เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 844
ตอนนี้คนพวกนี้นั้นกำลังทำให้เขานั้นลำบาก อีกทั้งยังไม่เอาเขานั้นมาอยู่ในสายตาอีก
นี่ทำให้หนิงหวูเชวนั้นยิ่งโกรธเข้าไปอีก!
หนิงหวูเชวนั้นไม่ได้เกรงใจอีกต่อไปก่อนเอ่ย “พวกคุณนับว่าเป็นอะไรกัน?พวกเราตระกูลหนิงนั้นยังไม่ได้ถึงตาของพวกคุณที่จะเอ่ยเรื่องสามเรื่องสี่อีกนะ!”
เมื่อเอ่ยดังนี้
หนิงหวูเชวได้ใช้สายตากวาดไปทั่วห้อง
เขาเพิ่งทราบว่าคนที่เอยออกมานั้น เป็นแค่ผู้ถือหุ้นตัวเล็กๆเท่านั้น
พวกผู้ถือหุ้นรายเล็กพวกนี้ เบื้องหลังนั้นเป็นถึงตระกูลอันดับรองของจงโจว
เป็นถึงตระกูลหนิงที่ร่ำรวย เดิมทีนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเอาพวกผู้ถือหุ้นรายย่อยพวกนี้มาไว้ในสายตา
แต่ว่าพวกผู้ถือหุ้นรายย่อยพวกนี้ หลายคนนั้นเป็นเสมือนตัวแทนของผู้ถือหุ้นรายใหญ่
บางผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั้นก็ไม่สะดวกที่จะออกมา เลยทำให้พวกผู้ถือหุ้นรายใหญ่พวกนี้นั้นออกมาแสดงแทน คิดว่าเขานั้นไม่ทราบหรือไง?
อย่างที่คิด
เมื่อหนิงหวูเชวเพิ่งจะเอ่ยจบ
ผู้ถือหุ่นรายย่อยไม่กี่คนก็รีบกระโดดออกมา
“คุณชายหนิง ที่คุณเอ่ยแบบนี้มันไม่ถูกแล้วนะ!”
“พวกเรานั้นก็เป็นถึงผู้ถือหุ้นของชิงเฉิงกรุ๊ปนะ ที่ชิงเฉิงกรุ๊ปนั้นสามารถพัฒนายืนหยัดจนถึงวันนี้ เป็นเพราะทุกคนนั้นพยายามกันออกมา”
“คุณไม่สามารถที่จะเป็นเพราะตระกูลหนิงนั้นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แล้วคุณนั้นก็จะไม่สนใจผลประโยชน์ของผู้ถือหุ่นรายย่อยหรอกนะ?”
“หรือจะเอ่ยว่า พวกคุณตระกูลหนิงนั้นข้ามสำเร็จไปแล้วก็จะทิ้งพวกเราอย่างงั้นหรอ?”
……
เมื่อเอ่ยถึงในจุดนี้
มีผู้ถือหุ้นไม่น้อยเลย ที่จะมองไปที่หนิงหวูเชวด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตร
หากเป็นจริงที่ว่าตระกูลหนิงนั้นจะข้ามไปแล้วทิ้งพวกเราเอาไว้
พวกเขาผู้ถือหุ้นพวกนี้ แน่นอนว่าจะต้องทำให้พวกตระกูลหนิงนั้นไม่ได้มีวันดีๆต่อไปแน่
ไม่อย่างงั้น ทุกคนก็ตัดขาดกันเลย ใครก็อย่างหวังว่าจะได้ดีไปเลย!
คนอื่นๆนั้นไม่ได้เอ่ยออกมา แต่ก็ได้มองไปที่หนิงหวูเชว แต่เต็มไปด้วยความสะใจ
พวกเขานั้นอยากจะเห็น ว่าหนิงหวูเชวนั้นจะจัดการกับวิกฤตนี้อย่างไร!
หากหนิงชิงเฉิงนั้นได้เข้ามานั่งใสตำแหน่งประธานของชิงเฉิงกรุ๊ป
อาศัยศักดิ์ศรีของหนิงชิงเฉิงที่เคยอยู่ในชิงเฉิงกรุ๊ป พวกเขาพวกนี้แน่นอนว่าไม่กล้าที่จะต่อกร!
