บนภูเขาลูกใหญ่แห่งนี้ได้มีสงครามขนาดใหญ่เกิดขึ้นต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่าและตอนนี้การควบคุมทุกอย่างก็ตกเป็นหน้าที่ของเหอเฟิงที่จะต้องจัดการต่อ
ขณะเดียวกันเมื่อสงครามของทีมเขี้ยวหมาป่าในป่าลึกจบลงสงครามระหว่างทีมเขี้ยวหมาป่าและกองทัพซอมบี้มหาศาลที่เริ่มตั้งแต่ตีนภูเขาก็มาถึงจุดสิ้นสุดเหมือนกัน เมื่อไม่มีลูกผสมคอยบงการอยู่เบื้องหลัง ซอมบี้ทั้งหลายก็ถูกทีมเขี้ยวหมาป่าจัดการฆ่าราบคาบไม่เหลือ จนบนภูเขาลูกนี้ไม่มีซอมบี้เหลือรอดแม้แต่ตัวเดียว
เหอเฟิงนำทหารมากกว่า3,000 คนกรุยทางไปข้างหน้าโดยก็ไม่รู้เหมือนว่ามันจะมีอะไรรอพวกเขาอยู่
และหลังจากลุยจัดการฆ่าซอมบี้ตลอดทางมาเป็นเวลาสองวันจนหมดในที่สุดกองทัพทหารเกณฑ์ใหม่ขนาดใหญ่ของเหอเฟิงก็ได้กลับมาเจอกับเฉินช่าวเย่และคนอื่นๆ
เมื่อได้เห็นกลุ่มเพื่อนทหารที่จำนวนลดลงไปอย่างมากอีกทั้งมีหลายคนที่ถูกหามขึ้นเปลด้วยสภาพร่างกายย่ำแย่ไม่สู้ดี ราวกับทุกคนโดนพายุลูกยักษ์ถล่มใส่มาก็ไม่ปาน เหอเฟิงและเหล่าทหารเกณฑ์ใหม่ทั้งหลายก็รู้สึกใจหายขึ้นมาทันที
ทีมเขี้ยวหมาป่าที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานในหัวใจของพวกเขาสูญเสียคนไปมากขนาดนี้เลย?!
ยิ่งเห็นเช่นนี้ทีมทหารเกณฑ์ใหม่ 3,000 คนก็ยิ่งเดือดดาลเข้าไปอีก พวกเขาได้ยินว่าการต่อสู้แรกเริ่มนั้นเพื่อนทหารของพวกเขาต้องสู้กับลูกผสมทั้งหมด 1,500 ตัว
แต่ตอนนี้ที่ทีมเขี้ยวหมาป่ากลับมาแบบนี้แปลว่าลูกผสมทั้งหมดนั้นถูกฆ่าตายหมดแล้วเหรอ?
ต้องใช่แน่ๆ!
ในตอนนั้นเองเฉินช่าวเย่ที่รู้สถานการณ์ก่อนหน้านี้ก็เข้าประชิดตัวเหอเฟิงและรายงานสถานการณ์ให้ฟังทันทีใบหน้าอ้วนกลมสั่นเทิ้มด้วยความโกรธที่สุมแน่น “ไอ้ไก่ตาขาว นอกจากหัวหน้าแล้ว ทีมกุ้งเสือดำ ความลับของพระเจ้า หลงยา ฮูหยา นักฆ่าขนนกต้องรับมือกับกลุ่มลูกผสมทั้งหมด 1,500 ตัวแล้ว ก็ยังมีไอ้พวกกองกำลังศัตรูที่ไม่รู้จักใช้โอกาสลอบโจมตีตลบหลังทุกคนทันทีหลังจากพึ่งจบสงคราม แถมพวกมันยังมีแต่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ทั้งหมด 500 คน ระยะต่ำสุดก็สูงถึงระยะ 4 แถมกองกำลังสามในห้าส่วนของพวกมันก็เป็นทีมยิงปืนระยะไกลที่มีฝีมือระดับสูง อาวุธล้ำหน้าที่สุดในโลกาวินาศที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล พวกมันตั้งใจจะทำลายทีมเขี้ยวหมาป่าให้ได้! พวกมันรู้ว่าทีมเขี้ยวหมาป่าถนัดการต่อสู้ประชิดแบบแนวราบ! ไอ้พวกหมาหมู่ขี้ขลาด!”
พอเฉินช่าวเย่เล่าออกมาบางคนที่ได้ยินก็แทบจะลืมหายใจ…เฉินช่าวเย่หมายความว่ายังไง? หลิวยู่ติงหรี่ตาลงอย่างใช้ความคิดอยู่พักหนึ่งมือกำหมัดแน่น “ไอ้พวกเวรนั่นมันจงใจเลือกช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุดของทีมเขี้ยวหมาป่า?!”
