ตอนที่ 1081 - มาก่อน ได้ก่อน

The Divine Nine Dragon Cauldron

ในหุบเขากู้ไทซูใบหน้าหม่นหมองราวกับน้ำลึก
  “เจ้ารู้ได้ยังไงว่าคนตำหนักชิงวิญญาณเป็นแค่กับดักไม่ใช่ข้า!”
  ผมขาวของซือหยูร่ายรำ
  “เจ้ามันเจ้าเล่ห์ชั่วช้า ข้าเดาได้ไม่ยากว่าเจ้าอยู่เบื้องหลัง!”
  ซือหยูบอกนิสัยใจคอของกู้ไทซูได้เป็นอย่างดีเขาไม่เคยเป็นชายที่มีเกียรติ!
  และกู้ไทซูยังเห็นพลังของซือหยูมามากเขาจะไม่วางกับดักไว้ล่วงวหน้าหรือ?
  แม้จะต้องรีบช่วยกงซุนหวูซื่อซือหยูก็มั่นใจว่าเขาต้องรับมือได้มาโดยตลอด
  เมื่อรู้ปัญหาเขาเปลี่ยนกลยุทธ์ทันที เขาส่งหุ่นเชิดสีเงินออกไปรับมือและเดินทางโดยสวมหน้ากาก เมื่อเขาเจอตำแหน่งของกงซุนหวูซื่อด้วยนความช่วยเหลือจากเผ่าไม้ เขาก็เดินทางมาถึงที่นี่ได้อย่างถูกต้อง
  ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สายเกินไป
  กู้ไทซูโกรธแค้น
  “เจ้าหาข้าเจอได้ยังไง?อย่าบอกนะว่าเจ้าเดาทางมาน่ะ!”
  ซือหยูมองกงซุนหวูซื่อใบหน้าเขาอ่อนโยนลง
  “ไม่มีใครที่ข้าจะหาไม่เจอ”
  นี่คือเมืองเทียนหยาป่าปีศาจร้างอยู่ในระแวกนี้ เขาเป็นสหายกับเผ่าไม้ ไม่ยากที่เขาจะหาตำแหน่งเด็กสาวที่มีน้ำพุแห่งชีวิตอยู่กับตัว
  ก่อนที่จะไปแดนมณีซือหยูได้ให้ขวดน้ำพุแห่งชีวิตกับกงซุนหวูซื่อเพื่อรักษาชีวิต นางไม่ได้ใช้มันและเหลือทุกหยดอยู่กับตัว เขาจึงเจอตำแหน่งของนางได้อย่างไม่ยากเย็น
  “อวดดีนัก!”
  กู้ไทซูโกรธแค้นแต่ก็ยังไม่คิดจะต่อสู้นี่ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เพราะเขาไม่ใช่คู่มือของซือหยู และเขาก็ยังมีลู่จือยี่อยู่ด้วย
  ซือหยูยิ้มแต่ไม่พูดอะไรเขาจรดฝ่ามือที่สายพลังของสตรีทั้งสองเพื่อส่งพลังมหาศาลให้ เขาปลุกกงซุนหวูซื่อและรักษาบาดแผลของลู่จือยี่
  ลู่จือยี่ที่อยู่ในอ้อมแขนของซือหยูนั้นไร้การเคลื่อนไหวความรู้สึกนี้ช่างคุ้นเคยจนเกินไป นี่ไม่ใช่วันที่เขาเปลี่ยนนางจากหญิงสาวเป็นผู้หญิงในวันที่นางนอนอยู่เบื้องล่างเขารึ? เขาคือหยินหยูตัวจริง!
  นางชายตามองใบหน้าเหี่ยวย่นของชายแก่ลู่จือยี่เกิดความรู้สึกทมากมาย
  “นานเหลือเกินผู้อาวุโสลู่”
  ซือหยูพูดเบาๆ คลื่นพลังเวลาค่อย ๆ แล่นผ่านเขา ร่างกายแก่เฒ่าย้อนกลับคืนสู่วัยหนุ่มด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตา ริ้วรอยบนผิวหนังเต่งตึงขึ้น มันเรียบเนียนราวกับหยก ผมขาวกลายเป็นสีเงินกระจ่าง เพียงไม่กี่ลมหายใจ ชายแก่ที่ดูใกล้ตายก็กลับคืนร่างมาเป็นชายหนุ่มอันตระการตา  “หยิน…หยู!”
  ลู่จือยี่ปิดปากราวกับไม่เชื่อใช่แล้ว นี่คือใบหน้าของเขา!
  “ว้าว!พี่ซือหยู พี่หล่อสุด ๆ ไปเลย!”
