแต่ท่านบรรพบุรุษแล้ว!”

สำหรับคนตระกูลเจียนแล้ว การได้เห็นผู้มีดวงชะตาแข็งแกร่งเหมือนเย่หยวนนั้นมันเหมือนได้เห็นสมบัติโอสถล้ำค่าตรงหน้า

มันเป็นความอยากรู้อยากเห็นที่ยากจะกดไว้

ไม่เช่นนั้นเจียนปิงก็คงไม่พลาดไปมองดูเย่หยวนด้วยคำพูดช่วยสงสัยแค่ไม่กี่คำหรอก

แต่น่าเสียดายที่ชะตาของเย่หยวนนั้นมันช่างเจิดจ้าจนแม้แต่เจียนหงเซียวก็ยังไม่สามารถมองดูมันได้

การจะทำนายเรื่องใดๆ ให้เย่หยวนนั้นคนผู้ทำนายต้องเข้าหาทางอ้อมแทน

และความยากของมันนั้น มันยากจนเกินกว่าที่ผู้คนทั่วๆ ไปจะเข้าใจได้เลย

มีแต่เจียนหงเซียว ยอดคนระดับนี้เท่านั้นที่จะพอทำได้

เย่หยวนยิ้มตอบ “หวังว่าสักวัน ข้าจะได้รับการทำนายจากท่านจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้จริงๆ!”

เจียนหงเซียวยิ้มรับ “คำพูดนั้นของเจ้ามันอาจจะเป็นจริงเข้าสักวัน เฒ่าคนนี้เองก็ได้ดูดวงชะตาให้เจ้าแล้ว ชะตาของเจ้านั้นมันไม่ธรรมดา แม้แต่ในหมู่คนที่มีรัศมีผ่าจักรพรรดิ เจ้าก็ยังนับได้ว่าสูงส่ง!”

เย่หยวนพยักหน้าและถามอย่างกังวล “แล้วท่านผู้อาวุโส เรื่องนั้น…ผลออกมาเป็นอย่างไรบ้าง?”

เจียนหงเซียวมองดูเย่หยวนอย่างเหนื่อยอ่อน “มีผล แต่ก็ไม่นับได้ว่ามี เฒ่าคนนี้พยายามอย่างสุดความสามารถแล้วจริงๆ แต่ก็ยังเห็นมันแค่เล็กน้อยเท่านั้น”

เย่หยวนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะก่อนจะถาม “ท่านผู้อาวุโสโปรดบอกมาเถิด”

เจียนหงเซียวยิ้ม “เจ้าอย่าได้กังวลไปนัก ดูจากสภาพตอนนี้แล้วอย่างน้อยๆ ทั้งสี่คนก็ยังไม่ตาย”

คำพูดนั้นมันเหมือนลมเป่าภูเขาออกจากอกเย่หยวนและทำให้เขาวางใจลงได้ระดับหนึ่ง

ตราบเท่าที่คนยังไม่ตาย เรื่องราวต่างๆ มันย่อมพูดคุยกันต่อได้

เพราะสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดก็คือเรื่องราวสุดเลวร้ายนั้นจะเกิดขึ้น

เย่หยวนจึงหายใจเข้าลึกและถาม “ท่านผู้อาวุโสโปรดชี้แนะ”

เจียนหงเซียวพยักหน้า “ดูจากที่การทำนายบอกมา สาวน้อยนามเยวี่ยเมิ่งลี่นั้นถูกป้องไว้โดยความลับสวรรค์ เฒ่าคนนี้มองอะไรไม่เห็นเลย”

เย่หยวนเปลี่ยนสีหน้าไปทันที “เรื่องนี้มันหมายความว่าอย่างไรท่านผู้อาวุโส?”

เจียนหงเซียวบอก “เฒ่าคนนี้คิดไว้หลายสถานการณ์ อย่างแรงคือนางได้พบเจอโอกาสทองและเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเองไปให้เหนือฟ้าดิน ทำให้โชคชะตาของนางไม่เหมือนดังก่อนและถูกความลับสวรรค์ปกปิดไว้ ส่วนอย่างที่สอง…คือมีใครบางคนจงใจปิดปังชะตาของนางไว้ ทำให้เจ้าไม่สามารถหานางพบ แน่นอนว่าอย่างที่สามก็คือนางไปติดอยู่ในมิติวิเศษที่ไหนสักแห่ง ที่มิตินั้นมีความลับของสวรรค์ปกปิดครอบคลุมไว้”

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่น หากเป็นอย่างแรกมันย่อมไม่มีปัญหา แต่หากเป็นอย่างที่สองหรือสาม มันคงเป็นเรื่องยากแล้ว

ปกปิดด้วยความลับสวรรค์ ต่อให้เจียนหงเซียวก็ทำอะไรกับมันไม่ได้

ต่อให้เย่หยวนจะอยากหา แต่เขาก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มที่ใด