แต่ว่าหนิงหวูเชวเขานั้นเป็นตัวอะไรกัน?
เป็นแค่คนรุ่นต่อไปของตระกูลที่ร่ำรวยมีอำนาจเฉยๆ
หากว่าเขานั้นไม่ใช่คุณชายที่มาจากตระกูลหนิง เกรงว่าแทบจะไม่เหมือนแม้แต่ลูกหมาตัวหนึ่ง!
ในห้องประชุม ถึงแม้จะไม่ได้มีการต่อสู้กันจนเกิดควันไฟอะไร
แต่ว่าใครก็ทราบดี ว่านี่เหมือนกับเกมการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ที่ดุเดือด
หากหนิงหวูเชวนั้นไม่สามารถที่จะจัดการกับวิกฤตนี้ได้
งั้นตระกูลหนิงนั้น ก็มีสิทธิ์ที่จะถูกเตะออกจากบริษัทชิงเฉิงกรุ๊ป!
เมื่อต้องเผชิญกับความกดดันกับพวกคนเหล่านี้
ทันใดนั้นหนิงหวูเชวก็ได้ยิ้มออกมา
แค่ตนเพิ่งมาถึงก็โดนข่มเหงกลั่นแกล้งกันแล้วหรอ?
กลั่นแกล้งที่เขานั้นไม่มีศักดิ์ศรีหรอ?
กลั่นแกล้งที่เขานั้นไม่ได้เข้าใจถึงบริษัทชิงเฉิงหรอ?
ก็ดี
ในรอบนี้ เขานั้นจะทำให้คนพวกนี้ผิดหวัง !
“คุณเป็นคนไหน??”
หนิงหวูเชวเงยหน้าขึ้น ก่อนที่จะใช่นิ้วชี้ไปยังคนที่เพิ่งจะกระโดดออกมา แล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
คนที่ถูกชี้นั้น เขานั้นเอ่ยอย่างไม่แยแส “ผมนั้นเป็นคนของตระกูล เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ลำดับสี่ของชิงเฉิงกรุ๊ป!”
“ใช่หรอ?”
หนิงหวูเชวลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะเดินเข้าไปหา
ทันใดนั้น
เขานั้นได้ยื่นมือออกไปบีบคอของฝั่งตรงข้าม
หมับ!
ฝั่งตรงข้ามเขาทั้งคนนั้น ได้ถูกหนิงหวูเชวนั้นบีบตั้งแต่เก้าอี้ให้ลุกขึ้น!
“หนิงหวูเชว คุณอยากจะทำอะไรกัน? รีบปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ!”
ฝั่งตรงข้ามไม่คิดเลย ว่าหนิงหวูเชวนั้นจะรีบลงมือขนาดนี้
สีหน้าของเขานั้นนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง และทั้งร่างกายนั้นก็ไม่หยุดที่จะดิ้น
สีหน้าของคนอื่นๆนั้นต่างก็ตกใจ
ไม่มีใครคาดถึงมาก่อน ว่าหนิงหวูเชวนั้นจะไม่เอ่ยเหตุผลอะไรเช่นนี้
ว่าจะลงมือก็ลงมือ?
หรือว่าเขานั้นไม่กลัวว่าจะทำให้คนอื่นๆนั้นโกรธขึ้นมา?
แต่ว่า ไม่ว่างฝั่งตรงข้ามจะดิ้นรนอย่างไร เขาว่าก็ไม่สามารถที่จะหลุดพ้นจากมือทั้งสองข้างของหนิงหวูเชว
มือของเขานั้น เหมือนราวกับกรงเล็บของเสือ ที่จับไปที่คอของฝั่งตรงข้ามอย่างแน่น!
สีหน้าของคนนี้นั้น ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด!
ลมหายใจที่ค่อยๆหายใจไม่ออก ที่เจ็บจนหัวใจจนถึงหัวสมอง!
“พูดให้น้อยๆหน่อยนะ คุณนั้นไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเอ่ยออกมา!”