”ใช่”เฉินช่าวเย่ตอบ “ทีมเขี้ยวหมาป่าของเราไม่ได้พังตอนที่สู้กับกลุ่มลูกผสม ทหารของเราถูกฆ่าตายเพราะทีมยิงปืนของกองกำลังที่ไม่รู้จักนั่นต่างหาก โชคยังดีที่ฉันพาทหารอีก 500 คนตามมาช่วยได้วินาทีสุดท้าย แต่แล้วมันก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น”
หลิวยู่ติงหันไปมองกัปตันทีมทั้งสามทีมที่ยืนเงียบอยู่ทางด้านหลังเขารู้ว่าเวลานี้มันยังไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเดินกระซิบคุยไปกับเฉินช่าวเย่ตามทางไปเรื่อยๆ
ทหารบางคนของทัพเขี้ยวหมาป่าก็ตะลึงกันหมดพวกเขาได้ยินบทสนทนาที่น่าตกตะลึงจากเฉินช่าวเย่และหลิวยู่ติง ในใจต่างนึกไม่ออกเลยว่าก่อนหน้านี้ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับสงครามที่น่าหวาดกลัวมากกันขนาดไหน
เหอเฟิงเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันเขามองไปรอบๆเพื่อสำรวจก่อนจะพบว่าไม่มีชูฮันให้เห็นเลย สีหน้าอึ้งๆปนช็อคก่อนจะถามออกมา “ชูฮัน?”
ในตอนนั้นเองซูเฟิงก็เดินเข้ามาหาเหอเฟิง เอ่ยกระซิบเสียงหนักข้างๆหู “เกาช้าวฮุ่ยพาตัวไปรักษา ตอนนี้สภาพของชูฮันกำลังอยู่ในวิกฤต”
”อะไรน่ะ?”เหอเฟิงไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ตัวแข็งชะงักค้างหยุดเดินทันที หน้าตาซีดเผือด
คำพูดของซูเฟิงแม้จะไม่ชัดเจนแต่เหอเฟิงสามารถสัมผัสได้ถึงความจริงจังและตึงเครียด เช่นเดียวกับทหารหลายร้อยคนด้านหลังซูเฟิงเหมือนกัน สีหน้าของทุกคนไม่สู้ดีนัก…ทั้งๆที่ชนะ แต่พวกเขาไม่รู้สึกว่ามันคือชัยชนะเลย
เห็นได้ชัดว่าชูฮันน่าจะบาดเจ็บสาหัส… ”ทุกคนห้ามพูดเรื่องนี้อีก”ซูเฟิงออกคำสั่งทันที ทุกคนที่รู้เรื่องก็พลันปิดปากสนิท ขณะที่คนที่ไม่รู้ก็ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถาม
ห้ามพูดถึงสถานการณ์ของชูฮันเพราะเมื่อไหร่ที่ข่าวการได้รับบาดเจ็บรุนแรงของชูฮันแพร่ออกไปละก็ มันก็จะตามมาด้วยเรื่องการพังทลายของกองทัพเขี้ยวหมาป่า อีกทั้งตอนนี้ทั้งโลกกำลังจับตาดูพวกเขาอยู่ แถมสถานการณ์ค่ายเขี้ยวหมาป่าก็ไม่สู้ดีนัก
ไหนจะเรื่องที่เขี้ยวหมาป่าถูกกองกำลังมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ไม่รู้จักห้าร้อยคนลอบโจมตีจนย่ำแย่อีก?
เพราะฉะนั้นจะต้องห้ามให้คนนอกรู้เรื่องสถานการณ์ของชูฮันเด็ดขาด!
—————-
ที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าภายในบ้านพักพิเศษของชูฮัน นอกจากเกาช้าวฮุ่ยซึ่งเป็นคนพาตัวชูฮันมาถึงที่นี้เองแล้ว ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ในบ้านพัก หนึ่งในนั้นคือหมอที่กำลังรักษาชูฮันอย่างเหงื่อตกเพราะแรงกดดัน รอบตัวมีเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยที่สุดที่มีในโลกาวินาศวางเรียงเต็มไปหมด
ซางจิ่วตี้ยืนร้องไห้น้ำตานองหน้าเธอพยายามควบคุมสติไม่ให้ตัวเองเป็นลมไป เธอยังไม่อยากเชื่อเลยว่าชูฮันที่เป็นฮีโร่ในใจของเธอจะมาปรากฏตัวต่อหน้าด้วยสภาพเช่นนี้หลังจากจบการทำสงคราม
โดยไม่มีกองทัพทหารขนาดใหญ่ตามติดกลับมาด้วยพร้อมกันไม่มีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิแห่งเกียรติยศ ไม่มีเสียงร้องเฉลิมฉลองใดๆ มันมีเพียงการกลับมาในยามดึกสงัดอย่างลับๆโดยมีเกาช้าวฮุ่ยพาตัวกลับมา