จู่ๆ เย่หยวนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาไม่น้อย

เพราะสถานการณ์ตอนนี้มันเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดไปมาก

เดิมทีเรื่องราวต่างๆ ในอดีตเย่หยวนมักเข้าเผชิญกับมันอย่างมีแบบแผน แต่ตอนนี้เรื่องราวมันช่างเหลือเกินมือเขาจริงๆ

เมื่อได้เห็นใบหน้านั้นของเย่หยวน เจียนหงเซียวก็พูดต่อ “แม้ว่าเฒ่าคนนี้จะหาที่อยู่ของนางไม่ได้ แต่จากที่ดูเมื่อสักครู่นี้ชะตาของพวกเจ้าทั้งสองยังไม่ขาดจากกัน สักวันพวกเจ้าต้องได้เจอกันอีกแน่!”

ได้ยินแบบนั้นเย่หยวนก็ถอนหายใจยาวออกมา “ท่านผู้อาวุโส คนอื่นๆ เล่า?”

เจียนหงเซียวบอก “ภูติเพลิงตนนั้นเฒ่าคนนี้จับได้ว่าตอนนี้น่าจะอยู่ในดินแดนของเหล่าภูติเพลิง หากมองเช่นนี้มันคงเป็นประโยชน์กับเจ้าตัวไม่น้อย และเด็กสาวนามลู่เอ๋อนั้นก็ปลอดภัยดี แต่อิ้งหมัวหู่คนนี้ต่างหาก สถานการณ์ของเขานั้นไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่”

นั่นทำให้เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นทันที “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับอิ้งหมัวหู่กัน?”

เจียนหงเซียวส่ายหัว “ไม่ทราบได้ นี่มันก็เป็นขีดจำกัดของเฒ่าคนนี้แล้ว เฒ่าคนนี้ไม่สามารถจะทำนายหาข้อมูลใดๆ มาได้อีกเลย! แต่ว่าสิ่งที่เฒ่าคนนี้รู้ก็คือเขาน่าจะอยู่ในอาณาจักรเทพอสูร”

นั่นทำให้เย่หยวนเริ่มใจคอไม่ดี “เหมือนว่าข้าคงต้องเดินทางไปยังอาณาจักรเทพอสูรเสียแล้ว! ท่านผู้อาวุโส ท่านช่วยลงรายละเอียดอีกหน่อยได้หรือไม่?”

เจียนหงเซียวยิ้มออกมาอย่างขื่นขม “เฒ่าคนนี้รู้ดีว่าอาณาจักรเทพอสูรมันยิ่งใหญ่ไพศาลแค่ไหน แต่นี่มันก็คือที่สุดที่เฒ่าคนนี้จะมองเห็นแล้วจริงๆ”

เย่หยวนหายใจเข้าลึก “ข้าทราบแล้ว!”

พูดจบเย่หยวนก็ค่อยๆ ลุกขึ้นและก้มหัวลงต่อหน้าเจียนหงเซียว “พระคุณนี้ของผู้อาวุโสเย่หยวนจะไม่มีทางลืมเลือน! ในวันหน้าข้าจะต้องตอบแทนมันอย่างงามแน่นอน!”

เจียนหงเซียวโบกมือปัดและตอบมาด้วยรอยยิ้มขื่นขม “ดูเหมือนว่า…เฒ่าคนนี้จะประเมินตัวเองสูงไปหน่อย! เรื่องที่ข้ามองเห็นนั้นมันน้อยกว่าที่คิดไว้มาก ดีแล้วที่เจ้าไม่ติดใจอะไร”

เย่หยวนบอก “ผู้น้อยจะยังไปติดใจอะไรได้? แค่การที่ท่านผู้อาวุโสช่วยทำนายให้นี้มันก็เป็นบุญคุณล้นพ้นกับผู้น้อยแล้ว อย่างน้อยๆ ตอนนี้ผู้น้อยก็ได้มีทิศทางที่จะไปแล้ว ที่สำคัญเย่หยวนคนนี้ยังรู้ด้วยว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับท่านผู้อาวุโสมันคงมากเกินกว่าที่พันปีจะรักษาหาย สังเวียนร้อยศึกรอบหน้าคงต้องเลื่อนออกไปอีกครั้งแล้ว!”

เจียนหงเซียวนั้นสูญเสียไปมากกว่าที่เขาคาดไว้นัก

ตอนนี้สภาพของเขาอ่อนแอมาก มากจนไม่มีทางที่จะหายได้ในระยะแค่พันปี

แค่เห็นแบบนี้ เขาก็รู้ได้เลยว่าเจียนหงเซียวต้องจ่ายไปมากแค่ไหนเพื่อช่วยเขาในครั้งนี้

…………………………