  กงซุนหวูซื่อที่เพิ่งตื่นได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของซือหยูกับตา
  นางเงยหน้าและเอนกายกับไหล่ของเขาอย่างใกล้ชิดราวกับนักล่าสมบัติตัวน้อยที่ได้พบกับของล้ำค่า
  “หึหึพี่สมควรได้เป็นสามีของข้าในอนาคต! ข้าดีใจมากเลย!”
  ซือหยูหมดหวังกับอสูรน้อยที่ไม่รู้สึกถึงอันตรายในเวลานี้เลย
  “พักก่อนเถอะข้ามีเรื่องต้องสะสางกับกู้ไทซู”
  ซือหยูวางทั้งสองลงเขาหันไปมองกู้ไทซู
  กู้ไทซูใบหน้าสงบนิ่ง
  “หยินหยูถ้าเจ้ากล้าก็ปล่อยลู่จือยี่ซะเก็บนางเป็นตัวประกันให้ข้าต่อสู้ได้ไม่เต็มที่คือเรื่องน่ารังเกียจ”
  “ดวงตาข้างไหนของเจ้ากันที่เห็นว่าข้าจับนางเป็นตัวประกัน?”
  ซือหยูยืนมือไพล่หลัง
  ลู่จือยี่ไม่ขยับตัวนางมองกู้ไทซูด้วยความผิดหวังจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
  เมื่อเผยธาตุแท้ออกมากู้ไทซูไม่ใช่คนอย่างที่นางเคยมองอีกแล้ว
  “ศิษย์พี่กู้ยังไม่สายหากจะยอมรับความผิดพลาด ไปซะเถอะ ข้าจะไม่ติดตามเจ้าอีกแล้ว”
  นางจะยังคงติดตามชายที่ใช้กลสกปรกอย่างไม่มีขีดจำกัดและคนที่อาจจะขืนใจนางอยู่ตลอดเวลาได้อย่างไร?
  “ลู่จือยี่!”
  กู้ไทซูจ้องนางด้วยความโกรธแค้น
  “เจ้าเป็นผู้หญิงของข้า!แม้โลกจะกว้างใหญ่ เจ้าก็ไร้ที่ไปอีกแล้ว ถ้าหยุดติดตามข้าแล้วใครจะปกป้องเจ้า? มันน่ะเรอะ?”
  “มันเป็นคนดินแดนพรสวรรค์!ไม่ช้าก็เร็วมันจะส่งเจ้ากลับไปให้บุรุษเมฆาม่วงลงโทษ! ถ้าเจ้ากลับมาอยู่ข้างข้าตอนนี้ เจ้าจะยังพอมีโอกาส!”
  ลู่จือยี่เหมือนถูกแทงที่หัวใจเมื่อความโศกเศร้าถาโถมเข้ามาบางทีอาจเป็นการที่นางทรยศสำนักเพื่อกู้ไทซูโดยไม่คิดผลที่ตามมา ไม่เพียงแต่นางจะทำให้กู้ไทซูยอมรับนางไม่ได้ แต่นางยังกลายเป็นตัวประกันที่ถูกเขาขู่แทน
  แต่ก่อนที่ลู่จือยี่จะได้พูดซือหยูก็โพล่งออกมาท่ามกลางความเงียบ
  “เรียกนางว่าผู้หญิงของเจ้าเพียงเพราะว่าเจ้าคือคู่หมั้นของนางหรือ?”
  “อย่ามาล้อเล่นกับข้า!ถ้าข้าที่เป็นคู่หมั้นพูดไม่ได้ แล้วเจ้าน่ะตัวอะไร? แมลงจากต่างมิติเรอะ?”
  กู้ไทซูยั่วยุ  ซือหยูเงียบก่อนจะดึงลู่จือยี่มาที่อ้อมแขนอีกครั้งนางต่อต้านตามสัญชาตญาณ แต่แรงของซือหยูนั้นมากเกินไป เมื่อตัวนางมาถึงเขาครึ่งท่อน นางก็หน้าแดงระเรื่อ
  “ข้าคือผู้ชายคนแรกของนางเจ้าจะพูดว่านางเป็นผู้หญิงของข้าได้รึยัง?”
  ตู้ม!
  กู้ไทซูรู้สึกราวกับถูกสายฟ้าพันสายซัดเข้าใส่ที่หัวใบหน้าของเขาเริ่มอัปลักษณ์ เขากำลังบ้าคลั่ง
  “เหลวไหล!!จือยี่บริสุทธ์ไร้ที่ติ! นางกำลังฝึกวิชาอยู่! นางจะไม่มอบตัวเองให้ชายคนไห…”
  แต่กู้ไทซูก็พูดไม่ออกเมื่อพูดได้ครึ่งทางเพราะเขารู้ว่าลู่จือยี่ไม่ก้าวหน้าในวิชาในปีที่ผ่านมานี้
  ความแค้นที่ถูกหลอกระเบิดเต็มปอดความทุกข์ทรมานที่ถูกคนรักหักหลังและความอัปยศที่ถูกเบือนหน้าทำให้เขากลายเป็นเพลิงพิโรธลุกโชนชั่วฟ้า ดวงตาแข็งกร้าวเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและความแค้น
  “ลู่จือยี่!นี่มัน…ไม่จริงใช่ไหม?!”