สิ่งนี้ทำให้ซางจิ่วตี้ซึ่งรอคอยชัยชนะอันยิ่งใหญ่แทบจะเป็นลมล้มพับไปในทันทีเธอได้แต่ร้องไห้อย่างไม่มีเสียง พยายามควบคุมสติตัวเองเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
”ฉันควรทำยังไงต่อ?”เกาช้าวฮุ่ยไม่สามารถทนมองภาพน่าเศร้าตรงหน้าต่อไปได้อีก เขาไม่ยอมรับสถานการณ์ของชูฮันและไม่คิดจะถามหมอ แต่เลือกที่จะหันไปถามซางจิ่วตี้แทน
ซางจิ่วตี้ซึ่งรู้ตัวตนที่แท้จริงของเกาช้าวฮุ่ยดีแต่เวลานี้เกาช้าวฮุ่ยไม่ได้อยู่ในสายตาเธอเลยแม้แต่น้อย เธอไม่สนใจหรือรับรู้คำพูดของเกาช้าวฮุ่ยเลยสักคำ
เกาช้าวฮุ่ยถอนหายใจอย่างหมดหนทางได้แต่ยืนมองชูฮันที่นอนนิ่งบนเตียงอย่างทำอะไรไม่ถูก “ถ้าเขาตาย…”
”หุบปาก!เขาจะไม่ตาย!” ซางจิ่วตี้ขัดเกาช้าวฮุ่ยขึ้นมาเสียงเย็น แววตาไร้ซึ่งความเกรงกลัวต่อนายน้อยแห่งตระกูลเกา
เกาช้าวฮุ่ยเบนหน้าหนีและหยุดพูดและจู่ๆในตอนนั้นเองซางจิ่วตี้ก็มองเห็นท้องฟ้าสว่างด้านนอกบ้านพัก เธอจึงก้าวเดินออกไปด้วยฝีเท้ามั่นคงเพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเองที่ชูฮันฝากฝังไว้ต่อ
เกาช้าวฮุ่ยเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ดี? เกาช้าวฮุ่ยเพียงส่ายหัวเดิมทีตัวเขาก็ไม่ได้มีเสี่ยวเกี่ยวข้องอะไรกับเขี้ยวหมาป่าหมาป่าอยู่แล้ว อีกทั้งตระกูลของเขาก็ใช่ว่าจะเป็นมิตรกับเขี้ยวหมาป่า…
แต่โดยส่วนตัวสำหรับเกาช้าวฮุ่ยเขาค่อนข้างเป็นกังวลเรื่องของชูฮันมาก ตอนที่เกิดการต่อสู้และตำแหน่งการต่อสู้ถูกแบ่งออกเป็นสองจุด ชูฮันขอให้เขาเป็นคนไปส่งข่าวย้อนกลับไปกลับมาแต่ละทีม แต่เนื่องจากเขาจำเส้นทางไม่ได้และมัวแต่หลงทำให้เขาเสียเวลาไปมาก และกว่าเขาจะกลับมาเจอการต่อสู้ก็จบลงไปแล้วและก็ได้พบว่าชูฮันกำลังตกอยู่ในวิกฤต อยู่ในสภาวะอันตรายอย่างมากไปแล้ว
กลุ่มนักรบมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะสูงทั้งหมด60 คนซึ่งมีทีมยิงปืนรวมอยู่ด้วย!
ชูฮันไม่ได้เป็นคนของตระกูลลึกลับเป็นเพียงแค่วิวัฒนาการระยะ 6 เท่านั้นเอง แล้วคนคนนี้สามารถเอาชีวิตจากการสู้กับกลุ่มคนมากมายขนาดนั้น แถมยังฆ่าศัตรูหมดเกลี้ยงอีกได้ยังไงกัน?
เกาช้าวฮุ่ยนึกภาพไม่ออกเลยในความคิดของเขา…พลังการต่อสู้ของชูฮันต่ำเกินกว่าจะเพียงพอไปรับมือกับฝ่ายศัตรูที่มีจำนวนมากและแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้
ดังนั้นตอนนี้เกาช้าวฮุ่ยจึงโทษว่ามันเป็นความผิดของเขาเองถ้าเขามาถึงเร็วกว่านี้ ชูฮันก็คงจะไม่เกินขีดจำกัดความเป็นความตายไปแบบตอนนี้
และจากสีหน้าของหมอมันก็แสดงออกชัดเจนแล้วว่าอาการบาดเจ็บของชูฮันมันหนักหนาสาหัสเกินกว่าจะเยียวยาได้แล้วมันคือจุดสิ้นสุดของชีวิตมนุษย์
”หึ!”
เกาช้าวฮุ่ยยิ้มให้ตัวเองขมขื่นในใจว่างเปล่า…เขาคิดว่าเขาจะได้ไปท่าเรือหนานช้ากับชูฮัน หรือตอนนี้มันถึงเวลาที่เขาควรไปได้แล้ว?
มันก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่มีคนที่กล้าเมินเฉยและรังแกเขาอีก
แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกเหงาขึ้นมา?
เขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆชูฮันเป็นแค่มนุษย์ตัวเล็กๆเท่านั้น จะมาเป็นเพื่อนกับนายน้อยแห่งตระกูลลึกลับเกาอย่างเขาได้ยังไง?