  เขามิอาจเชื่อเขามิอาจเชื่อได้ว่าคู่หมั้นของเขาที่รักเขามาโดยตลอดได้หักหลังเขาในทางกาย
  ลู่จือยี่ที่อยู่ในอ้อมกอดซือหยูไม่กล้ามองตากู้ไทซู
  กว่านางจะรวบรวมความกล้าพยักหน้าเบาๆ ได้ก็กินเวลานานโข
  “ใช่ที่กระโจมเทพสวรรค์ ข้ากลายเป็นของเขา แต่นั่นเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ! ข้าไม่เคยคิดหักหลังศิษย์พี่กู้…”
  “หุบปาก!!เจ้ามัน…เจ้ามันผู้หญิงหน้าด้าน!!”
  กู้ไทซูเบิกตากว้างด้วยความบ้าคลั่ง
  เขาตั้งใจจะข่มขืนผู้หญิงของซือหยูเพื่อทำให้ซือหยูทุกข์ทรมานไปชั่วชีวิตแต่เขากลับได้รู้ความจริงอันน่าตกใจแทน! คู่หมั้นของเขาเอง สตรีที่เขาไม่เคยมีโอกาสได้แตะต้อง กลับเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนอื่น!!!
  ความอัปยศอดสูนั้นมากพอที่จะทำให้ผู้มากอัตตาและเย่อหยิ่งอย่างกู้ไทซูต้องจดจำไปตลอดชีวิต
  “วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าเจ้าโง่เอ้ย!”
  อสูรน้อยหัวเราะเยาะท่าทางของนางได้เติมเชื้อเข้าไปในเพลิง
  “คู่หมั้นงดงามผู้ศรัทธาในยอดฝีมือแห่งดินแดนพรสวรรค์กลับเลือกซือหยูเซี่ยนแทนและนางยังหมดใจกับกับยอดฝีมือผู้นั้นอีก! หึหึ ข่าวเรื่องนี้คงจะขายได้แพงที่เมืองเทียนหยาเชียวล่ะ”
  กงซุนหวูซื่อยิ้มอย่างชั่วร้าย
  กู้ไทซูโกรธแค้น
  “หุบปาก!พวกเจ้าทุกคน อย่าได้คิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไปได้ในวันนี้!!”
  ทางเดียวที่จะลบล้างความอัปยศครั้งนี้ก็คือการปิดปากทั้งสามให้หมด  “โอ้พระเจ้าข้ากลัวเหลือเกิน! น่ากลัวจริง ๆ”
  กงซุนหวูซื่อเอามือทาบอกแกล้วทำเป็นกลัว
  กู้ไทซูไม่เสียเวลามองนางแต่จ้องมองซือหยู
  “หยินหยูเจ้าทำให้ข้าต้องทำแบบนี้! ข้าคิดจะไว้ชีวิตเจ้าอีกสักสองสามเดือน ให้เจ้าได้ใช้ชีวิตน่าสงสารของเจ้าเสียให้พอก่อนจะส่งเจ้าไปลงนรกตอนที่ข้าได้กายาเก้าวิญญาณแบบสมบูรณ์! แต่ตอนนี้เจ้ากำลังจะมาหาที่ตายด้วยตัวเอง!”
  “เจ้าหรือ?”
  ซือหยูไม่สนใจต่อหน้าจักรพรรดิกลืนอสูร กู้ไทซูนั้นไร้หนทางสู้ แต่จักรพรรดิกลืนอสูรก็ตายด้วยมือซือหยู
  “เจ้าคิดว่าข้าใช้พลังทั้งหมดออกมาแล้วในแดนมณีเรอะ?”
  กู้ไทซูใจเย็นลงช้าๆ พลังเริ่มกระจายออกมาจากตัวเขา
  พลังก่อเกิดเป็นแสงฉาบท้องนภาในทุกมุมจนกลายเป็นสีม่วงเข้มในโลกสีม่วงแห่งนี้ พลังงานทุกอย่างถูกหยุดลง
  “หนีไป!เขาใช้ฎีกาสวรรค์!”
  ลู่จือยี่ตื่นกลัวนางกระวนกระวาย ความกลัวแสดงชัดผ่านดวงตา
  “แม้แต่บุรุษเมฆาม่วงก็แทบจะไม่รอดจากฎีกาสวรรค์ของเขา”
  ลู่จือยี่พูดอย่างขึงขัง
  นางพูดต่อ
  “ฎีกาสวรรค์ของเขาถึงจุดสูงสุดแล้วเขากำลังจะไปถึงระดับแปลงฟ้า เขาไร้เทียมทาน!”
  นางเชื่อว่าซือหยูมีพลังเมื่อต้องต่อสู้กับเซียนแต่ความน่าสะพรึงกลัวของฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ขั้นสูงสุดนั้นเหนือกว่า
  “คิดจะหนีเรอะ?สายไปแล้ว!”   ผมสีดำของกู้ไทซูสยายร่ายรำพลังไร้เทียมทานที่ไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใดถูกปล่อยออกมา
  เขาตะโกนเสียงดังแสงสีม่วงปะทุออกมาราวกับภูเขาไฟระเบิด มันเปลี่ยนทุกหนแห่งให้กลายเป็นสีม่วงเข้ม
  กู้ไทซูรักษาแสงสีม่วงนี้เอาไว้เขาดูราวกับเทพแห่งโลกสีม่วงแห่งนี้
  “หยุดซะ!”
  กู้ไทซูพูดเพียงคำเดียว
  จู่ๆ พลังอันยิ่งใหญ่ได้มาถึงตัวซือหยูและคนอื่น ๆ มันทำให้ทั้งสามหยุดนิ่งจนขยับไม่ได้
  นี่คือฎีกาสวรรค์ของกู้ไทซูเขาสามารถลงโทษทั้งสามแทนสวรรค์! ในโลกสีม่วงแห่งนี้ เขาคือโอรสแห่งสวรรค์! ความปรารถนาของเขาก็คือความปรารถนาของสวรรค์
  กู้ไทซูมองซือหยูด้วยายตาของพระเจ้าจากเบื้องบน
  “เจ้ารู้ความไร้พลังของตัวเองรึยังล่ะ?ฎีกาสวรรค์ของข้าไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะฝันถึงได้!”
  กู้ไทซูก้าวพริบตามาที่ด้านหน้าพวกเขาเขายิ้มหยามราวกับผู้ชนะ
  “ถ้าเจ้าสู้กับเจ้าเจ้าจะกลายเป็นเถ้าถ่าน!”
  แต่กู้ไทซูไม่ได้รีบร้อนเขาหัวเราะอย่างเย็นชา
  “แต่ถ้าข้าปล่อยให้เจ้าตายไปอย่างนี้ก็คงจะไม่สาแก่ใด!ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสการได้เห็นผู้หญิงของตัวเองเป็นของเล่น!! ลืมตาให้กว้าง อย่าพลาดเชียวล่ะ!!”
  กู้ไทซูมองท้องฟ้าและหัวเราะก่อนจะมองกงซุนหวูซื่อด้วยราคะ
  เขายื่นมือคว้ากงซุนหวูซื่อและลู่จือยี่ด้วยมืออีกข้าง
  “เจ้าก็มาด้วย!ถึงเจ้าจะมีตำหนิไปแล้ว เจ้าก็ยังมอบความสนุกได้บ้าง!”
  ทันทีที่มือของเขาแตะไหล่ของพวกนางกระบี่สีเงินก็เฉือนไปทางเขาอย่างไร้คำเตือน  กู้ไทซูไม่ทันระวังเขาป้องกันกระบี่ด้วยมือทั้งสองข้าง!
  แขนทั้งสองเยือกเย็นความเจ็บปวดแสนสาหัสแล่นเข้าสู่สมองเมื่อแขนทั้งสองข้างขาดสะบั้นอย่างง่ายดาย แต่กู้ไทซูก็ตอบสนองได้ในทันที เขาย้ายตัวเองไปยังอีกจุดหนึ่งในโลกสีม่วง
  เขากรีดร้องเสียงหลง
  “หยินหยู!เจ้า…เจ้ายังขยับได้!”
  ซือหยูถือกระบี่สีเงินในมือพลังกระบี่สีเงินยังคงอยู่ในโลกสีม่วงแห่งนี้ กู้ไทซูมั่นใจว่าซือหยูหยุดนิ่งไปแล้ว เขายังขยับตัวอยู่ได้ยังไง?
  “ข้าต้องหยุดเพียงเพราะเจ้าบอกให้ข้าหยุดหรือ?”
  ซือหยูถามอย่างไร้อารมณ์โดยสมบูรณ์
  กู้ไทซูไม่อยากเชื่อสายตา
  “โลกนี้สร้างจากฎีกาสวรรค์ข้าคือเทพในมิติแห่งนี้ สวรรค์ในมิตินี้บัญชาได้ทุกสิ่ง ไม่มีทางที่เจ้าจะไม่เป็นอะไร”